วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 20:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


มนุษย์ คือ สิ่งมีชีวิต ที่มีศักยภาพในการทำงาน ในการคิด มากกว่า สัตว์อื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มนุษย์จะมีความรู้ หรือมีความเก่ง หรือมีความคิด ในการทำงาน ดีกว่า สัตว์อื่นๆ นั่นหมายความว่า สัตว์อื่นๆ อาจมีความคิด ความรู้ ความเก่ง ฯ ในการทำงาน มากกว่ามนุษย์ก็มี
มนุษย์ จะเป็นมนุษย์ได้ดี ในทางศาสนา กล่าวไว้ว่า ต้องเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ประกอบไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หรือจะเรียกอย่างง่ายๆว่า "ผู้มีจิตใจสูง" ในที่นี้ หมายเอาเฉพาะมนุษย์ เหตุเพราะ ในหลักความเป็นจริงแล้ว สัตว์เกือบทุกชนิด ก็ล้วนมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เหมือนกัน

ศาสนา เกิดขึ้น เพื่อต้องการให้มนุษย์ อยู่ได้อย่างปกติสุข ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน จนเกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจ อันจักทำให้มนุษย์กลายสภาพจิตใจไปเป็นเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานบางชนิด ที่ต้องคอยประหัตประหารแก่งแย่งกันเพื่อสิ่งที่ตัวมันต้องการ เพื่อสิ่งที่ตัวมันชอบ ดังนั้น ศาสนาจึงเกิดขึ้น นี้เป็นหลักการทางศาสนาอย่างหนึ่ง

ศาสนา เกิดมีขึ้นบนโลกมนุษย์ มิได้หมายให้มนุษย์ หลบหลีก หลบหนีสังคม ทำตัวไร้ค่า หรือเกียจครัานในการเสาะแสวงหาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค แต่หมายให้มนุษย์รู้จักขัดเกลากิเลส รู้จักขจัดกิเลส รู้จักความพอดี พอเพียง ในการดำรงชีวิต และรู้ถึงซึ่งหลักความจริง แห่งธรรมชาติอันเป็นธรรมดาของมนุษย์ทั้งหลาย นั่นก็คือ มนุษย์ทุกคน ย่อมมี การเกิด , แก่,เจ็บ,ตาย ศาสนาจึงสอนให้มนุษย์ได้รู้จักวิธีการหาทางหลุดพ้นจากวัฏฏจักรเหล่านั้น คือ หลุดพันจาก ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
มนุษย์ ไม่ใช่ สัตว์ประเภทเอาตัวเดินขวางกับแผ่นดิน มนุษย์ต้องอาศัย เครื่องอุปโภค บริโภค และอื่นๆ เท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่เมื่อมนุษย์ ไม่เข้าถึงศาสนา มนุษย์ กับมอง เครื่องอุปโภค บริโภค ทั้งหลายเหล่านั้น เป็นสิ่งที่สร้างความภูมิใจ โอ้อวด แสดงความมั่งมีร่ำรวย โดยไม่รู้ว่า เครื่องอุปโภค บริโภค ต่างๆเหล่านั้น เป็นเพียงปัจจัย อย่างหนึ่ง สำหรับการดำรงชีวิตตามสังคมการเป็นอยู่ร่วมกัน มิใช่สิ่งที่จะทำให้หลุดพ้นจากความโลภ ความโกรธ ความหลง แต่กับ สร้างความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดความหลงผิด จนถึงขนาดที่ บางคน ซื้อรถยนต์ หรืออื่นใด เพื่อโอ้อวด เพื่อแสดงความมั่งมีร่ำรวย ฯลฯ
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ของมนุษย์ ไม่ใช่ไม่ดีนะขอรับ แต่ถ้ามีมาก จนทำความเดือดร้อนให้กับตัวเองและผู้อื่น นั่นเรียกว่า หลงผิด หรือมีความเห็นผิด คือ แทนที่จะเห็นว่า เครื่องอุปโภค บริโภค เป็นปัจจัยที่จะทำให้ตัวเขาเหล่านั้น หลุเดพ้นจากความทุกข์ได้ ในระดับหนึ่ง กลับกลายเป็นว่า พวกเขาเหล่านั้น เห็นว่า เป็นสิ่งสร้าง ความภูมิใจ สร้างความภูมิฐาน ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น
ถึงอย่างไรก็ตาม มนุษย์ ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน ที่จะอยู่อย่างไรก็ได้ จะกินอย่างไรก็ได้ จนไม่สนใจอะไรสักอย่าง อย่างนั้น ย่อมไม่ควรอย่างแน่นอน
เพราะมนุษย์ มีจิตใจสูง มีความสมอง และความคิด อีกทั้งมีอวัยวะที่เอื้ออำนวย ให้สามารถประกอบกิจกรรมให้เกิดความผาสุกต่อตนเอง และผู้อื่น ตามแต่บทบาท และหน้า หรือตามแต่การครองเรือน ของบุคคลนั้นๆ ซึ่งถ้าหากมนุษย์ทั้งหลายมีความเข้าใจ เข้าถึงในศาสนาแล้วละก้อ ความผาสุก สงบสุข และการดำเนินขีวิต อย่างปกติสุข ในทุกสาขาอาชีพ ก็ย่อมเป็นไปด้วยดี ความสามัคคีก็ย่อมเกิดขึ้น ความเป็นปึกแผ่น ความมั่นคงของประเทศชาติก็ย่อมเกิดมี อย่างนิรันดร์

(เขียนเมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๕๓)


แก้ไขล่าสุดโดย จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เมื่อ 03 มี.ค. 2010, 20:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


การที่มนุษย์ จะมีความผาสุก สงบสุข ดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข และเกิดมีความสมัครสมานสามัคคี กันได้ ในทางศาสนาพุทธ ได้รวบหลักธรรม ไว้เป็นข้อศีล เรียกว่า ศีล ๕ อันเป็นศีลของฆราวาสทั้งหลาย เพื่อให้มนุษย์ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นพื้นฐานที่ดีทางจิตใจ
ศีล ๕ เมื่อยึดถือ ปฏิบัติดีแล้ว ธรรมะต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นในจิตใจ และความคิด ถึงแม้ว่า ธรรมะต่างๆ ก็ล้วนมีอยู่ในตัวมนุษย์อยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ถูกขัดเกลาทางสังคม ทำให้จิตใจ ความคิด และพฤติกรรม เบี่ยงเบนไปเท่านั้น
ไม่ว่า บุคคลใดใด จะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใด เพียงยึดถือ ปฏิบัติตาม ศีล ๕ หรือจะให้ระเอียดลึกซึ้ง ก็สามารถพิจารณา แยกแยะรายละเอียด เพื่อให้สมองสติปัญญามีความรู้ กว้างขวาง ก็จักทำให้สภาพจิตใจและความคิด เป็นปกติยิ่งขึ้น จะได้ไม่ต้องอ้างว่า ทำเพื่อคนนั้นคนนี้ หรือทำร้ายคนอื่น เพื่อคนนั้นคนนี้ หรือบ้างที่ค้าขาย และอาชีพต่างๆ อ้างโน่นอ้างนี้ ขึ้นราคาสินค้าอย่างหน้าด้านๆ ด้วยความโลภ ซึ่งความจริงแล้ว ก็เพราะความเป็นมนุษย์มีอยู่ในจิตใจน้อย จึงขาดธรรมะ อยากได้มากโดยไม่ได้คิดถึงจิตใจของผู้อื่น หรือคิดแต่จะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ พอได้เป็นแล้ว ก็ทำความเสียหายให้กับสังคมบ้าง หาผลประโยชน์เข้าใจตนเองและพวกพ้องบ้าง อย่างนั้น เขาเรียกว่า ความเป็นมนุษย์ มีน้อย

ดังนั้น หากบุคคลใดใด ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด บทบาทใด หน้าที่ใด ก็ย่อมต้องมีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเอาไว้ เพื่อมิให้ ความเป็นมนุษย์เหลือน้อย เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดีที่สุด สำหรับความเป็นมนุษย์ ก็คือ หลักศีล และหลักธรรม ทางศาสนานั่นเอง

(แก้ไข เพิ่มเติม เมื่อ ๙ มีนาคม ๒๕๕๓)


แก้ไขล่าสุดโดย จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เมื่อ 09 มี.ค. 2010, 20:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ได้แก้ไขเพิ่มเติม ในข้อแสดงความคิดเห็น อันเป็น ศาสนากับความเป็นมนุษย์ตอนที่ ๒ เพื่อให้เกิดความเข้าใจกระจ่างชัดยิ่งขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีศีลแล้วทำสมาธิด้วยจะยิ่งดีค่ะ เพราะปัญญาธรรมจะเกิดน่ะค่ะ เมื่อปัญญาธรรมเกิดก็จะเข้าใจธรรมะที่แท้มากขึ้นค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร