ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้ในขันธ์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27666 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | พงพัน [ 12 ธ.ค. 2009, 17:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้ในขันธ์ |
...ตัวรู้(วิญญาณ/อันเกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)ซักวันก็ต้องตาย ตัวคิด(สังขาร)ซักวันก็ต้องตาย แล้วเราจะไปเชื่อของที่มันต้องตายทำไม ?... อุปาทานต่างๆ เกิดขึ้นที่ขันธ์ ไม่ได้เกิดขึ้นที่จิต จิตมันไม่มีอะไร แต่ขันธ์นั่นปรุงแต่งอาการไปสู่จิตเท่านั้น ...อย่าไปแบกขันธ์ ตัวอยากปล่อยก็ขันธ์ ตัวอยากยึดก็ขันธ์ เชื่ออะไรมันไม่ได้ เชื่ออะไรไม่ได้ซักอย่างนึง แม้แต่ตัวที่บอกว่าเชื่อไม่ได้นั่นก็ยังเป็นขันธ์ จะเอามันก็ไม่ได้ ...มันซ้อนๆ กันอยู่ เพราะเราไม่ทันตัวที่มันจะปรุงออกมา ที่ไม่ทันก็ไม่ใช่เรา มีสติก็เป็นของขันธ์ ไม่ใช่เรา ขาดสติก็เป็นของขันธ์ก็ไม่ใช่เรา ไม่มีเราอยู่ในขันธ์อันเป็นของไม่เที่ยงทั้งสิ้น ก็ในเมื่อมันไม่มีอะไร แล้วเราไปแบกอะไรไว้ให้จิต ทุกวันนี้มันก็หนัก หนักเพราะแบกสิ่งที่มันไม่มีอยู่จริง.... (หลวงพ่อชานนท์ วัดป่าเจริญธรรม จ.ชลบุรี) แจกหนังสือและซีดีMP3 หลักการปฏิบัติสู่การหลุดพ้น ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่งครับ เพียงทิ้งชื่อและที่อยู่ไว้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้ครับ http://www.watpachareongtham-chonburi.com |
เจ้าของ: | chulapinan [ 12 ธ.ค. 2009, 18:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้ในขันธ์ |
อ้างคำพูด: ...ตัวรู้(วิญญาณ/อันเกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)ซักวันก็ต้องตาย ตัวคิด(สังขาร)ซักวันก็ต้องตาย แล้วเราจะไปเชื่อของที่มันต้องตายทำไม ?... เห็นด้วยค่ะ อ้างคำพูด: อุปาทานต่างๆ เกิดขึ้นที่ขันธ์ ไม่ได้เกิดขึ้นที่จิต จิตมันไม่มีอะไร แต่ขันธ์นั่นปรุงแต่งอาการไปสู่จิตเท่านั้น ...อย่าไปแบกขันธ์ ตัวอยากปล่อยก็ขันธ์ ตัวอยากยึดก็ขันธ์ เชื่ออะไรมันไม่ได้ เชื่ออะไรไม่ได้ซักอย่างนึง แม้แต่ตัวที่บอกว่าเชื่อไม่ได้นั่นก็ยังเป็นขันธ์ จะเอามันก็ไม่ได้ อุปาทานเกิดจากจิตค่ะ จิตที่ยึดมั่นในขันธ์ จิตมีอะไรเยอะแยะเลย จิตปรุงแต่งอาการไปสู่ขันธ์ค่ะ อย่าแบกขันธ์ โดยการชำระจิตค่ะ มีสติรู้ว่าขันธ์เป็นแบบไหน แต่อย่ายึดมันไว้ แค่เอามันมาบอกว่ารู้สึกยังไง ควรคิดยังไง และควรกระทำยังไง โดพิจารณาจากหลักธรรมเป็นพื้นฐานค่ะ อ้างคำพูด: ...มันซ้อนๆ กันอยู่ เพราะเราไม่ทันตัวที่มันจะปรุงออกมา ที่ไม่ทันก็ไม่ใช่เรา มีสติก็เป็นของขันธ์ ไม่ใช่เรา ขาดสติก็เป็นของขันธ์ก็ไม่ใช่เรา ทันมันจะใช่เราค่ะ สติเป็นของเรา เราต้องรู้ทันขันธ์นั้นค่ะ อ้างคำพูด: ไม่มีเราอยู่ในขันธ์อันเป็นของไม่เที่ยงทั้งสิ้น ก็ในเมื่อมันไม่มีอะไร แล้วเราไปแบกอะไรไว้ให้จิต ทุกวันนี้มันก็หนัก หนักเพราะแบกสิ่งที่มันไม่มีอยู่จริง.... มีเราอยู่ในขันธ์ค่ะ จิตของเรา ยังไงก็เป็นเรา เราไม่แบก แต่เรารู้มันค่ะ |
เจ้าของ: | พงพัน [ 12 ธ.ค. 2009, 21:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้ในขันธ์ |
chulapinan เขียน: อุปาทานเกิดจากจิตค่ะ จิตที่ยึดมั่นในขันธ์ จิตมีอะไรเยอะแยะเลย จิตปรุงแต่งอาการไปสู่ขันธ์ค่ะ อย่าแบกขันธ์ โดยการชำระจิตค่ะ อนุโมทนาสาธุการครับ อาการของขันธ์ทุกอย่างแม้กระทั้งอุปาทานที่ยึดมั่นระหว่างจิตกับขันธ์นั้น ก็เกิดขึ้นจากจิตครับ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นที่จิต จิตมันไม่มีอะไร มันประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น สังเกตุที่หลวงพ่อท่านเทศน์ว่า"อุปาทานต่างๆเกิดขึ้นที่ขันธ์ ไม่ได้เกิดขึ้นที่จิต" เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ในจิตครับ แล้ว"การชำระจิต"ที่คุณจุฬาภินันว่ามีคำจำกัดความว่ายังไงหรอครับ ผมไม่แจ้งในประโยคนี้ รบกวนขอคำอธิบายครับ ![]() |
เจ้าของ: | พงพัน [ 12 ธ.ค. 2009, 22:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นได้ในขันธ์ |
chulapinan เขียน: มีสติรู้ว่าขันธ์เป็นแบบไหน แต่อย่ายึดมันไว้ แค่เอามันมาบอกว่ารู้สึกยังไง ควรคิดยังไง และควรกระทำยังไง โดพิจารณาจากหลักธรรมเป็นพื้นฐานค่ะ เห็นด้วยครับ พิจารณาจากหลักธรรมว่าทุกอย่างไม่ควรแบก ไม่ควรยึด แม้แต่ตัว"สติรู้" ![]() chulapinan เขียน: ทันมันจะใช่เราค่ะ สติเป็นของเรา เราต้องรู้ทันขันธ์นั้นค่ะ ก็แสดงว่าคุณยังไม่ทันตัวที่ไปทันมันน่ะครับ ถึงคิดว่าตัวที่ทันใช่เราอยู่ ทันก็เป็นของขันธ์ สติก็เป็นของขันธ์ครับ ![]() chulapinan เขียน: มีเราอยู่ในขันธ์ค่ะ จิตของเรา ยังไงก็เป็นเรา เราไม่แบก แต่เรารู้มันค่ะ เราที่พูดคุยกันอยู่นี่คือขันธ์พูดคุยกันอยู่ครับ จิตนั้น ไม่มีคำว่าของเราหรือของใครอยู่หรอกครับ แต่ถ้าจะเปรียบจิตคือเรา แล้วบอกว่า"ยังมีเราอยู่ในขันธ์"ก็แสดงว่ายังมีอุปาทานระหว่างจิตกับขันธ์อยู่ ยังมีอวิชชาอยู่ ถึงยังไม่แจ้งว่า ไม่มีเรา ยังไม่แจ้งว่ามีเพียงสภาวะของขันธ์ที่มีอุปาทานยึดมั่นกับจิต ที่ว่า"เราไม่แบก แต่เรารู้มัน" เราก็เป็นขันธ์ ตัวรู้ก็เป็นขันธ์ ไม่มีอะไรเป็นเรา ขันธ์ไม่แบกขันธ์ ขันธ์รู้ขันธ์ ทั้งนั้นแหละครับ ถ้ายังบอกว่าเรารู้ขันธ์ก็แสดงว่ายังไม่แจ้ง ถ้าพูดว่าขันธ์รู้ขันธ์ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้แจ้ง ถ้าละเอียดแล้วในขันธ์ แจ้งแล้วในขันธ์ จะไม่มีคำว่าเราเลยครับ เหลือแต่ขันธ์กับจิตเท่านั้น ไม่งั้นท่านพุทธทาสคงไม่เน้นเรื่อง"ตัวกู ของกู" หรอกครับ ถ้าความจริงยังจะมีคำว่า"ของเรา"อยู่ เพราะมันไม่มีอะไรเป็นตัวเรา ของเรา เลยตะหาก ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |