วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 18:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


น้าน ....หยอกเหรอ หยอกเหรอ อิ อิ อิ เข้าใจหยอกนะ
ไม่เครียดดอกขอรับ หลักธรรมทางพุทธศาสนา มีวิธีคลายเครียดอยู่แล้วขอรับ

"เรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก" "เป็นธรรมดาของมนุษย์" นี้แหละสิ่งที่จะคลายเครียด ได้ชงัดเลยขอรับ

อ้าว ใครคิดมากขอรับ เสียหายนะขอรับ คนเขาเข้ามาอ่าน เขาก็เข้าใจผิดซิขอรับ เสียชื่อ เวบธรรมจักร ฯ นะขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ปุจฉาค่ะ
เมื่อหลายปีก่อนเห็นข่าวที่มกุฏราชกุมาร
ยิงกษัตริย์และราชินิ ตลอดจนราชวงศ์
เกือบหมดวัง เขาไม่ได้อยู่ในบวรพุทธศาสนา
แต่ก็อยากทราบว่า ผลกรรมอันนี้จะเป็นเช่นไร?
ยังจะเข้าข่าย อนันตริยกรรมหรือเปล่า? :b10:

คนนอกศาสนาเช่น ฝรั่งต่างชาติ ที่ฆ่าบุพการี
ความผิดเหล่านี้ละค่ะ จะมีผลเหมือนที่พระพุทธศาสนา
ได้แสดงไว้หรือเปล่าค่ะ? เป็นแค่ความอยากรู้เท่านั้นค่ะ :b23:

อนุโมทนากับทุกท่าน ทุกคำตอบนะค่ะ

เจริญในธรรม



สวัสดีครับท่าน taktay

กฏแห่งกรรมและคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเรื่อง ที่มีอยู่โดยธรรมชาติ เป็นกฏเกณฑ์สากล เป็นความจริงขั้นปรมัตถ์ไม่ได้มีหรือเกิดขึ้น ด้วยการบัญญัติของพระพุทธเจ้าว่ามีหรือใช้เฉพาะในผู้ที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนาเท่านั้น..

ขออุปมาเพื่อให้เข้าใจง่ายดังนี้: เวลาเราจับน้ำร้อน เรารู้สึกร้อน คนทุกคนในโลกเมื่อจับน้ำร้อนก็ย่อมรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเขาจะอยู่ในศาสนาใด นี่คือความจริงสากลที่มีอยู่ และเป็นจริง ใครๆไม่อาจปฏิเสธได้เลย จึงเรียกว่าความจริงขั้นปรมัตถ์ ไม่ขึ้นกับกฏเกณฑ์ของศาสนาใหน

ดังนั้น คนนอกศาสนาเมื่อทำกรรมก็ย่อมได้รับผลกรรมแน่นอน ทั้งดีและชั่ว และใครที่ฆ่าพ่อแม่ก็นับเป็นอนันตริยกรรม มีผลคือมีนรกเป็นที่ไปทันทีหลังจากตายในชาตินี้ กรรมจากอนันตริยกรรมจะส่งผลทันทีก่อนกรรมชนิดอื่นๆครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 15:39
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว


ปญฺญาวโร เขียน:
การกระทำที่เป็นกรรมนั้น(กรรมทั่วไป)มีข้อพิจารณายกตัวอย่าง
ปาณติบาต

1.สิ่งนั้นมีชีวิต
2.รู้ว่าสิ่งนั้นมีชีวิต
3.มีเจตนาทำลายชีวิต
4.ลงมือกระทำ
5.สิ่งนั้นเสียชีวิต


ถ้าทำครบ5ข้อ บาป 100%
ถ้าทำโดยเจตนาบาปมาก
ถ้าทำโดยไม่มีเจตนา(อุบัติเหตุ)ก็บาปน้อยหน่อย
ทำไปโดยไม่รู้ไม่เจตนาโดยไม่สามารถถือครอง
สติได้เลย น่าจะเป็นวิบากกรรมเก่าของ
บุพการีและบุตรที่ต้องมาชดใช้กันมากกว่า
สรุปอาจจะบาปแต่ไม่น่าจะถึงกับ อนันตริยกรรม
cool



๐๐๐สาธุครับ๐๐๐
แล้วยังงี้ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่เพรชฆาตในเรือนจำอ่ะครับ
ครบ5ข้อเลยนะครับ แต่มันเป็นหน้าที่อ่ะ จะบาปมัยนิ หุหุ s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2009, 04:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ก็หมายความว่า รับรู้หรือไม่รับรู้ว่าบาป
ถ้าทำไปแล้วก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น
น่าสงสารนะค่ะ :b7:

โชคดีที่พระพุทธศาสนาสอนให้เรารู้ว่า
นี่คือ "น้ำร้อน" ดีใจค่ะที่เกิดมาใต้ร่ม
บวรพระพุทธศาสนา อนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:



สวัสดีค่ะคุณ-dd-
หายปวดท้องแล้วยัง?
เป็นห่วงค่ะ :b16:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 22 พ.ย. 2009, 04:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2009, 04:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


NoPromisses เขียน:
๐๐๐สาธุครับ๐๐๐
แล้วยังงี้ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่เพรชฆาตในเรือนจำอ่ะครับ
ครบ5ข้อเลยนะครับ แต่มันเป็นหน้าที่อ่ะ จะบาปมัยนิ หุหุ s006


นั่นซิค่ะ แล้วยังทหาร ตำรวจ
ที่ต้อง ฆ่าเพื่อปกป้อง ฆ่าเพราะหน้าทีอีก ก็ได้ทั้งบุญและบาป
หรือเปล่า? ทำไมมันซับซ้อนดีจัง...แล้วจะหลุดพ้นบ่วงเหล่านี้
ไปได้อย่างไร? :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2009, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ครบ5ข้อเลยนะครับ แต่มันเป็นหน้าที่อ่ะ จะบาปมัยนิ หุหุ


เมื่อมีเจตนา ก็เป็นบาปหรือบุญอยู่แล้ว กฏแห่งกรรมจึงเที่ยงตรงแม่นยำยิ่งกว่ากฏยุติธรรมใดๆในทางโลก ไม่ได้มีข้อยกเว้นว่า คนนั้นมีตำแหน่งหน้าที่นี้ดังนั้นทำบาปได้ หรือคนนี้เป็นพระ พูดโกหกแล้วไม่เป็นไร กรรมนั้นเขาเกิดได้ด้วย"เจตนา"ซึ่งเป็นของเฉพาะตนของสัตว์จริงๆแม้ใครๆไม่ทราบ แต่ตนย่อมทราบอยู่..

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2009, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
โชคดีที่พระพุทธศาสนาสอนให้เรารู้ว่า
นี่คือ "น้ำร้อน" ดีใจค่ะที่เกิดมาใต้ร่ม
บวรพระพุทธศาสนา อนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:



สาธุครับ เห็นถูกแล้ว

:b8:

อ้างคำพูด:
สวัสดีค่ะคุณ-dd-
หายปวดท้องแล้วยัง?
เป็นห่วงค่ะ :b16:


ขอบคุณมากครับ แม้สิ่งนี้ก็ไม่เที่ยง มันไปจากผมแล้วครับ.. :b13: :b4:

อ้างคำพูด:
นั่นซิค่ะ แล้วยังทหาร ตำรวจ
ที่ต้อง ฆ่าเพื่อปกป้อง ฆ่าเพราะหน้าทีอีก ก็ได้ทั้งบุญและบาป
หรือเปล่า? ทำไมมันซับซ้อนดีจัง...แล้วจะหลุดพ้นบ่วงเหล่านี้
ไปได้อย่างไร? :b10:


อย่าว่าแต่เป็นทหารเพชรฆาตเลย แม้อาชีพของคนในโลกทั้งหลายย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยบุญบาปทั้งสิ้น หากไม่เคยสดับพระธรรมของพระพุทธเจ้ามาแล้ว ที่จะสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นบุญบาป ย่อมไม่ใช่ฐานะ หรือที่พอแยกแยะได้ แต่ก็ยังติดอำนาจกิเลสตัณหาครอบงำมิให้ละเว้นสิ่งที่มิใช่บุญได้ก็มาก..เช่นพระที่หวังลาภยศสรรเสริญ คนทำการค้าด้วยเล่ห์หลอกลวงชาวบ้าน เป็นต้น
ดังนั้น จึงต้องรู้ิวิธีวางเจตนาของตนให้เป็นไปกับกุศลให้มาก เช่นเป็นทหารก็ตั้งเจตนาว่าเราเสียสละชีวิตเพื่อให้คนในประเทศได้อยู่ดีมีสุขไม่ถูกระรานจากศัตรู หาได้อยากฆ่าใครๆด้วยความเมามันสนุกคะนองไม่ ..เช่นนี้ แม้ต้องทำบาปมีการฆ่าอยู่ เเต่เจตนาไม่รุนเเรงเหมือนพวกที่ฆ่าด้วยความเต็มใจ บาปก็ย่อมน้อยลง..ในเรื่องอื่นๆก็ทำนองเดียวกัน

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 02:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถ้าเรามีจิตปฎิพัทธ์กับใครสักคนหนึ่ง
โดยต่างฝ่ายต่างมีพันธะ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมี ต่างฝ่ายต่างรู้
ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พูดง่ายๆก็คือล่วงเกินกันทางมโนกรรม
อีกกรณีหนึ่ง คือต่างฝ่ายต่างรู้ มีทั้งมโนกรรม และวจีกรรม
อีกกรณีหนึ่ง รู้ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายไม่รู้ :b48:

ทั้งสามกรณีนี้ อยู่ในข่ายของการละเมิดศิลไหม?
เถียงตัวเองอยู่ตลอด ใจฝ่ายหนึ่งว่าไม่ เพราะยังไม่ได้
กระทำการใดๆ แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็เถียงว่า แค่คิดก็ผิดแล้ว
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ :b8:

อนูโมทนาค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าเรามีจิตปฎิพัทธ์กับใครสักคนหนึ่ง
โดยต่างฝ่ายต่างมีพันธะ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมี ต่างฝ่ายต่างรู้
ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พูดง่ายๆก็คือล่วงเกินกันทางมโนกรรม
อีกกรณีหนึ่ง คือต่างฝ่ายต่างรู้ มีทั้งมโนกรรม และวจีกรรม
อีกกรณีหนึ่ง รู้ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายไม่รู้ :b48:


ถ้าหมายถึงผิดศีลข้อกาเมฯ หากยังไม่ล่วงออกมาทางกายก็ยังไม่ผิด ความคิดเช่นนี้หากเพ่งเล็งเพื่อจะได้ครอบครองอีกฝ่ายหนึ่งหรือคิดอยากได้เขามาเป็นคู่ตน นี่เป็นการล่วงอกุศลกรรมบทข้อ๘ ในอกุศลกรรมบท๑๐

ส่วนการพูดจากัน หากไม่เกี่ยวกับการพูดถึงเรื่อทาน ศีลและภาวนาแล้ว ก็คงวนอยู่ในข้อมิจฉาวาจาอย่างใดอย่างหนึ่ง..อยู่ในกลุ่มอกุศลกรรมบทเช่นกันไม่เกี่ยวกับศีลข้อ๓

หากความคิดเสพคุ้นจนมีกำลังกล้าก็สามารถเป็นปัจจัยให้ล่วงศีลได้ในที่สุดนะครับ..ทางทีดีอย่าปล่อยใจให้เผลอหลงไป เพราะใจนั้นเองที่นำทุกข์อันเผ็ดร้อนมาให้เราจนนับชาติไม่ถ้วนแล้วครับ..หากจะมีคู่ ก็มีอย่างถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรมน่าจะดีกว่านะครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


บางทีก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
แล้วก็สร้างโจทย์ให้ตัวเอง เสร็จแล้วก็แก้ไม่ได้ แล้วก็
อยากทราบคำตอบ ก็เลยต้องรบกวนญาติทางธรรม
ให้ช่วยแก้ค่ะ ท่าน-dd-

อนุโมทนา เจริญในธรรม :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาท่าน taktay ที่มีโจทย์ดีดีมากๆมาแสดง ทำให้กัลยาณมิตรในนี้ได้มีโอกาสเจริญธรรมทาน..ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่ได้มาอ่านอีกมาก

การสนทนาธรรม..ตามกาล.. เป็นมงคลครับ

:b48: :b49: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปุจฉาอีกแล้วค่ะ :b8:

คือการที่มีคนช่วยเหลือเรา ไม่ว่าจะด้านการเงิน ที่อยู่อาศัย
ในรูปของนายจ้าง แต่ว่าเขาคิดผลกำไร เป็นการตอบแทน
เขาไม่รู้ว่าเรารู้ แต่บางครั้งอยู่ในสภาวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมทำตาม
ข้อเสนอของเขา เราก็ได้ประโยชน์จากการนั้น เขาก็ได้ประโยชน์
จากการนั้นเช่นกัน และคิดว่าเราจะอยู่ทำประโยชน์ให้เขาตลอดไป
เขามักจะพูดให้ใครต่อใครฟังตลอดเวลา ว่าเขา "ช่วย" ทุกอย่าง :b14:

ต่อมาเรามีโอกาสย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งดีกว่า เขาเคือง ทั้งคิดและ
หาว่าเรา "เนรคุณ" เราก็มีความรู้สึกอันนี้ติดค้างอยู่ในใจ ว่าเราเป็นคน
อกตัญญู จริงหรือเปล่า? ทุกอย่างไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
เป็นเพียงสัญญากันทางใจ ต่างฝ่ายต่างคิด ไม่ทราบว่าในกรณีอย่างนี้
จะเข้าข่าย อกตัญญู หรือเนรคุณ จริงหรือเปล่าค่ะ? :b10:

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 01:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


-dd- เขียน:
ขออนุโมทนาท่าน taktay
ที่มีโจทย์ดีดีมากๆมาแสดง ทำให้กัลยาณมิตรในนี้ได้มีโอกาสเจริญธรรมทาน..
ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่ได้มาอ่านอีกมาก


การสนทนาธรรม..ตามกาล.. เป็นมงคลครับ

:b48: :b49: :b48:


เพราะด้อยปัญญาทางธรรม
บางครั้งก็กลัวว่าจะแสดงความคิดเห็นให้เพื่อนๆน้องๆแบบผิดๆ
ก็เลยต้องตั้งคำถามให้ตัวเองเสมอ อะไรที่เสี่ยงต่อการผิดศิล
ก็จะได้ทราบไว้ เพื่อความคิดเห็นที่ดีต่อไป อนุโมทนาค่ะ
ท่าน-dd- :b8: :b8:

เจริญในธรรม

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 02:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือการที่มีคนช่วยเหลือเรา ไม่ว่าจะด้านการเงิน ที่อยู่อาศัย
ในรูปของนายจ้าง แต่ว่าเขาคิดผลกำไร เป็นการตอบแทน


ขอให้พิจารณาประเด็นต่อไปนี้อย่างซื่อตรง ไม่ต้องตอบในนี้..แต่ตอบตนเองในใจนะครับ

1. เราติดต่อขอความช่วยเหลือเขาในตอนแรก ด้วยเหตุเพราะรู้จักคุ้นเคยกันหรือเปล่า (ลักษณะส่วนตัว)

หากใช่ ต้องยอมรับว่าเขามีจิตเมตตาให้ความเกื้อหนุนเรา ส่วนที่เขาจะคิดถึงกำไรหรือประโยชน์นั้นถือเป็นสิ่งปกติ เป็นความชอบธรรมของเขา (เพราะใครอื่นนอกจากพ่อแม่ที่คิดจะช่วยเราฟรีๆโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนคงหาได้น้อยเต็มที ) ซึ่งหากเขาไม่ช่วยเรา เราอาจไม่มี"วันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน"ก็ได้..
และการที่เราออกจากงานของเขานั้นเราออกในขณะที่เขายังหาใครมาแทนไม่ได้หรืิองานเขาเสีย เพราะเราออกหรือไม่ เราได้แจ้งบอกให้เขาทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมหาคนอื่นมาทำแทนหรือเปล่า.. หากเราไม่เอื้อเฟื้อเขาในเมื่อจะลาออก และเขาเดือดร้อนเพราะงานเสียเราย่อมได้ชื่อว่าไม่รู้คุณเขา..แต่หากบอกกล่าวกันให้ทราบ ให้เขาเตรียมคนใหม่แล้วเขาเพิกเฉยเอง เราก็มีสิทธิชอบธรรมที่จะไปหาที่ใหม่โดยไม่ชื่อว่าเนรคุณใคร..การได้รับความช่วยเหลือจากใครๆไม่ได้หมายความว่าต้องยอมตายถวายชีวิตให้เขาโดยไม่มีเหตุสมควร

2. หรือเราส่งใบสมัคร/ติดต่อด้วยวิถีทางธุรกิจ(businesslike) แล้วตกลงทำงานให้โดยมีเงื่อนไขข้อตกลงกันจะด้วยวาจาหรือบันทึกก็ตาม

หากใช่ ก็เป็นเพียงการจ้างวานแบบลูกจ้างธรรมดาทั่วไป เราย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะไปหางานใหม่เพื่อความก้าวหน้าหรือรายได้ที่ดีกว่า นี่เป็นเรื่องปกติในโลก ไม่เกี่ยวข้องกับความ อกตัญญู หรือเนรคุณแต่อย่างใด.

3. เปลี่ยนงานไปที่อื่นนั้น เป็นงานที่เป็นคู่แข่งกับที่เก่าหรือไม่

หากใช่ ในข้อ 1 และข้อนี้ด้วย ให้ทราบว่า นี่คือการเนรคุณแบบตีแสกหน้าเลยละครับ ซึ่งแม้ในโลกธุรกิจบางอย่างโดยเฉพาะผู้มีตำแหน่งสูงขององค์กรจะมีสัญญาจ้างงานที่ระบุห้ามเขาไปทำงานในบริษัทคู่แข่งหากลาออกหรือเกษียณ..ถือเป็นจรรยาบรรณทางธุรกิจอย่างหนึ่ง..

คงให้ความเห็นให้คุณ taktay พิจารณาเอาเองเท่านี้ เพราะไม่ทราบรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างคนให้และรับความช่วยเหลือ เข้าใจว่าระดับคุณ taktay คงวิเคราะห์ต่อเองได้แน่นอนครับ.. :b12:

อากาศแถวนั้นหนาวมากใหมครับ ดูแลสุขภาพนะครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


-dd- เขียน:
อ้างคำพูด:
คงให้ความเห็นให้คุณ taktay พิจารณาเอาเองเท่านี้
เพราะไม่ทราบรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างคนให้และรับความช่วยเหลือ
เข้าใจว่าระดับคุณ taktay คงวิเคราะห์ต่อเองได้แน่นอนครับ.. :b12:

อากาศแถวนั้นหนาวมากใหมครับ ดูแลสุขภาพนะครับ


อนุโมทนาค่ะ
พอจะแยกแยะได้บ้างแล้ว :b8:



เริ่มเย็นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
ระวังตัวเองอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับความห่วงใย
แล้วแถวๆที่คุณ-dd-อยู่ละค่ะ มีหิมะไหม?
ทานข้าวให้เป็นเวลานะค่ะ :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 184 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร