วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 13:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

การเป็นลูกที่ดี
ความกตัญญูและกตเวที คือพื้นฐานที่ดีของลูกทุกคน


โดยปกติทั่วไปในการปลูกสร้างบ้านเรือนหรือเจดีย์ก็ตาม สิ่งสำคัญสุดยอดก็คือการวางรากฐาน ถ้าวางรากฐานไว้ดีคือมั่นคงแข็งแรง ก็ย่อมจะรับน้ำหนักของส่วนบนภาคพื้นดินได้ดี และสามารถจะอยู่ได้นานหลายชั่วคน แต่ถ้าการปลูกสร้างที่วางรากฐานไม่ดี บางทีการสร้างยังไม่ทันเสร็จก็พังแล้ว อย่าว่าแต่จะอยู่ได้นานเลยการวางรากฐานการก่อสร้างมีความสำคัญเพียงใด การวางรากฐานของวิถีชีวิตคนก็มีอุปมาฉันนั้น

รากฐานของชีวิตคน พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ในเอกนิบาตพระไตรปิฎก เล่ม ๒๐ หน้า ๗๐ ว่า การรู้คุณและตอบแทนคุณ เป็นคุณธรรมพื้นฐานของคนดี

การที่เราจะดูว่าลูกคนใดมีความกตัญญูและกตเวทีหรือไม่ ให้ดูที่แววของเขาที่แสดงออกตอนเป็นเด็ก ถ้าเด็กคนนั้นมีแววหรือเชื้อของบัณฑิตอยู่เป็นพื้นฐาน การที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองแนะนำสั่งสอนในทางที่ดี เขาจะยอมรับได้ง่าย แต่ถ้าลูกคนใดไม่มีเชื้อกตัญญูและกตเวทีเลย การแนะนำพร่ำสอนในสิ่งดีมันก็เหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา ถ้าพลาดท่ามันอาจทับหรือเนรคุณเอาเสียด้วย !

ความกตัญญูและกตเวที คืออะไร ?
กตัญญู คือ รู้คุณท่าน ได้แก่ การรู้สำนึกถึงพระคุณของผู้ที่มีพระคุณแก่ตน ในทางมนุษย์ท่านว่าพ่อและแม่เป็นบุคคลแรกและบุคคลสูงสุดของลูกทุกคนในด้านพระคุณ บุคคลนอกจากพ่อและแม่แล้ว ถึงแม้ว่าท่านมีพระคุณต่อเรามากหลายเพียงใด ก็ไม่อาจจะเทียบเท่าพระคุณของพ่อและแม่ได้ เพราะพ่อและแม่เป็นผู้ให้ชีวิตเรา ถ้าไม่มีพ่อให้เชื้อ ไม่มีแม่อุ้มท้อง ลูกทุกคนก็ไม่อาจจะเกิดมาดูโลกนี้ได้ แม้พ่อแม่บางคนจะโหดร้ายต่อลูกเพียงใดก็ตาม นั่นก็ย่อมจะเป็นพฤติกรรมภายหลัง ที่เราได้เกิดมาแล้วแต่ในด้านผู้ให้กำเนิดแล้ว

พระคุณของท่านย่อมจะมีอยู่ตลอดชีวิตของเรา อันธรรมชาติของสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ดิรัจฉาน ในกมลสันดานของความเป็นแม่หรือพ่อนั้น ย่อมจะรักลูกของตนยิ่งชีวิต บางครั้งถึงกับยอมตายแทนลูกได้ แต่ที่พ่อแม่บางรายมีความโหดร้ายทารุณ จนผิดวิสัยของผู้บังเกิดเกล้านั้น ก็เกิดจากอกุศลกรรมในอดีตชาติของลูกมาบันดาลให้เป็นไป ลูกสัมมาทิฐิจึงมิบังควรจะก่อเวรกับพ่อแม่อีกต่อไป ควรแก้ด้วยการทำความดีในทุกรูปแบบ มิฉะนั้นเวรก็จะไม่ระงับเพราะเวรย่อมจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวร

การที่เราได้เกิดมาในตระกูลที่พ่อแม่ไม่ดี นั่นแสดงว่าในอดีตชาติเราได้ทำเวรกรรมที่ร้ายแรงไว้ก่อน วิบากแห่งกรรมนั้นได้ทำเวรกรรมที่ร้ายแรงไว้ก่อน วิบากแห่งกรรมนั้นได้ส่งผลให้เราต้องมาเกิดเป็นลูกของท่าน และได้รับวิบากกรรมชั่วร้ายต่างๆ เราจึงไม่ควรไปต่อกรรมชั่วให้ยืดยาวออกไปอีก ควรจะตัดกรรมชั่วในอดีตด้วยการทำความดีตอบสนองท่าน เมื่อเราทำกรรมดีสนองท่านอยู่ตลอดเวลา วิบากแห่งกรรมเก่าก็ย่อมจะเจือจางลงจนหมดไป

การล้างถ้วยล้างชาม ยิ่งล้างก็ยิ่งจะสะอาด แต่การล้างแค้นนั้น ยิ่งล้างก็ยิ่งจะสกปรก
ลูกที่มีเชื้อกตัญญูและกตเวทีทั้งหลายโปรดสำนึก ! การที่พ่อแม่หรือใครก็ตาม แสดงสิ่งที่ไม่ดีกับเราจะมากหรือน้อยก็ตาม นั่นย่อมจะเป็นมาตรวัดว่าวิบากแห่งกรรมในอดีตที่เราได้ทำไว้กำลังตามมาให้ผลอยู่ ขออย่าได้ “โกงกรรม” ขอให้ยอมรับโดยดุษณี และเร่งทำกรรมดีทั้งกายวาจาและใจให้มากเข้าไว้ อย่าได้ท้อถอยหรือโทษนั่นโทษนี่ ไม่นานวิบากแห่งกรรมเก่าก็จะจางลงและหมดไปเอง

ถ้าเราโกงกรรม คือ ไม่ยอมรับว่าเราได้ทำกับท่านเอาไว้ในชาติก่อน ผลแห่งความวุ่นวายเดือดร้อนก็จะตามมาอีกมากมาย เช่น เป็นโรคประสาท เกิดความเครียดเสียสุขภาพจิต จะหาความสุขในชีวิตไม่ได้เลย ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นท่านแสดงว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะเกิดลอยๆ

โดยไม่มีเหตุ ก่อนที่จะเกิดผลใดๆ เราก็จะต้องทำเหตุไว้นั้นๆ ก่อน เหตุที่เรารู้บ้างหรือไม่รู้บ้าง ก็เพราะบางเหตุมันข้ามภพชาติ และเราก็ระลึกชาติไม่ได้ ว่าในชาติใดเราได้ไปทำกรรมใดๆ ไว้ แต่ชาวพุทธก็ต้องเชื่อพระปัญญาของพระพุทธเจ้าไว้ก่อน เพราะพระองค์ทรงมีญาณระลึกชาติได้

กตเวที คือ ตอบแทนหรือสนองคุณท่าน ได้แก่ เมื่อเราระลึกถึงคุณของท่านแล้ว ก็ควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านด้วย คุณธรรมข้อกตัญญูและกตเวทีจึงจะมีอานิสงส์ครบวงจร ในพระวินัยปิฎกเล่มที่ 4 หน้า 92 พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า

คนดีย่อมจะเป็นผู้มีกตัญญูและกตเวที
ในการดูคนทั่วไปไม่ว่าหญิงหรือชาย ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือชั่วนั้น วิธีที่จะดูให้แน่ที่สุดและแม่นที่สุดก็จะต้องดูที่การแสดงออกของเขาในเรื่อง ความกตัญญูคือการรู้คุณคนที่มีคุณ และความมีกตเวทีคือคิดตอบแทนพระคุณของผู้มีพระคุณ คุณธรรมทั้งสองนี้จะต้องทำไปพร้อมกันคือต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณในทันที ถ้าพ่อแม่เป็นคนไม่ดีต่อลูก เราจะต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณด้วยหรือ ?

ลูกที่ดีจะต้องระลึกถึงคุณ และคิดตอบแทนพระคุณของท่านเสมอ ไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นคนชั่วร้ายเลวทรามปานใด ก็ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสิ้น จะต่างก็แต่ว่าเราจะตอบแทนพระคุณของท่านในช่วงไหนที่เหมาะสมเท่านั้น ก่อนอื่นเราในฐานะลูกที่ดี เราจะต้องแยกให้ออกก่อนว่า พ่อและแม่มีพระคุณต่อลูก 2 ระยะ คือ การให้เกิด และการเลี้ยงดู

การให้เกิด มีพ่อและแม่เท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ได้ คนทั้งโลกยกเว้นพ่อและแม่ย่อมจะหมดสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่นี้ต่อเราการเลี้ยงดู พ่อแม่หรือใครๆ ก็ทำได้ ถ้าพ่อแม่ทำหน้าที่นี้ด้วย ท่านก็จะมีพระคุณต่อลูกครบวงจร คือ ทำให้เกิดด้วยและเลี้ยงดูด้วย

การเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ ให้มีความสมบูรณ์ไปพร้อมๆ กัน

เลี้ยงร่างกาย คือ ให้ร่างกายเติบโตสมบูรณ์มีสุขภาพอนามัยดี มีความรู้ มีความสามารถในการเลี้ยงตัวเอง และพึ่งตัวเองได้ในสัมมาชีพ

เลี้ยงจิตใจ คือ ต้องให้จิตใจมีคุณธรรม มีความสำนึกในบาป-บุญ-คุณ-โทษ มีหลักธรรมในพระศาสนาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต ไม่ทำให้ชีวิตเป็นหมันเปล่า ไม่หลงโลก ไม่ติดโลก มีปัญญาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต มีความรู้ก็ต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับตลอดชีวิตด้วย คุณธรรมความดีงามทั้งหลายจะเกิดกับลูกได้ถาวรตลอดไป ลูกคนนั้นก็จะต้องมีความกตัญญูและกตเวทีเป็นพื้นฐานจิตก่อน พ่อแม่ที่ดีมีสัมมาทิฐิ ก็ควรจะต้องปลูกฝังความกตัญญูลงในจิตใจของลูกพร้อมกับการให้วิชาความรู้คู่กันไป

มิบังควรไปให้แต่ความรู้อย่างเดียวโดยไม่ใส่คุณธรรมลงไปด้วย มันจะเหมือนกับการให้มีดคมที่ปราศจากฝัก สักวันหนึ่งความคมของมีดมันก็ย่อมจะบาดหรือทิ่มแทงผู้พกพาให้เกิดอันตรายได้ ในทำนองเดียวกัน ในการดูลูกที่เกิดจากเรานั้น ว่าในอดีตชาติก่อนที่เขาจะมาเกิดในท้องเรานั้น ว่าเขามาจากที่ไหนนั้นก็พอจะดูได้ว่า

คนที่ไม่รู้คุณและไม่ตอบแทนคุณพ่อแม่นั้น เขาหาใช่คนไม่ แต่เขาคือสัตว์นรกหรือ สัตว์ดิรัจฉานมาเกิด

ลูกประเภทนี้แม้ว่าพ่อแม่จะแนะนำสั่งสอนอย่างไร ก็ยากที่จะดีได้เพราะพื้นฐานหรือสันดานเขาสืบมาแต่อดีตชาติ พ่อแม่ก็จะต้องปลงใจ ขอให้เราทำหน้าที่พ่อแม่อย่างดีที่สุดก็แล้วกัน กรรมของเขาจะส่งผลให้เขาเป็นไปเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมคือการกระทำของเขาเองเช่นนั้นและ !

อนึ่ง การแสดงความกตัญญูและกตเวทีต่อผู้มีพระคุณต่อเรานั้น สิ่งที่ควรสำนึกไว้ตลอดไปก็คือ จะต้องมีธรรมและปัญญาประกอบร่วมด้วยตลอดไป มิฉะนั้นการแสดงความกตัญญูและกตเวที อาจก่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นได้

ธรรม คือ ความถูกต้องชอบธรรม ที่ผู้มีความกตัญญูและกตเวทีต้องมีอยู่เป็นคู่ใจตลอดไป เช่น เมื่อเราได้รับการอุปการะหรือช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณที่เป็นคนชั่วหรือคนทุจริต แล้วให้เราไปสนับสนุนให้เขาไปทำผิดหรือทำชั่ว เราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปสนับสนุนให้เสียธรรม แต่เราก็ควรหาทางสนองพระคุณท่านในสิ่งที่ผิดศีลธรรม การไปส่งเสริมคนไม่ดีให้เป็นผู้นำหรือผู้แทนด้วยอามิสสินจ้าง นั่นเป็นการแสดงความกตัญญูและกตเวทีที่ผิดธรรม ย่อมจะก่อปัญหามาสู่ตัวเราและผู้มีพระคุณได้

ปัญญา คือ ความรอบรู้และรู้อย่างถูกต้อง จำเป็นที่ผู้มีเชื้อกตัญญูและกตเวที จะต้องมีคู่กับธรรมตลอด ก็คือ เมื่อมีปัญหาว่าผู้มีพระคุณต้องการให้เราสนับสนุนท่านในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม เราจะทำอย่างไร เราจะต้องแยกให้ออกก่อนว่า เราควรจะตอบแทนพระคุณท่านด้วยวิธีการอย่างไร จึงจะไม่ผิดธรรม ตัวปัญญานี่แหละจะเป็นเครื่องวินิจฉัยให้ผู้ที่มีความกตัญญูและกตเวทีได้แสดงออก โดยไม่ก่อปัญหาทั้งสองฝ่าย

แต่ถึงอย่างไรพระคุณที่ท่านได้มีต่อเราก็ย่อมจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน แต่มันควรจะรอเวลาที่สนองท่านในโอกาสอันเหมาะสมต่อไป มิฉะนั้น เราอาจจะกลายเป็นคนอกตัญญูไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้

ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีทั้งคุณและโทษ ย่อมขึ้นอยู่กับปัญญาของผู้ใช้ การแสดงออกของความกตัญญูและกตเวทีก็เช่นกัน ถ้าลูกหรือผู้ที่ได้รับความอุปการะช่วยเหลือแล้ว แสดงความกตัญญูและกตเวทีโดยขาดธรรมและปัญญาร่วมด้วยแล้ว ก็ย่อมจะก่อปัญหาให้แก่เราและผู้มีพระคุณได้


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 14:56, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

(ต่อครับ)

บุตรคือใคร?
ความหมายของบุตร
- ผู้ยกพ่อแม่ออกจากขุมนรกชื่อ “ปุตตะ” นรกคือความร้อนใจที่ไม่มีลูก
- ผู้ที่สืบทอดสายโลหิตจากพ่อแม่
- ผู้รับมรดกจากพ่อแม่
- ผู้ที่ปิดตาให้พ่อเวลาตายและทำบุญอุทิศให้
- ผู้เป็นที่พึ่งพาของพ่อแม่
- ผู้เป็นลูกหนี้ของพ่อแม่ที่จะต้องใช้หนี้ให้คุ้มค่ากัน
- ผู้นำพ่อแม่ให้ถึงนิพพาน

บุตรที่ดี คือ ผู้ที่สามารถทำให้พ่อแม่ได้รับความอิ่มใจ ชื่นใจ สบายใจตลอดกาล

“บุตร” กับ “ลูก”
“บุตร” จะใช้สำหรับ “มนุษย์ “ เท่านั้น
“ลูก” ส่วนมากจะใช้สำหรับลูกคน, ลูกสัตว์เดรัจฉาน, ลูกผลไม้ ตัวอย่างเช่น ลูกคน, ลูกแมว ลูกหมา, ลูกวัว, ลูกมะพร้าว, ลูกมะละกอ, ลูกระเบิด ฯลฯ เราคงไม่เคยมีใครอุตริไปใช้ว่า บุตรแมว บุตรหมา, บุตรวัว, บุตรมะพร้าว, บุตรมะละกอ บุตรระเบิด, เป็นแน่ ถ้าลูกคนเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่เราก็เรียกว่า “บุตร”

ประเภทของบุตรและลูก
ลูก มีผู้แยกประเภทไว้ 5 จำพวกคือ
๑. “ลาก” คือลูกที่ไม่ดี ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ ท่านสั่งให้อยู่กลับไป ท่านสั่งให้ไปกลับอยู่ บางคนทำชั่วติดคุกติดตะรางพลอยลากพ่อแม่ติดคุกทางใจด้วย

๒. “แลก” คือ ลูกที่บังคับพ่อแม่ เมื่อต้องการสิ่งใดก็จะเอาให้ได้ดังใจไม่คำนึงถึงหัวอกของพ่อแม่ว่าฐานะเป็นอย่างไร พ่อแม่บางคนต้องขายไร่ขายนาเพื่อสนองความต้องการของลูก
๓. “ลอก” คือลูกที่ปอกลอก ขโมยเงินพ่อแม่ไปเล่นการพนัน ติดสิ่งเสพติดผลาญเงินพ่อแม่
๔. “เลิก” คือการเพิกถอนไม่เอาเป็นธุระ ประกาศตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูก
๕. “ลูก” คือลูกที่ดี ทำตัวเหมาะสม เชื่อฟังพ่อแม่ว่านอนสอนง่าย ประเภทนี้เรียกว่า “บุตรที่ประเสริฐ”

ลูก ยังแบ่งได้อีก ๓ ประเภทคือ
๑. “อันเตวาสี” คือ ลูกศิษย์
๒. “ทินนกะ” คือ ลูกเลี้ยง
๓. “อัตรชะ” คือ ลูกในไส้

“บุตร” มี ๓ ประเภทคือ
๑. อวชาตบุตร คือ บุตรที่มีคุณธรรมต่ำกว่าพ่อแม่
๒. อนุชาตบุตร คือ บุตรที่มีคุณธรรมเสมอพ่อแม่
๓. อภิชาตบุตร คือ บุตรที่มีคุณธรรมสูงกว่าพ่อแม่

“โย จ ปุตฺตานมสฺสโว ในบรรดาบุตรทั้งหลาย บุตรที่เชื่อฟังเป็นบุตรที่ประเสริฐสุด”

๒. บุตรเกิดจากอะไร?
๒.๑ ทางร่างกาย เกิดจากความรักของพ่อแม่
๒.๒ ทางจิตใจ เกิดจากความสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ที่มีต่อตน แล้วกระทำต่อท่านให้เกิดความสบายใจอิ่มใจชื่นใจ

๓. เป็นบุตรเพื่ออะไร?
เพื่อ เดินทางไปสู่นิพพาน หรือเข้าถึงพระเจ้าอันเป็นเป้าหมายสูงสุด
ของศาสนา ซึ่งเป็นชีวิตที่สงบเย็นหมดปัญหา ตามที่พ่อแม่เดินทางไปถึงหรือกำลังเดินทางอยู่

๔. จะเป็นบุตรได้อย่างไร?
๔.๑ โดย การทำหน้าที่ของบุตรที่ดีดังนี้
๑. พ่อแม่เลี้ยงเรามาแล้วก็เลี้ยงท่านตอบ บำรุงพ่อแม่ด้วยปัจจัยสี่
๒. ช่วยทำกิจกรรมการงานของพ่อแม่
๓. ดำรงวงศ์ตระกูลของพ่อแม่
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนสมควรรับทรัพย์มรดกของพ่อแม่
๕. เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย
๖. ยกย่องสรรเสริญคุณงามความดีของพ่อแม่
๗. ส่งเสริมให้พ่อแม่มีคุณธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่น
เมื่อท่านไม่มีศรัทธา ชักนำให้มีศรัทธา
เมื่อท่านไม่มีจิตใจในการให้ทานชักนำให้ท่านให้ทาน
เมื่อท่านไม่มีศีลชักนำให้ท่านรักษาศีล
เมื่อท่านไม่มีปัญญา ชักนำให้ท่านเกิดปัญญาด้วยการเจริญภาวนา
เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วหมั่นทำบุญอุทิศให้

สรุปหน้าที่ของบุตรที่ดี ที่จะต้องตอบแทนคุณพ่อแม่ โดยย่อ ๔ ประการ คือ
๑. เลี้ยงดูทางกาย
๒. เลี้ยงดูทางจิตใจ
๓. ทำให้พ่อแม่รู้ธรรมะ
๔. ทำตัวเองให้เป็นอนุสาวรีย์ที่ดีที่สุดของพ่อแม่

ผลดี ของการทำหน้าที่บุตรที่ดี
๑. ทำให้พ่อแม่สบายใจ สุขใจ
๒. ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากบัณฑิต
๓. เป็นที่รักของคนทั่วไป
๔. ใคร ๆ อยากคบหาสมาคม
๕. เป็นผู้มีความเจริญสุขในชีวิต

โทษ ที่ไม่สามารถเป็นบุตรที่ดีได้
๑. ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนใจ
๒. ถูกติเตียนจากบัณฑิต
๓. เป็นที่เกลียดชังของคนทั่วไป
๔. ใคร ๆ ไม่อยากคบหาสมาคมด้วย
๕. เป็นผู้ไม่มีความเจริญสุขในชีวิต

คุณของพ่อแม่ ยากแก่การทดแทน
บุคคลใดให้มารดานั่งบนบ่าข้างหนึ่ง ให้บิดานั่งบนบ่าข้างหนึ่งและบุคคลนั้นเป็นผู้มีอายุ 100 ปี มีชีวิตอยู่ 100 ปีได้ทำการขัดสี การขยำ การให้อาบน้ำ การบีบนวด ให้แก่มารดาบิดาทั้งสองมารดาบิดาได้ถ่ายอุจจาระปัสสาวะอยู่บนบ่าทั้งสองนั้นถึงอย่างนั้นก็ดี ก็ยังไม่เชื่อว่า ได้ตอบแทนคุณมารดาบิดาได้สิ้นสุด ถึงบุตรจะให้มารดาบิดาตั้งอยู่ในความเป็นพระราชา เป็นอิสราธิบดีผู้เป็นใหญ่ยิ่งในแผ่นดินใหญ่อันนี้ อันบริบูรณ์ด้วยแก้วเจ็ดประการนั้นก็ดียังไม่เชื่อว่า ตอบแทนคุณมารดาบิดาได้สิ้นสุด..........................

ข้อนี้เพราะเหตุใด.............
เพราะมารดาบิดาเป็นผู้มีคุณมาก คือ เป็นผู้ทำบุตรให้เติบโต เป็นผู้เลี้ยงดูบุตร เป็นผู้ทำให้บุตรได้เห็นโลกนี้.


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

(จบหน้าที่บุตรครับ)

ส่วนผู้ใดได้ทำให้มารดาบิดา ผู้ไม่มีศรัทธา ให้มีศรัทธา ทำมารดาบิดา
ผู้ไม่มีศีล ให้เป็นผู้มีศีลทำมารดาบิดา ผู้มีความตระหนี่ ให้เต็มไปด้วยการสละแบ่งปันผู้นั้นได้ชื่อว่าตอบแทนคุณมารดาบิดาได้สิ้นสุดยิ่งกว่าคุณมารดาบิดาทำให้แก่ตน

“ลูกคนไหนทำชั่วเหมือนกรีดเอาเลือดพ่อแม่ไปประจาน
ลูกคนไหนทำดีเหมือนเอาชื่อเสียงพ่อแม่ไปเปิดเผยบูชา”
“พ่อแม่มีลูกดีเหมือนเทวดาจากสวรรค์มาเกิด
พ่อแม่มีลูกไม่ดีเหมือนสัตว์นรกมาเกิดดุด่าพ่อแม่”
“โลกนี้ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่ คนอื่นรักเรามักหวังผลจากเรา”
“โลกจะดี เพราะมีเด็กดี เด็กจะดีเพราะมีพ่อแม่ดี พ่อแม่ไม่ดีสร้างลูกเป็นอันธพาล พ่อแม่คือผู้สร้างโลกคือลูก

"ลูกยอดกตัญญู”
มีเด็กคนหนึ่ง (เป็นชาวจีน) ไม่มีพ่อ
มีแต่แม่ เวลาเด็กคนนี้ถูกแม่ตีสั่งสอน ก็ยิ้มทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนเลยที่เด็กคนนี้ไม่ยิ้มและทุกครั้งที่ถูกแม่ตัวเองตี ก็จะนั่งหมอบให้แม่ตีทุกครั้งไป ไม่ว่าแม่จะตีด้วยอะไรมือ ไม้ หรือหวายนานแล้วแม่ไม่ได้ตี เด็กคนนี้เติบใหญ่

ครั้งหนึ่ง เด็กออกไปเรียน แล้วเผลอถูกเพื่อนชวนไปเที่ยว ทำให้กลับบ้านช้าพอกลับมาแม่ก็โกรธ บอกว่ามัวแต่เถลไถล เลิกเรียนแล้วก็น่าจะกลับบ้านทันที แม่ก็เอาไม้มาตี แต่อนิจจา แม่ไม่มีแรงถือไม้แล้ว เด็กคนนี้น้ำตาซึมแม่ก็เอามือเปล่าๆมาตีแทน เด็กคนนี้ก็ร้องไห้โฮ แล้วทรุดลงไปยิ่งกว่าที่เคยหมอบในอดีตอีก

แม่สงสัยว่าตอนเด็กๆโดนตีก็ยิ้มทุกวัน ทำไมวันนี้ร้องไห้ใหญ่เลย
แม่ถามว่า “แม่ตีแรงใช่ไหม? แม่ขอโทษนะ”
เด็กบอกว่า “ไม่ใช่หรอกครับ เพราะแม่นั้นอ่อนแอลง แก่ไปมากแล้ว เมื่อก่อนแม่เคยตีผมแรงๆได้ แสดงว่าแม่แข็งแรง ตอนนี้แม่แก่แล้ว ผมรู้สึกเศร้าใจ เพราะเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่แล้วที่ผมจะได้อยู่กับแม่”
แม่เด็กคนนั้น ก็ถึงกับทรุด ไม่นึกเลยว่าลูกตัวเองจะเป็นเด็กที่มีความคิดประเสริฐเช่นนี้
ทั้งสองแม่ลูกก็กอดกัน แล้วร้องไห้

พระพุทธพจน์
พึงเลี้ยงบิดาและมารดา
ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบธรรม
ธมฺเมน มาตาปิตโร ภเรยฺย

ธรรมิกสูตร ๒๕/๓๖๕
ก า ร มี ค ว า ม ก ตั ญ ญู
ทำให้รักษาคุณความดีเดิมไว้ได้
ทำให้สร้างคุณความดีใหม่เพิ่มได้อีก
ทำให้เกิดสติ ไม่ประมาท
ทำให้เกิดหิริโอตตัปปะ
ทำให้เกิดขันติ
ทำให้จิตใจผ่องใส มองโลกในแง่ดี
ทำให้เป็นที่สรรเสริญของคนดี
ทำให้มีคนอยากคบหาสมาคม
ทำให้ทั้งมนุษย์และเทวดาอยากช่วยเหลือ
ทำให้ไม่มีเวรไม่มีภัย
ทำให้ลาภผลทั้งหลายเกิดขึ้นโดยง่าย
ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย ฯลฯ


:b8: :b8: :b8:

หามาให้อ่านโดยวรานนท์ครับ

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 23:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




4-4.gif
4-4.gif [ 19.41 KiB | เปิดดู 2097 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

สาธุครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยครับ
อนุโมทนาครับ คุณวรานนท์ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2009, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 229 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร