วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2009, 07:23
โพสต์: 17

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รบกวนถามหน่อยครับ คือ ผมเคยได้ยินมา ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า(แต่ผมคิดว่าน่าจะจริง) เลยเกิดข้อสงสัยว่า ญาณ หรืออภิญญาอะไรที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงทำดังนี้ได้ครับ

ข้อ 1 ล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตของบุคคลอื่นได้
ข้อ 2 ล่วงรู้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ณ สถานที่อื่นได้
ข้อ 3 ล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของใครๆ ได้
ข้อ 4 คนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าจะสามารถมีญาณหรืออภิญญาอย่างที่บอกไปได้หรือเปล่าครับ หากสมมุติว่าทำได้เรียกว่าการฝึกอะไรครับ
ข้อ 5 หากล่วงรู้อนาคตได้ แสดงว่าอนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้วใช่หรือเปล่าครับ เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่าครับ

รบกวนถามแค่นี้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :b8: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย sbth เมื่อ 03 พ.ย. 2009, 17:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้คีเวิร์ดแล้วกันนะครับ

"ทศพลญาน" หรือ "ตถาคตพลญาน"
มีอธิบายกันว่า คือปัญญาอันยิ่งยง 10 ประการ
ที่ทำให้พระพุทธเจ้าประกาศพระศาสนาได้มั่นคง


- บุคคลอื่นๆ สามารถมีญานได้ แต่ไม่ครบ 10
- และในบรรดาบุคคลอื่นๆเช่นว่านั้น ถ้ามีญานอันใด ก้จะมีขีดความสามารถจำกัดและมีความผิดพลาดได้
เช่นหยั่งรู้อนาคต ก็จะรู้ได้ไม่ไกลมาก

แต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น ที่ไร้ขีดจำกัดในญานทั้ง 10
เช่น สามารถรู้ล่วงหน้าได้อย่าง"ไม่จำกัด" และแม่นยำไม่ผิดพลาด
เช่นว่า ใครจะเกิดเป็นอะไรในอีกกี่อสงไขย มหากัปป์ ก็จะทรงหยั่งทราบได้เท่าที่มีพระประสงค์

(ปล. ข้อมูลนี้ไม่แน่ใจนะ--1 มหากัปป์ เท่ากับช่วงเวลาที่จักรวาลเกิดแล้วดับ)


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 03 พ.ย. 2009, 20:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อนาคตที่แน่นอน มีแต่พระพุทธเจ้าองค์เดียวที่จะทราบ ส่วนอนาคตที่เห็นในญาณของบุคคลอื่น ยังเปลี่ยนได้ หากเหตุปัจจัยเปลี่ยน เหมือน สามเณรที่พระสารีบุตร พยากรณ์ว่าจะต้องเสียชีวิต ในวันนี้ แต่พอได้ช่วยปลาก็ยืดอายุขัยได้อีก หรืออีกเรื่องหนึ่ง

คือมีเรื่องเล่าว่า กษัตริย์สององค์จะทำสงครามกัน อีกฝ่ายได้ไปถามพระอินทร์ว่าใครจะชนะ พระอินทร์ทำนายว่า กษัตริย์องค์นั้นจะชนะ พอได้ฟังดังนั้นก็ชะล่าใจ ไม่ฝึกการรบอย่างเข้มงวด สุดท้ายก็แพ้ ขอสรุปว่า ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


แก้ไขล่าสุดโดย คนไร้สาระ เมื่อ 04 พ.ย. 2009, 05:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 20:50
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อ 1 ล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตของบุคคลอื่นได้

บุพเพนิวาสานสติญาณ ครับ แต่เอจะล่วงรู้ขอคนอื่นด้วยรึเปล่าไม่แน่ใจครับ :b15:

รอผู้รู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2009, 23:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
รบกวนถามหน่อยครับ คือ ผมเคยได้ยินมา ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า(แต่ผมคิดว่าน่าจะจริง) เลยเกิดข้อสงสัยว่า ญาณ หรืออภิญญาอะไรที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงทำดังนี้ได้ครับ


ตอบว่า สัพพัญญุตญาณ

(สัพพัญญุตญาณ ญาณคือความเป็นพระสัพพัญญู,
พระปรีชาญาณหยั่งรู้สิ่งทั้งปวง ทั้งที่เป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต)
จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CA%D1%BE%BE%D1%AD%AD%D8%B5%AD%D2%B3

ญานนี้มีได้เฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ ไม่ธารณะแก่คนทั่วไป

อ้างคำพูด:
ข้อ 5 หากล่วงรู้อนาคตได้ แสดงว่าอนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้วใช่หรือเปล่าครับ เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่าครับ


พึงทราบว่าสิ่งทั้งปวงเกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งประกอบกันอยู่มากมาย มิใช่การเกิดขึ้นได้ลอยๆ
ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตย่อมประกอบด้วยส่วนสำคัญ๒ส่วนคือ ส่วนเหตุ๑ และส่วนผล๑

ผลของปัจจุบันมาจากเหตุในอดีต เหตุในปัจจุบันเป็นผลในอนาคต เหตุในอนาคตก็นำผลใหม่ให้เกิดสืบต่อๆไป...การกล่าวว่าอนาคตถูกกำหนดไว้แล้วนั้น ถูกส่วน"ผล"เท่านั้น แต่ส่วนการทำเหตุใหม่นั้น ไม่ได้ถูกกำหนด

เมื่อใครๆอยากทราบเรื่องอนาคต ความประสงค์คืออยากทราบ"ส่วนผล"นั่นเอง หากพระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงพยากรณ์แล้ว คำตอบจะถูกต้องเสมอ ไม่มีคลาดหรือผิด เพราะพระองค์ทรงยิ่งด้วยพระญานอันไม่จำกัดในสัตว์ทั้งปวงโดยตลอดสายแห่งเหตุปัจจัยของเหล่าสัตว์นั้นๆ

อุปมาเหมือนว่า หากเราออกเดินทางด้วยเที่ยวบินไปเชียงใหม่ เราย่อมทราบว่าจุดหมายที่จะถึงคือเชียงใหม่ ไม่ใช่ภูเก็ต เพราะเหตุที่ทำคือการขึ้นเครื่องบินเที่ยวที่ไปเชียงใหม่..เมื่อเหตุทำไว้แล้วเช่นนี้ ถามว่าจะไปเปลี่ยนผลให้เป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ เช่น คาดหมายว่าจะได้ถึงภูเก็ตด้วยเที่ยวบินนั้น? ฉันใด การพยากรณ์อนาคตผู้ใดของพระผู้มีพระภาคก็ทรงประมวลจากเหตุอันสัตว์นั้นๆประกอบไว้แล้วส่วนหนึ่ง..ดังนี้

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


-dd- เขียน:
อุปมาเหมือนว่า หากเราออกเดินทางด้วยเที่ยวบินไปเชียงใหม่ ....


เชียงใหม่อีกแระ...

ทำไม...เวลากล่าวถึงธรรม จะต้องเป็น "นั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่"

ไปที่อื่นกันไม่เป็นเลยรึไง ทำไมต้องขึ้นเหนือทุกที พับเผื่อยสิ่

ผมอยากไป อลาสก้า บ้างหง่ะ ก็

แล้วทำไมต้องนั่งเครื่องบิน นั่งเรือไม่ได้รึ๊...หื๋อออ... เรือบดน้ำแข็ง หง่ะ

และอีกประโยค "เกลือมันเค็ม..." ...

เอาแบบ อย่างอื่นไม่ได้หรือครับ... ประมาณ "ก็ลมมันเย็น" หน่ะ...

:b4: :b4: :b4:

และคุณคิดว่าถ้าผมเผลอไปกล่าวอย่างนี้ แถวศาลาเทศน์
คุณว่าผมจะโดนยันตก ศาลา รึเปล่าครับ...

:b9: :b9: :b9:


แก้ไขล่าสุดโดย yahoo เมื่อ 04 พ.ย. 2009, 11:03, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมไม่ยักจะรู้เรื่องนี้พวกนี้แฮะ..- -?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
-dd- เขียน:
อุปมาเหมือนว่า หากเราออกเดินทางด้วยเที่ยวบินไปเชียงใหม่ ....


เชียงใหม่อีกแระ...

ทำไม...เวลากล่าวถึงธรรม จะต้องเป็น "นั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่"

ไปที่อื่นกันไม่เป็นเลยรึไง ทำไมต้องขึ้นเหนือทุกที พับเผื่อยสิ่

ผมอยากไป อลาสก้า บ้างหง่ะ ก็

แล้วทำไมต้องนั้นเครื่องบิน นั่งเรือไม่ได้รึ๊...หื๋อออ... เรือบดน้ำแข็ง หง่ะ

และอีกประโยค "เกลือมันเค็ม..." ...

เอาแบบ อย่างอื่นไม่ได้หรือครับ... ประมาณ "ก็ลมมันเย็น" หน่ะ...

:b4: :b4: :b4:

และคุณคิดว่าถ้าผมไปเผลอไปกล่าวอย่างนี้ แถวศาลาเทศน์
คุณว่าผมจะโดนยันตก ศาลา รึเปล่าครับ...

:b9: :b9: :b9:

cool คุณyahoo ตอนนี้มีเรื่องให้ต้องทุกข์ใจ...นิดนึง :b7:
ก็ใช้วิธี ธรรมะ...เข้ามา....และ.....
อ่านโพสต์ของคุณ....ก็ทำให้สบายใจขึ้น... :b9: ... :b32: ค่ะ
:b16: หมั่นโพสต์นะคะ...จะตามอ่านค่ะ
beby onion

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


sbth เขียน:
5 หากล่วงรู้อนาคตได้ แสดงว่าอนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้วใช่หรือเปล่าครับ เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่าครับ

รบกวนถามแค่นี้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :b8: :b12:


4ข้อแรกไม่ต้องตอบแล้ว :b32: :b32:

ข้อ5 นี่ความจริงแล้ว ท่านdd ตอบไว้ดีแล้ว แถมพาไปเที่ยวเชียงใหม่อีกด้วย :b32:

ข้อ 5 นี่มี2คำถาม
อันแรก - อนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว ใช่หรือเปล่า
ตอบว่า ใช่ครับ เราเองเป็นผู้กำหนดซะด้วยไม่มีใครมากำหนดให้เรา

อันที่สอง - เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่า
ตอบว่า เปลี่ยนไม่ได้ครับ....เพราะไม่มีอะไรจะให้เปลี่ยน :b2: :b2: :b2:
:b13: :b13: :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แก้ไขล่าสุดโดย natdanai เมื่อ 04 พ.ย. 2009, 10:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
yahoo เขียน:


อ้างคำพูด:
แล้วทำไมต้องนั่งเครื่องบิน นั่งเรือไม่ได้รึ๊...หื๋อออ... เรือบดน้ำแข็ง หง่ะ

และอีกประโยค "เกลือมันเค็ม..." ...


ท่าน Yahoo... คล้ายกับว่าเป็นpopular topic ที่ใช้กันจนเข้าใจได้ง่ายและเร็ว..ทั้งพาใจไหลไปทาง"ธรรมะ"มากกว่าไหลลงมหาสมุทร Arctic อะครับ.. :b1: แต่หากท่าน Yahoo ชอบใจจะไปแถว อลาสก้า บ้างก็ได้ ผมจะจัดให้ตามประสงค์ ดังนี้..

ครั้งนั้น บุรุษนามว่า [b]Yahoo ตั้งใจอยากจะไปชมทะเลน้ำแข็งที่ Alaska เธอจึงขวนขวายเตรียมข้าวของจำเป็น รีบลง"เรืออีแต๋น " :b5: มุ่งหน้าสู่น่านน้ำ มหาสมุทรใหญ่ [color=#0000BF]มีจุดหมายหลักที่ Alaska ...ใครจะพยากรณ์ได้ละหรือว่า เธอจะสามารถมีโอกาสไปวิ่งเล่นบน เรือบดน้ำแข็ง ที่เธอเฝ้าฝันถึงอยู่ ได้ด้วยอาการอย่างนี้... ข้อนั้นย่อมหาเป็นไปได้ไม่.. เพราะเธอทำเหตุผิดไว้แล้วคือการปฏิเสธเครื่องบิน แล้วทะลึ่งเลือกพาหนะคือ"เรืออีแต๋น "[/color] [/b](ผมว่ามันต้องเป็นญาติกับรถอีแต๋นทางใดทางหนึ่งแน่ๆ :b13: ) ในการเดินทาง ..เพราะทำเหตุไม่เหมาะสมแก่ผลที่จะปรากฏนั่นเทียว :b13: ..นี่เรียกว่า เมื่อทราบเหตุที่ใครทำไว้ ก็ย่อมสามารถคาดคะเนถึง"ผล"อันจะปรากฏในอนาคตได้เช่นนี้.. :b13:

อ้างคำพูด:
natdanai เขียน:

อ้างคำพูด:
ข้อ 5 นี่มี2คำถาม
อันแรก - อนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว ใช่หรือเปล่า
ตอบว่า ใช่ครับ เราเองเป็นผู้กำหนดซะด้วยไม่มีใครมากำหนดให้เรา

อันที่สอง - เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่า
ตอบว่า เปลี่ยนไม่ได้ครับ....เพราะไม่มีอะไรจะให้เปลี่ยน


คารวะในความ"นุ่งสั้น"(สำนวนท่านเอรากอน) ของท่านนัดฯด้วยครับ (ในความสั้น มีความยาวอยู่เสมอเรยนะท่านนัดฯ) :b13: :b17: :b32:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 04 พ.ย. 2009, 13:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
O.wanเขียน:


อ้างคำพูด:
คุณyahoo ตอนนี้มีเรื่องให้ต้องทุกข์ใจ...นิดนึง :b7:
ก็ใช้วิธี ธรรมะ...เข้ามา....และ.....
อ่านโพสต์ของคุณ....ก็ทำให้สบายใจขึ้น... :b9: ... :b32: ค่ะ
:b16: หมั่นโพสต์นะคะ...จะตามอ่านค่ะ


หัวอกเดียวกันยังกะแฝด และหนับหนุนตามคำขอจากท่าน O.wan นะนะ ท่าน Yahoo.. :b20: :b3: :b13: :b41: :b47: :b48: :b50: :b55:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2009, 07:23
โพสต์: 17

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากๆ เลยครับ :b8:

เท่าที่ผมอ่านคำตอบของทุกท่าน ผมสรุปได้ว่าทุกอย่างทำได้แต่เฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น และเรียกว่า ทศพลญาน หรือสัพพัญญุตญาณ และหากเป็นเรื่องระลึกชาติก็จะเรียกว่า บุพเพนิวาสานสติญาณ?

ผมก็เกิดข้อสงสัยว่า แล้วที่พระเกจิสมัยก่อน หรือพระป่าสมัยก่อนอะไรที่ท่านทำนาย หรือพวกหมอดูทางในอะไรอย่างนี้เรียกว่า ญาณได้หรือเปล่าครับ

ส่วนข้อ 5 ที่ผมถามไป ได้คำตอบดีมากเลยครับ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไร ก็น่าจะหมายถึงว่าอนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว ด้วยตัวของคนๆ นั้น ถ้าอย่างนั้น เราเคยทำดีไว้ ต่อไปเราก็ไม่ต้องทำดีอีกก็ได้ใช่หรือเปล่าครับ เพราะเราทำไปพอแล้ว ขอให้อย่าทำเลวเพิ่มอีกก็พอ?

ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กำหนดไว้แล้ว ด้วยตัวของคนๆ นั้น ถ้าอย่างนั้น เราเคยทำดีไว้ ต่อไปเราก็ไม่ต้องทำดีอีกก็ได้ใช่หรือเปล่าครับ เพราะเราทำไปพอแล้ว ขอให้อย่าทำเลวเพิ่มอีกก็พอ?


คือถ้าแน่ใจว่าทำแต่เหตุดีมาแล้วล้วนๆ ไม่เคยทำเหตุเสียมาเลย...หรือพูดง่ายๆว่า ถ้าทำดีมาอย่างเดียวล้วนๆ ไม่เคยทำชั่วมาเลย และจะสามารถละการทำชั่วได้อีกตลอดไปในสังสารวัฏ ก็ ไม่ต้องทำดีอีกก็ได้ อย่างที่คุณว่ามาน่ะแหละ และคนที่ทำได้จนถึงระดับนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า พระอรหันต์ ครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย คนไร้สาระ เมื่อ 06 พ.ย. 2009, 04:47, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


sbth เขียน:
ถ้าอย่างนั้น เราเคยทำดีไว้ ต่อไปเราก็ไม่ต้องทำดีอีกก็ได้ใช่หรือเปล่าครับ เพราะเราทำไปพอแล้ว ขอให้อย่าทำเลวเพิ่มอีกก็พอ?

ขอบคุณครับ :b8:


ท่านdd ตอบไว้ชัดเจนแล้วครับ.... :b8: :b8: พระอรหันต์จึงจะทำเช่นนั้น แต่ไม่ใช่เพราะว่าท่านเหล่านั้นรู้ว่าตัวเองทำความดี(กุศล)มามากแล้ว หากแต่เป็นเพราะท่านเหล่านั้นสะสมบารมีมาจนเต็มเปี่ยมแล้ว เรียกได้ว่า ทำบุญก็ไม่ได้บุญ ทำบาปก็ไม่เป็นบาป เพราะหมดเจตนา(หมดกรรม)ส่วนการที่ใช้ร่างกายไปทำอะไรๆต่างๆนั้นเป็นเพียง กิริยา

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:

เชียงใหม่อีกแระ...


เมื่อเจ้าปวดอี้ อนาคตของเจ้า ก็อยู่ในส้วม อิอิ
แต่อนาคตนั้น อยู่ที่การกระทำของเจ้า เจ้าอาจตะลุยทุ่งก็ได้


แก้ไขล่าสุดโดย murano เมื่อ 04 พ.ย. 2009, 20:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 110 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร