ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29482 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | พงพัน [ 11 ก.พ. 2010, 16:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
เห็นมีการทำโพลน่าสนใจต่างๆออกมา ผมจึงคิดว่า น่าจะมีกิจกรรมโหวตให้เหล่าสมาชิกในบอร์ด ความรัก ผูกพัน พลัดพราก ได้ทำกันเพื่อคลายเศร้าใจบ้างนะครับ เข้าไปเยี่ยมชมแล้ว หดหู่ใจเป็นอย่ามาก เงียบเหงาเศร้าซึม น้ำตาแทบจะท่วมบอร์ดล้นทะลักออกมานอกจอ ![]() ![]() ![]() แต่ก็ยังมีสมาชิกหลายท่านช่วยกันเข้าไปวิดน้ำตา ให้กำลังใจกันอย่างเต็มที่ อยากให้กำลังใจและชื่นชมสมาชิกเหล่านั้นที่เป็นอาสาสมัครกลุ่มน้อยคอยวิดน้ำตาให้เหล่าสมาชิกผู้ช้ำชอกจากความรัก เพราะต้องคอยให้กำลังใจแล้วยังต้องทนรับรังษีความเศร้าที่แผ่ซ่านอย่างรุนแรงเนื่องจากแต่ละคนบาดแผลฉกรรจ์เหลือเกิน บางคนแผลสดมากกกกเลือดยังไหลซิบๆกันอยู่เลย ผมเข้าไปอ่านแป๊บเดียวยังเศร้าสลดจากรังษีความเศร้าที่แผ่ซ่านมาถึง เรื่องทุกข์จากความรักนี่เหลือร้ายจริงๆ แต่ก็ทำให้หลายๆคนเห็นสัจธรรมความเป็นจริงมานักต่อนัก ถ้าสำรวจแล้ว อาจจะถึง 80% ของผู้สนใจเข้ามาศึกษาธรรม ที่มาจากได้รับความทุกข์ทรมาณจากความรัก(ความรักทุกรูปแบบ) จึงต้องการจะหาทางพ้นทุกข์ เลยคิดว่าอยากให้ช่วยกันแวะเข้าไปให้กำลังใจกันและแนะนำทางสว่างให้กับคนเหล่านี้ที่คิดว่าหนทางชีวิตของตนมืดมนเหลือเกินแล้วน่ะครับ |
เจ้าของ: | kokorado [ 11 ก.พ. 2010, 19:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
อันที่จริงท่านทั้งหลายเหล่านั้น สู้อยู่กับความคิดและอารมณ์ของตนเองเท่านั้น ขอให้ลืมความเศร้า ทำจิตให้แจ่มใส แก้ยากก็ขอให้พยายามแก้ เราอยู่ในโลกนี้ กันไม่นาน เศร้าทำไม สุขกันดีกว่า |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 ก.พ. 2010, 22:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
หากเขาฟัง..และพยายาม..คิดตามนะ... คนวิดไม่เหนื่อยหรอก.. ได้เห็นเขา..เริ่มจะลุก..ก็สุขแล้ว ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 12 ก.พ. 2010, 00:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น อยู่มาวันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุตกน้ำขึ้นมา ไม่ใช้ตกคูข้างถนน แต่ตกจากเครื่องบินลงในใจกลางมหาสมุทร คนกำลังตกน้ำตาย สติแตก ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตะเกียกตะกาย ฟูมฟาย หาอะไรเป็นหลักให้ตัวเองไม่ได้ คนที่ตกอยู่ห้วงความทุกข์แบบนั้น ขนาดนั้น ใจมันจะทุกข์สุดๆ สุดโต่งมาก ความทุกข์มันบีบคั้นแผดเผาให้ดิ้นเร่าๆอยู่ ใจแบบนั้น รับธรรมะอะไรยังไม่ได้หรอก ใจที่รองรับธรรมะได้ ต้องมีความปกติพอใช้ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ก็ต้องทำยังไงให้มันกลับมาตรงกลางให้ได้ กล่าวคือต้องเป็นการให้กำลังใจ รับฟัง อะไรทำนองนั้น ช่วยผ่อนช่วยบรรเทา รอเวลา เพราะทุกข์ก็ไม่เที่ยง อารมณ์ใดๆก็ไม่เที่ยง ต่อให้ทุกข์แค่ไหนถึงเวลามันก็คลาย พอใจมันสงบขึ้นมาบ้าง ควรแก่การงานขึ้นมา ถึงค่ิอยๆใส่ธรรมะที่เหมาะสมกับเขาลงไป ไม่ใช่เ้วลาของสาระหนักๆ ผมคิดว่า คนที่มีความสุขมากๆ ไม่ได้ดีไปกว่าคนที่ความทุกข์มากๆ ผมคิดว่าเสมอกัน พวกนึงมันตึงไป อีกพวกก็หย่อนสุดๆ หย่อนคือ เผลอเพลินอยู่กับความสุข ไปพูดธรรมะความจริงอะไรตอนที่ใจมันกำลังเพลิดเพลินอยู่ มันก็ๆไม่รับเหมือนกัน ลองไปพูดเรื่องความทุกข์ความตายอะไรทำนองนี้ในงานเลี้ยงสิ งานเข้าเลย หรือไปบอกเศรษฐีที่มีพรั่งพร้อมทุกอย่างสุขสบาย ให้มาเจริญมรณะสติ ให้มาลำบากทำจงกรม ให้มาพิจารณาอสุภะ กินน้อย ผ่อนอาหาร ลดเหล้า ลดสังสรรค์ อะไรทำนองนั้น ฯลฯ จ้างงงงง...เขาก็ไม่มา ใจเขามันคุ้นเคยกับความสุขตลอดเวลา ใจมันยึดทิฐิแน่นเลยว่า ความสุขนั้นเที่ยง จะไปสอนให้เขาอย่ายึดติดความสุขนี่ ยาก คนที่สุขสบายมากๆนี่นะ ถ้าบุญไม่ถึงจริงๆ ไม่มีมาสนใจธรรมะหรอก คนที่เพิ่งถูกรางวัลที่หนึ่ง กับคนที่เพิ่งหมดตัว จึงเสมอกัน เพราะใจมันสุดโต่ง คนที่เพิ่งพบรัก กับคนที่คนรักเพิ่งตายจากกันนี่ เสมอกัน เป้นภาวะที่ประมาทอย่างรุนแรงพอๆกัน ใครที่สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ผมคิดว่าเป็นโชคดีมากๆ ที่ได้อยู่บนความกลับกลอกไม่แน่นอน ได้เห็นเต็มตา รู้สึกเต็มใจ ว่าทั้งสุขทั้งทุกข์ไม่มีอะไรเที่ยง ไม่มีอะไรน่ายึด ทุกคนที่"เพียร"เจริญสติปัฏฐานนั้น เปรียบเหมือนการเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้ เรียนไปๆ เรื่อยเปื่อย สำลักบ้าง ดีบ้าง ว่ายได้ใกล้บ้าง ไกลบ้าง แต่ก็ยังว่ายอยู่ ยังสะสมทักษะ ความเข้มแข็ง ฝึกฝนอยู่ตลอด เมื่อเวลาตกน้ำขึ้นมา ก็ครองสติได้ ไม่สติแตก ไม่ฟูมฟาย ไม่ลนลาน ช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วยังสามารถช่วยสงเราคะห์คนอื่นได้ อย่างที่ได้ช่วยกันไปให้กำลังใจผู้คนที่ตกน้ำในบอร์ดนู้นนะครับ เวลาผมเห็นกระทู้ประเภทแบบทางบอร์ดนู้นแล้วก็สงสาร เหมือนเห็นคนที่เรือแตกกลางทะเล น่าสงสารจริงๆ น่ากลัวด้วย ช่วยให้เราๆท่านๆได้ตระหนักว่า ถ้าเราไม่รู้จักธรรมะ เราก็คงเหมือนเขา เหมือนคนแพแตก สติก็แตก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่น่ากลัวกว่านั้นก้คือ ว่ากันตามตรง ใครจะไปช่วยเขาก็ไม่ได้อีก ใจใครใจมัน ต้องช่วยเหลือตัวเองแต่ช่วยตัวเองไม่ได้ น่าสงสารจริงๆ นับเป็นบุญที่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เราๆท่านๆหันมาสนใจธรรมะ ขออนุโมทนาทุกท่านทุกคน ![]() |
เจ้าของ: | พงพัน [ 12 ก.พ. 2010, 15:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
kokorado เขียน: เราอยู่ในโลกนี้ กันไม่นาน เศร้าทำไม สุขกันดีกว่า สุขกันเถอะเรา ตึง ตึง ตึง เศร้าไปทำไม แต แต แตน ![]() แล้วก็อย่าสุขจนลืมฝึกว่ายน้ำกันด้วยล่ะ เผื่อเผชิญภาวะเครื่องบินตกกลางมหาสมุทรนะครับ ![]() กบนอกกะลา เขียน: หากเขาฟัง..และพยายาม..คิดตามนะ... คนวิดไม่เหนื่อยหรอก.. เหนื่อยสิครับคุณกบ สำหรับคนที่อินมากไปหน่อยน่ะ ![]() ก็คงต้องมีสลดกันบ้างล่ะ แต่ก็เป็นประโยชน์ให้พิจารณาความเป็นจริงตาม เกิดปัญญาได้ดีอีกด้วย กบนอกกะลา เขียน: ได้เห็นเขา..เริ่มจะลุก..ก็สุขแล้ว ![]() ![]() มีมุทิตาจิตยิ่งนัก พรหมวิหารนี่งดงามเช่นนี้นี่เอง ![]() ชาติสยาม เขียน: คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น อยู่มาวันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุตกน้ำขึ้นมา ไม่ใช้ตกคูข้างถนน แต่ตกจากเครื่องบินลงในใจกลางมหาสมุทร ผมเคยตกเครื่องบินหลายเที่ยวเลยครับ ตอนนี้ก็ยังตกอยู่บ้าง ตกกลางมหาสมุทรบ้าง ตกลงกลางป่าบ้าง แต่รอดชีวิตมาได้ จึงเข้าใจความรู้สึกพวกเขาเหล่านั้นอย่างรุนแรง ชาติสยาม เขียน: คนที่ตกอยู่ห้วงความทุกข์แบบนั้น ขนาดนั้น ใจมันจะทุกข์สุดๆ สุดโต่งมาก ความทุกข์มันบีบคั้นแผดเผาให้ดิ้นเร่าๆอยู่ ใจแบบนั้น รับธรรมะอะไรยังไม่ได้หรอก มันยากตรงนี้แหละครับ สิ่งที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นกำลังใจ จะพิจารณาอะไรก็ไม่มีสมาธิ ไม่เข้าใจ เพราะยังฟุ้งซ่าน ผมเคยฝืนนั่งสมาธิตอนที่ความทุกข์บีบคั้น รู้สึกเหมือนสติจะแตกไงก็ไม่รู้จึงหยุดดีกว่า อันตรายเหมือนกัน ชาติสยาม เขียน: ผมคิดว่า คนที่มีความสุขมากๆ ไม่ได้ดีไปกว่าคนที่ความทุกข์มากๆ ผมคิดว่าเสมอกัน พวกนึงมันตึงไป อีกพวกก็หย่อนสุดๆ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และเพียงไม่วิ่งหาสุข ทุกข์ก็จะน้อยลงอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย และคนที่อยู่กับความสุขมากๆโดยไม่เคยพิจารณาความเป็นจริงก็เหมือนคนที่พาตัวเองขึ้นไปอยู่ในเครื่องบินโบอิ้งขนาดใหญ่ ถ้าตกเมื่อไหร่ก็ย่อมจะเจ็บกว่าคนที่นั่งเครื่องบินขนาดเล็กที่บินต่ำๆหรือนั่งรถเมลล์ชิวๆอยู่แล้ว ชาติสยาม เขียน: ใครที่สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ผมคิดว่าเป็นโชคดีมากๆ ที่ได้อยู่บนความกลับกลอกไม่แน่นอน ได้เห็นเต็มตา รู้สึกเต็มใจ ว่าทั้งสุขทั้งทุกข์ไม่มีอะไรเที่ยง ไม่มีอะไรน่ายึด คนเหล่านี้ง่ายต่อการปฏิบัติครับ มันจะออกได้ที่ตรงกลาง จุดที่ไม่สุขไม่ทุกข์ ชาติสยาม เขียน: ทุกคนที่"เพียร"เจริญสติปัฏฐานนั้น เปรียบเหมือนการเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้ เรียนไปๆ เรื่อยเปื่อย สำลักบ้าง ดีบ้าง ว่ายได้ใกล้บ้าง ไกลบ้าง แต่ก็ยังว่ายอยู่ ยังสะสมทักษะ ความเข้มแข็ง ฝึกฝนอยู่ตลอด เห็นด้วยสุดๆครับ แนะนำให้ฝึกฝนทักษะไว้ เพราะตอนนี้ผมก็ยังเผชิญสิ่งร้ายๆอยู่ ตกเครื่องบินบ้าง ตกรถเมลล์บ้าง ตกอะไรต่ออะไรสารพัด อาจจะเพราะต้องใช้กรรมที่ได้เคยทำไว้จากสมัยใดก็ไม่ทราบ แต่ด้วยความที่ ตกมาหลายครั้งเกิดประสบการณ์ความชำนาญ และได้ทักษะว่ายน้ำทนอีกจากการฝึกวิปัสสนา เจริญสติปัฏฐาน อาจจะเป็นกุศลที่เคยได้สร้างไว้อยู่บ้างที่ผ่านมาและจากสมัยใดก็ไม่ทราบ ตอนนี้จึงทำให้เผชิญวิกฤตการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างชิวๆครับ ![]() ![]() ชาติสยาม เขียน: นับเป็นบุญที่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เราๆท่านๆหันมาสนใจธรรมะ คงจะเป็นการสั่งสมมาของแต่ละท่านล่ะมั้งครับ ขออนุโมทนาบุญในเมตตาจิต คำแนะนำและกำลังใจของทุกท่านที่มีแก่ผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย และเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านเช่นกันครับ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 12 ก.พ. 2010, 22:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่งกำลังใจ สู่บอร์ดความรัก ผูกพัน พลัดพรากครับ |
ชาติสยาม เขียน: ......................... ที่น่ากลัวกว่านั้นก้คือ ว่ากันตามตรง ใครจะไปช่วยเขาก็ไม่ได้อีก ใจใครใจมัน ต้องช่วยเหลือตัวเองแต่ช่วยตัวเองไม่ได้ น่าสงสารจริงๆ นับเป็นบุญที่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เราๆท่านๆหันมาสนใจธรรมะ ขออนุโมทนาทุกท่านทุกคน ![]() ก็น้านนะซี..มันยากก็ตรงนี้แหละ...มีแต่ตัวเองเท่านั้น..ที่จะช่วยตัวเองได้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |