ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=26627 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ดอกอุบล [ 31 ต.ค. 2009, 02:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
เมื่อเราทำบุญทุกๆครั้งแล้วนอกจากอธิษฐานให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานควรอธิษฐานอย่างอื่นอะไรอีกครับช่วยตอบหน่อยครับ? |
เจ้าของ: | sasikarn [ 31 ต.ค. 2009, 02:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | -dd- [ 31 ต.ค. 2009, 02:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
คำอธิษฐาน ๑๐ ประการ ๑. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนคิดจะได้ดีอะไรอย่างลอย ๆ นั่งนอนคอยแต่โชควาสนา โดยไม่ลงมือทำความดี หรือไม่เพียรพยายาม สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตน ถ้าข้าพเจ้าจะได้ดีอะไรก็ขอให้ได้ เพราะทำได้ทำความดีอย่างสมเหตุผลเถิด ๒. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนลืมตนดูหมิ่นเหยียดหยามใคร ๆ ซึ่งอาจด้อยกว่าในทางตำแหน่ง ฐานะการเงิน หรือ ในทางวิชาความรู้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้เกียรติแก่เขาตามความเหมาะสมในการติดต่อ เกี่ยวข้องกันเถิด อย่าแสดงอาการข่มขู่เยาะเย้ยใครๆ ด้วยประการใดๆเลย ก็ขอให้มีความอ่อนโยน นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อยเถิด ๓. ถ้าใครพลาดพลั้งลงในการครองชีวิตหรือ ต้องประสบความทุกข์ ความเดือดร้อนเพราะเหตุใดๆก็ตาม ขออย่าให้ข้าพเจ้าเหยียบย่ำซ้ำเติมคนเหล่านั้น แต่จงมีความกรุณาหาทางช่วยเขาลุกขึ้น ช่วยผ่อนคลายความทุกข์ร้อนแก่เขาเท่าที่จะสามารถทำได้ ๔. ใครก็ตามที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาเท่าเทียม หรือเกือบเท่าเทียมข้าพเจ้าก็ดี มีความรู้ความสามารถหรือ มีผลงานอันปรากฏดีเด่น สูงส่งอย่างน่านิยมยกย่องยิ่งกว่าข้าพเจ้า ขออย่าให้ข้าพเจ้ารู้สึกริษยาหรือกังวลใจในความเจริญของผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ขอให้ข้าพเจ้าพลอยยินดีในความดี ความรู้ความสามารถของบุคคลเหล่านั้นด้วยใจจริง ช่วยส่งเสริมสนับสนุน และให้กำลังใจแก่คนเหล่านั้น อันเข้าลักษณะการมีมุทิตาจิตในพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกันข้ามกับความริษยา ขออย่าให้เป็นอย่างบางคน ที่เกรงนักหนาว่าคนอื่น จะดีเท่าเทียมหรือดียิ่งกว่าตน คอยหาทางพูดจาติเตียนใส่ไคล้ให้คนทั้งหลายเห็นว่าผู้นั้นยังบกพร่องอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีน้ำใจสะอาด พูดส่งเสริมยกย่องผู้อื่นควรยกย่องเถิด ๕. ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีน้ำใจเข็มแข็งอดทน อย่าเป็นคนขี้บ่น ในเมื่อมีความยากลำบากอะไรเกิดขึ้น ขอให้มีกำลังใจต่อสู้กับความยากลำบากนั้น ๆ โดยไม่ต้องอ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วยขออย่าเป็นคนอ่อนแอเหลียวหาที่พึ่ง เพราะไม่รู้จักทำตนให้เป็นที่พึ่งของตนเลย ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนชอบได้อภิสิทธิ์ คือ สิทธิเหนือคนอื่น เช่น ไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็ขอให้พอใจนั่งคอยตามลำดับ อย่าวุ่นวายจะเข้าตรวจก่อนทั้งที่ตนไปถึงทีหลัง ในการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกใด ๆขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดหาวิธีลัดหรือวิธีทุจริตใดๆ รวมทั้งขออย่าได้วิ่งเต้นเข้าหาคนนั้นคนนี้ เพื่อให้เขาช่วยให้ได้ ผลดีกว่าคนอื่น ทั้งๆที่ข้าพเจ้าอาจมีคะแนนสู้คนอื่นไม่ได้เถิด ๖. ข้าพเจ้าทำงานที่ใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือคิดเอาแต่ได้ในทางส่วนตัว เช่น เถลไถลไม่ทำงานรีบเลิกงานก่อนกำหนดเวลา ขอจงมีความขยันหมั่นเพียร พอใจในการทำงานให้ได้ผลดี ด้วยความตั้งใจและเต็มใจเพื่อประโยชน์ของตนเอง ฉะนั้นเถิด อันเนื่องมาแต่ความไม่คิดเอาเปรียบในข้อนี้ ถ้าข้าพเจ้าบังเอิญก้ำเกินข้าวของ ของที่ทำงานไปในทางส่วนตัวได้บ้าง เช่น กระดาษ ซอง หรือ เครื่องใช้ใด ๆ ขอให้ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าเป็นหนี้อยู่และพยายามใช้หนี้คืนด้วยการซื้อใช้ หรือทำงานให้มากกว่า ที่กำหนด เพื่อเป็นการชดเชยความก้ำเกินนั้น ข้อนี้รวมทั้ง ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเอาเปรียบชาติบ้านเมืองเช่น ในเรื่องการเสียภาษีอากร ถ้ารู้ว่ายังเสียน้อยไปกว่าที่ควร หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะชดใช้แก่ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสตอบแทนเมื่อไร ขอให้รีบตอบแทนโดยทันที เช่น ในรูปแห่งการบริจาคบำรุงโรงพยาบาล บำรุงการศึกษาหรือบริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์อื่น ๆ แบบบริจาคให้ มากกว่าที่รู้สึกว่ายังเป็นหนี้ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ และในข้อนี้ขอให้ข้าพเจ้าปฏิบัติแม้ต่อเอกชนใด ๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือโกงใครเลยแม้แต่น้อย แม้แต่จะซื้อของ ถ้าเขาถอนเงินเกินมา ก็ขอให้ข้าพเจ้ายินดี คืนให้เขากลับไปเถิด อย่ายินดีว่ามีลาภ เพราะเขาทอนเงิน เกินมาให้เลย ๗. ขออย่าให้ข้าพเจ้ามักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีหน้ามีตาอยากมีอำนาจ อยากเป็นใหญ่เป็นโต ขอให้ข้าพเจ้าใฝ่สงบมีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องเดือดร้อนในเรื่องการแข่งดีกับใคร ๆ ทั้งนี้เพราะข้าพเจ้าพอจะเดาได้ว่า ความมักใหญ่ใฝ่สูง ความหยากมีหน้ามีตา ความอยากมีอำนาจ และอยากเป็นใหญ่เป็นโตนั้น มันเผาให้เร่าร้อน ยิ่งต้องแข่งดีกับใคร ๆ ด้วยก็ยิ่งทำให้เกิดความคิดริษยา คิดให้ร้ายคู่แข่งขัน ถ้าอยู่อย่างใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ก็จะเย็นอกเย็นใจ ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากถอนใจเพราะเกรงคู่แข่งจะชนะ ไม่ต้องทอดถอนใจเพราะไม่สมหวัง ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจซาบซึ้งในพระพุทธภาษิตว่า "ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ละความชนะความแพ้เสียได้ ย่อมอยู่เป็นสุข" ดังนี้เถิด แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่า เมื่อใฝ่สงบแล้ว ข้าพเจ้าจะต้องอยู่อย่างเกียจคร้าน ไม่สร้างความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ข้าพเจ้าทราบดีว่าพระพุทธศาสนามิได้สอนให้คนเกียจคร้าน งอมืองอเท้า แต่สอนให้มีความบากบั่นก้าวหน้าในทางที่ดี ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม และความบากบั่นก้าวหน้า ดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพันอยู่กับความทะยานอยาก หรือความมักใหญ่ใฝ่สูงใด ๆ คงทำงานไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลดีก็จะเกิดตามมาเอง ๘. ขอให้ข้าพเจ้าหมั่นปลูกฝั่งความรู้สึกมีเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีกรุณาคิดจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ซึ่งพระพุทธเจ้าแนะนำให้ปูพื้นจิตใจด้วยเมตตากรุณาดังกล่าวนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งไม่รู้สึกว่ามีใครเป็นศัตรูที่จะต้องคิดกำจัดตัดรอนเข้าให้ถึงความพินาศ ใครไม่ดี ใครทำชั่วทำผิดขอให้เขาคิดได้กลับตัวได้เสียเถิด อย่าทำผิดทำชั่วอีกเลย ถ้ายังขืนทำต่อไปก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาจะต้องรับผลแห่งกรรมชั่วของเขาเอง เราไม่ต้องคิดแช่งชักให้เขาพินาศ เขาก็จะต้องถึงความพินาศของเขาอยู่แล้ว จะต้องแช่งให้ใจเราเดือดร้อนทำไม ขอให้ความเมตตาคิดจะให้เป็นสุข และกรุณาคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ซึ่งข้าพเจ้าปลูกฝังขึ้นในจิตใจนั้น จงอย่าเป็นไปในวงแคบและวงจำกัด ขอจงเป็นไปทั้งในมนุษย์และสัตว์ทุกประเภท รวมทั้งสัตว์ดิรัจฉานด้วย เพราะไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เหล่านั้น ต่างก็รักสุขเกลียดทุกข์ รู้จักรักตนเองปรารถนาดีต่อตนเองด้วยกันทั้งสิ้น ๙. ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนโกรธง่าย ต่างว่าจะโกรธบ้าง ก็ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธ จะได้สอนใจตนเองให้บรรเทาความโกรธลง หรือถ้าห้ามใจให้โกรธไม่ได้ ก็ขออย่าให้ถึงกับคิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือคิดอยากให้เขาถึงความพินาศ ซึ่งนับเป็นมโนทุจริตเลย ขอจงสามารถควบคุมจิตใจให้เป็นปรกติได้โดยรวดเร็ว เมื่อมีความไม่พอใจหรือความโกรธเกิดขึ้นเถิด และเนื่องมาจากความปรารถนาข้อนี้ ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนผูกโกรธ ให้รู้จักให้อภัย ทำใจให้ปลอดโปร่งจากการผูกอาฆาตจองเวร ขอให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยรู้จักเปรียบเทียบกับตัวข้าพเจ้าเองว่าข้าพเจ้าเองก็อาจทำผิด พูดผิด คิดผิด หรือ อาจล่วงเกินผู้อื่นได้ ทั้งโดยมีเจตนาและไม่เจตนา ก็ข้าพเจ้าเองยังทำผิดได้ เมื่อผู้อื่นทำอะไรผิดพลาดล่วงเกินไปบ้าง ก็จงให้อภัยแก่เขาเสียเถิด อย่าผูกใจเจ็บหรือเก็บความรู้สึกไม่พอใจนั้นมาขังอยู่ในจิตใจ ให้เป็นพิษเป็นภัยแก่ตัวเองเลย ๑๐. ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเข้าใจและสอนใจตัวเองได้เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธศาสนา ทั้งทางโลกและทางธรรม กล่าวคือ พระพุทธศาสนาสอนให้รู้จักสร้างความเจริญแก่ตนในทางโลก และสอนให้ประพฤติปฏิบัติยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้มีปัญญาเข้าใจปัญหาแห่งชีวิต เพื่อจะได้ไม่ติดไม่ยึดถือ มีจิตใจเบาสบายอันเป็นความเจริญในทางธรรม ซึ่งรวมความแล้วสอนให้เข้ากับโลกได้ดี ไม่เป็นภัยอันตรายแก่ใคร ๆ แต่กลับเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ แต่ก็ได้สอนไปในทางธรรมให้เข้ากับธรรมได้ดี คือให้รู้จักโลก รู้เท่าโลกและขัดเกลานิสัยใจคอให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อบรรลุความดับทุกข์ ความพ้นทุกข์ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจทั้งทางโลกทางธรรม และ ปฏิบัติตนให้ถูกต้องได้ทั้งสองทาง รวมทั้งสามารถหาความสงบใจได้เองปละสามารถแนะนำชักชวนเพื่อนร่วมชาติร่วมโลก ให้ได้ประสบความสุขสงบได้ตามสมควรเถิด ที่มา คำอธิษฐานของข้าพเจ้า โดย สุชีพ ปุญญานุภาพ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=20394 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 31 ต.ค. 2009, 07:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
![]() ![]() ![]() สำหรับ สาวิกาน้อย หากจะอธิษฐานให้สั้นๆ จะกล่าวว่า ขอบุญจาก........(ธรรมทาน, สังฆทาน, วิหารทาน ฯลฯ) นี้ จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร และเทพเทวดาผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวทุกภพทุกภูมิ ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาติ หากไม่ถึงเพียงใดขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าเกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง และได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้งแตกฉานตลอดจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน ขอท่านท้าวพระยายมราช ท่านท้าวสักกเทวราช จงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ |
เจ้าของ: | sangphet [ 31 ต.ค. 2009, 09:06 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? | ||
การอธิษฐานจิตคือ การตั้งจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยนึกถึงคุณงามความดี เช่น การนึกถึงกุศลของการให้ทาน รักษาศึล ภาวนา สามารถเกิดบุญได้เช่นกัน ขอให้สมดังคำที่อธิษฐานไว้นะค่ะ
|
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 31 ต.ค. 2009, 09:15 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? | ||
ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ ...เจ้ากรมนายเวร.. ...เทพเจ้าทั้งหลาย.. ...และท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว.. จากนั้นตั้งความปรารถนาว่า... ![]() ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์และบริวาร ถึงพร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์โดยธรรม... ถึงพร้อมด้วยสวรรค์สมบัติ ถึงพร้อมด้วยพรหมสมบัติ และถึงพร้อมด้วยนิพพานสมบัติ ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.. หรือ...พระปัจเจกพุทธเจ้า.. หรือ...พระอรหันตสาวก.. นับตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ. เจริญในธรรมครับ
|
เจ้าของ: | chulapinan [ 31 ต.ค. 2009, 15:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
อธิฐานขอสมาธิและปัญญาค่ะ แต่จะได้ ต้องมีเงื่อนไข นั่นเป็นความยุติธรรม เงื่อนไขคือ ให้โดยการทำดี ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยความเพียร โดยไม่ต้องมีความหวังว่าจะได้หรือไม่ได้ เจตนาเป็นตัววัดค่ะ |
เจ้าของ: | murano [ 31 ต.ค. 2009, 20:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
สาวิกาน้อย เขียน: ![]() ![]() ![]() สำหรับ สาวิกาน้อย หากจะอธิษฐานให้สั้นๆ จะกล่าวว่า ขอบุญจาก........(ธรรมทาน, สังฆทาน, วิหารทาน ฯลฯ) นี้ จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร และเทพเทวดาผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวทุกภพทุกภูมิ ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาติ หากไม่ถึงเพียงใดขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าเกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง และได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้งแตกฉานตลอดจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน ขอท่านท้าวพระยายมราช ท่านท้าวสักกเทวราช จงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ โฮ่..... นายคิดคำได้เมพขิงๆ |
เจ้าของ: | korkai81 [ 02 พ.ย. 2009, 11:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
เวลาทำบุญไหว้พระ : อธิษฐาน ขอให้เป็นผู้มีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ผ่านมาเข้าในชีวิตได้ เวลาสวดมนต์ไหว้พระ : อธิษฐาน ขอให้เป็นผู้มี กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ตลอดทุกภพชาติ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งนิพพาน คิดว่าน่าจะครอบคลุมดีแล้วน่ะค่ะ สั้นๆ ดีด้วย จำได้ง่าย *.* |
เจ้าของ: | เทวดาเดินดิน [ 03 พ.ย. 2009, 12:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
![]() ![]() ขอให้เรามีความสุขกายสุขใจครับ ก็พอแล้วครับ.. |
เจ้าของ: | bbb [ 03 พ.ย. 2009, 12:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
อธิษฐานแล้วมันจะได้จริง ๆ เหรอ? ทำบุญด้วยอะไรเหรอครับ? ถ้าทำบุญเพื่อช่วยเหลือคนอื่นนะ ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือวัตถุอะไรก็ตามแต่.. ผมจะอธิษฐานว่า "ขอให้เงิน (ฯ) จำนวนนี้ เป็นประโยชน์แก่....มากที่สุด" ส่วนการอธิษฐานขอให้ตัวเรานั้นผมจะทำหลังจากนั่งสมาธิ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลครับ อนุโมทนาครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | BABYPrincess [ 03 พ.ย. 2009, 13:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
การอธิษฐาน และ ขอพร ขณะนี้วัน ...... ที่ ..... เดือน....... พุทธศักราช 2552 ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมถวาย (ภัตตาหาร , สังฆทาน , ไทยทาน , ก็แล้วแต่ว่าจะถวายอะไรให้ภิกษุ หรือ ปัจจัยที่ให้แก่ขอทาน) เหล่านี้ แด่องค์พระศากยมุณีพุทธเจ้า จุดประสงค์ของข้าพระพุทธเจ้า เพื่ออุทิศบุญแก่ พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ในประเทศไทย บุคคลในครอบครัวของเราที่ยังมีชีวิต บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวรทั้งในอดีตชาติปัจจุบันชาติ รวมถึง เหล่าธรรมธาตุทั้งหลาย ขอพระพุทธองค์โปรดทรงบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความร่าเริง ท้ายนี้ขอพระพุทธองค์ทรงบันดาลให้ข้าพระพุทธเจ้าสมหวังทุกประการเทอญ สาธุ *** การกล่าววันเดือนปีที่ถวาย ต้องอ่านแบบเต็มรูปแบบ ห้ามใช้คำย่ออย่างเด็ดขาด **** ก่อนนำ ภัตตาหาร , สังฆทาน , ไทยทาน ถวายแด่พระสงฆ์ควรกล่าวคำอธิฐานให้จบก่อน ***** ไม่ต้องกรวดน้ำแล้ว อาจารย์วิเชียร เพ็ชรพรประภาส มูลนิธิพุทธานุภาพ หมายเหตุ 1.การที่ขอถวายแด่องค์พระศากยมุณีพุทธเจ้า เพื่อขอพลังพุทธานุภาพจากพระพุทธองค์ 2.การที่ระบุวันที่ที่ชัดแจ้ง เพื่อองค์พระแม่ธรณี ทรงเป็นพยาน และประกาศต่อเหล่ายมบาลให้บันทึกบุญ มิใช่บันทึกแต่บาป |
เจ้าของ: | Rosarin [ 03 พ.ย. 2009, 14:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
bbb เขียน อธิษฐานแล้วมันจะได้จริง ๆ เหรอ? ![]() ...การอธิษฐานจะมีผลและอานิสงส์มากน้อยต่างกันตามตามกำลังศรัทธา... ...และการน้อมนำด้วยกาย วาจา จิตใจ...ในการให้ทาน...การรักษาศีล...การภาวนา... ...ความยินดีทั้งก่อนทำ...ขณะทำ...และหลังจากทำ...มีผลต่อฐานะความเป็นอยู่... ...การให้ทาน ทานที่ให้หามาได้ด้วยบริสุทธิ์ ผู้ให้มีจิตใจบริสุทธิ์ ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์... ...ลองไปอ่านรายละเอียดในหนังสือธรรมวิธีสร้างบุญบารมีของสมเด็จพระสังฆราช... ...อย่าลืมว่าผู้ร้ายก็ให้ทานได้...บุญจากการให้ทานยังได้อานิสงส์น้อยกว่าการรักษาศีล... ...การรักษาศีลด้วยเจตนารักษาให้บริสุทธิ์...การสมาทานศีลคือการให้พระสงฆ์เป็นพยาน... ...ตนเองเป็นพยานที่ดีที่สุด...บุญจากการรักษาศีลยังได้อานิสงส์น้อยกว่าการภาวนา... ...ผู้มีศีลบริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อยเวลาอธิษฐานย่อมบังเกิดผลมากกว่าผู้รักษาไม่ได้... ...การให้ทานและการรักษาศีลยังเป็นการทำบุญเหมือนฝนตก...ยังต้องหาภาชนะรองรับ... ...นั่นก็คือต้องใช้จิตตภาวนาเป็นภาชนะรวมบุญทุกบุญทุกภพทุกชาติและย่นภพชาติได้... ...การเจริญสมาธิภาวนามีอานิสงส์มากที่สุด...การรวมบุญไม่มีใครทำแทนกันได้... ...ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามรึเปล่า... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 03 พ.ย. 2009, 20:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
แหม จะบอกความลับให้ฟัง เรายังอธิิษฐานว่า "ขอให้ผมรวยด้วยเท๊อ" อยู่เลย ส่วนอันอื่น เราทำเองได้ แต่รวยนี่ หาจนเหนื่อย ขี้เกียจหาแล้ว อ้อนวอนเอาละกัน ![]() |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 พ.ย. 2009, 15:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ควรอธิษฐานอย่างไรบ้าง? |
การอธิษฐาน คือการตั้งความปรารถนา เพื่อให้บรรลุสิ่งที่ดีงามประการใดประการหนึ่งหรือหลายประการ ซึ่งการอธิษฐานจะบรรลุผลได้นั้น ผู้อธิษฐานต้องสั่งสมปัจจัยอันเป็นการสร้างบารมี ซึ่งถือเป็นการสร้างเหตุให้ตรงเสียก่อน การอธิษฐานจึงจะบรรลุผลได้ โดยเริ่มจาก ทาน ศีล เนกขัมม ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ ....และอธิษฐาน (ลำดับจากบารมี ๑๐) ![]() ![]() ![]() สำหรับ กุหลาบสีชา เมื่อประกอบกุศลกรรมใดใดในทุกวันนี้ จะขอตั้งจิตอธิษฐานว่า.... “ด้วยผลานิสงส์แห่งบุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำในวันนี้ ขอจงเป็นพลวปัจจัยให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญา และมีดวงตารู้แจ้งเห็นธรรมของพระพุทธองค์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมอันใด ขอข้าพเจ้ามีส่วนรู้ตามธรรมของพระองค์ แม้ต้องเกิดอยู่ในภพชาติใดใด ก็ขอให้ได้เข้าถึงซึ่งสมบัติอันพึงปรารถนา คือ คติสมบัติ อุปธิสมบัติ กาลสมบัติ และ ปโยคสมบัติ อันหมายถึง ได้เกิดในภพภูมิที่ดี มีอวัยวะครบถ้วนบริบูรณ์ ตั้งอยู่ในกาลสมัยที่มีคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายใต้ร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา มีการประกอบความเพียรในทางที่ชอบ มีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร และเป็นสัมมาทิฏฐิทุกชาติไป ขอให้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ฟังธรรมและประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป และหากแม้ยังต้องวนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสาร ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจาธิษฐาน ขอปวารณาตัวรับใช้พระพุทธศาสนาทุกภพชาติไป ตราบจนเข้าถึงสมบัติที่สูงสุด คือ “พระนิพพาน” .... ด้วยเทอญ" ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |