ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=26619 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 30 ต.ค. 2009, 19:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา ต้องการค้นหาคำอธิบาย "อริยสัจ" ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง อยู่ในพระไตรปิฎกเล่มไหน หรือมีที่อธิบายไว้ที่ไหนบ้าง? เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม พระอาจารย์แสนปราชญ์ |
เจ้าของ: | walaiporn [ 30 ต.ค. 2009, 20:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
มีในหลักสูตรนักธรรมโทค่ะ ที่อ่านเจอนั้นเป็นเป็นหลักสูตรในสมัยเก่า หนังสืออนุพุทธประวัติ ( หลักสูตรนักธรรมโท ) ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส มหามกุฏราชวิทยาลัย ๒๕๒๖ แล้วก็มีในหนังสือ วิปัสสนากรรมฐาน ของหลวงพ่อโชดก จรนาไว้ค่ะ |
เจ้าของ: | พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 31 ต.ค. 2009, 18:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา อุบาสิกา walaiporn อนุโมทนากับคำตอบที่เป็นกุศล ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นประโยชน์ ไม่เป็นโทษ อ้างอิงคำตอบเดิม : มีในหลักสูตรนักธรรมโทค่ะ ที่อ่านเจอนั้นเป็นเป็นหลักสูตรในสมัยเก่า หนังสืออนุพุทธประวัติ ( หลักสูตรนักธรรมโท ) ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส มหามกุฏราชวิทยาลัย ๒๕๒๖ แล้วก็มีในหนังสือ วิปัสสนากรรมฐาน ของหลวงพ่อโชดก รจนาไว้ค่ะ คำถาม : เนื้อหาที่ท่านอธิบายอริยสัจ ๔ เป็นอริยสัจ ๘ เป็นอย่างไร? เหมือนกันหรือแตกต่างกันกับที่อาตมาเคยอ่านมาจากหนังสือ "เก็บเพชรจากคัมภีร์พระไตรปิฎก" หรือไม่ ? เนื้อหาอริยสัจ ๔ ที่ท่านอธิบาย เป็น อริยสัจ ๘ คือ ทุกข์ ท่านอธิบายว่า ได้แก่ นาม-รูป สมุทัย ท่านอธิบายว่า ได้แก่ อวิชชา - ภวตัณหา นิโรธ ท่านอธิบายว่า ได้แก่ วิชชา-วิมุตติ มรรค ท่านอธิบายว่า ได้แก่ สมถะ-วิปัสสนา และอุบาสิกามีความเห็นว่าอย่างไร ? (ท่านอื่นช่วยวิเคราะห์ด้วยก็ได้ ขออนุโมทนา) เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม พระอาจารย์แสนปราชญ์ |
เจ้าของ: | natdanai [ 03 พ.ย. 2009, 10:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
![]() ![]() ![]() รอมาหลายวันแล้ว...พระอาจารย์ไม่ขยายความโปรดผู้ที่อยากรู้หน่อยหรือครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bbb [ 03 พ.ย. 2009, 11:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
อนุโมทนาครับ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 03 พ.ย. 2009, 16:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
เนื้อหาอริยสัจ ๔ ที่ท่านอธิบาย เป็น อริยสัจ ๘ คือ ทุกข์ ท่านอธิบายว่า ได้แก่ นาม-รูป สมุทัย ท่านอธิบายว่า ได้แก่ อวิชชา - ภวตัณหา นิโรธ ท่านอธิบายว่า ได้แก่ วิชชา-วิมุตติ มรรค ท่านอธิบายว่า ได้แก่ สมถะ-วิปัสสนา ![]() ขอเสนอข้อคิดเห็นว่า... ...