วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 19:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 91 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
คำถามนี้ของผม ตัดเรื่องผิดหรือถูกทิ้งไปนะครับ...
ผมชื่นชอบทัศนะคติเช่นนี้...ครับ

มันไม่ใช่แค่คำว่า ชอบเสี่ยง ท้าทาย กล้า ไม่กลัว
คือ การใช้ภาษาของคนมันจะบ่งบอก ทัศนะ
และภาษาที่คุณใช้ มันบ่งบอกทัศนะของคุณในเรื่อง ความกล้า...และไม่กลัว ที่ชัดเจน
และการที่ผู้ปฏิบัติธรรมจะเข้าไปถึงจุด ๆ หนึ่งของทัศนะนั้น ๆ ได้
จะต้องมีบทธรรมมาส่ง ...
อะไรเป็นเหตุที่ทำให้คุณ ข้ามผ่านความกลัว.... ครับ...

:b16: :b16: :b16:

อย่าเพิ่งรำคาญคนช่างซัก..นะครับ...

:b41: :b41: :b41:



ไม่รำคาญหรอกครับ หากจริงใจต่อกัน ปรารถนาดีต่อกัน ยินดีที่จะตอบครับ หากตอบได้นะครับ

ในทัศนะแล้ว ระดับเบื้องต้นของการปฏิบัติสิ่งที่ควรกลัวก็มี สิ่งที่ไม่ควรกลัวก็มีครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ควรกลัวหรือสิ่งที่ไม่ควรกลัวก็ตาม เราก็ยังมีความกลัวอยู่นั่นเอง...

ความกลัวเกิดขึ้นจากความไม่รู้ หากเมื่อไรที่มีความรู้ความกลัวก็จะไม่มีครับ พอความกลัวไม่มีความกล้าก็จะเกิดขึ้นครับ

แต่ไม่ใช่ว่าคนเราจะละความกลัวหรือไม่มีความกลัวได้ทีเดียวหมดทุกอย่าง ตรงนี้จะต้องอาศัยการฝึกฝน เพราะสิ่งที่ทำให้กลัวมีอยู่หลายระดับ

วิธีการข้ามผ่านความกลัวนั้น เราจะต้องมีความมั่นใจในตัวเอง มีความข่มใจ กล้าเผชิญหน้า ใช้ปัญญาเป็นอาวุธ คำๆ หนึ่งที่ผมหมั่นเจริญและหมั่นบอกตัวเองเสมอๆ เวลาที่เกิดความกลัวขึ้น เช่น ตอนไปนั่งสมาธิในป่าคนเดียว หรือบ้านร่างคนเดียว หรือฝึกสมาธิดึกๆ คนเดียว เป็นต้น ก็คือว่า "เป็นสิ่งที่เราจะต้องข้ามไปให้ได้ เรายอมสละชีวิตของตัวเองได้ จะตายหรือเป็นอะไร ก็ยอมล่ะ" แล้วหลังจากนั้นความกลัวก็จะหายไปไม่เกิดอีก หรือสามารถข่มจิตเอาชนะความกลัวได้ แต่ถ้าสมมุติว่ายังละไม่ได้อีก ก็จะใช้วิธีพิจารณาให้เห็นว่าเรากลัวเพราะอะไร อะไรคือความกลัว ความกลัวเกิดจากอะไร โทษของความกลัวคืออะไร ก็จะทำให้ความกลัวละลงไปได้ครับ

ซึ่งเมื่อเราทำได้อย่างนี้ เราไม่กลัวตายเสียแล้ว อะไรๆ เล่าที่เราจะกลัวมันได้อีก คนที่กลัวส่วนใหญ่นอกจากความไม่รู้ในสิ่งที่กลัวแล้วยังเป็นเพราะว่ามีโลภะ คือ โลภ มีความรักตัวเอง หวงแหนตัวเอง กลัวตัวเองจะได้รับอันตรายในลักษณะต่างๆ มีความยึดติดในตัวเองว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นนตัวตนของเราอยู่ในใจ ตรงนี้จะต้องพยายามมีสติสัมปชัญญะอย่างที่บอกไปครับ

ทีนี้เมื่อเราเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำให้เกิดความกลัวนั้นบ่อยๆ หมั่นพิจารณาให้เห็นความจริงประการต่างๆ อยู่เนื่องๆ ด้วยปัญญาเราก็จะรู้ว่าสิ่งนั้นแท้จริงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย หรืออย่างน้อยเราก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่ควรกลัวจริงๆ หรือไม่ครับ

สิ่งที่ควรกลัวนั้น แท้จริงในระดับสูงสุดแล้วไม่มีเลย แต่สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ๆ ยังต้องอาศัยความกลัวอยู่ เช่น ความเกรงกลัวและละอายต่อบาป เป็นต้น แต่เมื่อปฏิบัติๆ ไป เราก็จะรู้ว่าสิ่งที่ควรกลัวไม่มี มีแต่สิ่งที่ควรหรือไม่ควรเท่านั้นครับ

ปล.ไม่รู้ว่าจะตรงกับที่ท่านต้องการทราบหรือเปล่านะครับ เพราะผมก็พยายามตอบแบบไม่เอาเรื่องถูกผิดครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ศิรัสพล เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 09:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




51429ddb3t02334.gif
51429ddb3t02334.gif [ 57.45 KiB | เปิดดู 2333 ครั้ง ]
เอรากอน เขียน:


อิ อิ อาจารย์ป้อมา..ซะกิ... ถือไม้เรียวมาด้วย...
จิ้งหาเสื่อมาปู...ก้อ...ด้าย..

แล้วอาจารย์ป้อ... จะไม่แสดงความคิดเห็นทิ้งไว้สักหน่อยหรือคะ

อิ อิ อะไรเอ่ย คนในไม่อยากออก คนนอก...ม๊ายย...อยาก...ข้าวววว



แล้วอาจารย์ป้อ... จะไม่แสดงความคิดเห็นทิ้งไว้สักหน่อยหรือคะ


หากความคิดต่างระดับกัน ก็ยากที่จะสื่อกันเข้าใจ

กรัชกายมักไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นประเภทนี้ ต้องให้เขาทำหรือปฏิบัติด้วยตัวของเขาเองก่อนแล้วนั่นแหละ

พอแสดงได้ ทิ้งไว้สั้นๆ :b1:

อะไรเอ่ย คนในไม่อยากออก คนนอก...ม๊ายย...อยาก...ข้าวววว


ม๊ายย...อยาก...ข้าวววว หรอ น่าจะได้แก่คนที่กินข้าว (อาหาร) อิ่มแล้ว เลยไม่อยากข้าววว

แต่อยากอย่าง่อื่นอีกได้ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ศิรัสพล เขียน:
..


เซ็งจริงๆ อะไรก็พูดกล้าอย่างนั้นกล้าอย่างนี้ เป็นคุ้งเป็นแคว
แต่ไม่กล้าอย่างเดียวคือ ไม่กล้าตอบคำถามชาติสยาม


กล้าประกาศว่ารู้แจ้งเห้นจริงในพระสัทธรรมเสียดิบดี
แต่ไม่กล้าอยู่อย่างเดียว คือไม่กล้าเข้าถึงเนื้อหา เจอถามเรื่องพื้นๆ
ผู้รักษาพระสัทธรรมก้ตอบไม่ได้เสียแล้ว


ทำให้ผู้ถามต้องหันมาถามตัวเองว่า
เราคงจะเป้นอเวไนยสัตว์กระมัง
คือคงจะถึงขั้นสั่งสอนไม่ได้แล้วมั๊ง ท่านถึงไม่โปรดสัตว์เช่นเรา


เลิกทำมาเหน็บแนมแล้วมาเข้าเรื่องดีกว่า
ขี้ม้าเลียบค่ายอยู่นานสองนาน ไม่เข้าเรื่องสักที อายเขาไหมล่ะนั่น

เที่ยวไปบอกว่าดูจิตผิดอย่างผิดอย่างนี้
พอมาเจอคนดุจิตเขาค้านจริงๆจังๆขึ้นมา ทำมาเรื่องเยอะ บ่ายเบี่ยงจะไม่ตอบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 11:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อะไรเอ่ย คนในไม่อยากออก คนนอก...ม๊ายย...อยาก...ข้าวววว


คนนอกส่วนน้อยมั๊ง ที่ไม่อยากเข้า
เพราะคนเข้ามากมายมหาศาลอย่างกับมดแตกรัง

ไปดูคนมาฟังเทศน์เช้า คนฟังเทศน์สาย
ไปดูตารางจองเข้าปฏิบัติธรรม ไปดูกำหนดการรับนิมนต์ ของท่านสิ
ยาวไปเป็นสองปีสามปีล่วงหน้า

คนที่เข้า ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่กระจอกๆ แม้แต่ท่าน ว.วชิรเมธี ปธ. 9 ยังนับถือเป้นอาจารย์
เชิญหลวงพ่อไปเทศน์ในหลักสุตรกิเลส แมเนจเม้นท์
ลองไปโหลดมาฟังเอาจะๆกับหูก็แล้วกันว่าท่านนับถือหลวงพ่อขนาดไหน

ที่พูด ปธ. 9 นี่ไม่ใช่อะไร เอามาปราบพวกมานะอัตตามาก
ในนี้มีใครจบ ปธ. 9 หรือยังล่ะ ปริยัติก็ไม่ได้
ปฏิบัติก็ไม่ได้ แต่อวดดีกันจัง


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 11:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อะไรเอ่ย คนในไม่อยากออก คนนอก...ม๊ายย...อยาก...ข้าวววว


คนนอกส่วนน้อยมั๊ง ที่ไม่อยากเข้า
เพราะคนเข้ามากมายมหาศาลอย่างกับมดแตกรัง

ไปดูคนมาฟังเทศน์เช้า คนฟังเทศน์สาย
ไปดูตารางจองเข้าปฏิบัติธรรม ไปดูกำหนดการรับนิมนต์ ของท่านสิ
ยาวไปเป็นสองปีสามปีล่วงหน้า

คนที่เข้า ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่กระจอกๆ แม้แต่ท่าน ว.วชิรเมธี ปธ. 9 ยังนับถือเป้นอาจารย์
เชิญหลวงพ่อไปเทศน์ในหลักสุตรกิเลส แมเนจเม้นท์
ลองไปโหลดมาฟังเอาจะๆกับหูก็แล้วกันว่าท่านนับถือหลวงพ่อขนาดไหน

ที่พูด ปธ. 9 นี่ไม่ใช่อะไร เอามาปราบพวกมานะอัตตามาก
ในนี้มีใครจบ ปธ. 9 หรือยังล่ะ ปริยัติก็ไม่ได้
ปฏิบัติก็ไม่ได้ แต่อวดดีกันจัง


เขาเข้าไปไหนกันหรือท่านชาติไทย ที่พูดนั่นหมายถึงใครกันหรอ :b1:

แล้ว ปธ.๙ เขาเรียนอะไรกันหรอ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 12:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หมายถึงอันที่หมายถึงนั่นแหละ

ปธ. 9 เขาเรียนทำอาหารกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




f54802676.gif
f54802676.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 2275 ครั้ง ]
ชาติสยาม เขียน:
หมายถึงอันที่หมายถึงนั่นแหละ

ปธ. 9 เขาเรียนทำอาหารกัน



อ้าวหรอ งั้นท่าน ว.ก็ทำอาหารเก่งดิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้าวหรอ งั้นท่าน ว.ก็ทำอาหารเก่งดิ


ลามปาม ท่านเป็นเพื่อนเล่นเหรอนั่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




51429ddb3t02334.gif
51429ddb3t02334.gif [ 57.45 KiB | เปิดดู 2271 ครั้ง ]
ชาติสยาม เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้าวหรอ งั้นท่าน ว.ก็ทำอาหารเก่งดิ


ลามปาม ท่านเป็นเพื่อนเล่นเหรอนั่น


อ้าว ก็ท่านชาติฯ ว่า ป.ธ.๙ เรียนทำอาหาร

แล้วคนที่ท่านชาติฯ กล่าวชื่อมาข้างต้น ก็ท่าน ว.จบ ป.ธ. ๙

แล้วจะให้กรัชกายพูดอย่างไรกันล่ะ ก็ต้องว่า ท่านคงเรียนทำกับข้าวกับปลาน่ะซี่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 12:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าไม่รู้จักว่า ปธ. 9 เขาเรียนอะไรกัน
ก็เลิกสอนกรรมฐานได้แล้วครับ

give me a break , plsssss Onion_L


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ถ้าไม่รู้จักว่า ปธ. 9 เขาเรียนอะไรกัน
ก็เลิกสอนกรรมฐานได้แล้วครับ

give me a break , plsssss Onion_L


ก็เพิ่งรุ้ตอนที่ท่านชาติฯว่า ป.ธ.๙ เขาเรียนทำอาหารกันนี่ล่ะ เมื่อก่อนไม่รู้แบบนี้หรอก

อีกอย่างหนึ่ง กรรมฐาน ก็ไม่จำเป็นนักที่ต้องเรียน ป.ธ. ป.ปลาอะไรนั่น เพราะกรรมฐาตเรียนจากชีวิตร่าง

กายนี้เอง ทุกคนมีอยู่แล้ว

อีกอย่างหนึ่ง ท่านมหาวุฒิชัยเอง พูดเองว่า จบ ป.ธ.๙ แล้วนึกว่าตัวเองแน่ โน่นไปนอนกลัวผีที่สวนโมกข์

ไม่ได้หลับได้นอน จึงรู้ว่าป.ธ ช่วยอะไรไม่ได้มาก (ช่วยได้เป็นบางเรื่อง) จึงรอนแรมกลับเชียงรายถิ่นเกิด

ไปตั้งสำนักอยู่สามเหลี่ยมทองคำโน่นแน่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 13:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ก็เพิ่งรุ้ตอนที่ท่านชาติฯว่า ป.ธ.๙ เขาเรียนทำอาหารกันนี่ล่ะ เมื่อก่อนไม่รู้แบบนี้หรอก


นั่นน่ะสิ
ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว แล้วทำไมมาถามล่ะครับ

เอาล่ะ พอแล้ว เด๊่ยวตาศิรัสพลจะมองไม่เห็นว่าผมทิ้งประเด็นไว้ให้ตอบอยู่

คุณศิรัสพล
รบกวนอ่านกระทู้ด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ก็เพิ่งรุ้ตอนที่ท่านชาติฯว่า ป.ธ.๙ เขาเรียนทำอาหารกันนี่ล่ะ เมื่อก่อนไม่รู้แบบนี้หรอก


นั่นน่ะสิ
ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว แล้วทำไมมาถามล่ะครับ

เอาล่ะ พอแล้ว เด๊่ยวตาศิรัสพลจะมองไม่เห็นว่าผมทิ้งประเด็นไว้ให้ตอบอยู่


ขออีกหน่อยไม่ได้หรอ เหงาง่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 16:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:

สรุปให้ฟังอีกรอบ ว่าถามว่า
1. สติเป้นอย่างไร
2. คุณมีญานอันใดอันหนึ่งใน 16 อย่างหรือไม่

- - - - - - - - - -

เซ็งจริงๆ อะไรก็พูดกล้าอย่างนั้นกล้าอย่างนี้ เป็นคุ้งเป็นแคว
แต่ไม่กล้าอย่างเดียวคือ ไม่กล้าตอบคำถามชาติสยาม


กล้าประกาศว่ารู้แจ้งเห้นจริงในพระสัทธรรมเสียดิบดี
แต่ไม่กล้าอยู่อย่างเดียว คือไม่กล้าเข้าถึงเนื้อหา เจอถามเรื่องพื้นๆ
ผู้รักษาพระสัทธรรมก้ตอบไม่ได้เสียแล้ว


ทำให้ผู้ถามต้องหันมาถามตัวเองว่า
เราคงจะเป้นอเวไนยสัตว์กระมัง
คือคงจะถึงขั้นสั่งสอนไม่ได้แล้วมั๊ง ท่านถึงไม่โปรดสัตว์เช่นเรา


เลิกทำมาเหน็บแนมแล้วมาเข้าเรื่องดีกว่า
ขี้ม้าเลียบค่ายอยู่นานสองนาน ไม่เข้าเรื่องสักที อายเขาไหมล่ะนั่น

เที่ยวไปบอกว่าดูจิตผิดอย่างผิดอย่างนี้
พอมาเจอคนดุจิตเขาค้านจริงๆจังๆขึ้นมา ทำมาเรื่องเยอะ บ่ายเบี่ยงจะไม่ตอบ



เรียนคุณชาติสยาม ที่ไม่ตอบไม่ใช่เพราะไม่กล้าตอบหรอกครับ แต่ผมเห็นว่าตอบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะตอบไปก็ใช่ว่าเรื่องมันจะจบ รังแต่จะบานปลายอีก เดี๋ยวก็จจะกลายเป็นตอบกันไปตอบกันมาอยู่นั่นแหละครับ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากคุณชาติสยามไม่ประกอบไปด้วยอารมณ์มีโทสะ หรือขัดเคืองใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอาฆาต เป็นต้น แต่เป็นการอยากรู้จริงๆ ก็จะอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งถึงตอนนั้น ผมอาจพิจารณาตอบคำถามของคุณก็ได้ เหมือนกับที่ผมได้ตอบคำตอบกับท่านอื่นๆ ไป

"เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"

ผมเองก็มีคำถามอยู่เหมือนกันครับ ว่าทำไมคุณชาติสยามถึงกล้ายืนยันหนักแน่นว่าสิ่งที่ผมบอกไปนั้นผิด ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคุณมั่นใจที่สุดว่าวิธีการดูจิตนั้นถูก ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงอยากย้อนถามคุณเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดครับ

และคำถามอีกข้อหนึ่งของผม คือ จากคำถามที่คุณถามมา ๒ ข้อนั้น คุณคิดว่าเป็นอย่างไรครับ จากประสบการณ์การปฏิบัติของคุณ คุณลองตอบมาให้ผมทราบสักหน่อยว่าแนวทางดูจิตที่คุณมั่นใจ (หรือที่คุณอาจจะปฏิบัติอยู่) และมั่นใจว่าถูกจะตอบ ๒ ข้อนี้ว่าอย่างไร

ตามนั้นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นึกไว้ไม่มีผิดแม้แต่นิดเดียว
เสียเวลาคุย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 91 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 71 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร