ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ประสบการสมาธิครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27514 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | Ter_son [ 06 ธ.ค. 2009, 11:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | ประสบการสมาธิครับ |
อารมณืที่เจอในการภาวนามีมากมายร่วมพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิเหนครับ |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 06 ธ.ค. 2009, 12:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
Ter_son เขียน: อารมณืที่เจอในการภาวนามีมากมายร่วมพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิเหนครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 06 ธ.ค. 2009, 12:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 06 ธ.ค. 2009, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
^ ก็ว่างเปล่าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นแสงสว่างอะนะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 ธ.ค. 2009, 19:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
หลวงพ่ออะไรขอรับ คนมีองค์ ![]() |
เจ้าของ: | sabye [ 07 ธ.ค. 2009, 03:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
คนมีองค์ เขียน: :b8: เคยนั่งสมาธิแล้วมีประสพการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่ะ คือเมื่อ3ปีก่อนเคยพยายามนั่งสมาธิ แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะหลวงพ่อบอกให้กำหนดจิต ก็กำหนดไม่เป็นค่ะ จิตมันไม่นิ่ง จนกระทั่งมารู้จักน้องสาวคนหนึ่ง เธอเล่าว่า การนั่งสมาธิ ไม่ไช่การกำหนดจิตให้นิ่ง แต่ต้องเริ่มจากการตามจิตให้ทันก่อน จากนั้นดิฉันก็เริ่มนั่งใหม่ แล้วก็ฝึกตามจิตให้ทัน 2 อาทิตย์แรกจิตไปโน่นไปนี่ ไม่นิ่งเลยค่ะ แล้วพออาทิตย์ที่ 3 ดิฉันนั่งแล้วว่างเปล่า ตกใจมากค่ะ หาจิตตัวเองไม่เจอ พอถามหลวงพ่อท่านบอกว่า ว่างเปล่าน่ะดีแล้ว จะได้เริ่มกำหนดจิตได้ แปลว่าจิตเรานิ่งแล้ว ดิฉันก็นั่งต่อค่ะ มันว่างเปล่าจน "งง" ค่ะ แล้วจากนั้น จู่ๆ ดิฉันก็รู้สึกเหมือนมีคนมาโยกตัวบาง เหมือนเราลอยได้บ้าง ก็ตกใจ ถามหลวงพ่อท่านบอกว่า นั่นเรียกว่าขั้น "ปิติ" ไม่ต้องคิดอะไร ให้นิ่งไว้ ดิฉันก็ทำตามค่ะ พอเดือนที่ 2 มีอยู่วันหนึ่งดิฉันนั่งสมาธิหลังสวดมนต์ที่ห้องพระที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงนกแสกร้อง 1 ครั้ง ดิฉันก็ตกใจ กลัวจะเกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัว ก็เที่ยวสอบถามเพื่อนๆ ทางเน็ตฯ บางคนก็บอกว่า มาร ,บางคนบอกเป็นเปรตมาขอส่วนบุญ ให้นั่งสมาธิเสร็จแล้วแผ่เมตตาให้เขา พี่คนสุดท้ายบอกว่านกแสกร้องเพราะเห็นท่านยมฑูตมารอรับวิณณาญ (อันนี้จริงค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นก็มีศพมาตั้งที่เมรุฯ จริงๆ)จากนั้นดิฉันก็นั่งต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง จู่ๆ ดิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองหยุดหายใจ กลัวจะหยุดจริงๆ ดิฉันก็ลืมตาขึ้น แล้วพอไปถามท่านผู้รู้ท่านก็บอกว่าไม่ต้องกลัว นั่นน่ะมาถูกทางแล้ว แต่ พอหลังจากวันนั้นมาดิฉันนั่งก็ไม่มีอะไร ว่างเปล่า อยากเรียนถามท่านผู้รู้ว่า ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ![]() ยกอารมณ์นั้นเข้าพิจารณากายและใจ ได้อีกนะครับ อย่าปล่อยให้มันว่างอยู่เฉยๆ |
เจ้าของ: | chulapinan [ 07 ธ.ค. 2009, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
สภาวะธรรมมีมากมายค่ะ คนที่จะฝึกสมาธิควรฝึกให้ใจนิ่งก่อน นิ่งไม่ได้แปลว่าว่าง แต่นิ่งคือรู้ค่ะ รู้สภาวะของร่างกายของจิตใจ รู้เฉยๆ ไม่ต้องคิดอะไร และเมื่อถึงเวลาที่คุณได้ปัญญาจากการถือศีล ทำสมาธิ คุณจะเข้าใจสภาวะธรรมค่ะ ว่าสภาวะธรรมก็คือสภาวะ เราเปลี่ยนแปลงเขาไม่ได้ เราได้แต่ยึดไว้ แล้วนั่นแหละค่ะที่พระพุทธองค์ท่านให้ปล่อยวางซะ แม้กระทั้งสภาวะธรรมของการมีตัวตน |
เจ้าของ: | ภาวิตา-พหุลีกตา [ 07 ธ.ค. 2009, 21:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
...สภาวะธรรม ตามหลักคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ กายกับใจ ...การกำหนดจิต จะเกิดจากการที่จิตเราเข้าสมาธิได้บ่อยๆเข้า สมาธิที่กล่าวถึงคือ ขั้นอุปจารสมาธิ และ อัปปนาสมาธิ จนจิตเราจำอารมณ์(อารมณ์กรรมฐาน)นั้นๆได้ ดังนั้นเมื่อเราคล่องตัวในการเข้าสมาธิแล้ว เพียงแค่กำหนดจิตขณะเข้าสมาธิ จิตเราจะลงสู่สมาธิได้เร็วขึ้น ...สำหรับผู้เริ่มต้นหรือเริ่มเข้าสู่สมาธิได้แล้ว ขอให้ใช้หลัก ภาวิตา พหุลีกตา มากๆเข้าไว้ครับ ...การบำเพ็ญสมาธิภาวนานั้น ผู้ปฎิบัติเมื่อเลือกใช้ ๑ ใน อารมณ์สมถกรรมฐาน ทั้ง๔๐ประการ(เช่น บริกรรมภาวนา,เพ่งกสิณ,กำหนดตามรู้ลมหายใจ เป็นต้น) หรือ วิปัสนากรรมฐาน(เช่นกำหนดรู้ตามอารมณ์จิต ,กำหนดรู้ลงที่กาย เป็นต้น) แล้ว เวลาี่เราไม่ได้ เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ก็ควรนึกถึงอารมณ์นั้น ตลอดเวลา เพื่อฝึกให้จิตเราติดอารมณ์นั้นๆได้อย่างมั่นคง ....ขอให้เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 08 ธ.ค. 2009, 00:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณมีองค์ ขอให้บำเพียรต่อไปนะค่ะ ![]() เจริญในธรรม ![]() |
เจ้าของ: | ศิรัสพล [ 08 ธ.ค. 2009, 10:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
คนมีองค์ เขียน: :b8: เคยนั่งสมาธิแล้วมีประสพการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่ะ คือเมื่อ3ปีก่อนเคยพยายามนั่งสมาธิ แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะหลวงพ่อบอกให้กำหนดจิต ก็กำหนดไม่เป็นค่ะ จิตมันไม่นิ่ง จนกระทั่งมารู้จักน้องสาวคนหนึ่ง เธอเล่าว่า การนั่งสมาธิ ไม่ไช่การกำหนดจิตให้นิ่ง แต่ต้องเริ่มจากการตามจิตให้ทันก่อน จากนั้นดิฉันก็เริ่มนั่งใหม่ แล้วก็ฝึกตามจิตให้ทัน 2 อาทิตย์แรกจิตไปโน่นไปนี่ ไม่นิ่งเลยค่ะ แล้วพออาทิตย์ที่ 3 ดิฉันนั่งแล้วว่างเปล่า ตกใจมากค่ะ หาจิตตัวเองไม่เจอ พอถามหลวงพ่อท่านบอกว่า ว่างเปล่าน่ะดีแล้ว จะได้เริ่มกำหนดจิตได้ แปลว่าจิตเรานิ่งแล้ว ดิฉันก็นั่งต่อค่ะ มันว่างเปล่าจน "งง" ค่ะ แล้วจากนั้น จู่ๆ ดิฉันก็รู้สึกเหมือนมีคนมาโยกตัวบาง เหมือนเราลอยได้บ้าง ก็ตกใจ ถามหลวงพ่อท่านบอกว่า นั่นเรียกว่าขั้น "ปิติ" ไม่ต้องคิดอะไร ให้นิ่งไว้ ดิฉันก็ทำตามค่ะ พอเดือนที่ 2 มีอยู่วันหนึ่งดิฉันนั่งสมาธิหลังสวดมนต์ที่ห้องพระที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงนกแสกร้อง 1 ครั้ง ดิฉันก็ตกใจ กลัวจะเกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัว ก็เที่ยวสอบถามเพื่อนๆ ทางเน็ตฯ บางคนก็บอกว่า มาร ,บางคนบอกเป็นเปรตมาขอส่วนบุญ ให้นั่งสมาธิเสร็จแล้วแผ่เมตตาให้เขา พี่คนสุดท้ายบอกว่านกแสกร้องเพราะเห็นท่านยมฑูตมารอรับวิณณาญ (อันนี้จริงค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นก็มีศพมาตั้งที่เมรุฯ จริงๆ)จากนั้นดิฉันก็นั่งต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง จู่ๆ ดิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองหยุดหายใจ กลัวจะหยุดจริงๆ ดิฉันก็ลืมตาขึ้น แล้วพอไปถามท่านผู้รู้ท่านก็บอกว่าไม่ต้องกลัว นั่นน่ะมาถูกทางแล้ว แต่ พอหลังจากวันนั้นมาดิฉันนั่งก็ไม่มีอะไร ว่างเปล่า อยากเรียนถามท่านผู้รู้ว่า ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ![]() ก่อนอื่นต้องอนุโมทนาบุญกับการปฏิบัติสมาธิของคุณด้วยครับ สิ่งที่คุณทำ และสิ่งที่หลวงพ่อหรือผู้รู้แนะนำมาจากที่เล่านั้นถูกต้องดีงามแล้วครับ สิ่งที่คุณถาม ว่าจะทำอย่างไรต้องไป ก่อนจะตอบได้จะต้องรู้จักสภาวะที่เกิดขึ้นนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะหากเราไม่รู้จักสภาวะที่เกิดขึ้นนี้ให้ชัดเจนแล้ว เราก็จะไม่สามารถจัดการมันได้อย่างถูกต้อง หรือเกิดการเข้าใจผิดไปได้ เพราะสภาวะ "ว่างเปล่า" นี้มีหลายระดับด้วยกัน เท่าที่เล่าประสบการณ์มานั้น ลองสังเกตดูว่าเกิดขึ้นตอนไหน โดยสังเกตว่า ก่อนเกิดอาการ "ว่างเปล่า" นั้นได้มีอาการ ปีติ สุข และลมหายใจดับไป เกิดขึ้นเป็นลำดับอย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า โดยหากมีอาการเหล่านั้นเกิดขึ้นมาก่อน ก็แสดงว่าอาการ "ว่างเปล่า" นั้นเป็นอาการของจิตที่สงบแล้ว และกำลังก้าวข้ามขึ้นไปสู่ความสงบปราณีตอีกขั้น แต่ถ้ายังไม่ใช่ก็แสดงว่าเป็นเพียงแค่อาการของลมหายใจระงับไปเพราะใกล้จะเริ่มสงบเต็มที่.... ตรงนี้ถ้าจะให้ชัดเจนจริงๆ ต้องสังเกตและพิสูจน์ด้วยตนเอง โดยให้ลองหมั่นอยู่กับอารมณ์ว่างนี้ วิธีที่จะแนะนำ คือ หาวันว่างที่มีเวลาตอนกลางวันไม่ได้ไปไหน เช่น วันหยุดทำงาน เป็นต้น หรือหากไม่มีวันหยุดจริงๆ ไม่ว่างจริงๆ ก็เอาเวลาตอนกลางคืนช่วงที่ใช้นอนก็ได้ แต่จะไม่ดีเท่าตอนกลางวัน พอหาเวลาได้แล้ว ก็ให้เข้าสมาธิไปถึงจุดที่มีอารมณ์ว่างนั้นปรากฏขึ้น แล้วนั่งทรงอารมณ์นิ่งว่างอย่างนั้นไว้ให้นานที่สุด ซึ่งหากเราสามารถทำได้แบบไม่เปลี่ยนอิริยาบถเลย หรือไม่มีแม้ปวดเมื่อย ไม่มีอาการง่วงนอน ไม่มีหลับฝัน ไม่มีความคิดแทรก ไม่มีลมหายใจปรากฏ ไม่มีได้ยินเสียงภายนอก มีแต่ว่างๆ เท่านั้นอยู่อย่างนั้น สามารถนั่งได้ตั้งแต่ตอนเช้าไปจนถึงค่ำหรือถึงกลางคืน หรือจนถึงเช้า หรือข้ามวันข้ามคืนกันไป โดยเหมือนเวลาผ่านไปแป๊บเดียวก็แสดงว่าจิตของเรานั้นได้เข้าสู่ "อรูปฌาน" แล้ว เป็นอาการว่างนั้นเป็นอาการของ "อรูปฌาน" แต่ถ้าหากเรายังทำไม่ได้ ก็แสดงว่าอาการว่างนั้นเป็นอาการของลมหายใจหายไปเพราะจิตใกล้จะเริ่มเข้าสู่ความสงบเต็มที่... ซึ่งหากอาการว่างนั้นไม่ได้เป็นอรูปฌาน แต่เป็นอาการของลมหายใจหายไปเพราะจิตใกล้จะเริ่มเข้าสู่ความสงบเต็มที่ก็ให้ทำการกำหนดรู้อยู่กับความว่างต่อเนื่องไปอย่างนั้นไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องตกใจกลัว เป็นเพียงสภาวธรรมดา แล้วลมหายใจจะกลับมาปรากฏอีกครั้งหนึ่ง พอลมหายใจกลับมาปรากฏ ก็ให้กลับมาสนใจอยู่กับลมหายใจอย่างนั้นต่อเรื่อยๆ ไป แต่ถ้าหากอาการว่างนั้นเป็นอรูปฌาน ก็ให้หมั่นทำความชำนาญให้เกิด โดยหมั่นทรงอารมณ์ว่างอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานๆ ประจำๆ เข้าได้ไวขึ้นเรื่อยๆ .... เอาเพียงเท่านี้ก่อน เมื่อทำได้ชำนาญแล้วค่อยต่อยอดไปความสงบระงับที่เหนือขึ้นไป หรือนำไปเจริญวิปัสสนาต่อไปก็ได้ ณ ตอนนี้ลองสังเกตตรวจสอบดังกล่าวก่อน และทำเท่าที่แนะนำไปเท่านี้ก่อนก็แล้วกันครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | moddam [ 08 ธ.ค. 2009, 12:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
แนะนำให้ทำตามที่หลวงพ่อบอกจะดีกว่า นะครับ จะได้ ทำสมาธิภาวนาได้ถูกทาง ไม่ไขว้เขว เดี๋ยว ลองโน้นลองนี่ จะสับสน เปล่า ๆ ในเมื่อเริ่มต้น ได้ดีแล้ว ถูกทางแล้ว ก็ตรงดิ่งเลยครับ อย่า แล้ว ทำจะให้ มีศรัทธากล้าขึ้นคือเชื่อคำสั่ง สอนของพระพุทธเจ้า พระธรรม และครูบาอาจารย์ของเรา จะทำให้มีความก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่าปกติ แต่ถ้า ขึน สงสัย อยู่ ก็จะเสียเวลาออกนอกลู่นอกทางซะมากกว่านะครับ ขออนุโมทนานะครับ กับการเห็นความว่าง ที่มันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาในตัวของตัวมันเอง ![]() |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 30 ธ.ค. 2009, 00:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
ยกอารมณ์นั้นเข้าพิจารณากายและใจ ได้อีกนะครับ อย่าปล่อยให้มันว่างอยู่เฉยๆ[/quote] ขอบคุณนะคะที่แนะนำค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 30 ธ.ค. 2009, 00:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
ภาวิตา-พหุลีกตา เขียน: ...สภาวะธรรม ตามหลักคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ กายกับใจ ...การกำหนดจิต จะเกิดจากการที่จิตเราเข้าสมาธิได้บ่อยๆเข้า สมาธิที่กล่าวถึงคือ ขั้นอุปจารสมาธิ และ อัปปนาสมาธิ จนจิตเราจำอารมณ์(อารมณ์กรรมฐาน)นั้นๆได้ ดังนั้นเมื่อเราคล่องตัวในการเข้าสมาธิแล้ว เพียงแค่กำหนดจิตขณะเข้าสมาธิ จิตเราจะลงสู่สมาธิได้เร็วขึ้น ...สำหรับผู้เริ่มต้นหรือเริ่มเข้าสู่สมาธิได้แล้ว ขอให้ใช้หลัก ภาวิตา พหุลีกตา มากๆเข้าไว้ครับ ...การบำเพ็ญสมาธิภาวนานั้น ผู้ปฎิบัติเมื่อเลือกใช้ ๑ ใน อารมณ์สมถกรรมฐาน ทั้ง๔๐ประการ(เช่น บริกรรมภาวนา,เพ่งกสิณ,กำหนดตามรู้ลมหายใจ เป็นต้น) หรือ วิปัสนากรรมฐาน(เช่นกำหนดรู้ตามอารมณ์จิต ,กำหนดรู้ลงที่กาย เป็นต้น) แล้ว เวลาี่เราไม่ได้ เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ก็ควรนึกถึงอารมณ์นั้น ตลอดเวลา เพื่อฝึกให้จิตเราติดอารมณ์นั้นๆได้อย่างมั่นคง ....ขอให้เจริญในธรรมครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 30 ธ.ค. 2009, 00:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
murano เขียน: ^ ก็ว่างเปล่าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นแสงสว่างอะนะ ![]() |
เจ้าของ: | คนมีองค์ [ 30 ธ.ค. 2009, 00:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประสบการสมาธิครับ |
กรัชกาย เขียน: หลวงพ่ออะไรขอรับ คนมีองค์ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |