วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 10:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 13:24
โพสต์: 13

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคุณเปิ ดแล้ ว


ข อร้ องว่าจะ ต้อ งอ่านใ ห้จบ

เพราะมั นสำคั ญต่ อชีวิ ตเราแ ละ



ลูกห ลานในอนาคต



: นิมิตหลวงพ่อโอภาษี

พอดีเมื่อวานมีเพื่อนส่งเมลล์มาให้

อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

อ่านไปหลังๆแล้วขนลุกมาก

ถ้าเคยอ่านแล้วขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
.....

เครดิต - จากใครซักคน -*-

พอดีเมื่อวานไปถวายเทียนพรรษา

ที่วัดหลวงพ่อโอภาษีครับ




คิดว่าเพื่อนๆที่อยู่แถวพระราม2 คงรู้จักกันทุกคน

เข้าเรื่องเลยนะครับ

ผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เข้าไปถึงกุฎิที่พ่อผมบอกว่า

เป็นพี่ชายของเจ้าอาวาส

เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ 70 ตาซ้ายเสียอ่ะครับ


เห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมากก็เข้าไปถวายเทียนพรรษา

พร้อมๆกับอีกหลายๆคน ที่มาหาหลวงพ่อเช่นกัน
พอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็เล่าว่าท่านนิมิต(ฝัน)ว่า


ท่านได้ไปนรกครับไปเจอเท้าเทพสุวรรณ(ยมฑูต)
ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วเหรอ?


สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตายแต่จะพาไปเที่ยว
แล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป เดินไปเรื่อยๆ
จนถึงระยะหนึ่ง หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำ

ก็เดินกลับมาครับ แล้วถามว่า หยุดทำไม?


ท่านก็ตอบว่า เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเลย
ระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกาศของนรกว่า

นรกมีไฟเพลิงสีส้มแดง แต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อน

ที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมีบุญดีอยู่
แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่า อยากเห็นอะไรละ?

ท่านตอบว่า อยากเห็นต้นงิ้ว และกะทะทองแดง
สุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลกขึ้นมาเองทั้งนั้น

ในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์ เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้เอง

ท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ เหวที่มีไฟแดงฉาน

อยู่ข้างล่าง

สุวรรณบอกว่า ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุด
ทำกรรมชั่วน้อยก็จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบน

คราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทางสามแพร่ง

มีน้ำกันอยู่ จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไร
สุวรรณตอบว่านี่คือทางไปนรก สวรรค์ โลกมนุษย์

ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลกเยอะมากๆ
มีบางคนแอบซุกเพื่อหลบน้ำที่จะต้องผ่าน

ท่านจึงถามว่าน้ำนี่คืออะไร
สุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะล้างจิตใจ ให้ลืมอดีต

แล้วไปเกิดใหม่ คนที่หลบหลีกน้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์

(ที่เข้าใจคือระลึกชาติได้)


แล้วท่านก็เล่าว่า พวก สส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่า

เหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็ได้กิน
เมื่อต้นแอปเปิ้ลหมดก็อดกิน ก็เหมือนกับพวก สส.

ที่กินบุญเก่าอยู่ เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้าได้ ต้องรอ

ให้เค้าหมดบุญไปเอง


หลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่าวิญญาณมนุษย์

ไปเกิดก็เยอะ แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะ
ทำไมไม่จับมาให้หมด สุวรรณก็ตอบว่า
จับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมดอายุขัย ร่างกายคนเรา

มี สังขาร (ร่างกาย) และจิตวิญญาณ เมื่อละสังขารแล้ว
แต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คือยังไม่ถึงที่ตาย เช่นพวก

ฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่

ในโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ละวิญญาณแล้ว

ถึงจะไปรับมาได้ ท่านจึงถามต่อว่า


พ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม?
สุวรรณตอบว่า ท่านสิ้นอายุขัยแล้วแต่มีคนต่ออายุขัยให้ท่าน
ซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเอง




แล้วประเทศไทยละจะเป็นอย่างไรต่อไป?
สุวรรณตอบว่า บอกไม่ได้

แล้วหลวงพ่อก็เดินต่อไปอีก
คราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน

ซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่านเห็นคือ

ม้าตัวผอมเซียว ซึ่งมี พระเจ้าตาก และ พระปิยะมหาราช ยื่นขวาง

ลำน้ำอยู่

ท่านบอกว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆ

ช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม

จริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้ว

แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้าจะหมดแรง

จากความหนาวของน้ำ

และการอดอาหารมานาน


หลวงพ่อท่านพูดจบ

น้ำตาท่านก็ไหลออกมา


แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับฟัง

เรื่องราวของท่านว่า เป็นนิมิตของท่าน
จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะท่านก็ยังคิดว่า

เป็นความฝันของท่าน...


แต่ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า

เวลาไปที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้า
หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี พระบรมรูป

ให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากิน

ล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
เพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้


ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆ
เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้

ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น


สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมันแปลกมากที่อยู่ๆ
เข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

ในเมื่อมีโอกาสได้รับรู้ก็ควรเผยแพร่

แก่ทุกๆคนครับ


ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ แต่อันนี้

สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

Paris เขียน:
ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ แต่อันนี้

สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ


สาธุครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 14 ต.ค. 2009, 17:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 15:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2009, 17:12
โพสต์: 246

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณที่นำข่าวมาบอกต่อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พอดีเมื่อวานไปถวายเทียนพรรษา


:b8: ขออนุญาตท่าน จขกท. ค่ะ

จริงหรือไม่จริงก็ไม่ทราบได้
แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่า


1. เหตุเกิด (เมื่อทราบเรื่อง) ตั้งแต่ไปถวายเทียน (หมายความว่า)...หลายเดือนมาแล้ว
ทำไมเพิ่งเห็นมีการฟอร์เวิร์ดเมล์นี้

2. ดิฉันก็เพิ่งได้รับเมล์นี้เมื่อวานนี้เองค่ะ (วันที่ 15 ตค.52)

3. ดิฉันมองว่าฟอร์เวิร์ดเมล์เหมือนข่าวลือ ที่ไม่รู้ต้นตอว่าเริ่มมาจากไหน
แม้ว่าบางข่าวจะมีรูปภาพ มีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อกลับ
แต่ว่าข่าวนี้ ค่อนข้างละเอียดอ่อนและกระทบต่อจิตใจคนไทยในวงกว้างนะคะ
อยากเีรียนถามว่ามาโพสต์ที่นี่เพื่อวัตถุประสงค์อะไร

4. ถ้าผู้รับเมล์จะส่งต่อก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ต้องใช้วิจารณญาณด้วย
ไม่ใช่หลับหูหลับตาส่งๆ ไปให้พ้นๆ ตัว


อ้างคำพูด:
คราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน

ซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่านเห็นคือ

ม้าตัวผอมเซียว ซึ่งมี พระเจ้าตาก และ พระปิยะมหาราช ยื่นขวาง

ลำน้ำอยู่

ท่านบอกว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆ

ช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม

จริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้ว


5. ตรงนี้อ่านแล้วขนลุกซู่...สาเหตุ
5.1 ตรงนี้ที่เมล์บอกไว้คือนรก แล้วเกี่ยวอะไรกะนรกคะเนี่ย???....งง!!!
5.2 ดิฉันไม่บังอาจกล่าวล่วงบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า
ทั้งสองพระองค์เป็นผู้ทรงพระคุณใหญ่หลวงต่อประเทศไทย
เราทั้งหลายไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าจุดกำเนิดของชาติไทยเกิดจากพระมหากษัตริย์
มหาราชทุกๆ พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างประชาชนของพระองค์เสมอ

แต่เมื่ออ่านเมล์นี้แล้ว..หากเป็นจริงตามนั้น
คนไทยทุกคนคงต้องหันกลับมามองตัวเองแล้วหละค่ะว่า
แม้ทั้งสองพระองค์ทรงสวรรคตไปแล้วยังห่วงใยประเทศชาติ
แต่ลูกหลานไทยกันเองทุกวันนี้ยังแบ่งฝ่าย ทะเลาะกันเอง
ด้วยเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันและผลประโยชน์ส่วนตัว

ดิฉันเชื่อว่ามีคนไทยไม่น้อยเลยที่ยังเชื่อมั่นต่อสถาบันหลักของชาติไม่เปลี่ยนแปลง
เคยมีข่าวลือ (ฟอร์เวิร์ดเมล์) อันเดียวที่น่าเชื่อถือคือ ประเทศไทยจะไม่เป็นอันตราย
จากอุบัติภัย หรือ ภัยธรรมชาติร้ายแรงอย่างที่ประเทศรอบๆ บ้านเรากำลังประสบ
เพราะไทยเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง และคนในชาตินับถือและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
มาโดยตลอด สาธุ...ขอให้พระพุทธศาสนาจงดำรงอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

ทุกวันนี้เห็นมีแต่ข่าวไม่เป็นมงคล
จิตใจคนตกต่ำถึงขีดสุด
ละเมิดศีล๕ เพราะกิเลสในใจ อยากได้ใคร่มีไม่สิ้นสุด
....ช่วยมีสติกันด้วยนะคะ..คนไทยทั้งหลาย

onion

ช่างน่าเศร้าใจ.. :b20: :b20:

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 12:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 13:24
โพสต์: 13

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


lสุดแล้วแต่จะเชื่อค่ะ ดิฉันนำข้อมูลตรงนี้มา อ่านแล้วก็ต้องใช้วิจารณญาณนะคะเพราะเจ้าของข้อมูลก็ได้ระบุไว้แล้วว่าเป็นนิมิตของหลวงพ่อท่าน จุดประสงค์ของดิฉันคืออยากให้ทุกคนที่ไปสักการะพระบรมรูปทรงม้าถวายหญ้าสดให้ม้าบ้าง เพราะที่เห็นมาส่วนใหญ่จะถวายเป็นพวงมาลัยซะมากกว่า

เวลาไปที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้า
หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี พระบรมรูป

ให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากิน

ล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
เพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้


ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆ
เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้

ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น


แก้ไขล่าสุดโดย Paris เมื่อ 16 ต.ค. 2009, 12:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่ิก่อนไปประจำ นับถือหลวงพ่อโอภาสี ด้วย หลวงพ่อรูปนั้น อยู่กุฏิเดียวกับหลวงพ่อกิมเส็งน้องชายของหลวงพ่อโอภาสี หากได้ไปอีกจะถามท่นดุ แล้วจะมาบอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2009, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากให้ทุกคนฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ ๆ เลย
อนุโมทนาครับ
:b16: :b16: :b16:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 133 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร