ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ พหุธาตุกสูตร

ซึ่งเป็นพระสูตรที่พระอานนท์ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า
ภิกษุจะทราบได้อย่างไร ว่าสิ่งใดเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ (ฐานะ/อฐานะ)

ทรงพระราชทานคำตอบยาวพอสมควร โดยพระองค์ตอบในลักษณะที่ว่า
ถ้าเป้น"ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ" จะเข้าใจรู้ชัดในสิ่งต่อไปนี้

"ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ" นั้น บาลีว่า "ทิฏฺฐิสมฺปนฺโน"
อรรถกถาแปลว่า ได้แก่ พระโสดาบันอริยสาวกผู้สมบูรณ์ด้วยมรรคทิฏฐิ.

พูดง่ายๆว่า พระองค์ตอบว่า
ถ้ามีสัมมาทิฐิ จะต้องรู้ชัดว่าสิ่งใดเป้นไปได้ สิ่งใดเป้นไปไม่ได้
โดยทรงแจกแจงไว้ 28 ข้อ
เช่นว่า สัมมาทิฐิ ย่อมไม่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ไม่ทำสังเภท

และในข้อ 10 น่าสนใจมาก



แปลว่า สิ่งที่เป้นไปไม่ได้คือการที่
"พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ" จะมาอุบัติ 2 พระองค์ในโลกธาตุเดียวกัน
อย่าว่าแต่พร้อมกันเลย พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า แม้แต่เกิดก่อนหรือหลังกันก็เป็นไปไม่ได้

สิ่งที่เป็นไปได้คือ ในโลกธาตุหนึ่งๆ จะมี "พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ" อุบัติขึ้นเพียงพระองค์เดียว

"โลกธาตุ" คืออะไร
อรรถกถาท่านอธิบายว่า




และยังอธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า

เคยได้ยินเหมือนกันว่า พระโมคัลลานะ ผู้มีฤทธิ์มาก ได้ใช้ฤทธิ์ท่องเที่ยวไปในจักรวาลอื่น แล้วหาทางกลับไม่ได้ แต่ได้พบพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ช่วยพากลับมาได้

สาธุ ..เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ยังหาอ่านไม่เจอ ถ้าท่่านผู้ใด ได้อ่านหนังสือพระไตรปิฎก และพบแล้วว่าอยู่เล่มไหน หน้าไหน ชื่อพระสูตรอะไร ช่วยบอกให้รับทราบด้วยจะเป็นบุญกุศลอันมาก ..

แต่....อ่านพระสูตรนี้แล้วทำให้คิดมาได้ว่า สมัยปัจจุบันกาลนี้เหมือนมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นอีก 1 ....
เพราะ.........ลองไปถามผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ปัจจุบันนี้ เขาจะบอกได้เลยว่า ที่นั่งตั้งโด่ เด่ ตามสถานที่ต่าง ๆ ตากแดดตากฝน นกขี้รด ต่าง ๆนา ๆ อยู่นั่น คือพระพุทธเจ้า ทั้งนั้น และใครไปทำร้ายพระพุทธเจ้าแบบนั้น ของเขาก็ไม่ได้นะ เขาสาบแช่งและบอกว่าถึงบาปขั้นอนันตริยกรรม เชียวแหละ

"แต่มีอยู่ครูบาฯอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง นำพระสูตรในพระไตรปิฎมาเปิดเผยแลตบรูปปั้นนั้นออกโทรทัศน์และสอน ในเรื่องของวัตถุนั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้เป็นวัตถุในศาสนาพุทธและ ท่านครูบาฯอาจารย์ ท่านนี้ได้แนะนำสั่งสอนให้ชาวพุทธ เรียน ศึกษาอ่านหนังสือพระไตรปิฎก ด้วยตนเอง ...แล้วก็พบอยู่หลายพระสูตร ว่ารูป ใด ๆ ในโลกนี้ จักรวาลนี้ อยู่ภายในก็ตามอยู่ภายนอกก็ตาม ล้วนเป็นบ่วงของมารทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าสมณโคดมสอนแต่เรื่องแบบนี้ แทบทั้งนั้น ชาวพุทธเหล่านั้นได้เรียนและศึกษาแล้ว เอาออกจากบ้านเรือนทำลายและเอาไปทิ้งเองมากมาย แต่ยังไม่เห็นมีใครถูกแผ่ินดินสูบ สักคน " มันแปลกดีนะ
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samyaek.com/

ขออภัยถ้า ...ตอบกระทู้แล้วไม่ถูกใจใคร แต่ขอถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย เพราะ" พระธรรมวินัยควรเปิดเผย จึงรุ่งเรือง.."

อนุโมทนากับท่านผู้รู้ทุกท่านน่ะครับ ขอบคุณสำหรับวิทยาทานแด่ผู้ไม่รู้

อุตส่าห์แปลแล้วนะเนียะ

จากพระไตรปิฏก สรุปสั้นๆได้ว่า
เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันนี้ ที่จะมีสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์อื่นๆ
แม้(ในเวลานี้)จักรวาลอื่นก็ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธพระองค์ไหน

สมเด็จองค์ปฐมอะไรก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นนิมิตรของคนเอามากล่าวขานเป็นตุเป้นตะ
เพราะสืบสาวเอาเข้าจริงๆก็มาจากนิมิตรของคนคนหนึ่งหรือไม่กี่คน

ทำไมเรามีของจริง พิสุจน์ได้ อยู่ตรงหน้า
จึงเที่ยวควานหาแต่สิ่งเล่าลือเล่าอ้างมาเป็นสรณะ


ต่อให้ท่านพบพระพุทธเจ้าพระองค์อื่นในเวลานี้จริง
ท่านก็จะควานหาพระพุทธเจ้าในตำนานอยู่ดี

ก็ดูตัวท่านเองในเวลานี้เถิด
ใช่ไหมล่ะ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค

๕. วักกลิสูตร
ว่าด้วยการเห็นธรรมชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า




เพราะธรรมที่เรารู้ เพียงจุดปลายปากกาแบ่งล้านแล้ว จะกล้านำ ประโยคนี้มาพูดเปรียบเทียบเข้ากับตัวเองได้เชียวหรือ..เพราะธรรมชาติทั้งหมดนั้นเป็นความรู้ของพระพุทธเจ้า แม้แต่อัครสาวกหรือพระอรหันต์เป็นเพียงผู้รู้ตามเท่านั้น ..แต่ก็มีอยู่เหมือนกันที่ผู้ นำพระดำรัสนี้มาเปรียบเทียบ เอาเข้าตัวเอง เสียเลย ก็มีมากมาย อย่างที่รู้ ๆ เห็น ๆ ทราบ ๆ กันอยู่..และสำหรับผู้รู้ตาม ก็รู้ได้เฉพาะธรรมเพียงนิดหน่อยที่พระพุทธเจ้ารู้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็ให้เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ ทำได้แค่เป็นไฟฉายกระบอกเล็กๆ สำหรับส่องทางของตัวเองเท่านั้นเอง ..

ข้าพเจ้างง

ถ้าคนในโลกนี้ คิดแบบเดียวกัน เชื่อแบบเดียวกันหมด คงน่าเบื่อแย่เลย

คิดแบบเวปลิงค์นี้หรือเปล่าท่าน kokorado

http://www.alittlebuddha.com/

สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลเหล่านี้ค่ะ :



อรรถกถา ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค สัมปสาทนียสูตร ข้อที่ ๙๑
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... &i=73&p=2#อจฺฉริยอพฺภูตวณฺณนา

ถามเหตุไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นพร้อมกัน ๒ องค์ : มิ ลิ น ท ปั ญ ห า
viewtopic.php?f=18&t=28346