ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อย่ามั่วตีความคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ให้ผิดพลาด http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29810 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | คนดีที่โลกลืม [ 01 มี.ค. 2010, 15:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | อย่ามั่วตีความคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ให้ผิดพลาด |
ตีความคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ให้ถูกต้อง ในทางพุทธศาสนา นอกจาก คำสอนทางที่เป็นพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้า จะยากแก่การตีความแล้ว เหล่าคำสอนของพระอริยะเจ้าจำนวนมากที่เข้าถึงอรหันต์ ก็ยากแก่การตีความด้วยเช่นกัน จนบางครั้งและบางคน ตีความคำสอนของพระอริยะเจ้าผิดพลาด แล้วก็เอาคำสอนเหล่านั้น ที่ตนเองตีความผิดพลาด ไปแย้งกับพุทธพจน์ที่ออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น บางคนทำสมาธิ(สมถะกรรมฐาน)แล้ว ได้เห็นสวรรค์วิมานของตัวเองบ้าง บางคนว่าเห็นพระจุฬามณีเจดีย์สถานบ้าง พร้อมทั้งภูมิใจว่า เขาวาสนาดี ทำกรรมฐานได้สำเร็จ พอไปเล่าให้คนอื่นฟัง พวกที่ทำไม่ได้หรือทำไม่ถึงขั้นหรือเน้นการวิปัสสนาอย่างเดียว ก็นำคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ไปแย้งพวกที่เห็นสิ่งต่างๆในสวรรค์ โดยอ้างคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ เช่น หลวงปู่ดุลย์บอกว่า: “สิ่งที่ปรากฏเห็นทั้งหมดนั้น ยังเป็นของภายนอกทั้งสิ้น จะนำเอามาเป็นสาระที่พึ่งอะไรยังไม่ได้หรอก” หลังจากนั้น พวกที่แย้งเหล่านี้ก็เลยอธิบายสรุปเอาเองว่า พวกทำสมาธิ(สมถะกรรมฐาน)เพี้ยน หรือไม่ก็จิตหลอน หรือไม่ก็วิปัสสนูกิเลสไปแล้ว หรืออย่างบางกรณี มีคนที่ภาวนาแล้วก็เห็นนรก สวรรค์ วิมานเทวดา หรือไม่ก็ มีองค์พุทธรูปปรากฏอยู่ในตัวเขา พอเขาไปเล่าให้เพื่อนฝูงที่ปฏิบัติแล้วไม่เห็นฟัง เพื่อนฝูงตัวแสบ ก็นำคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ไปแย้ง โดยอ้างว่า: หลวงปู่ดุลย์บอกว่า “ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง” แล้วไอ้เพื่อนตัวแสบก็สรุปเอาเองว่า พวกที่เห็นจากสมาธิ(สมถะกรรมฐาน)เพี้ยน หรือจิตหลอน หรือวิปัสสนูกิเลสไปแล้ว....เป็นอย่างนี้เสมอ ผมจึงขอชี้แจงว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่พวกทำสมาธิ(สมถะกรรมฐาน)แล้วเพี้ยน และก็ไม่ใช่พวกจิตหลอน รวมทั้งไม่ใช่พวกวิปัสสนูกิเลสแน่นอน พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่า ภพภูมิทั้งหมดมี 31-33 ภพภูมิ มีจริง อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า: ภพภูมิเหล่านั้นล้วนเป็นมายา เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงทั้งสิ้น และทรงเน้นให้ไปหานิพพานแทนภพภูมิเหล่านั้น หลวงปู่ดุลย์ท่านก็เน้นอยู่เรื่องเดียวตามคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ เน้นไปนิพพาน เมื่อหลวงปู่ดุลย์เน้นไปนิพพานอย่างเดียวแล้ว ท่านก็ต้องสอนว่า นิมิต หรือ สิ่งที่ปรากฏเห็น(ใน 31-33 ภพภูมิ)ทั้งหมดนั้น ยังเป็นของภายนอกทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ไม่จริง เพื่อให้จิตไม่ส่งออกไปตามภพภูมิเหล่านั้น ซึ่งจะทำให้ไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ คือ ไปนิพพาน แต่ความจริงแล้ว นิมิต หรือ สิ่งที่ปรากฏเห็น(ใน 31-33 ภพภูมิ) มีอยู่จริง ผมขออธิบายให้เข้าใจดังนี้ สรรพสัตว์ใน 31-33 ภพภูมิ รวมทั้งตัวคุณกับผมที่อยู่ในโลกใบนี้ ล้วนเป็นสิ่งสมมุติขึ้น เราเป็นมายา และเราเป็นอนัตตา แต่ผู้ที่จะบอกเราว่า เราไม่มีอยู่จริง มีเพียงผู้ที่อยู่ในนิพพานเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พึงตระหนักว่า ความจริงมันมี 2 ระดับ 1. ความจริง ระดับที่อยู่ใน 31-33 ภพภูมิ เรียกว่า ความจริงระดับโลก หรือโลกียะ 2. ความจริงระดับโลกุตตระ โดยเฉพาะระดับนิพพาน ผู้ที่จะยืนยันและบอกว่า ความจริงระดับโลก หรือระดับโลกียะ ไม่มีอยู่จริง และไม่ใช่ตัวตน มีแต่พระอรหันต์ที่อยู่ในระดับโลกุตตตะเท่านั้น เมื่อเราเอาคำสอนของหลวงปู่ดุลย์หรือพระอริยะเจ้าท่านอื่น ที่พูดถึงความจริงระดับโลกุตตะ เอาไปมั่วกับความจริงระดับโลกหรือระดับโลกียะ จึงสับสนไปหมด และตีความคำสอนทางโลกหรือโลกียะของพระพุทธเจ้าผิดพลาด มั่วกันอย่างนี้ ไปๆมาๆ สุดท้ายก็จะไปคิดว่า พระพุทธเจ้าเป็นพวกโรคจิต หรือเป็นพวกจิตหลอน จึงสอนเรื่องภพภูมิอื่นๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |