วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 08:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ในชีวิตประจำวัน...ก็จะเห็นได้ว่า กุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม

ควรที่จะอบรมเจริญให้มีมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม...มีความเข้าใจ

แต่ว่า เพราะเหตุใด ในชีวิตประจำวันนั้น อกุศลธรรม จึงเกิดมาก

และ เกิดบ่อยกว่า กุศลธรรม.!
เพราะสะสมอกุศลมามาก

เพราะความเป็น "ปุถุชน" (ผู้หนาด้วยกิเลส)

กิเลส ซึ่งได้สะสมมาเนิ่นนาน จนนับไม่ได้

เมื่อมีความเข้าใจว่า อกุศลธรรม มีมาก จึงมีการเห็นโทษของอกุศลธรรม

มีการศึกษาพระธรรม เพื่อที่จะขัดเกลาอกุศลธรรม เพื่อการละอกุศลธรรม


ลองพิจารณาตัวเอง เมื่อได้ศึกษาพระธรรมแล้ว จะค่อย ๆ เห็นว่า

ขณะจิตที่เป็นไปในแต่ละวันนั้น...เป็นไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ

ตลอดเวลาที่จิตไม่เป็นไปในการให้ทาน รักษาศีล ไม่มีการอบรมเจริญปัญญา

มีการฟังธรรมบ้าง สนทนาธรรมบ้าง (เป็นต้น)...จิตจะเป็นอกุศลโดยส่วนใหญ่


กุศลธรรมทั้งหลาย จะเป็นเพื่อนสนิท หรือ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด

ก็ต้องเป็น "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา"

คือ กุศลที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูก หรือ ความเห็นถูก

ท่านจึงแสดง ธรรมที่เป็นเกาะ ธรรมที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริง

ซึ่งก็คือ "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา" หรือ กุศลขั้นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน

คือ การระลึก รู้ ลักษณะของสภาพธรรม ตามปกติ ตามความเป็นจริง

ในชีวิตประจำวัน เพื่อค่อย ๆ สะสมความเข้าใจ (ปัญญา)

จนกว่าจะเป็นปัจจัย (ที่มีกำลัง) ทำให้สามารถที่จะละคลายกิเลสได้ (ตามลำดับ)


กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา มีคุณมาก....เพราะกุศลมีหลายขั้น

ขั้นที่เป็นไปในทาน ศีล นั้น...ประกอบด้วยปัญญา คือ ความเห็นถูก ก็ได้

แต่ กุศลธรรมที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูก คือ ค่อย ๆ เข้าใจสภาพธรรม

และ มีการอบรมเจริญให้มากขึ้น จนเห็นโทษของอกุศลธรรม

และ รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้.!


มีการสนทนากันว่า

ทำไมจึงต้องรู้ว่า เป็นรูปธรรม เป็นนามธรรม เป็นสภาพธรรม แต่ละอย่าง ๆ

เพราะเหตุว่า ปกติที่เราเรียนเรื่องขันธ์ทั้ง ๕ แต่เราไม่รู้จักแม้สักขันธ์เดียว.!

และ ขันธ์ทั้ง ๕ นี้ ถ้าประชุมรวมกันแล้ว

ก็ (มีความเห็นผิดและยึดถือ) "เป็นเรา" ทั้งหมดเลย.!


แต่การอบรมเจริญปัญญา คือ ค่อย ๆ ศึกษาให้เกิดความเข้าใจ

ว่า ขณะนี้...มี "ลักษณะของสภาพธรรม" กำลังปรากฏเป็นรูปขันธ์ และ นามขันธ์ใด.!

ปรากฏความเป็นนามขันธ์หนึ่ง นามขันธ์ใด.! มีลักษณะของจิตบ้าง......

ลักษณะของอกุศลธรรม ซึ่งเป็นกิเลส คือ เจตสิก ซึ่งเป็นสังขารขันธ์บ้าง

แม้แต่ กุศล ที่กล่าวถึงนี้...ก็หมายถึงเจตนาเจตสิก ที่เป็นไปในกุศลธรรม

และ อกุศล ก็เป็นสังขารขันธ์ (อกุศลเจตสิก)

เพราะว่า สังขารขันธ์ เป็นสภาพธรรมที่ปรุงแต่งจิต


"ปัญญา" (ความเข้าใจถูก-เห็นถูก) ก็เป็นสังขารขันธ์

ซึ่งปรุงแต่งจิต ให้มีการสะสม และเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ซึ่งท่านอุปมา เหมือนผู้จะที่เดินทางไกล เพื่อจะออกจากสังสารวัฏฏ์

ออกจากภพภูมิ...ออกจากการเกิดดับในภพภูมิต่าง ๆ ก็ต้องมีการสะสมเสบียง


เสบียง ก็คือ กุศลธรรมทั้งหลาย

และการที่จะเป็นเสบียงหรือเป็นปัจจัย เป็นเพื่อนสนิท เป็นมิตรที่คอยอุปถัมภ์

ที่จะให้ผลข้างหน้า คือ การเกิดในสุคติภูมิ แล้วยังสะสมเป็นปัจจัย

ให้มีการได้ฟังพระธรรมต่อไปอีก เพื่อที่จะได้อบรมเจริญกุศลธรรม

จนกว่าจะถึงการดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท (พระอรหันต์) และออกจากสังสารวัฏฏ์ได้

ซึ่งหมายถึง "การเดินทางที่ยาวนานมาก"


เพราะฉะนั้น ประโยชน์ ก็คือ...ค่อย ๆ สะสมกุศลธรรม

ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในภพปัจจุบัน คือ ให้ผลอุปถัมภ์ในภพปัจจุบัน

แล้ว ยังให้ผลอุปถัมภ์ ในภพที่เกิดในสุคติภูมิ


และยังให้ผลเป็นประโยชน์ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็น "ปรมัตถประโยชน์"

คือ การดับกิเลสได้ (ตามลำดับ) จนกระทั่งถึงพระนิพพานในที่สุด

ซึ่งต้องเป็น "กุศลธรรมที่ประกอบด้วยปัญญา"

คือ กุศลธรรม ที่เป็นไปในความเข้าใจถูก.
"กุศล" ก็ต้องตามลำดับด้วย...เพราะเหตุว่า เพียงขั้นทานกุศลแล้วไม่มีปัญญา

(ทานกุศล) จะสามารถเจริญขึ้น จนกระทั่งดับกิเลส...ได้ไหม.?

เพราะฉะนั้น

ก็ต้องเป็น "กุศลที่เจริญขึ้นจนถึงขั้นที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม"

ซึ่งต้องประกอบด้วย ความดีประการต่าง ๆ นั่นเอง

เพียงแค่วันนี้...ดีหรือยัง...ดีอะไรบ้าง.?

เป็นบารมีหรือเปล่า...ประกอบด้วยปัญญาหรือเปล่า.?

มีความเห็นที่ถูกต้องหรือเปล่า.?

เพราะว่าถ้าเป็นแต่เพียงความดีที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา

ความดีที่กระทำนั้น ก็ไม่สามารถเจริญขึ้นจนกระทั่งดับกิเลสที่ไม่ดีได้.!

ถึงแม้ว่า บางขณะ...เป็นโอกาสที่จะได้กระทำความดี (กุศลกรรม)

แต่ก็มีหลาย ๆ ขณะ...ที่เป็นโอกาสของ อกุศลกรรม

เพราะฉะนั้น ถ้าพูดสั้น ๆ ว่า

"บารมี" คือ ความดีที่ถึงพร้อม ที่จะเป็นปัจจัยทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม

และ ดับกิเลสได้ เป็นสมุจเฉท.

ก็คงจะเข้าใจได้...แต่ต้องเป็นไปตามปกติ ในชีวิตประจำวันด้วย

เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน
ถวายข้าวพระพุทธรูป กรวดน้ำ อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตอนเช้าตามถนนหนทาง
เมื่อวานนี้ได้ให้อภัยทาน ได้บริจาคสร้างอาคาร 100 ปี ณ โรงพยาบาลศรีราชา
ได้บริจาคเงินค่าอุปกรณ์การแพทย์แก่ผู้ป่วยอนาถา และได้อนุโมทนากับผู้ที่จัดทำซีดีธรรมะ
เผยแพร่ และวันนี้ก็ได้สนทนาธรรม และตั้งใจว่าจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนดอิริยาบทย่อย
สวดมนต์ และวันนี้ได้ช่วยคนขาหักยกของ และวันนี้ตั้งใจว่าจะทำความสะอาดที่สาธารณะ
รักษาศีลและเมื่อวานนี้ตั้งใจจะไปสนทนาธรรมกับพระที่วัดบังเอิญยางระเบิดก็จอดรถทิ้งไว้
แล้วกำหนดซ้ายขวา อย่างมีสติไปที่วัดแม้จะเหนื่อยเพื่อที่จะได้ไปสนทนาธรรม
ที่ผ่านมาได้ถวายสมุนไพรเพื่อเชิญชวนบุคคลทั่วไปได้รักษาศีล 8 โดยจัดเป็นเวลา 10 วัน
ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญปฏิบัติธรรม ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ในวันที่ 30 ม.ค. -4ก.พ. 53
วันที่30 เวลา 9.00 น.ทำพิธีบวชปฏิบัติธรรม มีการถวายข้าวสารอาหารแห้ง หล่อพระโมคคัลานะ พระสารีบุตร หล่อพระทธชินราช
และวันที่4 ก.พ. ลาสิกขา

ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิจงบรรลุมรรคผลนิพพานเทอญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 138 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร