ข้าพเจ้า Buddha จะแก้ข้อสงสัยให้กับผู้ใช้ชื่อว่า ศิริพงศ์ ให้ได้เกิดความเข้าใจ ไม่หลงผิดอีกว่า
ข้าพเจ้าไม่ได้อ้างตัวว่าเป็นศรีอาริยเมตไตรย แต่ข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยเมตไตรย ของจริง ตัวจริง เสียงจริงคุณนั้นมีความเข้าใจผิด ไม่รู้ไม่เข้าใจ ในหลักการศาสนา

ข้าพเจ้าเข้าใจในความคิดของคุณดีเป็นอย่างยิ่ง คุณคิดว่าข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของ พระสมณโคดม คุณคิดว่า ข้าพเจ้าสำเร็จธรรม ด้วยการศึกษาจากศาสนาพุทธ นั่นเป็นการเข้าใจผิดของคุณ คุณไม่ได้รู้เลยว่า หลักการหรือหลักธรรมแห่งข้าพเจ้าศรีอารย์มีอย่างไร อะไรบ้าง แต่คุณก็แสดงความเขลาของคุณออกมา จะเรียกว่า ความคิดต่ำก็ว่าได้

คุณเห็นข้าพเจ้า นำเอาเรื่อง "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน ตามหลักพระอภิธรรมปิฎก" มาเขียน มาอธิบาย คุณเห็นข้าพเจ้าอธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ หรือทั้งหมด โดยที่คุณไม่ได้คิดพิจารณาคำที่ข้าพเจ้าบอก ว่า "ข้าพเจ้ามีหน้าที่แก้ไขศาสนา ทุกศาสนา "

ข้าพเจ้าจะประกาศเป็นศาสนา ศรีอารย์ ก็ได้ แต่ถ้าข้าพเจ้าประกาศเป็นศาสนาศรีอารย์ ทุกศาสนาต้องทำตามหลักการของศาสนาศรีอารย์ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเป็นเพียงแก้ไขศาสนา ให้ความรู้ ความเข้าใจ ในทุกศาสนา เพราะข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกศาสนาดีอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีการสอนกันไปในทางที่ผิดๆ ในบางเรื่อง บางอย่าง

หลักธรรมแห่งข้าพเจ้า หรือหลักธรรมแห่งศรีอาริยเมตไตรย ไม่เหมือนกับศาสนาพุทธ ไม่เหมือนกับศาสนาคริสต์ ไม่เหมือนกับศาสนา อิสลาม และไม่เหมือนกับ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
แต่ หลักธรรมแห่งศรีอาริยเมตไตรย เป็น หลักธรรมต้นตอ ของศาสนาทุกศาสนา
การจะแก้ไขศาสนา ก็ต้องทำไปทีละศาสนา โดยแก้ไขศาาสนาที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด ก่อนเป็นอันดับแรก โดยอาศัย สื่อที่มีอยู่เป็นเครื่องมือเผยแพร่เท่าที่จะทำได้ เผยแพร่ได้มาก ก็ปล่อดภัยมาก เผยแพร่ได้น้อย ก็ปลอดภัยน้อย โลก ไม่ใช่ของข้าพเจ้าคนเดียว ข้าพเจ้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวก็ได้ คือไม่เผยแพร่อะไรเลยก็ได้ เพราะคนที่จะเดือดร้อนไม่ใช่ข้าพเจ้าอย่างแน่นอน
คอยดูไปเถอะ นี้ไม่ใช่คำขู่นะขอรับ เป็นเพียงคำบอกให้รับทราบไว้เท่านั้น
ไอ้ประเภทที่กล่าวว่า "อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด" แล้วจะรู้สึก ฮึ ฮึ ฮึ ฮึ

ที่สำคัญ ท่านทั้งหลายควรได้รู้เอาไว้ว่า คำว่า "นิพพาน" นั้นแท้จริงแล้วเป็นคำศัพท์ที่ศาสนาพุทธนำมาจากศาสนาพราหมณ์ ดังนั้นหลายๆท่าน ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาควรได้ยอมรับความจริง อย่าหลงผิดอยู่เลย

ส่วนเจ้าผู้ใช้ชื่อว่า กรัชกาย ถ้าเจ้า เสวนาในเรื่องที่มีสาระ ข้าพเจ้าก็สมควรเสวนาด้วย แต่ถ้าเจ้าไม่มีความบริสุทธิ์ใจ ทำตัวแบบไม่มีศีลธรรมแต่แฝงตัวอยู่ในเวบฯธรรมะนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่ควรเสวนากับเจ้า ถ้าเจ้าสงสัยก็ให้กลับไปอ่านที่้ข้าพเจ้าตอบ อ่านช้าๆ อย่าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง แล้วก็เอามาพล่ามเพ้อเจ้อ

สวัสดีอีกครั้งขอรับท่านอาจารย์ Buddha ที่เคารพอย่างสูง

พูดเข้าท่า ว่าศัพท์ "นิพพาน" ว่าพุทธศาสนานำคำนั้นมาจากศาสนาพรามหณ์

มิใช่มีแต่คำนี้คำเดียวดอกขอรับ มีหลายคำหลายศัพท์ ที่พระพุทธเจ้านำศัพท์คำ ซึ่งชาวบ้านในยุคสมัยนั้น

เขาใช้พูดกันอยู่แล้ว แล้วพุทธศาสนานำมาอธิบายในความหมายใหม่

ท่านรู้ดีว่าพุทธศาสนานำศัพท์ "นิพพาน" มาจากพราหมณ์

ถ้าอย่างนั้นถามนะขอรับ แล้วๆ นิพพาน ในความหมายของพราหมณ์ล่ะมีความหมายอย่างไร

โมกษะ .... อย่าถามมาก เดี๋ยวตอบไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่ใช่ฮินดู นะจะบอกให้

กรัชกายยอมรับว่า ท่านบุดฯ เป็น สีอาน ตัวจริง (แต่เสียงไม่แน่ใจว่าเสียงสีอานหรือไม่) ไม่เคยฟังเสียง

ขอเบอร์โทรก็ไม่ให้ จะลองฟังเสียงดูสักหน่อย คริๆๆ

ส่วนคุณศิริพงศ์จะรับได้หรือไม่รู้นะขอรับ แต่กรัชกายรับได้

ท่านอาจารย์ น้ำใสนะขอรับ เดี๋ยวก็โดนฉมวกแทงหลัง มองเห็นตัวอยู่นะขอรับ

มีแต่เขาไปน้ำขุ่นๆ แต่ท่านไปน้ำใสๆ

คำพูดของท่านค้านกันเอง...ว่าหลักธรรมของท่านไม่เหมือนกับศาสนาใดๆเลย ตามที่บอก

แต่ก็เป็นต้นตอของทุกศาสนา ฟังดูทะแม่งๆนะขอรับ

ก็ในเมือเป็นต้นตอของทุกศาสนา แปลว่าเป็นรากเง้าของศาสนาทุกศาสนาในโลก

ยังแถมรู้อีกว่า พุทธศาสนานำศัพท์นิพพานของพราหมณ์มาก็รู้

แต่ทำไมไม่รู้ล่ะว่า นิพพานในความหมายของพราหมณ์ว่าอย่างไร

แล้วอย่างนี้สมควรให้เด็กถอนผมสีขาวให้ไหมล่ะขอรับ

อ้าว เจ้าผู้ใฃ้ชื่อว่า "กรัชกาย"ผู้เบาปัญญา เจ้าอ่านหรือเปล่าละ ก็ตอบให้ด้านบนเนี่ยไม่เห็นหรืออย่างไร ไม่รู้ แล้วยังกล่าวโทษผู้อื่น จิต และเจตสิกของเจ้า มันก็แค่ พวกอลัชชี เดียรถีย์ ข้พเาจ้าถึงได้บอกให้เจ้าเปลี่ยนชื่อเป็น "เจ้าสัตว์ตาย" เหมาะสมที่สุด ไม่ได้รู้เรื่อง รู้ราวอะไร คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเจ้าเองเท่านั้นหรืออย่างไร พล่ามเพ้อเจ้อ น้ำใส น้ำขุ่น อะไรของเอ็ง......

อย่างอื่นไม่ต้องถาม เพราะข้าพเจ้าสอนหลักธรรมสำหรับศาสนาพุทธไปเยอะแล้ว คำว่าหลักธรรมสำหรับศาสนาพุทธ หมายความว่า หลักธรรม ที่ไม่มีในพระไตรปิฎกนั่นแหละ

จิตเป็นไงครับ ช่วยบอกให้ชัดๆด้วยภาษาง่ายๆ ดิว่า ธรรมชาติของจิตเป็นยังไง เห็นพูดก้นจัง







อาจารย์บุดฯขอรับ ไม่ให้ถามท่านแล้วจะถามใครเล่าขอรับ

กระทู้นี้ก็บอกอยู่แล้วว่า สนทนากับท่าน Buddha


พูดแปลก

แล้วหลักธรรมสำหรับศาสนาพุทธ มีที่ไหนเล่าขอรับ ท่านพูดอะไรเป็นปริศนาอยู่เรื่อย วัยรุ่นงงนิ

อย่าลืมคำถามข้างบนนะขอรับ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า รู้จักอายเหมือนกันเหรอ
แก้เก้อนะเอ็ง เลยไปเพ้อเจ้อเป็นกระทู้อื่นอีก

จิต อธิบาย สั้นๆ
ก็ ตัวเจ้านั่นแหละ คือ จิต ..

ส่วนที่ไม่ให้ถามเรื่องศาสนาพราหมณ์ -ฮินดู ก็เพราะเวบฯนี้เป็นเวบศาสนาพุทธ ไม่ค่อยเวอร์คเท่าไหร่ถ้าจะมาอธิบายศาสนาอื่นๆ อยากรู้หลักศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไม่ต้องถาม ค้นหาในอินเตอร์เน็ตได้เลย

ธรรมอันพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะทุกพระองค์ได้ตรัสไว้ล้วนแต่เป็นธรรมอันเดียวกัน ธรรมอันพระอรหันต์สัมสัมพุทธะในกาลข้างหน้าก็ล้วนแต่เป็นธรรมอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีธรรมใหม่ ธรรมคือธรรม
คือสัจจะ คือความจริง ครอบคลุมแม้กฏของสากลจักรวาล เพราะเหตุแห่งการอุบัติ นิยาม และกฎ จึงปรากฏขึ้นมา แยกเป็นสังขตธรรมและอสังขตธรรม เพราะความมีขึ้นเป็นขึ้นเหล่านี้จึงดำรงค์อยู่ได้ แยกแยะกระจายไปเป็นหลายธรรมขันธ์ แตกออกยิบย่อยได้ไม่มีประมาณ หลอมรวมลงสู่ความเป็นหนึ่งเดียวได้ เหตุที่แยกออกนั้นเพื่อยังความสมดุล เหตุที่หลอมรวมก็เพื่อยังความสมดุล หากไร้ซึ่งสังขตธรรมอสังขตธรรมย่อมไร้ความหมาย พระพุทธเจ้าทั้งหลายอุบัติขึ้นเพื่อชี้บอก ให้เห็นแจ้งได้มิใช่เพียงรู้ เหตุที่ต้องชี้แจ้งเพื่อเห็นแจ้งแห่งสภาวะเพื่อดำรงสภาวะเพื่อยังความสมดุล และการคืนกลับสู่องค์รวม อวิชชาคือความไม่รู้นี้ที่เป็นเหตุให้ความสมดุลเสียไป เป็นเหตุให้การงานขององค์รวมทั้งหมดที่พึงมีพึงเป็นของการดำรงค์ไว้บกพร่อง ที่ท่านbuddhaได้กล่าวไว้ว่าไม่รู้ว่าสิ่งใดที่เป็นตัวกำหนดให้ท่านต้องศึกษานู่นศึกษานี่นั้น เป็นเหตุมาจากท่านเองยังไม่มีความเข้าใจอันเพียงพอ กระผมเป็นเพียงผู้น้อยอันไร้น้ำหนักใดๆขอช่วยแนะแนวทางท่านไว้ดังนี้ไม่ให้ซัดส่ายหลงและหลงจนเป็นตัวสร้างอัตตา มานะอหังการไปมากกว่านี้ ธรรมนั้นๆดำรงค์อยู่แม้ไม่มีพระพุทธเจ้า เราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งควรให้ความเคารพธรรมไม่ใช่หยิบยกกล่าวอ้างเพื่อประโยชน์ตนให้ใครเขามาเคารพว่ากูรู้ กูเก่ง ธรรมของพระตถาคตทุกพระองค์มีไว้ไถ่ถอนอัตตา เหตุใดการเรียนรู้จึงกลายเป็นเอามาอวดกัน พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะสมณะโคดมท่านยังเคารพแม้กระทั่งศิษย์ที่ท่านได้สอน หากแม้นมีสภาวะธรรมอันสูงขึ้นแล้วจงดำรงค์ตนประดุจดั่งน้ำที่ไหลลงสู่ที่ต่ำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สรรพชีวิต การยกตนลงต่ำมิใช่เพื่อโลกติเตียนแต่เพื่อคุณประโยชน์เหตุนี้อธิบายไปถึงการครองเพศสมณะโดยปริยาย ก็แต่ว่าหากดำรงค์ตนสูงส่งย่อมไร้ค่าและเสื่อมลง กระผมอันเป็นเพียงผู้น้อยรู้และเข้าใจดีในทุกๆสิ่งที่เป็นมีขึ้นและหน้าที่อันพึงมีแก่กระผมเอง มีท่านผู้หนึ่งได้หยิบยกอรรถที่ว่าเป็น ยอดธรรมยอดคาถา ขึ้นมานั้น หากแต่มีความเข้าใจและเห็นได้ย่อมเป็นที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง โลกนี้ไม่เคยสิ้นไร้พระอรหันต์ตราบที่ยังมีผู้ที่ปฏิบัติได้ถูกทาง กระผมเองไม่ได้เรียนบาลี 84000พระธรรมขันธ์ไม่เคยแบกไป กระผมเองยังต้องเรียนรู้และปฏิบัติอีกมาก อริยะเมตไตรจะไม่ยกยอตน หากแม้ดำรงค์อยู่ในกาลนี้ก็มิใช่เพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธะในกาลนี้ หากแต่เหตุที่อุบัติขึ้นก็เพื่อยังไว้ซึ่งพระพุทธธรรมแห่งพระสมณะโคดมอันเคารพรักให้ดำรงค์อยู่ตามกาล และเพื่อช่วยเหลือผู้คนโดยดำรงค์ตนเป็นทาสแห่งประชาให้ได้รับความอุดมแห่งคุณประโยชน์ และเพื่อช่วยเหลือหมู่ชนตลอดจนสรรพสัตว์ให้ดำรงค์ไว้เป็นจำนวนอันเกิดแต่เหตุการณ์ที่จะอุบัติขึ้นตามพระพุทธประเพณี
กระผมผู้น้อย รู้อยู่อย่างเดียว รู้เพียงแต่ว่ากระผมยังไม่รู้อะไร กระผมยังต้องเรียนอีกมากอันเกิดแต่เหตุตามกฏของปฏิจสมุปบาท ขอให้พหูสูตทั้งหลายตั้งใจศึกษาเล่าเรียนค้นหาแก่นธรรมให้เจอแล้วน้อมมาปฏิบัติ ธรรมทั้งหลายที่พระตถาคตเจ้าได้ตรัสไว้มากมายล้วนเป็นบาทฐานซึ่งกัน เลือกหยิบยกมาปฏิบัติให้ตรงแก่จริต
กระผมขอกล่าวไว้เพียงเท่านี้ หากทำให้ขุ่นเคือง ก็ขอประทานอภัยเพราะมิได้มีเจตนาให้เป็นเช่นนั้น
ขอให้เจรญในธรรมครับ

ขอฝากคติธรรมของท่าน พุทธทาสไว้สักนิดนะครับ

บาปใหญ่-บาปลึก?

คิดว่าดี กว่าเขา ซิเราแย่
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่บาปใหญ่
ส่วนตัวเอง บาปลึก นึกให้ไกล
มันบาปเบา อยู่เมื่อไร ให้นึกดู

เขาติดซ้าย, เราติดขวา, ถ้ามานึก
มันยังติด เหลือลึก กันทั้งคู่
แม้ติดซ้าย เลวกว่า ไม่น่าดู
แต่ติดขวา มันก็หรู อยู่เมื่อไร

มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่ยังเลว
ส่วนตัวเอง ก็ยังเหลว ไม่ไปไหน
เฝ้าเกลียดซ้าย รักขวา เป็นบ้าใจ
มันก็ไพล่ พลัดห่าง ทางนิพพานฯ

หัวข้อธรรม ในคำกลอน ท่านพุทธทาส
หนึ่งในฮีโร่ เลยนะท่านนี้

ท่าน sabay เจ้าคะ จริง ๆ ความคิดเห็นของท่าน สวยงาม เจ้าค่ะ
แต่ท่านเล่นพิมพ์ติดกันเช่นนั้น โดยไม่มีการเปิดขึ้นบรรทัดใหม่ เว้นช่องว่าง เลย

ข้าเจ้า

แต่ด้วยความสวย จึงพยายามอดทนอ่านจนจบ

ปรับ...นิดนึงนะ...เจ้าคะ...

งามค่ะ งาม แต่

ขอบพระคุณครับที่แนะนำ กระผมเองมาดูยังตาลายเอง จะปรับปรุงครับ

คุณผู้ใช้ชื่อว่า "sabye" คงจะใช้หลายชื่ออีกแล้ว คุณรู้ไหมว่า เจ้าผู้ใช้ชื่อว่า "กรัชกาย" บอกไว้ว่าอย่างไร เขาบอกว่า

"ฟังไม่ได้ศัพท์ อย่าจับมากระเดียด" คือไม่รู้เรื่อง ไม่รุ้อะไรเกี่ยวกับธรรมะ ไม่รู้หลักความจริง ตามธรรม แต่ยังอวดฉลาด พล่ามเพ้อเจ้อ ไม่เป็นเรื่อง ไม่เป็นราว

หมายถึงคุณผู้ใช้ชื่อว่า "sabye" นั่นแหละ แสดงความคิดเห็นอะไรของคุณ
อัตตาคืออะไร คุณไม่มีอัตตาหรืออย่างไร ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาสักกี่คนที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของอัตตาที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก คุณไม่กระดิกดอกขอรับ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์บุดดาที่ได้ส่องแสงแห่งปัญญาให้แก่ผู้ที่ยังไม่รู้ได้รู้กันเสียที
การศึกษาและหน้าที่ของกระผมที่ได้ตั้งสัจอธิษฐานไว้เมื่อกาลก่อน แม้เหนื่อยยากแต่เมื่อดำรงค์ไว้ซึ่งอิทธิบาท4 ย่อมสำเร็จได้อย่างแน่นอนครับ ขออนุโมทนาครับ
ขออนุญาตส่งแบบฝึกหัดให้แก่ท่านอาจารย์พิจารณาครับ


สดับคำท่านบุดฯแล้ว ชื่นจิต
สรรพสิ่งปิดไม่มิด แท้หนอ
สมมติบัญญัติเรียก มากนาม
ในลานแห่งนี้ไซร้ มีสอง เป็นจริง

นามหนึ่งเรียกเชิดชาย กล่าวไว้
เหตุเพราะความเขลาไซร้ จึงเลิก
เมื่อแรกสมัครเข้า ใช้เวปฯ มิชาญ
เข้าระบบไม่เป็นไซร้ ช่างเขลา เบาปัญญา

แต่เหตุนี้มิพัก ให้หยุด
ผู้น้อยจึงเร่งรุด นามสอง
ด้วยเหตุอุบัติเพื่อ ช่วยสรรพ-สัตว์ นา
รวมหยาดแห่งชนไว้ ผู้ซึ่ง สภาวะธรรม

ตั้งนามสบายไว้ ครั้งสอง
หน้าที่มั่นหมายปอง ตั้งแล้ว
หลอมรวมหยาดแห่งธรรม ดุจดั่ง สมุทรนา
เป็นแรงแห่งกันไว้ ต่อสู้ มารธรรม

ผู้น้อยมิอาจเอื้อม นามพระศรีฯ
ด้วยเหตุพระผู้ที่ ทำนายไว้
ทรงขรรค์แห่งอเนก นามปัญ-ญานา
เปี่ยมคุณสูงสุดไซร้ ดำรง ดั่งดิน

ท่านถามว่าอัตตา มีหรือ
ผู้น้อยตอบซื่อๆ มีแท้
เหตุที่ท่านถามหา ไหนฤา
ศิษย์น้อยมิแบกไว้ ดำเนิน กึ่งกลาง

กล่าวถึงสองฝั่งไซร้ เซ็งจิต
เบื่อหน่ายความยึดติด เร้าหรือ
ไม่แบกแม้กระทั่ง อนัต-ตานา
จึ่งดำ-รงค์อยู่ได้ ในกระแส วิมุต ติธรรม

กระผมเองถ้ายกพระไตรปิฏกมาอ้างย่อมไม่ใช่กระผม เพราะเหตุที่กระผมไม่ได้เรียนพระอภิธรรมมาโดยตรงเลย จะมีก็แต่เพียงได้พิจารณาจากเพื่อนๆที่ท่องบ่นกันจนชินปาก ทั้งหมดนี้เพื่อพิจารณามิได้มีเจตนาก้าวล่วงนะครับท่านbuddha ด้วยภูมิธรรมท่านคงไม่ขัดเคือง แต่น่าจะยิ้มแก้มปรินะ....
.........ด้วยเหตุที่กระผมเคารพท่านเหมือนอาจารย์ที่ดี.........