พระเจ้ามิลินท์ ตรัสถามว่า


ดูก่อน พระนาคเสน

สัตว์ทุกจำพวก ต่อเมื่อถึงวาระ จึงตาย

หรือว่า ไม่ถึงวาระ ก็ตายเหมือนกัน.?


.


พระนาคเสน ทูลตอบว่า


ขอถวายพระพร

ย่อมมีทั้ง ๒ ประการ.


อุปมา ดังผลไม้ซึ่งหล่นจากต้น...ย่อมมีทั้งสุกและดิบ

ผลที่สุกแล้ว ก็ไม่มีปัญหา

แต่ ผลที่ยังดิบอยู่...เป็นเพราะเหตุใด จึงหล่น.?


เป็นเพราะถูกหนอนไชบ้าง นกจิกเล่นบ้าง ถูกลมแรงพัดหล่นบ้าง.

ขอถวายพระพร

ผลไม้สุกที่หล่น.....เปรียบเหมือนสัตว์-บุคคล (นาม-รูป) ที่ตายตามอายุขัย

ส่วนผลไม้ดิบที่หล่น....เปรียบเหมือน สัตว์-บุคคล ที่ตายโดยยังไม่ถึงวาระ



แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า จะตายเมื่อใด หรือเพราะประการใด

ก็เรียกว่า ตายตามวาระ ทั้งนั้น.

หาเป็นเช่นนั้นไม่.!

เพราะเหตุแห่งความตาย อาจจำแนกได้เป็น ๘ ประการ คือ

๑. โรค มีที่มาจากลม

๒. โรค มีที่มาจากช่องท้อง

๓. โรค มีที่มาจากเสมหะ

๔. โรค มีที่มาจากประสาท

๕. ความเปลี่ยนแปลงของฤดู

๖. การบริหารอิริยาบถไม่สม่ำเสมอ

๗. ความเพียรของบุคคลอื่น

๘. ผลของบุพพกรรม


เว้นแต่ "ผลของบุพกรรม" ความตายด้วยเหตุอื่น ๆ

ถือเป็น "การตายที่ยังไม่ถึงวาระ"
แต่ความตายจากเหตุอื่น ทั้ง ๗ ประการ

ก็อาจถือเป็นผลจากบุพกรรมได้ มิใช่หรือ.?

ขอยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบถวาย

ไฟที่ดับเพราะสิ้นเชื้อ...ถือเป็นการดับตามวาระ ใช่หรือไม่.?
ใช่.
ถ้าไฟยังลุกโชนอยู่ แต่มีฝนตกลงมา ทำให้ไฟดับ

จะถือว่า ไฟดับตามวาระ ได้หรือไม่.?
ไม่ได้.

เพราะไฟยังมีเชื้ออยู่...จึงควรลุกต่อไปได้ ตามปกติ

แต่เหตุที่ไฟดับ เพราะมีฝนตกรดลงมา.
ขอถวายพระพร

สัตว์-บุคคล ที่ตายด้วยเหตุ ๗ ประการเบื้องต้น

ก็เช่นเดียวกับไฟที่ดับลง ทั้ง ๆ ที่มีเชื้ออยู่

เพราะหากไม่มีเหตุมาตัดรอน ชีวิตย่อมยืนยาวต่อไปจนถึง "อายุขัย"


ด้วยเหตุนี้

จึงถือว่า สัตว์-บุคคล ที่ตายด้วยเหตุ ๗ ประการข้างต้น

มิได้ตายตามวาระ.


ส่วนสัตว์-บุคคล ที่ตายเพราะเหตุแห่งอายุขัย ดังไฟสิ้นเชื้อ

ถือเป็นการตายตามวาระ.
ฉันใด ก็ฉันนั้น

สัตว์-บุคคล เมื่อจะเกิดในครรภ์ของมารดานั้น

มีแต่ "จิต" ที่เรียกว่า "ปฏิสนธิจิต" หรือ "ปฏิสนธิวิญาณ"

ซึ่งพร้อมด้วย ปัจจัยต่าง ๆ ในขณะที่เกิดในครรภ์มารดา

เช่นเดียวกับ อาการที่พระองค์ทรงคิดถึงแก้วแหวนเงินทองในหีบนั้น

ซึ่งขณะนั้น......หาได้มีช่องทางหนึ่งช่องทางใด

สำหรับการถือ "ปฏิสนธิจิต" ในครรภ์มารดาไม่.


เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน ได้อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตอนเช้าตามถนนหนทาง ได้สักการะพระธาตุ ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป ได้กำหนดอิริยาบทย่อย

อาราธนาศีล รักษาศีล และตั้งใจว่า จะสวดมนต์ นั่งสมาธิ ดเนจงกรม กำหนดอิริยาบทย่อย เจริญอนุสติหลายอย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย





ขอเชิญสักการะพระพุทธมงคลนิมิตต์ อยู่ที่วัดธรรมนิมิตต์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสวน บนถนนสายชลบุรี-พนัสนิคม ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑ กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมงคลนิมิตต์ พระพุทธรูปคอนกรีตประดับด้วยกระเบื้องโมเสก ปางประทับเรือ (ประทับนั่งบนบัลลังก์ ห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาห้องอยู่ข้างพระองค์) ขนาดความสูง ๓๔ เมตรอยู่เชิงเขา หากเดินขึ้นไปยังยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองชลบุรีได้