ถามนะคะ
แบนแล้วได้อะไร ไม่แบนแล้วได้อะไร
ถึงแบนไปแล้ว ก็สมัครเข้ามาใหม่ได้
เพราะทุกวันนี้ในบอร์ดธรรมจักร คนๆเดียวกันยังใช้หลาย user เลย
เคยโกหกเขา เขาก็โกหกเรา เคยทำร้ายเขา เขาก็ทำร้ายเรา
เคยว่าเขา เขาก็ว่าเรา ฯลฯ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรานั้น มันล้วนเกิดจากเหตุที่เคยกระทำร่วมกันมา
เราอาจจะระลึกได้ หรือระลึกไม่ได้ เพราะไม่รู้กี่ภพกี่ชาติมาแล้วที่เวียนวน
ผลัดกันกระทำอีกฝ่ายแบบนี้ ไม่ว่าจะรู้จักกันหรือไม่ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตาม
แม้แต่โลกทางอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีข้อยกเว้น
การกระทำทุกๆอย่าง ถูกผิดตามความเป็นจริง ถูกบันทึกลงในจิต
ไม่ใช่ถูกผิดตามความคิดของแต่ละคน
การกระทำทุกๆอย่าง เปรียบเสมือนเราเหวี่ยงบูมเมอแรงออกไป
มันต้องย้อนกลับมาหาเราอย่างแน่นอน
ต่อให้หลบเก่งยังไงก็หลบไม่พ้น โดนแน่นอน ตามวาระของคนๆนั้น
การแปลงร่างหลายๆบุคคลิก หลายๆuser ในบอร์ดก็เช่นกัน
คุณหลอกเขา เขาก็หลอกคุณ
คุณทำอะไรไว้ สิ่งนั้นก็สะท้อนกลับมาหาคุณ
หากผู้ใดปฏิบัติอยู่ การปฏิบัติย่อมไม่ก้าวหน้า
เพราะอะไร เพราะศิลคุณไม่สะอาด
ขนาดคนอื่นๆคุณยังโกหกเขาได้ โดยที่ตอนนี้เขาอาจจะยังไม่รู้
แต่ถ้าวันหน้าเขารู้มาล่ะ
โดยเฉพาะกับคนที่เขาจริงใจกับคุณ เป็นเพื่อนกับคุณ
แล้วเขามารู้ทีหลังว่าคุณไม่ได้จริงใจกับเขาเลย
ต้องถึงวันที่สูญเสียกระมัง จึงจะเข้าใจ
มาเจริญสติปัฏฐานกันดีกว่า
ทำให้กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
โดยไม่ต้องมาใช้หลายuser เพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง
หญิงหรือชาย ไม่ใช่ปัญหาในการแสดงความคิดเห็น
เพราะบอร์ดนี้เขาเปิดกว้าง เราต้องรู้จักใช้บอร์ดให้เป็นประโยชน์
ไม่ใช่นำบอร์ดมาใช้ไปในทางที่ทำให้จิตหมกมุ่นจมอยู่ในกองกิเลส
บางคนตั้งกระทู้ขึ้นมา แล้วสมัคร userใหม่ ใช้ user ใหม่
เข้าไปสนทนาในกระทู้ของตัวเอง ไปอนุโมทนาให้กับตัวเอง
ไปดันกระทู้ตัวเอง มองเห็นไหมกิเลสน่ะ
ถ้าถามว่าผิดไหมกับการกระทำเช่นนี้ ไม่ผิดหรอก แต่ทำไปเพื่ออะไรล่ะ
มีแต่ทำให้เพิ่มพูนกิเลสเข้าไปในใจ
บางคนใช้หลาย user ไปมะรุมมะตุ้มคนๆเดียวที่เข้ามาสนทนา
เพื่อต้องการให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูก แล้วคนอื่นๆสุดท้ายเลิกตอบกระทู้ไป
ก็โดนรุมแบบนั้น ใครจะมาทนพูดคุยด้วยล่ะ
การมีข้อโต้แย้งของแต่ละคน ที่แต่ละคนจริงๆ ไม่ใช่หลายuser แต่คนๆเดียวกัน
คนที่เข้ามาอ่าน ย่อมได้ข้อคิดข้อมูลที่แตกต่างออกไป
แต่ละคนมีส่วนดีของแต่ละคน
ส่วนที่เรามองว่าเขาไม่ดีนั้น มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดของเราเพียงฝ่ายเดียว
หาใช่ไม่ดีตามความเป็นจริงไม่
ทุกอย่างมันมีเหตุมาก่อนนะ ผลที่ได้รับจึงเป็นเช่นนี้
นั่นก็คือเหตุของเขาที่เขาเคยกระทำมา เราไม่ควรไปวิพากย์วิจารณ์เขา
เราวิพากย์วิจารณ์เขา คนอื่นเขาก็วิพากย์วิจารณ์เรา
แต่ถ้าอยากวิพากย์วิจารณ์ใครๆ นั่นก็เรื่องของคนๆนั้นนะ
เพราะทุกอย่างมันมีเหตุมาก่อน ผลคือสิ่งที่กำลังจะแสดงและได้แสดงออกไป
กลายเป็นสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งและต่อไปเวียนวนไม่รู้จบ
แม้แต่เรื่องการปฏิบัติหรือหลักการต่างๆก็ไม่มีข้อยกเว้น
ใครเชื่อใคร นั่นเพราะเขาเคยสร้างเหตุร่วมกันมา
ใครไม่เชื่อใคร นั่นเพราะเขาไม่ได้สร้างเหตุร่วมกันมา
แล้วเราจะไปแปลงหลายๆร่าง หลายๆเวอร์ชั่นไปทำไมกัน
เราควรมาดูตามความเป็นจริงกันดีกว่า
เป็นตัวของตัวเองดีกว่า จะได้เห็นกิเลสของตัวเอง
เมื่อเกิดการกระทบ ดูสิ ดูจิตเรา ความชอบใจ ความไม่ชอบใจ เฉยๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร
ดูให้ทันนะ จะเห็นแต่กิเลสระยิบระยับที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะๆ
สติน่ะทันไหม
ไม่ใช่มาประกาศปาวๆว่า ให้ละตัวกรูของกรู แล้วตัวกรูที่กำลังแสดงๆอยู่น่ะมองเห็นไหม
แสดงอะไรล่ะ แสดงกิเลส กิเลสที่อยากพูด อยากจะบอก อยากจะสอน
นี่เราเองก็กำลังแสดงนะ การแสดงจบแล่ว
อ่อ ... ไม่ต้องข้อความส่วนตัวมาถามว่าใครใช้ user อะไรมั่ง
ไม่บอกหรอก เพราะนั่นคือ เหตุที่แต่ละคนกำลังสร้างให้เกิดขึ้นมาใหม่
เมื่อวันใด เขาเห็นกิเลส และได้รู้จักกิเลสของเขาที่แท้จริง
และยอมรับในสิ่งที่เขามี ที่เขาเป็นอยู่ วันนั้นเขาจะหยุดการกระทำนี้ไปเอง
สภาวะของใครของคนๆนั้นนะ จนกว่าเขาจะรู้จักด้วยตัวเขาเอง