พระสารีบุตรท่านคงจะชี้เฉพาะเจาะจงและขยายความออกไปเนื่องด้วยสอนพระภิกษุด้วยกัน... 1) ทุกข์ เพราะยึดติดในอัตตาตัวตน หลงยึดมั่นในขันธ์5ว่าเที่ยงแท้ถาวรจึงเป็นทุกข์ เพราะมีรูป-นาม คือ กาย-จิต โดยการรับรู้ผ่านอายตนะ6 ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้แก่ ตา-มองเห็น หู-ได้ยินเสียง จมูก-ดมกลิ่น ลิ้น-ลิ้มรส กาย-รับสัมผัส ใจ-รู้สึกนึกคิด เกิดการประชุมขันธ์5ได้แก่ *รูป(กาย) *เวทนา(ความรู้สึก) *สัญญา(ความจำได้หมายรู้) *สังขาร(ความคิดปรุงแต่ง) *วิญญาณ(การรับรู้ด้วยประสาทต่างๆ) 2) สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ เมื่อเกิดมีรูป(กายมีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น)กับนามจิต(เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) การที่จิตส่ายไปข้างนอกผ่านกายเกิดการปรุงแต่งไปตามวัตถุสิ่งของทางการมองเห็นด้วยตา จึงเกิดอวิชชา(ความไม่รู้ตามสภาพความเป็นจริงจึงปรุงแต่งภายใจจิตเพื่อตอบสนองอัตตาตัวตน) เกิดความอยากในสิ่งที่ตนต้องการ(กามตัณหา) ทำให้ยึดติดในสิ่งที่ทำให้ตนเป็นสุข(ภวตัณหา) ความอยากได้อยากมีอยากเป็น พอไม่สมหวังก็เกิดทุกข์เกิดเป็นวิภวตัณหาตามมา 3) นิโรธ-ความดับทุกข์ วิชชา ใช้ดับอวิชชาได้โดยการอบรมจิตใจให้เห็นเป็นไปในการประชุมของธาตุ4ขันธ์5 ให้เห็นร่างกายเป็นของไม่สะอาด ตัวตนเรา-เขาไม่มีโดยใช้มรรค8ให้รู้ตามเป็นจริง วิมุตติ การอบรมจิตให้ถึงความหลุดพ้นเพราะดับเหตุให้เกิดทุกข์ ดับอวิชชา ตัณหาสิ้น หลุดพ้นจากอาการ๔กครอบงำด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทานที่ก่อสร้างภพชาติไม่สิ้นสุด 4) มรรค หนทางดับทุกข์ ในครั้งพุทธการงานของพระน่าจะมีแค่การเจริญสมถะ-วิปัสสนา ทำกิจวัตร5ประการ พระพุทธองค์ไม่ได้มีงานก่อสร้างวัตถุให้พระทำ ให้มีหน้าที่ทำความเพียรเพื่อละกิเลสเท่านั้น เมื่อนำมาไล่เรียงให้ครบตามมรรค8 คือ สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาวาครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 04 พ.ย. 2009, 04:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
กราบขออภัยด้วยค่ะ พอดีหนังสือนักธรรมโทเล่มนั้นได้ให้คนอื่นไปแล้ว ไม่งั้นจะลอกข้อความให้อ่าน ที่ว่าของพระสารีบุตรน่ะค่ะ แต่เท่าที่จำได้ ท่านเรียกอริยสัจ 4 นะคะ ส่วนที่หลวงพ่อโชดกอธิบายไว้นั้น หลายหน้ามากๆค่ะ แต่ที่ท่านสรุปไว้ ทุกขสัจนั้น โดยองค์ธรรม ได้แก่ โลกียจิต ๘๑ เจตสิก ๕๑ ( เว้นโลภะ ) รูป ๒๘ รวมเป็น ๑๖๐ ย่อลงมาให้สั้นๆ จำง่ายๆ ได้แก่ ขันธ์ ๕ ย่อให้สั้นสุด ได้แก่ รูปกับนาม สมุทัย ได้แก่ ตัณหา ตัณหาคือ โลภะเจตสิก แล้วก็ตัณหาท่านอธิบายไว้ละเอียดยิบ ไม่ใช่แค่ภวตัณหา นิโรธ ได้แก่ นิพพาน แล้วชื่อนิพพานมีเรียกหลายอย่าง มรรค ได้แก่ มรรค ๘ ย่อลงมาคือ ศิล สมาธิ ปัญญา สรุปคือ สติปัฏฐาน ๔ ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ไม่สามารถคัดลอกให้อ่านได้ เพราะความยาวทั้งหมด ๕๐ หน้าค่ะ ท่านหาอ่านได้ที่ร้านซีเอ็ด ชื่อ หนังสือ วิปัสสนากรรมฐาน ภาค ๑ เล่ม ๑ ส่วนคำถามที่ท่านถามมาว่า คำถาม : เนื้อหาที่ท่านอธิบายอริยสัจ ๔ เป็นอริยสัจ ๘ เป็นอย่างไร? เหมือนกันหรือแตกต่างกันกับที่อาตมาเคยอ่านมาจากหนังสือ "เก็บเพชรจากคัมภีร์พระไตรปิฎก" หรือไม่ ? ตรงนี้ไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะไม่เคยอ่านหนังสือเล่มที่ท่านนำมากล่าวถึง ส่วนข้อคิดเห็น ไม่มีข้อคิดเห็นใดๆค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 04 พ.ย. 2009, 11:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
![]() ...ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "สมถะกับวิปัสสนา"... ...วิเคราะห์ตามความรู้ที่อ่านจากหนังสือธรรมะ การฟังเทศน์วิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัว... ...และจากประสบการณ์การปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานด้วยตนเอง... ...ส่วนคัมภร์ "เก็บเพชรจากคัมภีร์พระไตรปิฎก" ไม่ทราบรายละเอียด ไม่เคยอ่านเจ้าค่ะ... ...สมถกรรมฐานเป็นการปฏิบัติสมาธิเพื่อทำให้จิตสงบแต่ยังไม่เกิดปัญญารู้แจ้งตามความเป็นจริง... ...จะเกิดปัญญาได้ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเพื่อให้มีสติ-สัมปชัญญะพิจารณาธรรมตามเป็นจริง... ...จึงน่าจะปฏิบัติสมถกรรมฐานให้ใจสงบ...จากนั้นก็ออกทางวิปัสสนากรรมฐานไม่ทิ้งอันหนึ่งอันใด... ...ประสบการณ์ที่ตนเองประสบคือสงบระงับอารมณ์ฟุ้งซ่านต่างๆจนจิตรวมเป็นหนึ่ง... ...จิตกับกายแยกส่วนเห็นได้ชัดเจนว่า...ที่เราเข้าใจว่าเป็นอันเดียวกันมันไม่ใช่... ...เพราะสิ่งที่เกิดขณะนั้นมีแต่ผู้รู้คือจิตอยู่โดดๆไม่รับรู้อาการของกาย...ลมหายใจไม่มี... ...แต่ไม่รู้สึกขาดอากาศแต่อย่างใด...เราไม่ตายและรับรู้เสียงเทศนาธรรมตลอดเวลา... พระธรรมเทศนาของหลวงตามหาบัวที่เคยฟังมีนับไม่ถ้วน...หลวงตาชอบกระตุกกิเลสยกตัวอย่างเช่น... ...หลวงตามหาบัวท่านบอกว่า...คราวนี้ที่ได้ช่วยชาติ...จริงๆท่านวางไว้เพื่อเผยแผ่ธรรมะ... ...ท่านทำทองคำช่วยชาติ...คราวนี้เป็นโอกาสจะได้เทศน์เปิดให้อรรถธรรมเข้าสู่ใจประชาชน... ...หลวงตาเรียนมาถึงมหา...เปรียญสามประโยค...หลวงตาป.3...ไม่ได้คุยโม้โอ้อวด... ...ธรรมที่เราได้รู้แล้ว...นำธรรมนั้นออกมาสอน...คิดว่าหลวงตาอวดอุตริมนุษยธรรมเหรอ... ...ให้รีบปฏิบัตินะ...อย่าให้เกิดมาตายทิ้งเปล่าๆ...ธรรมะเป็นน้ำที่สะอาดนำมาชะล้างจิตใจ... ...ตายแล้วไม่สูญ...บาปมี...บุญมี...นรกมี...สวรรค์...พรหมโลก...นิพพานมี...ให้เชื่อนะ... ...พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์พอตรัสรู้ธรรมผางขึ้นมา...รู้แบบเดียวกัน...สอนแบบเดียวกัน ...พอหลวงตาตรัสรู้ธรรมผางขึ้นมา...พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไง... ...ครูบาอาจารย์หลายท่านที่ฟังเทศน์ของหลวงตาไปด้วยขณะปฏิบัติภาวนาได้บรรลุธรรมทั้งนั้น... ...เจ้าอาวาสส่งพระลูกวัดมาปฏิบัติ...พระลูกวัดส่งเทปไปให้ท่าน...ท่านก็ปฏิบัติอยู่ที่วัดท่าน... ...เวลาท่านมรณภาพไปแล้ว...ก็อัธฐิกลายเป็นพระธาตุ...ถึงได้ทราบว่าเอาเทปหลวงตาไปฟัง... ...ลูกศิษย์หลวงตาพวกเนี๊ยะ...เป็นยังไง...มันนิพพานลงเสื่อลงหมอนเหรอ...ตายทิ้งเปล่าๆนะ... ...เรานำธรรมแบบเดียวกันมาสอน...ให้รีบปฏิบัตินะ...ใครไม่เอาก็เป็นกรรมของสัตว์... ...ให้เชื่อธรรมนะ...อย่าเชื่อแต่กิเลส...การปฏิบัติมันยากเพราะกิเลสพาให้ยาก... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 07 พ.ย. 2009, 23:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
ตอบ อุบาสก natdanai เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา อุบาสก natdanai อ้างอิงคำถาม รอมาหลายวันแล้ว...พระอาจารย์ไม่ขยายความโปรดผู้ที่อยากรู้หน่อยหรือครับ ขออนุโมทนากับคำถาม ขอขยายความเท่าที่ได้อ่านมา ดังนี้ เนื้อหานี้เป็นบทความของท่าน เสฐียรพงษ์ วรรณปก เรื่อง "วิธีการศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎก" อยู่ใน หนังสือเก็บเพชรจากคัมภีร์พระไตรปิฎก เป็นหนังสือที่พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในวโรกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีสมโภช พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อ ๖-๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ เนื้อหาโดยย่อ คือ ท่านแนะนำวิธีศึกษาพระไตรปิฎก และข้อที่หนึ่งท่านแนะนำให้อ่านเพื่อหาความ เข้าใจธรรมะ โดยยกตัวอย่าง อริยสัจ ๔ ว่า พระพุทธองค์ตรัสไว้หลายแห่ง ให้ตามอ่านให้หมด และ ให้อ่านคำอธิบายอริยสัจ ๔ ของพระสารีบุตร ในคัมภีร์จูฬนิทเทส และมหานิทเทส ซึ่งอาตมาไปค้นดู แล้วไม่พบ (สันนิษฐานว่า ๑.อาจจะค้นยังไม่ทั่วถึง ๒. ผู้เขียนคงสรุปมาจากคัมภีร์ทั้งสองแล้ว) ความคิดเห็นของอาตมา คือ ท่านแสดงอริยสัจ ในส่วนที่เป็นต้นแบบของอภิธรรม ที่ว่าด้วยการแยกแยะ วิเคราะห์ธรรม เหมือนอภิธรรมยุคหลังที่แยกแยะวิเคราะห์จิต เจตสิก รูป นิพพาน วิเคราะห์จากลักษณะผลงานของท่านคือ "คัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค" จะเป็นแนวอภิธรรมยุคแรก เป็นกัมมัฏฐานเล่มแรกของพระพุทธศาสนา อริยสัจ ๘ ที่ท่านแสดง จึงเป็นการแสดงอีกในภาคอภิธรรม และหลักการวิธีปฏิบัติกัมมัฏฐาน เจริญในธรรมพระพุทธศาสดาอุบาสิกา Rosarin อาตมามีประโยคหนึ่งอยากให้อุบาสิกาแสดงความเห็น เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่หลวงตามหาบัวประกาศว่า "ทำลายกิเลสได้" มีคนเคยถามอาจารย์ของอาตมาว่า ท่านเชื่อหรือไม่ว่า "หลวงตามหาบัวทำลายกิเลสได้" อาจารย์อาตมาตอบว่า "เชื่อ. . .เพราะท่านบอก ! แต่ . . . ทำไมท่านถึงพูด" เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม พระอาจารย์แสนปราชญ์ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 12 พ.ย. 2009, 16:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
อ้างคำพูด: พระอาจารย์แสนปราชญ์ เขียน เจริญในธรรมพระพุทธศาสดาอุบาสิกา Rosarin อาตมามีประโยคหนึ่งอยากให้อุบาสิกาแสดงความเห็น เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่หลวงตามหาบัวประกาศว่า "ทำลายกิเลสได้" มีคนเคยถามอาจารย์ของอาตมาว่า ท่านเชื่อหรือไม่ว่า "หลวงตามหาบัวทำลายกิเลสได้" อาจารย์อาตมาตอบว่า "เชื่อ. . .เพราะท่านบอก ! แต่ . . . ทำไมท่านถึงพูด" ![]() กราบนมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพ ...ท่านเชื่อเรื่องญาณหยั่งรู้จิตไหมล่ะเจ้าคะ…หลวงตาตรวจวาระจิตสรรพสัตว์อยู่ทุกวันนั่นแหละเจ้าค่ะ... ![]() ...กิจวัตรประจำวัน... ...เช้าบิณฑบาตจากนั้นเทศนาธรรมโปรดญาติโยม...ท่ารชราภาพทุกวันนี้พระอาจารย์สุดใจปฏิบัติแทน ....จากนั้นแผ่เมตตาจิตตรวจดูว่าสมควรจะไปโปรดญาติโยมที่ใดในวันนี้... ...ถ้าตรงวันราชการก็ไปตามโรงพยาบาล...ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะไปวัดที่กันดารห่างไกล... ...ท่านสร้างแต่วัตถุนอกวัดมากที่สุด...ในวัดให้สร้างจิตใจให้เจริญมาตั้งแต่ปี2500ที่เริ่มสร้างวัด... ...ข้าพเจ้าเป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่านับถือศาสนาพุทธตามทะเบียนบ้าน... ...บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ 5 ปีไม่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรมจริงจัง...พ่อแม่เป็นคนจีนไม่เคยพาเข้าวัด... ...หรือพาสวดมนต์ไหว้พระ...พ่อไม่นับถือพระเจ้าค่ะ...ส่วนแม่ก็ทำบุญตามประเพณีเช่นขึ้นบ้านใหม่... ...ไปทำบุญงานศพและทำบุญถวายภัตตาหารพระที่วัดตอนทำบุญให้ตา-ยาย...บ้านอยู่หน้าวัดอีกด้วย ...แม้แต่ปัจจุบันนี้แม่ก็ไม่เคยได้เข้าวัดแบบไปบวชน่งห่มขาวเลย...แม้ไปทำวัตรเช้า-เย็นก็ไม่เคย... ...ที่ตนเองทำบุญตักบาตรและสวดมนต์ไหว้พระเป็นก็เพราะเรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่ครูสอนทำเจ้าค่ะ... ...ที่โรงเรียนทุกวันพาสวดมนต์ไหว้พระ...วันเด็กจะมีการทำบุญตักบาตร... ...วันสำคัญทางพุทธศาสนาครูพาเข้าวัด...ข้าพเจ้าเห็นยายข้างบ้านใส่บาตรตอนเช้าก็อยากทำตาม... ...ก็ได้หัดตื่นเช้าขึ้นมาหัดนึ่งข้าวใส่บาตรตั้งแต่อายุ 10 ปี...เป็นผู้ที่ชอบทำบุญโดยนิสัยตลอดมา... ...ไม่เคยทราบว่าศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นๆยังไงเพราะไม่เคยบวชชีพราหมณ์ถือศีล8ด้วย ...วัดป่าบ้านตาดมีมาก่อนข้าพเจ้าเกิด...ข้าพเจ้าเป็นคนอุดรธานีโดยกำเนิด... ![]() ...เชื่อหรือไม่เจ้าคะข้าพเจ้าไม่รู้จักวัดนี้เลย...เดชะบุญที่หลวงตามหาบัวออกวิทยุเสียงธรรม... ...เพื่อประชาชน...ขณะนั้นข้าพเจ้ากำลังคิดเปลี่ยนไปนับถือคริสต์อยู่แล้วเชียว...ดีว่ากลับลำทัน... ...เพราะตามหน้าหนังสือพิมพ์มีแต่ข่าวพระสงฆ์-สามเณรทำศาสนาให้เสื่อมลง...ความรู้สึกเสื่อม... ...มันเกาะกินใจทุกวัน...เวลาไม่สบายใจที่เคยไปวัดก็เกิดเสื่อมศรัทธาไม่อยากไปวัดซะอย่างงั้น... ![]() ...เป็นบุญหูเหลือเกินที่ธรรมะท่าน...ทำให้ข้าพเจ้าไม่ต้องตกนรกไปเสีย... ...ธรรมะท่านสะกิดกิเลสในตัวข้าพเจ้า...และเป็นบุญตาเหลือเกินที่ข้าพเจ้ามีบุญได้ทัศนา... ...พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี...ปฏิบัติชอบ...อย่างหลวงตามหาบัว...ในวัดป่าบ้านตาดหลวงตาไม่ให้พระ... ...มีโทรศัพท์มือถือ...ดูทีวี...วิดีโอ...ท่านว่าเป็นเทวทัต...ฟังวิทยุเสียงธรรมได้กับดูสถานีธรรม... ![]() ....มือถือมีไว้ใช่ส่วนกลาง...พระที่มีส่วนตัวไล่หนีไม่ให้อยู่เจ้าค่ะ...ท่านมีไหมล่ะเจ้าคะ.... ...ให้พระมีหน้าที่ปฏิบัติเพื่อฆ่ากิเลสอย่างเดียว...และไม่ให้มีการนิมนต์พระไปฉันตามบ้าน... ...เพราะไป-กลับเสียเวลามาก...ไม่สมควรแก่ทานที่ศรัทธาประชาชามาทำบุญ... ...มันมากล้นเหลือทุกวัน...จนต้องไปแจกสงเคราะห์ที่อื่น...จะฉันให้พุงกางตายไปเลยก็ได้... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ...เมื่อได้ฟังธรรมเกิดศรัทธาก็เข้าวัดสิเจ้าคะ...เวลาฟังท่านเทศน์สดๆน่ะ.... ...ท่านเทศน์สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังคิดทุกครั้ง...เวลาไปวัดข้าพเจ้านั่งอยู่ท้ายศาลา... ...ไม่เคยเข้าไปเรียนถามอะไรท่าน......แค่ถามในใจท่านก็ตอบให้แล้วเจ้าค่ะ... ...ตอนข้าพเจ้านั่งสมาธิจนจิตรวมก็ตอนท่านเทศนาสดๆ...5ปีที่ปฏิบัติ... ...ถ้านับเวลาที่ได้เห็นธรรมว่าจิตกับกายแยกส่วนก็ผ่านมา 3 ปีเท่านั้นเอง... ...นับแต่นั้นไม่เคยสงสัยธรรมของพระพุทธเจ้า...ท่านเรียนถึงนิพพานหรือยัวเจ้าคะ...สงสัยหรือไม่ ![]() ![]() ...โยมที่เป็นพยาบาลทำงานโรงพยาบาลศิริราชวันเสาร์-อาทิตย์นั่งเคริ่องบินเพื่อมาฟังเทศน์ท่านสดๆ... ...หรือท่านเห็นว่าเป็นของง่ายดายที่จะนั่งเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-อุดรธานีทุกสัปดาห์...ศรัทธาเกิด... ...แล้วยังที่เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ทรงเสด็จวัดป่าบ้านตาดและพักค้างคืนเป็นประจำเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า ![]() ...สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนที่ออกกระจายเสียง24ชั่วโมงมีมากกว่า 100 สถานี... ...ล้วนแต่ศรัทธาของโยมสร้างถวาย...รักษาให้ใช้งานได้โดยไม่รบกวนหลวงตา... ...ท่านสลดสังเวทใจที่เวลาตรวจดูจิตแต่ละดวง...ไสหัวลงทางกิเลส...พระก็บ้าเห่อยศชั้นนั้นชั้นนี้... ...เป็นไก่มีหงอนติดหัวก็คิดว่าตัวดีเลิศเลอ....สร้างวัตถุก็ว่าเจริญ...จิตใจทำไมไม่สร้าง... ![]() ...ท่านพิจารณาแล้วว่าทั้งโยมกับพระ/ท่านเหมือนเรา/เราเหมือนท่าน… ...สมควรเปิดธรรมของจริงก็ควรเปิด...หลวงตาท่านก็เรียนมาถึงมหา...เรียนเป็นไม้กันสุนัข... ...ท่านบอกว่าท่านก็เรียนถึงมหาใครจะมาค้านธรรมที่ท่านแสดงก็มาได้...เราปากอมธรรมเอามาพูด... ...หาว่าหลวงตาอวดอุตริ...มันคนที่พูดปากอมขี้...โถขี้โลภ...ขี้โกรธ...ขี้หลงเต็มหัวใจ... ![]() ...ในครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าเห็นควรเปิดท่านก็เปิด...อย่างตอนไปโปรดพระบิดาและพระญาติ ...ท่านพระอาจารย์แสนปราชญ์เรียนทางธรรม...น่าจะทราบดีกว่าโยมที่ไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก... ...พระพุทธเจ้าแสดงอิทธิฤทธิ์...ปาฏิหาริย์ต่างๆมากมายนั่นเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าทรงแสดง ...ต่อสายตาผู้คนยุคนั้น...หรือท่านอยากให้หลวงตาเหาะไปหาท่านล่ะเจ้าคะ... ...ตอนนี้หลวงตา 97 พรรษาไม่อยากมาทัศนาท่านดอกหรือเจ้าคะ... ![]() ...พระอาจารย์ปัญญาเป็นชาวต่างชาติอยู่ทางอินเดียตอนใต้...ท่านแสวงหาครูอาจารย์... ...ยังมามรณภาพที่วัดป่าบ้านตาด...กุฏิของโยมที่ไปอยู่ปฏิบัติในวัดใช้ผ้าล้อมเป็นฝาผนัง... ...ท่านไม่อยากมาลองอยู่ปฏิบัติที่วัดนี้ดูหรือเจ้าคะ...วัดนี้ท่านให้ประหยัด...ไฟฟ้าที่กุฏิไม่มี... ...การปฏิบัตินั้นต้องมีครู...จิตครูบาอาจารย์ดึงดูดจิตลูกศิษย์ให้รู้เห็นธรรมได้จริงหรือไม่ล่ะเจ้าคะ... ![]() ...เขียนมายืดยาวท่านอ่านแล้ว...อาจจะแย้งไปในใจตลอด...ลองมาดูวัดป่าบ้านตาดสิเจ้าคะ... ...อัฐิที่กลายเป็นพระธาตุของครูบาอาจารย์สายพระกรรมฐานพระอาจารย์เสาร์และหลวงปู่มั่น... ...อยู่ชั้น2บนศาลาเก่าเต็มไปหมด...แล้วก็พระธาตุของพระอาจารย์ปัญญาชาวต่างประเทศก็มี... ![]() ... ลองพิจารณาข้อความนี้เจ้าค่ะ...เช่นกันคนไปสวิสเซอร์แลนด์กับมาเล่าว่าสวยมาก... ...เราไม่ได้ไปแต่ก็แค่เขาเล่าเราก็ฟัง...แต่ไม่รู้ว่าสวยยังไง...เรายังอยากไปหรือท่านไม่อยากพ้นทุกข์... ...บวชไปเพื่อสิ่งใด...ทุกวันนี้...เมื่อมีโอกาสว่างการงาน...ข้าพเจ้าไปวัดป่าบ้านตาด... ...ก็ยังคงนั่งอยู่ท้ายศาลาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเจ้าคะ...เขียนมายาวมาก...อ่านแล้วเดี๋ยวตาลาย... ![]() ...สงสัยก็ถามมาอีกได้เจ้าค่ะ...ฟังคนอื่นพูดจะเท่าเห็นด้วยตัวเองหรือเจ้าคะ...พอแค่นี้ก่อนเจ้าค่ะ… ...พระพุทธเจ้าสอนเรื่องกาลามสูตร 10 นั่นน่ะของจริง...คำสอนมาจากของจริง...ข้าพเจ้าเขียน... ...ไม่ได้หวังให้ใครมาเชื่อโดยไม่พิสูจน์ก่อน...เพียงอธิษฐานขอให้เป็นผู้ที่ได้มีโอกาสเผยแผ่ธรรม... ...คำสอนของพระพุทธเจ้า...ผู้ที่พิสูจน์ได้เอง...ย่อมไม่เสียที่ที่เกิดเจอพระพุทธศาสนา... ...ให้ดีมาที่วัดป่าบ้านตาดสิเจ้าคะ...หลวงตายังอยู่รอท่านมาพิสูจน์?...ทุกท่านเลยนะเจ้าคะ... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 12 พ.ย. 2009, 21:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
เจริญในธรรมพระพุทธศาสดาอุบาสิกา Rosarin ที่อุบาสิกาแสดงมาทั้งหมดก็ดี และอนุโมทนาด้วย ถ้าอุบาสิกาทบทวนคำถามแล้วจะเข้าใจในคำตอบที่ควรตอบ คำถามที่ควรถาม ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ควรเป็นคำตอบเพื่อประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อโทษ คำถามของอาตมาไม่ใช่เป็นการกล่าวร้ายหลวงตาอย่างที่อุบาสิกาเข้าใจและพรรณามาแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเป็นการส่งเสริมจริยวัตรหนึ่งของหลวงตาที่กล้าประกาศสภาวะออกมา อาตมานับถือครูบาอาจารย์เสมือนพ่อแม่ และหลวงปู่ดุลย์ ศิษย์หลวงปู่มั่นสายเดียวกันกับหลวงตา ก็เป็นพระอุปัชฌาย์ของอาจารย์อาตมา ดังนั้นจึงไม่มีจิตดังที่อุบาสิกาเข้าใจ แต่ถ้าหากทำให้อุบาสิกา ไม่สบายใจก็ขออโหสิกรรมด้วย อาตมาสนทนาในเว็ปนี้ จุดประสงค์เพื่อแสวงหาความรู้ หาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่มีโทษ เป็นไปเพื่อปัญญา ไม่เป็นไปเพื่อโต้เถียง จึงไม่มีเจตนากล่าวร้ายใคร ๆ ทั้งสิ้น อาตมาให้อภัยเสมอกับทุกคนที่อาจจะล่วงเกินอาตมาโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อยากให้อุบาสิกาทบทวนคำถามของอาตมาอีกครั้ง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เจริญในธรรมพระพุทธศาสดา เข้าใจ เข้าถึง เผยแผ่ ปกปักษ์รักษาพระสัทธรรม พระอาจารย์แสนปราชญ์ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 13 พ.ย. 2009, 13:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
![]() กราบนมัสการมาด้วยความเคารพเจ้าค่ะ ...ในสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน...เขียนด้วยความเคารพครูบาอาจารย์...และเคารพในคุณพระพุทธ... ...พระธรรม...และพระสงฆ์...ไม่มีเจตนาคิดในทางเบียดเบียนผู้ใด...ถ้อยคำที่ร้อยเรียง... ...มาจากจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมของผู้เจตนาให้ศีล5บริสุทธิ์ไม่ให้หลุดขาด... ![]() ...ในความรู้สึกของผู้ที่ไม่รู้จักหลวงตามหาบัวจะเข้าใจผิดว่าที่ข้าพเจ้าเขียนหยาบคาย... ...เพราะถ้อยคำที่เขียนล้วนจำมาจากคำเทศนาธรรมขององค์ท่านพระหลวงตามหาบัวล้วนๆ... ![]() ...ข้าพเจ้ามิได้เขียนด้วยอารมณ์เคียดแค้นต่อผู้ใด...ถ้าท่านพิจารณาให้ดี...นี่คือธรรมของหลวงตา... ...ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าใสสีตีไข่ให้ผู้ใดเจ็บใจ...อย่างคำที่หลวงตาท่านพูดถึงอวัยวะสอนการผิดศีลข้อ3... ...คนก็หาว่าหลวงตาหยาบคาย...หลวงตาท่านเทศน์ตรงๆเพราะกิเลสของผู้ฟังต่างหากที่หยาบ... ...ผู้ที่มองด้วยสายตาของกิเลสอาจจะรู้สึกเจ็บลึกๆในจิตใต้สำนึกที่กิเลสเห็นว่าถูกสะกิดอย่างแรง... ...หลวงตาท่านสอนว่ากิเลสชอบคำหวานระรื่นหู...ธรรมของหลวงตาเป็นน้ำสะอาดราดรดลงไป... ...ท่านลองพิจารณาข้อความนี้...เราเอาน้ำสะอาดมาราดกิเลสสลัดออกหมดเหมือนราดลงบนหลังสุนัข ...ท่านว่าหยาบหรือไม่...ที่มาก็คือมีข้าราชการอาจารย์ระดับดอกเตอร์คนหนึ่งมาด้วยใจผยองในยศตน ...เข้ามาทำบุญที่วัดป่าบ้านตาดด้วยอารมณ์ยิ่งใหญ่คับฟ้า...ธรรมมันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา...แต่พอถึง ...ประโยคสุดท้ายที่หลวงตาเทศน์ดังข้างต้นจบลง...ข้าราชการรู้เนื้อรู้ตัวขึ้น...กราบหลวงตาราบเลย... ...ถ้าท่านรู้สึกว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนเป็นการต่อว่าท่านหรือครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ...นั่นคือท่านเข้าใจผิด ...ข้าพเจ้าฟังเทศน์ครูบาอาจารย์ทุกองค์ในวิทยุเสียงธรรม...ในความคิดและหัวสมองมีแต่ข้อธรรมะ... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ...การฟังธรรมเปิดวิทยุ24ชั่วโมง...ไม่มีสติเฉพาะเวลาหลับเท่านั้น...ฟังแล้วจดจำ...ไม่ใช่แค่เพียง... ...ได้ยินแค่เสียงผ่านเข้าซ้ายทะลุออกขวาเท่านั้น...การฆ่ากิเลสขั้นละเอียดนี่มันทำได้ยากมากที่สุด... ...ธรรมที่ท่านนำมาเปิดให้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า...แรกๆมันก็ผ่านเข้าแล้วก็ผ่านออก...จิตไม่ได้จดจำอะไร... ...ก็เมื่อเราฟังธรรมทุกวินาที...มีหรือกิเลสจะไม่สะเทือน...มันซึมอยู่ในจิตเต็มที่หรือสายเลือดก็ว่าได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ...แล้วท่านพระอาจารย์มหาปราชญ์...จะให้ข้าพเจ้าเขียนสิ่งใดลงไป...เพราะสมองข้าพเจ้ามีอย่างนี้.. ...หลวงตาท่านอบรมว่าการดูละคร...โขนหนัง...ร้องรำทำเพลงล้วนแต่ทำให้กิเลสผยองพองขนยิ่งขึ้น ...สิ่งที่ข้าพเจ้าเรียนรู้และกระทำอยู่นี้...มีท่านผู้ใดเห็นว่าเป็นของง่ายหรือไม่...การฟังธรรมของข้าพเจ้า ...ด้วยข้าพเจ้าหวังว่าอานิสงส์5อย่างมีอย่างเต็มที่...เพราะได้นำน้ำสะอาดมาล้างจิตใจอยู่ทุกวัน... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ...ด้วยเจตนาก็ดี...ไม่เจตนาก็ดี...ระลึกได้ก็ดี...ระลึกไม่ได้ก็ดี...ข้าพเจ้ากายสังขารนี้และดวงจิตดวงนี้ ...ขอขมากรรมต่อพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า...พระสาวก...พระอรหันต์...พระสงฆ์ ...อริยเจ้าทุกๆองค์...บิดามารดา...ครูบาอาจารย์...ทุกภพทุกชาติ...เทพพรมเทวาทุกอาสน์ทุกองค์... ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย...ข้าพเจ้ามิได้มีจิตคิดทำรายผู้ใดไม่ว่าจะด้วยกายวาจาจิตใจก็ดี...ขอได้โปรด เมตตาอโหสิกรรมบาปนั้น...กรรมนั้น...เวรนั้นให้กับข้าพเจ้ากายสังขารนี้และดวงจิตดวงนี้ด้วยเถิดเจ้าค่า ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 13 พ.ย. 2009, 14:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยสัจ ของพระสารีบุตร ที่แสดงเป็น ๘ อย่าง ค้นหาได้ที่ไหน |
![]() ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าเขียนชื่อท่านผิดในวรรคที่6บรรทัดแรก ...เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าคิดว่าข้าพเจ้าเขียนประชดท่านอีก ![]() ...การเขียนกับการพูดแล้วมองเห็นแววตาผู้พูดนี้มันต่างกันลิบว่าไหมเจ้าคะ แก้คำว่า...ท่านพระอาจารย์มหาปราชญ์...เป็น...พระอาจารย์แสนปราชญ์... ...ในความหมายที่ข้าพเจ้าเขียนเชิงเปรียบเทียบ...ให้เห็นภาพ...ไม่ได้คิดประชด... ...ในคำที่หลวงตาต่อว่า...บางคนที่เรียนถึงมหาแล้วว่าหลวงตาอวดอุตริ...ผู้ไม่ได้ว่าไม่เกี่ยว... ...ท่านเล็งญาณแล้วว่ามีผู้พอจะรู้ได้...ท่านจึงเห็นสมควรเปิด... ...อยากเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างตึกสงฆ์อาพาธ 10 ชั้นกับหลวงตามหาบัว... ...ตอนนี้ได้เกือบ300ล้านแล้ว...จ่ายตัวตึก200ล้าน...เครื่องมือแพทย์ตกแต่งในตึก300ล้าน ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |