ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29641
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  LOCOMOTIVE [ 20 ก.พ. 2010, 12:59 ]
หัวข้อกระทู้:  แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

http://www.mai95.net/

ตามเว็บลิ้งค์นี้ ผมได้เข้าไปดูบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ และเมื่อลองคลิกเม้าส์ขวาดู ปรากฎขึ้นมาว่า "คิดดีแล้วหรือโยม...มันบาปนะ" ผู้เจริญในธรรมทุกท่านครับ ท่านใดทราบบ้างครับว่า บทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ จดลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรตั้งแต่เมื่อไหร่จดที่ไหนและใครเป็นผู้จดครับ เพื่อคราวหน้าผมต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นแล้วล่ะครับ เพราะผมอาจติดคุกจากกรณีดังนี้ ๑. จากการสวดมนต์ ๒. จากการสวดพระคาถา และ ๓. จากการเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า ผู้เจริญในธรรมท่านใดใครเคยติดคุกเพราะไปละเมิดลิขสิทธิ์ธรรมะของพระพุทธเจ้าบ้างมั้ยครับ ขอบุญรักษาผู้เจริญในธรรมทุกท่านครับที่ให้หรือถวายธรรมทาน...ขออนุโมทนา :b10: :b9: :b32:

เจ้าของ:  kanalove [ 20 ก.พ. 2010, 15:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และพระคาถ

แปลกจริงๆด้วย คำว่าโยมก็เป็นภาษาของพระอีกต่างหาก

เห็นแล้วก็ปล่อยวาง = =" ทำไรไม่ได้

อย่าไปสนใจเว้ปนั้นเลย ทำให้ใจขงผู้ศรัษธามัวหมองเปล่าๆ

เจ้าของ:  สติสัมปันน์ [ 20 ก.พ. 2010, 19:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

นั่นดิเกิดมาก็เพิ่งเจอเนี่ย ของอย่างนี้มันไม่ควรห้ามเนอะ ปล่อยไปเหอะครับ

เจ้าของ:  walaiporn [ 20 ก.พ. 2010, 20:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ


เคยเจอนะคะ แต่เป็นบล็อกธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา
เนื่องจากว่า ตอนนี้หรือเป็นมานานแล้วก็ไม่รู้นะคะ
เจ้าของบล็อกหรือพระท่านรูปนี้ ที่คุณนำมากล่าวถึง

ซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ว่าทำไมต้องมีการจดลิขสิทธิ์กันด้วย พอมาเจอเหตุการณ์ต่างๆ
ในอินเตอร์เน็ตก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น ผู้คนมีหลากหลาย บางคนมีมารยาทดี ก็รู้จักแสดงเครดิตว่า
นำบทความหรือข้อเขียนนี้มาจากไหน

แต่ก็มีคนอีกจำนวนมาก ที่เข้ากูเกิ้ลแล้วไปเจอบทความต่างๆที่ตัวเองถูกใจ ก็นำมาโพสกัน
โดยไม่ให้เครดิตแก่เจ้าของความคิด มันเลยกระทำกันไปเป็นทอดๆ เลยไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงนั้น
ใครเป็นคนเขียนคนแรก

บางบล็อก เจ้าของถึงกลับล็อกเอาไว้เลย ประมาณว่า อยากได้ ให้อ่านได้แต่ห้ามก๊อป
อยากได้ก็ลอกจากต้นฉบับเอาเอง แต่จะมาก๊อปไปแปะแบบง่ายๆเขาไม่ให้ แต่บางบล็อก
จะเขียนว่า กรุณาให้เครดิตต่อเจ้าของบล็อกด้วยว่านำมาจากบล็อกไหน

บางบล็อกก็จดลิขสิทธิ์เอาไว้เลย ถ้าเจอที่ไหน สามารถเรียกร้องได้ทันที เพราะนั่นคือบทความของเขา
เขาสอนให้เห็นว่า ถ้าเราไม่ทำแบบนั้นกับเขา คนอื่นๆก็จะไม่ทำแบบนั้นกับเรา

กว่าเราจะคิด จะเขียนออกมาแต่ละอย่างได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราก็ควรเข้าใจคนอื่นๆเขาด้วย
เราทำกับคนอื่นๆยังไง เขาก็จะทำกับเราอย่างนั้น

มาเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมเป็นการรักษาศิลด้วยนะ บางคนอาจจะมองว่าไม่เห็นจะผิดศิลตรงไหนเลย

ผิดนะ ผิดศิลข้ออทินนา ผิดตั้งแต่คนต้นเรื่องที่ก๊อปของเขาแปะ และคนอื่นๆที่ก๊อปกันต่อๆมา

ทีนี้เมื่อตัวเองนำมาแปะ ก็มีคนเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองน่ะเป็นคนคิดบทความเหล่านี้ขึ้นมาเอง

บางคนชอบบทความนี้ก็จะมีเสียงชื่นชมตามมา คนๆนี้ก็ยิ่งทำผิดศิลมากขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าผิด
เพราะหลงในคำชื่นชม

เมื่อนำมาจากไหน ก็ควรให้เครดิตกับเจ้าของเขาด้วย คือนำมาจากตรงไหน ควรให้เครดิตตรงนั้น

ถึงแม้ว่าคนอื่นๆอาจจะไปก๊อปใครมาต่อ นั่นก็เรื่องของเขา

แต่ศิลของเรา ควรรักษาให้สะอาด ไม่ใช่มาบอกว่า รักษาศิล แต่จริงๆเพียงแค่ลูบคลำศิลแต่ไม่รู้ตัวกัน



เจ้าของ:  ทักทาย [ 21 ก.พ. 2010, 08:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

คนเรานี่...เก่งจัง.... :b11:
ขโมยความคิดกันก็ได้ด้วย.... :b10:

เจ้าของ:  LOCOMOTIVE [ 21 ก.พ. 2010, 13:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

walaiporn เขียน:

เคยเจอนะคะ แต่เป็นบล็อกธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา
เนื่องจากว่า ตอนนี้หรือเป็นมานานแล้วก็ไม่รู้นะคะ
เจ้าของบล็อกหรือพระท่านรูปนี้ ที่คุณนำมากล่าวถึง

ซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ว่าทำไมต้องมีการจดลิขสิทธิ์กันด้วย พอมาเจอเหตุการณ์ต่างๆ
ในอินเตอร์เน็ตก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น ผู้คนมีหลากหลาย บางคนมีมารยาทดี ก็รู้จักแสดงเครดิตว่า
นำบทความหรือข้อเขียนนี้มาจากไหน

แต่ก็มีคนอีกจำนวนมาก ที่เข้ากูเกิ้ลแล้วไปเจอบทความต่างๆที่ตัวเองถูกใจ ก็นำมาโพสกัน
โดยไม่ให้เครดิตแก่เจ้าของความคิด มันเลยกระทำกันไปเป็นทอดๆ เลยไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงนั้น
ใครเป็นคนเขียนคนแรก

บางบล็อก เจ้าของถึงกลับล็อกเอาไว้เลย ประมาณว่า อยากได้ ให้อ่านได้แต่ห้ามก๊อป
อยากได้ก็ลอกจากต้นฉบับเอาเอง แต่จะมาก๊อปไปแปะแบบง่ายๆเขาไม่ให้ แต่บางบล็อก
จะเขียนว่า กรุณาให้เครดิตต่อเจ้าของบล็อกด้วยว่านำมาจากบล็อกไหน

บางบล็อกก็จดลิขสิทธิ์เอาไว้เลย ถ้าเจอที่ไหน สามารถเรียกร้องได้ทันที เพราะนั่นคือบทความของเขา
เขาสอนให้เห็นว่า ถ้าเราไม่ทำแบบนั้นกับเขา คนอื่นๆก็จะไม่ทำแบบนั้นกับเรา

กว่าเราจะคิด จะเขียนออกมาแต่ละอย่างได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราก็ควรเข้าใจคนอื่นๆเขาด้วย
เราทำกับคนอื่นๆยังไง เขาก็จะทำกับเราอย่างนั้น

มาเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมเป็นการรักษาศิลด้วยนะ บางคนอาจจะมองว่าไม่เห็นจะผิดศิลตรงไหนเลย

ผิดนะ ผิดศิลข้ออทินนา ผิดตั้งแต่คนต้นเรื่องที่ก๊อปของเขาแปะ และคนอื่นๆที่ก๊อปกันต่อๆมา

ทีนี้เมื่อตัวเองนำมาแปะ ก็มีคนเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองน่ะเป็นคนคิดบทความเหล่านี้ขึ้นมาเอง

บางคนชอบบทความนี้ก็จะมีเสียงชื่นชมตามมา คนๆนี้ก็ยิ่งทำผิดศิลมากขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าผิด
เพราะหลงในคำชื่นชม

เมื่อนำมาจากไหน ก็ควรให้เครดิตกับเจ้าของเขาด้วย คือนำมาจากตรงไหน ควรให้เครดิตตรงนั้น

ถึงแม้ว่าคนอื่นๆอาจจะไปก๊อปใครมาต่อ นั่นก็เรื่องของเขา

แต่ศิลของเรา ควรรักษาให้สะอาด ไม่ใช่มาบอกว่า รักษาศิล แต่จริงๆเพียงแค่ลูบคลำศิลแต่ไม่รู้ตัวกัน




ที่อธิบายมาั้ทั้งหมดนั้นผมเข้าใจดีอย่างที่หลายคนเข้าใจและเข้าใจในข้อกฏหมายด้วย แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ...นี่คืออะไร...นี่คือบทสวดมนต์และพระคาถา...ซึ่งต้นฉบับมาจากใคร...ก็มาจากธรรมะของพระพุทธเจ้าองค์ศาสดาพุทธศาสนาที่ตรัสรู้เองโดยชอบ ไม่ใช่บทความอันเป็นผลงานซึ่งเกิดจากสมองของผู้ใดที่เกดมาในสมัยพุทธกาลหรือเกิดมาภายหลังพระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ถ้าเป็นดั่งที่อธิบายมายาวยืดนั้น ป่านนี้ไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันมาตั้งแต่ พ.ศ.๑ แล้วหรือ แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงเดินทางเผยแผ่ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เองเพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์ จวบจนพระพุทธองค์จะทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระพุทธองค์ยังทรงสอนธรรมะครั้งสุดท้าย ซึ่งก็คือ "ปัจฉิมพุทโธวาท" ขอถามผู้เจริญในธรรมสักนิดเถอะครับ ว่ามีใครเพิ่งเคยพบเห็นบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆเหล่านี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจากเว็บลิ้งค์ที่ผมแนบมานี้ หรือบ้านผู้เจริญในธรรมท่านใดมีหนังสือสวดมนต์และพระคาถา ซึ่งมีเนื้อหาเหมือนกับบทสวดมนต์และพระคาถาในเว็บลิ้งค์ที่ผมแนบมานี้ ถ้าท่านมี...ท่านก็จงเตรียมตัวเข้าคุกเข้าตะรางได้เพราะท่านได้ละเมิดลิขสิทธิ์ธรรมะของพระพุทธเจ้าอันเกิดจากสมองของผู้ที่แอบอ้างว่า "ข้านี่แหละคือเจ้าของผลงาน" ใช่หรือไม่ หนังสือธรรมะหลายเล่มระบุไว้ว่า สามารถจัดพิมพ์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่มีข้อแม้คือ "ไม่อนุญาตให้จัดพิมพ์เพื่อการจำหน่าย แต่อนุญาตให้จัดพิมพ์เพื่อธรรมทานเท่านั้น" ขอยกตัวอย่างผลงานที่ผมยอมรับว่ามีลิขสิทธิ์จริงๆสัก ๑ ผลงานก็คือ "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" ที่ผมยอมรับว่ามีลิขสิทธิ์ก็เพราะว่าผู้เขียน เขียนขึ้นจากความคิดจากสมองของผู้เขียนเองโดยอ้างอิงจากพระไตรปิฎก เพื่อให้ผู้อ่านได้ศึกษาเข้าใจได้ง่ายและนำไปปฏิบัติได้ นี่ต่างหากเล่าคือผลงานที่ทุกคนต้องยอมรับมีลิขสิทธิ์ เราต่างก็เป็นสรรพสัตว์ที่ยังเวียนตายเวียนเกิดในวัฏสงสารอยู่ แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะแอบอ้างหรือบิดเบือนเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งหมดหรือบางส่วนมาเป็นลิขสิทธิ์หรือเป็นสิทธิบัตร โดยที่ไม่ได้ใส่มันสมองของตัวเองลงไปเลยแม้แต่น้อย ว่าเป็นผลงานอันเกิดจากสมองของตนเอง

เจ้าของ:  walaiporn [ 21 ก.พ. 2010, 14:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ


คุณคงจะไม่เข้าใจนะคะ อาจจะเพราะพูดไม่ละเอียดพอ
จริงอยู่ว่า ธรรมนี้ก็นำมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่คนที่เขาเผยแผ่ข้อความให้อ่านน่ะ
บางคนเขาไม่ได้ไปก๊อปมาแปะ เขาต้องนั่งพิมพ์ที่ละตัวๆๆๆๆๆๆๆๆ
นึกถึงใจเขาใจเรานะคะ ...

หรือว่า เขาอาจจะไปนำมาจากที่ไหนแล้วมาแปะเอาไว้
อันนี้ก็แล้วแต่เขานะคะ ว่าจะให้เราก๊อปมาแปะต่อหรือไม่

แล้วอีกอย่าง มันเป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ที่เขาจะทำแบบนั้นหรือใครๆจะทำแบบนั้น
การคลิกขวาคืออะไร น่าจะเข้าใจนะคะ ถึงได้มีคำเตือนขึ้นมา

เจ้าของ:  TU [ 21 ก.พ. 2010, 15:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

:b12: ธรรมสวัสดีค่ะ คุณ LOCOMOTIVE :b20:

tongue มีหนังสือสวดมนต์เล่มนึงที่ TU มีส่วนเป็นผู้จัดทำขึ้นมา
ประกอบไปด้วยบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ มากกว่า ๑๐๐ บท

หนังสือสวดมนต์-ไหว้พระ-สาธยายธรรม
http://www.dhammajak.net/book-sukkho/24.html

คุณสามารถนำเอาเนื้อหาไปใช้ประโยชน์ได้เลย
ไม่มีการหวงกันหรือมีลิขสิทธิ์แต่อย่างใดค่ะ

เจ้าของ:  LOCOMOTIVE [ 21 ก.พ. 2010, 15:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

walaiporn เขียน:

คุณคงจะไม่เข้าใจนะคะ อาจจะเพราะพูดไม่ละเอียดพอ
จริงอยู่ว่า ธรรมนี้ก็นำมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่คนที่เขาเผยแผ่ข้อความให้อ่านน่ะ
บางคนเขาไม่ได้ไปก๊อปมาแปะ เขาต้องนั่งพิมพ์ที่ละตัวๆๆๆๆๆๆๆๆ
นึกถึงใจเขาใจเรานะคะ ...

หรือว่า เขาอาจจะไปนำมาจากที่ไหนแล้วมาแปะเอาไว้
อันนี้ก็แล้วแต่เขานะคะ ว่าจะให้เราก๊อปมาแปะต่อหรือไม่

แล้วอีกอย่าง มันเป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ที่เขาจะทำแบบนั้นหรือใครๆจะทำแบบนั้น
การคลิกขวาคืออะไร น่าจะเข้าใจนะคะ ถึงได้มีคำเตือนขึ้นมา


บุญรักษาครับ...ขออนุโมทนา

ผมว่านะครับ ถึงแม้จะพิมพ์ลงไปเอง ยังไงก็ไม่เหนื่อยเท่าพระพุทธองค์ที่ทรงเดินทางไกลๆไปสั่งสอนสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ครับ และก็ยังยืนยันว่าทุกคนไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพระไตรปิฎกทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาบทสวดมนต์หรือพระคาถาทั้งหมดมา แล้วบอกว่านี่คือผลงานของฉัน ฉันครอบครองลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ลิขสิทธิ์ต้องมาจากแรงกายและมันสมอง ไม่ใช่มาบอกว่าฉันต้องออกแรงพิมพ์ทั้งวันทั้งคืน เพราะฉะนั้นต้องเป็นลิขสิทธิ์ของฉัน มีอย่างที่ไหน เอาบทสวดมนต์และคาถาทุกบทมาทั้งหมด พูดกันตามภาษาชาวบ้านคือ "ยกมาทั้งอัน" แล้วโมเมนึกเอาว่าเป็นสมบัติของตัวเอง ถ้ารูปถ่ายที่ถ่ายมากับมือตัวเองหรือผลงานที่กลั่นออกมาจากสมองตัวเอง อาทิเช่น เพลง ภาพยนตร์ สิ่งประดิษฐ์ ฯลฯ อย่างนี้จะไม่ว่าเลยว่าสงวนลิขสิทธิ์ อย่างนี้เขาเรียกว่าหวงไม่เข้าเรื่อง ระวังเถอะนรกจะลามขึ้นสมอง เพราะใช้สมองคิดที่จะเอาธรรมะพระพุทธเจ้าทั้งหมดมาเป็นลิขสิทธิ์ตน

เจ้าของ:  walaiporn [ 21 ก.พ. 2010, 16:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ


ดูในกายและจิตของเราดีกว่าค่ะ ดีกว่าการไปเพ่งโทษนอกตัว :b12:
บุคคลสร้างเหตุใด บุคลลนั้นย่อมได้รับผลตามนั้น
ถึงแม้นว่าจะไม่มีเรา ยังไงๆสิ่งต่างๆเหล่านี้เขาย่อมดำเนินไปตามวาระของแต่ละคนค่ะ

ถูกหรือผิดเป็นเพียงแค่ความคิดตามความชอบใจและความไม่ชอบใจเท่านั้นเองค่ะ
อีกอย่าง คุณทียูก็ได้กรุณานำสิ่งดีๆมาแบ่งปันให้แล้วนะคะ :b8:

เจ้าของ:  หยดย้อย [ 21 ก.พ. 2010, 16:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

เข้าไปแระ

ดูยังไง ก็เห็นแต่สิ่งดี ๆ มาก ๆ
......

เจ้าของ:  kanalove [ 21 ก.พ. 2010, 17:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

สิ่งดีๆ มากๆ มันเป็นยังไงเหรอคะ * *

เจ้าของ:  เอรากอน [ 21 ก.พ. 2010, 17:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

mai195.net เขียน:
1. วิชาพิธีกรรม - ชัยภูมิไทย

2. คำอาราธนาศีล ๕
มะยัง ภันเต ......โหตุ.


:b8: :b8: :b8:
ใจเย็นเจ้าค่ะ ท่าน Locomotive
อันนี้เอกอน...ก๊อปมาจาก เว๊ปที่ท่านกล่าวถึงเจ้าค่ะ...
แสดงว่า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้ล๊อคค่ะ...

การคลิกขวาแล้วขึ้นข้อความ
อาจจะเป็นลูกเล่นของทาง web ก็ได้..นะคะ...
หรือ...ใครจะมีความเห็นว่าอย่างไร...

เพราะเอกอนเองก็ไม่รู้ ถ้าเจตนาของเจ้าของ web
ไม่ต้องการให้ copy มันต้องไม่ได้ทุกกรณี...สิ่
....
แต่...เอกอนเอามาได้...ด้วยคำสั่ง copy ...นี่ล่ะค่ะ...

สรุปแล้วเอกอนมองได้ทั้งในแง่
1. เป็นลูกเล่นของทาง web :b4: :b4:
2. การล๊อค...มีช่องโหว่... :b1: ถ้าเช่นนี้...เราควรจะบอกเขามั๊ยคะ...?

:b1: :b1: :b1:

เจ้าของ:  LOCOMOTIVE [ 21 ก.พ. 2010, 20:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

หยดย้อย เขียน:
เข้าไปแระ

ดูยังไง ก็เห็นแต่สิ่งดี ๆ มาก ๆ
......


แต่ผมเห็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ผมเห็นภาษาวิบัติ "เข้าไปแระ"

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 22 ก.พ. 2010, 04:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แปลกจังและงงจริง...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นบทสวดมนต์และคาถาฯ

LOCOMOTIVE เขียน:
หยดย้อย เขียน:
เข้าไปแระ

ดูยังไง ก็เห็นแต่สิ่งดี ๆ มาก ๆ
......


แต่ผมเห็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ผมเห็นภาษาวิบัติ "เข้าไปแระ"

แต่ผมเห็นการกระทำเลวร้ายที่สุด ผมเห็นแต่"คนพาล"

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/