ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27041
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  วันชัย(อยุธยา) [ 18 พ.ย. 2009, 16:04 ]
หัวข้อกระทู้:  วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

Onion_L Onion_L Onion_L Onion_L Onion_L
การจะไปให้ถึงจุดหมาย(เฉพาะคนที่จะไปเท่านั้น)


สมมุติว่าเราวิ่งแล้วกัน วิ่งเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย(คือพ้นทุกข์)

มี3กรณีให้ดูกัน

กรณีแรกคือ วิ่งลูกเดียวไม่ยอมพัก
พวกนี้วิ่งอย่างเดียวโดยไม่แวะพัก ข้าเกิดมาเพื่อวิ่ง

พอเหนื่อยแล้วไม่ยอมพัก กลับฝืนที่จะวิ่งต่อ
คราวนี้แหละแรงก็จะค่อยๆ หมดไปๆ จนหมดแรงที่จะวิ่งต่อ
พอวิ่งไปซักพักก็เริ่มท้อแท้ หมดกำลังใจ ไม่อยากไปต่อ เหนื่อยท้อแท้
(พรานทำให้ไม่อยากไปต่อเลย เพราะเหนื่อยจนใจท้อ)

คราวนี้ก็จะหยุดยาวละเพราะหมดกำลังใจที่จะวิ่ง(ก็จะใช้ชีวิตธรรมดาไม่เจริญสติ)
โอกาสที่จะถึงจุดหมายก็ช้า และริบหรี่


กรณีที่สอง คือวิ่งไปอยู่ แต่พักยาว (ติดสุข ติดนิ่ง) "ร่มไม้มันเย็นสบายดีเลยขอหยุดพักยาว"

พวกนี้วิ่งอยู่ครับ พอวิ่งไปแล้วมันเหนื่อย

พอไปเจอร่มไม้ใหญ่ก็พัก ตามประสาคนที่วิ่งมาจนเหนื่อย
พอพักแล้วมันหายเหนื่อย มันสบาย เฮ้อ..ลมเย็นดี ขอพักก่อนนะ ติดสบายละทีนี้

ก็เลยยังไม่อยากวิ่งไปต่อ จะขอพักยาว(ขี้เกียจละทีนี้)

พวกนี้โอกาสที่จะถึงจุดหมายก็เนิ่นช้าเข้าไปอีก


กรณีที่สาม คือ วิ่งไปตลอด พอเหนื่อยก็พัก มีแรงก็วิ่งต่อ ไม่หยุด
พวกนี้ไปแบบสบายๆ ชิวๆ ไม่ค่อยเหนื่อยมาก

วิ่งไปถ้าเหนื่อยก็พักเอาแรง
พอมีแรงก็วิ่งต่อ ไม่หยุดนะพวกนี้

พวกนี้เขาไม่ติดความสบาย เขามุ่งที่จะไปให้ถึงจุดหมาย

แต่เขาก็ต้องพักเอาแรงนะ
เพราะถ้าไม่มีแรงเขาก็ไปต่อไม่ได้

พวกนี้โอกาสที่จะถึงจุดหมายก็เร็วและสบายด้วย.

หากคุณเป็นคนที่กำลังวิ่งอยู่ คุณจะวิ่งอย่างไหน ใน3กรณีนี้


วิ่ง คือ การเจริญสติปัฏฐาน4
พัก คือการทำสมถะ (พักพอให้จิตมีแรง)

ที่ผมทำอยู่คือ กลางวันวิ่ง กลางคืนพัก แต่ไม่หยุด
กลางวันก็ตามรู้กายรู้ใจไปตามปกติ เพราะมีหลักในการดูแล้ว
ส่วนกลางคืนก็ทำความสงบ ให้จิตมีกำลัง
(แค่ขณิกสมาธิก็ได้ แต่ถ้าอุปจารสมาธิ ก็จะดูสภาวะได้แจ่มมาก
แล้วแต่ว่าใครจะทำได้นะ ถ้าทำไม่ถึงอุปจารสมาธิ แค่ขณิกสมาธิก็พอ)

เหตุที่ต้องทำความสงบ
ก็เพราะถ้าจิตไม่สงบ เวลาไปดูกายดูจิต มันจะฟุ้งครับ ดูกายก็ไม่ออกดูจิตก็ไม่ออก
จะพาลทำให้ไม่อยากดู

ดังนั้นต้องพักครับ แต่อย่าติด

สาธุครับ... smiley

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 18 พ.ย. 2009, 16:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับท่านวันชัยด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 พ.ย. 2009, 16:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

เช่นนั้น มีความเห็นดังนี้ครับ

คนที่ิวิ่งจะให้ถึงทางพ้นทุกข์
ถ้าสมมติขึ้นมา ก็มีอยู่ 2 อย่าง หรือ 5 กรณี

คือ วิ่งในลู่ 1 และ วิ่งนอกลู่ 1 เพื่อไปให้ถึงทางพ้นทุกข์

ที่กล่าวว่า 5 กรณี พอจะเปรียบเทียบดังนี้

1.พวกวิ่งในลู่
1.1 วิ่งถูกวิธี กายพร้อม พวกนี้ วิ่งอึดใจเดียว ถึงเส้นชัย สบายๆ ชิวๆ
1.2 วิ่งถูกวิธี กายไม่พร้อม พวกนี้ วิ่งถึงเส้นชัยเหมือนกัน แต่เหนื่อย
1.3 วิ่งไม่ถูกวิธี กายพร้อม พวกนี้ แม้วิ่งอีดใจเดียวก็ตาม ถึงเส้นชัยช้า
1.4 วิ่งไม่ถูกวิธี กายไม่พร้อม พวกนี้ วิ่งถึงเส้นชัยเหมือนกัน แต่มีล้มลุกคลุกคลานบ้าง

2. พวกวิ่งออกนอกลู่
ส่วนวิ่งนอกลู่ นอกทาง คือวิ่งไม่ดูลู่ วิ่ง หลับตาวิ่ง รู้ว่าแค่ได้วิ่ง ย่อมไม่ถึงเส้นชัย.

การวิ่งที่ดี โค๊ชที่ดี ก็จะสอนวิธีการวิ่ง ท่าทาง จังหวะ การออกตัว การหายใจ อีกทั้งกำลังวังชาต้องเตรียมอย่างดี
และสำคัญที่สุดคือ วิ่งมองลู่วิ่งนะครับ ตรงนี้สำคัญมากๆ หลับหูหลับตาวิ่ง ออกนอกลู่ ปรับแพ้นะครับ
:b1: :b4: :b4:

เจ้าของ:  วันชัย(อยุธยา) [ 18 พ.ย. 2009, 17:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

cheesy
วันนี้วิ่งเหนื่อยมาทั้งวันเลย grin

ไปวิ่งแถวห้องสนทนาธรรม เหนื่อยมากๆ grin

กลับไปห้องสงสัยต้องพักลึกซะแล้ว s002

แต่ไปที่ลานสนทนาธรรม พอดูเขาโต้กันไปโต้กันมา

จิตเกิดตั้งมั่นขึ้นมาเฉยเลย onion

แต่จิตทำงานดีมาก วิ่งไปนู่น วิ่งไปนี่ ดูเพลินดี :b12: :b12: :b12:

แต่เหนื่อยมาก วิ่งไม่หยุดเลย :b34: :b34: :b34:

ลองไปวิ่งแถวนั้นดูได้นะครับ Onion_L

smiley smiley smiley smiley smiley

เจ้าของ:  natdanai [ 18 พ.ย. 2009, 18:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

:b13: :b13: :b13:

เจ้าของ:  chulapinan [ 19 พ.ย. 2009, 00:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

จุฬาภินันท์ขอเปรียบเทียบการไปสู้การพ้นทุกข์เป็นการเดินเรื่อยๆค่ะ เดินไปเรื่อยๆไม่หยุด เดินแบบให้กายสบาย หยุดได้ถ้าเกิดกายไม่สบาย แต่ถ้ากายสบาย ยังไงก็ไม่หยุด

สรุป เดินแบบอาศัยความเพียรพยายาม มีอิทธิบาทสี่ พร้อมกับการเดินในทุกขณะ ที่ใช้มากๆคือ วิมังสา เพราะความเพียร ไม่ได้หมายความว่าทำเท่าๆกัน แต่คือการทำแบบสม่ำเสมอ

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 19 พ.ย. 2009, 00:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

วันชัย(อยุธยา) เขียน:
จิตเกิดตั้งมั่นขึ้นมาเฉยเลย onion
แต่จิตทำงานดีมาก วิ่งไปนู่น วิ่งไปนี่ ดูเพลินดี :b12: :b12: :b12:
แต่เหนื่อยมาก วิ่งไม่หยุดเลย :b34: :b34: :b34:


อนุโมทนาสาธุครับ

:b8:

เจ้าของ:  หนอนน้อย [ 19 พ.ย. 2009, 09:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

วิ่งอย่างนี้ ไม่มีเหนื่อยนะครับ :b32:

เจ้าของ:  วันชัย(อยุธยา) [ 19 พ.ย. 2009, 10:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

อ๋อ...จิตเป็นตัวทุกข์เป็นอย่างนี้นี่เอง

หลังจากที่ออกจากโลกลึกลับ(ลึกลับมาก :b23: ) :b10: น้อยคนที่จะไปถึง :b14:(โลกของอรูป :b12: :b12: :b12: )

เช้าวันหนึ่ง...ที่อากาศไม่ค่อยดี s001

แต่จิตยิ้มหน้าบาน :b4: เป็นที่สุด :b13: :b34: ... cheesy

เห็นทั้งจักรวาลว่างไปหมด(เอ๊ะ! หรือว่าไกลไป แต่ความรู้สึก มันเหมาทั่วจักวาลเลยนะ :b12: )

สติ ทำงานเองโดยอัตโนมัติ หมุนๆแล้วก็หมุน :b12: :b12:

สมาธิ เกิดตั้งมันเป็นกลาง เสาเข็มของจักรวาล :b11: :b11:

จิตเกิดสภาวะ ถอยๆแล้วก็ถอยๆ :b16: ออกมาเป็นเพียง

"ผู้รู้ ผู้ดู ผู้มอง อยู่เฉยๆ" :b1: :b1: :b1:

จิตวิ่งไปนู่นวิ่งไปนี่ "ซนจังนะเรา :b34: "

หากรู้ไม่ทันสภาวะนั้น เจ้าจิตโง่ :b14: ก็จะแบกหินกลับมาด้วย :b7: หนั๊กกก...หนัก :b23:

แต่บางทีก็ฉลาดขึ้นมา พอรู้ทันสภาวะ แค่รู้แล้วก็วาง แล้วก็เดินต่อ สบายยยยยยย cheesy

ในตอนเช้าๆดีมากๆ เพราะจิตเป็นผู้รู้ (สบายจริงๆ)

พอเช้าสายๆ จิตเกิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ (หงาย-คว่ำ)

สติ ทำงานอัตโนมัติเหมือนเดิม สมาธิตั้งมั่นเป็นกลางเหมือนเดิม

แต่เกิดปัญญาผุดขึ้นมา (เห็นไหมหากสติสมาธิ มันหมุนได้รอบ มันจะเกิดเป็นปัญญา)

จิตขยับตัวเพื่อไปรู้อารมณ์ต่าง ทางอายตนะ6ทาง ตามปกติ แต่มันรู้เร็วกว่าทุกครั้ง :b41:

(ถ้าใครไปถึงจุดนี้จะเห็นเองเลยว่า จิตรู้อะไรเร็วมาก ถี่ยิ๊บเลย วิ่งแบบติดเทอร์โบเลยหล่ะ) :b41:

จิตขยับตัวทุกขณะจิต(ชั่วขณะจิตนี่ คือเร็วยิ่งกว่าวินาทีนะ) :b41:

พอจิตขยับตัว มันจะมีความทุกข์ทันที(แล้วคิดดู จิตขยับตัวทุกขณะจิต ซึ่งมันเร็วยิ่งกว่าวินาที)

มันทุกข์มาก(ทุกข์อย่างที่ไม่เคยทุกข์มาก่อน) สติทำงานเอง สมาธิตั้งมั่นเป็นกลางอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ

มันขยับตัว............................................................เหมือนจุดที่ผมลากมานั่นแหละครับ

ทุกครั้งที่มันขยับตัว มันทุกข์มาก ลองดูเลยครับว่า มันจะทุกข์ขนาดไหน

แค่เราเองนะ ซักนาทีหนึ่งเราถึงจะรู้สึกว่าทุกข์ หรือคนเผลอนานๆกว่าจะเห็นทุกข์ก็เป็นชั่วโมง

แต่นี่มันเห็นทุกข์ ทุกขณะจิตที่จิตขยับตัว

อัศจรรย์ใจมากที่เห็นจิตเป็นตัวทุกข์ เคยเห็นแค่ครั้งเดียว

มันทุกข์มาก แต่ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ

ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ รู้ทัน แล้วยอมรับความจริง

พอรู้ทันมันไปเรื่อยๆ จิตเกิดการยอมรับได้ว่า

นี่ก็เป็นธรรมชาติของมัน ทำอะไรไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่กับจิตนี้ไปจนกว่าจะพ้นทุกข์นั่นแหละ

แล้วมันก็ค่อยๆคลายออกจากความทุกข์ตรงนั้นเอง

แล้วก็มาเป็นผู้รู้ ผู้ดูเฉยๆ ตามปกติ




"ภาวนาไปเถิดครับ เดี๋ยวก็เห็น"

สาธุครับ...

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 19 พ.ย. 2009, 11:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

อนุโมทนาจริงๆครับ

เจ้าของ:  ningnong [ 19 พ.ย. 2009, 11:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

cool ขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่กำลังเดินและวิ่ง (ในลู่) ด้วยครับ :b8: :b8: :b8:

สาธุ ! :b45: :b45: :b45:


เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
สาธุ.jpg
สาธุ.jpg [ 7.56 KiB | เปิดดู 5348 ครั้ง ]

เจ้าของ:  วันชัย(อยุธยา) [ 19 พ.ย. 2009, 12:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

วิ่งอย่างปลอดภัย แต่อย่าโอ้เอ้... Onion_L

เพราะข้างหลังเรา คือวัฏฏะ

จุดที่ทำให้ผมอยากวิ่งคือ... "ไม่อยากกลับมาเกิดอีก"


แล้วเพราะเหตุใดกัลยาณมิตรทุกท่าน จึงวิ่งครับ... smiley

สาธุครับ.....

เจ้าของ:  yodchaw [ 19 พ.ย. 2009, 15:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

เหมือนพายเรืออ่าง วนไปวนมานะขอรับ ที่คุยมาแล้วจะเอาความหลุดพ้นมาจากไหน ตัวตนพ้นจากอ่างหรือ ขอรับ เอาตัวตนนี้ไปหลุดพ้นจากปฏิจจสมุปบาท มันไม่ใช่ทางท่าน มันไม่ใช่ทางขอรับ ของท่านเราแค่ฟัง ไม่สร้างเหตุอย่างไร เราก็ไม่สร้างเหตุนั้นตาม ความบริบูรณ์ความหลุดพ้น ทุกธรรมชาติมีเพียงพออยู่แล้ว ไม่ใช่ตรงที่พยายามไปให้ถึง ไม่ใช่ตรงที่พยายามหลุดพ้นสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสมุทัยนะขอรับ
ขอเรียนศึกษาธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อโพธิศรีสุรยะ เขมรโต ตามหัวข้อบอร์ดที่ตั้งไว้
ขออนุโมทนา

เจ้าของ:  sabye [ 19 พ.ย. 2009, 18:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

นักเรียนอย่างผมเองก็นึกแปลกใจขึ้นมาว่าถ้า

วิปัสนา คือการ วิ่ง
สมถะ คือ การหยุดพัก

ล้วนแต่เป็นการกระทำเพื่อไปสู่จุดหมาย

เห็นทีจะต้องเปลี่ยนกันนะครับ

เอากิเลสเป็นนักวิ่งที่ไร้เทียมทาน เอาวิปัสนาเป็นผู้ดูการวิ่งของมัน
เอาการพักผ่อนเป็นความหิวโหยที่สุดจะบรรยาย สมถะเป็นร้านข้าวแกงบุฟเฟ่วิเศษ ที่จะตักเมื่อไหร่ เท่าไร ที่ไหนก็ได้
:b12: :b12: :b12: เป็นเช่นนี้สุขยิ่งนัก ผมว่านักวิ่งอยู่ไม่ได้ล่ะทีนี้ :b12: :b12: :b12:
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  natdanai [ 20 พ.ย. 2009, 11:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วไม่กลับมาอีก

sabye เขียน:
นักเรียนอย่างผมเองก็นึกแปลกใจขึ้นมาว่าถ้า

วิปัสนา คือการ วิ่ง
สมถะ คือ การหยุดพัก

ล้วนแต่เป็นการกระทำเพื่อไปสู่จุดหมาย

เห็นทีจะต้องเปลี่ยนกันนะครับ

เอากิเลสเป็นนักวิ่งที่ไร้เทียมทาน เอาวิปัสนาเป็นผู้ดูการวิ่งของมัน
เอาการพักผ่อนเป็นความหิวโหยที่สุดจะบรรยาย สมถะเป็นร้านข้าวแกงบุฟเฟ่วิเศษ ที่จะตักเมื่อไหร่ เท่าไร ที่ไหนก็ได้
:b12: :b12: :b12: เป็นเช่นนี้สุขยิ่งนัก ผมว่านักวิ่งอยู่ไม่ได้ล่ะทีนี้ :b12: :b12: :b12:
:b8: :b8: :b8:


:b6: :b6: :b32: :b32: :b13:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/