ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29009 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Passa [ 26 ม.ค. 2010, 20:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
![]() เข้าใจว่าบางท่านอาจจะมีมุมมองเกี่ยวกับคำสอนของศาสนาคริสต์ไปในทางที่ไม่ค่อยจะดีนักหน่อยนะครับ วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักอีกแง่มุมหนึ่งของคริสต์ ซึ่งเขียนไว้ในคัมภีร์ของเขาเองล่ะครับ เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจอันดีมากขึ้นระหว่างศาสนิก พร้อมแล้ว ไปโลด... ความรักแท้ก็ปราศจากการเลือกที่รักมักที่ชัง 2:1 พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า การเชื่อในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ทรงสง่าราศีนั้น อย่าให้เป็นด้วยการเลือกหน้าคน 2:2 เพราะว่าถ้ามีคนหนึ่งสวมแหวนทองคำและแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายอย่างดีเข้า มาในที่ประชุมของท่าน และมีคนจนคนหนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าซอมซ่อเข้ามาด้วย 2:3 และท่านสนใจคนที่สวมใส่เครื่องแต่งกายอย่างดี และกล่าวแก่เขาว่า "เชิญท่านนั่งที่นี่ในที่อันดีเถิด" และท่านก็พูดกับคนจนนั้นว่า "แกจงยืนอยู่ที่นั่น" หรือ "จงนั่งแทบที่รองเท้าของเราเถิด" 2:4 พวกท่านเองมิได้ลำเอียง และกลายเป็นผู้วินิจฉัยด้วยใจชั่วหรือ 2:5 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงฟังเถิด พระเจ้าทรงเลือกคนยากจนในโลกนี้ให้เป็นคนมั่งมีในความเชื่อ และให้เป็นทายาทแห่งอาณาจักร ซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้แก่ผู้ที่รักพระองค์มิใช่หรือ 2:6 แต่ท่านทั้งหลายได้ดูถูกคนจน ไม่ใช่คนมั่งมีหรือที่กดขี่ท่านและลากตัวท่านไปขึ้นศาล 2:7 ไม่ใช่เขาเหล่านั้นหรือที่สบประมาทพระนามอันประเสริฐซึ่งใช้เรียกท่าน 2:8 ถ้าท่านทั้งหลายกระทำให้สำเร็จตามพระราชบัญญัติแห่งพระมหากษัตริย์ตามพระ คัมภีร์ที่ว่า 'จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' แล้ว ท่านทั้งหลายก็ประพฤติดีอยู่ 2:9 แต่ถ้าท่านทั้งหลายเลือกหน้าคน ท่านก็กระทำบาป และตามพระราชบัญญัติ ท่านก็เป็นผู้ละเมิดแล้ว 2:10 เพราะว่าผู้ใดรักษาพระราชบัญญัติได้ทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว ผู้นั้นก็เป็นผู้ผิดพระราชบัญญัติทั้งหมด 2:11 ด้วยว่าพระองค์ผู้ได้ตรัสว่า 'อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา' ก็ได้ตรัสไว้ด้วยว่า 'อย่าฆ่าคน' แม้ท่านไม่ได้ล่วงประเวณีผัวเมียเขาแต่ได้ฆ่าคน ท่านก็เป็นผู้ละเมิดพระราชบัญญัติ 2:12 ท่านทั้งหลายจงพูดและจงกระทำเช่นผู้ที่จะได้รับการพิพากษาด้วยพระราชบัญญัติแห่งเสรีภาพ 2:13 เพราะว่าผู้ที่ไม่แสดงความเมตตาย่อมจะได้รับการพิพากษาโดยปราศจากความเมตตา แต่ความเมตตาย่อมก่อให้เกิดความชื่นชมยินดีมากกว่าการพิพากษา 2:14 พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ผู้ใดจะว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่มีการกระทำ จะได้ประโยชน์อะไร ความเชื่อจะช่วยผู้นั้นให้รอดได้หรือ (ยากอบ 2:1-14) อย่าอวดอ้างถึงพรุ่งนี้ 4:13 ดูเถิด ท่านที่พูดว่า "วันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเมืองนั้นเมืองนี้ และจะอยู่ที่นั่นปีหนึ่ง และจะค้าขายได้กำไร" 4:14 แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ชีวิตของท่านเป็นอะไรเล่า ก็เป็นเหมือนหมอกที่ปรากฏอยู่แต่ประเดี๋ยวหนึ่งแล้วก็หายไป 4:15 ท่านทั้งหลายควรจะพูดว่า "ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด เราจะมีชีวิตอยู่ และจะกระทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น" 4:16 แต่เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายยินดีในการโอ้อวดของตน ความยินดีอย่างนี้เป็นความชั่วทั้งสิ้น 4:17 คนที่รู้ว่าต้องทำความดี แต่ไม่ทำ ก็ทำบาป (ยากอบ 4:13-17) จงเป็นทั้งผู้ฟังและผู้ประพฤติตามพระวจนะ 1:22 แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนที่ประพฤติตามพระวจนะนั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงผู้ฟังเท่านั้น ซึ่งเป็นการล่อลวงตนเอง 1:23 เพราะว่าถ้าผู้ใดฟังพระวจนะ และไม่ได้ประพฤติตาม ผู้นั้นก็เป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตัวในกระจกเงา 1:24 ด้วยว่าคนนั้นแลดูตัวเองแล้วไปเสีย แล้วในทันใดนั้นก็ลืมว่าตัวเป็นอย่างไร 1:25 ฝ่ายผู้ใดที่พิจารณาดูในพระราชบัญญัติแห่งเสรีภาพอันดีเลิศ และดำรงอยู่ในพระราชบัญญัตินั้น ผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้ฟังแล้วหลงลืม แต่เป็นผู้ประพฤติตามกิจการนั้น คนนั้นจะได้ความสุขในการของตน (ยากอบ 1:22-25) จงเฝ้าคอยการเสด็จกลับมาของพระคริสต์อยู่ตลอดเวลา 13:33 จงเฝ้าระวัง จงเฝ้าตื่นเถิด เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าวันเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร 13:34 เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านได้มอบอำนาจให้กับผู้รับใช้ ให้แต่ละคนมีงานของตนและยังสั่งคนเฝ้าประตูให้คอยเฝ้าตื่นไว้ 13:35 ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าตื่นเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาเวลาค่ำ เวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งเช้า 13:36 ถ้าเขากลับมาโดยไม่คาดคิด อย่าให้เขาพบท่านกำลังหลับอยู่ 13:37 สิ่งที่เราบอกท่าน เราก็บอกทุกคนด้วยว่า จงเฝ้าตื่นเถิด" (มาระโก 13:33-37 อันนี้ความหมายลึกซึ้ง ^_^) ผู้ที่รักความชอบธรรม 2:12 ทุกคนที่ทำบาปโดยไม่รู้จักธรรมบัญญัติจะพินาศไปโดยไม่มีธรมบัญญัติ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและกระทำบาป จะถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ 2:13 เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย 2:14 ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติ [ในที่นี้หมายถึงคนที่ไม่ใช่ยิว] ซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญํติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง 2:15 พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่ล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา (โรม 2:12-15 ลองเทียบของเราดูสิครับ) คริสตชนที่ร่ำรวย 6:17 จงกำชับสั่งคนที่ร่ำรวยทรัพย์สินในปัจจุบันนี้อย่าให้หยิ่งยโสหรือตั้งความหวังไว้กับทรัพย์สมบัติอันไม่จีรังยั่งยืน แต่ให้หวังในพระเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งที่เราต้องการเพื่อความสุขอย่างสมบูรณ์ 6:18 ให้ทำดีและมั่งคั่งด้วยกิจการที่ดี มีใจกว้างในการให้พร้อมที่จะแบ่งปัน 6:19 นี่เป็นวิธีสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนในอนาคต เพื่อที่จะได้รับชีวิตที่แท้จริง (1 ทิโมธี 6:17-19) --------- ![]() ![]() ![]() ![]() ธรรมะสวัสดีครับ ![]() |
เจ้าของ: | ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ [ 27 ม.ค. 2010, 00:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
อิอิ ก็เป็นศีลธรรม จริยศาสตร์ทั่วไปงับ ไม่ใช่แก่นสาน มรรค ผล |
เจ้าของ: | the saintp [ 29 ม.ค. 2010, 21:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
ความคิดผมนะ ทุกศาสนาสอน ให้คนทำความดี แต่ทีทำให้ทุกศาสนากระทบกระทั่งกันเพราะ คน ความคิดคน และการตีความ และการยึดมากเกินไป คับ ผมก็เคยโดนตามให้เปลี่ยนศาสนาเหมือนกัน ทุกศาสนาดีหมดหล่ะคับ แต่อย่าระรานกันพอแล้ว |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 30 ม.ค. 2010, 00:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
ยึดไปเถอะ..ศาสนานะ..ศาสนาไหนก็ตามแต่..ขอให้ยึดให้จริงก็แล้วกัน ดีกว่า..ไปยึดมีด..ยึดปืน..ยึดกิเลสตัณหา..ยึดราคะ..ทำความเดือดร้อนทั้งตัวเองและผู้อื่น ![]() ![]() |
เจ้าของ: | chulapinan [ 30 ม.ค. 2010, 03:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
อ่านละเอียดๆ คิดลึกๆ คิดทุกแง่ ตีความทุกคำ จุฬาภินันท์ว่าไม่ต่างจากหลักคำสอนของพุทธค่ะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 31 ม.ค. 2010, 01:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
ไม่แปลกหรอก..เขาเป็นโพธิสัตว์.. |
เจ้าของ: | arthem [ 31 ม.ค. 2010, 04:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รู้จักกับศาสนาคริสต์ในอีกแง่หนึ่ง |
เหมือนกันนั่นแหละ มองในมุมที่ตนศรัทธาแล้วพิจารณาให้เกิดประโยชน์ให้ถึงแก่น ศาสตร์ตัวเดียวกัน อันเดียวกันหมดนั่นแหละ คำสอนอาจดูแตกต่างกันไปบ้างแต่มันเป็นไปตามกาละเทศะ รวมถึงตัวผู้ฟัง และข้อจำกัดอีกหลายๆด้าน ก็ดูพระพุทธรรมสิ มีตั้งกี่ธรรมขันธ์ แต่ก็ยังรวมลงจุดเดียวได้เลย เป็นบาทฐานของกันและกันทั้งหมดนั่นแหละ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |