ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=30242 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 11:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
เห็น คนดีที่โลกลืม พูดถึง อัตตาๆๆ อยู่บ่อยๆ พูดไว้ที่นี่อีก viewtopic.php?f=2&t=30206&p=185288#p185288 จึงขอถามความหมาย “อัตตา” คนดี ฯ หน่อย ตอบตามความเข้าใจของตัวเองล้วนๆนะขอรับนะ ![]() ไม่เอาจากคำพูดคำบอกเล่าจากผู้นั้นผู้นี้ เขาว่ายังงั้นยังงี้นะ ไม่เอา เอาตามที่ตนเองรู้เข้าใจนะ ถามว่า “อัตตา” ได้แก่อะไร ยกตัวอย่างประกอบด้วย ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 11:42 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย | ||
ข้าคือยมทูตมารับตัวเธอ ไปไป ไปลงนรกเสียเถอะที่รัก ฉันจะลงโทษเทอ เวลาของเธอหมดแล้ว http://radio.sanook.com/music/player/song-lyric/11547/
|
เจ้าของ: | natdanai [ 22 มี.ค. 2010, 16:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
![]() ![]() ![]() อัตตาของท่านคนดีฯ ก็นิพพานไงครับ ![]() ![]() เขาบอกมาตั้งแต่เสวยชาติเป็น พลศักดิ์ฯ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ดุสิตธานี [ 22 มี.ค. 2010, 17:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนดีที่โลกลืม [ 22 มี.ค. 2010, 19:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
คุณกรัชกายที่เคารพรัก นิยาม "อัตตา" ที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตรคือ " ดูกรภิกษุทั้งหลาย.... ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย " สรุป ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา" และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า : ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา? ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า. ตอนนี้เราจะถามท่านกรัชกาย ว่า: " ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา? " ท่านกรัชกาย ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า [/color] ***เมื่อไรที่ท่านกรัชกายตอบดังนี้ ท่านก็พ้นจากอำนาจแห่งมาร และเข้าใจ "อัตตา"ที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตรแล้ว*** ในปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร พระอวโลกิเตศวรทรงชี้ให้เห็นว่า ธรรมกาย นี่แหละคืออายตนะนิพพาน อันไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย " ธรรมกาย ก็คือปรัชญาปารมิตาซึ่งเป็นสภาวธรรมแห่งพระตถาคตตรัสรู้ ก็คือ อายตนะนิพพานนั้นเอง ย่อมปราศจากการมาในอดีต ฤาการไปในอนาคต แลในปรัตยุบันกาลเล่าก็ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง " |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 20:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
นึกแล้ว แทงหวยทำไมไม่แม่นยังงี้น้า ![]() บอกแล้วไงขอรับว่า เอาความเห็นของตัวเอง เอาใหม่ขอรับ อัตตา ได้แก่ อะไร ยกตัวอย่างให้เห็นภาพด้วย ตอบตามความรู้เข้าใจของ คนดี ฯ เองขอรับ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 20:15 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย | ||
ช่างร้ายเหลือ http://www.pleng.com/song.php?song_id=018607
|
เจ้าของ: | คนดีที่โลกลืม [ 22 มี.ค. 2010, 20:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
จิตเริ่มต้นของเราเป็นพุทธะ จิตเริ่มต้นตัวนั้นคือ อสังขตธาตุ ไม่มีจุดเกิด ไม่มีจุดตาย จิตเริ่มต้นตัวนั้นเป็นอมตะ ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร จิตเริ่มต้นตัวนั้นแหละ ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ มันจึงเป็นอมตะ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ" จิตเริ่มต้นที่ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ และเป็นอมตะตัวนั้นแหละ = อัตตา = นิพพานจิต = นิพพานธาตุ - คุณกรัชกายและทุกคนในโลก ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ล้วนถูกไวรัสอวิชชา หรือไวรัสกิเลสตัณหา ครอบงำจิตใจ ทำให้ไม่รู้ว่าตนเองคือพุทธะ หรือพระเจ้า - สติปัฏฐาน 4 คือ โปรแกรมฆ่าไวรัสอวิชชาที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ ก่อนหน้านั้น ศาสนาพราหมณ์ค้นพบสมถะกรรมฐาน หรือสมาธิ ซึ่งเป็นโปรแกรมฆ่าไวรัสอวิชชาอีกแบบหนึ่ง แต่โปรแกรมสมถะกรรมฐาน ใช้เวลานานมากกว่าโปรแกรมฆ่าไวรัสอวิชชาสติปัฏฐาน 4 นอกจากนี้ พระพุทธองค์ทรงสอนให้ใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน(สติปัฏฐาน 4)ร่วมกัน จึงจะเข้าใจความจริงของโลกและพระนิพพาน เพราะถ้าใช้แค่สติปัฏฐาน 4 แม้ว่าจะฆ่าไวรัสอวิชชาได้หมด และเข้าถึงพระนิพพาน แต่ก็จะไม่เข้าใจเรื่องโลกและภพภูมิต่างๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 20:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
ถามสั้นๆ ควรตอบสั้นๆขอรับ อัตตา ได้แก่อะไรขอรับ |
เจ้าของ: | คนดีที่โลกลืม [ 22 มี.ค. 2010, 21:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
กรัชกาย เขียน: ถามสั้นๆ ควรตอบสั้นๆขอรับ อัตตา ได้แก่อะไรขอรับ "อัตตา" = แก่นแท้ ที่คุณเคยเป็น สิ่งนั้นไม่มีกิเลสอวิชชา มันจึงเป็นอมตะ เป็นนิรันดร ไม่มีความทุกข์ สิ่งนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "อายตนะนิพพาน" หรือ "ธรรมกาย" "อนัตตา" = เปลือกนอก ที่คุณกำลังเป็นอยู่ และจะเป็นต่อไปเรื่อยๆถ้ายังมีกิเลสอวิชชาอยู่ สิ่งนี้คือควมเป็นมนุษย์ของคุณ "อนัตตา" = เปลือกใน ที่คุณจะเป็นในอนาคต(กายทิพย์,อทิสมานกาย)เมื่อตายแล้ว แต่ยังไม่สามารถละทิ้งกิเลสอวิชชา สิ่งนี้คือควมเป็นเทพ เป็นเปรต เป็นพรหม ฯลฯ ของคุณ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2010, 21:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
คนดีที่โลกลืม เขียน: "อัตตา" = แก่นแท้ ที่คุณเคยเป็น สิ่งนั้นไม่มีกิเลสอวิชชา มันจึงเป็นอมตะ เป็นนิรันดร ไม่มีความทุกข์ สิ่งนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "อายตนะนิพพาน" หรือ "ธรรมกาย" "อนัตตา" = เปลือกนอก ที่คุณกำลังเป็นอยู่ และจะเป็นต่อไปเรื่อยๆถ้ายังมีกิเลสอวิชชาอยู่ สิ่งนี้คือควมเป็นมนุษย์ของคุณ "อนัตตา" = เปลือกใน ที่คุณจะเป็นในอนาคต(กายทิพย์,อทิสมานกาย)เมื่อตายแล้ว แต่ยังไม่สามารถละทิ้งกิเลสอวิชชา สิ่งนี้คือควมเป็นเทพ เป็นเปรต เป็นพรหม ฯลฯ ของคุณ "อัตตา" แก่นแท้ ที่คุณเคยเป็น สิ่งนั้นไม่มีกิเลสอวิชชา มันจึงเป็นอมตะ เป็นนิรันดร ไม่มีความทุกข์ สิ่งนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "อายตนะนิพพาน" หรือ "ธรรมกาย" อ๋อ ...ยังงั้นหรือขอรับ ![]() ยังงั้นถามอีกนิดหนึ่งแล้วที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า อัตตา หิ อัตตโน นาโถ แปลว่า ตน แล เป็นที่พึงแห่งตน อัตตา นี่ล่ะจะว่ายังไง ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 มี.ค. 2010, 11:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
สวัสดีขอรับ ท่านคนดี ฯ ![]() ![]() หายไปไหนแล้ว ไม่สบายหรือเปล่าขอรับ ![]() รอคำตอบอยู่นะขอรับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนดีที่โลกลืม [ 23 มี.ค. 2010, 13:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
กรัชกาย เขียน: คนดีที่โลกลืม เขียน: "อัตตา" = แก่นแท้ ที่คุณเคยเป็น สิ่งนั้นไม่มีกิเลสอวิชชา มันจึงเป็นอมตะ เป็นนิรันดร ไม่มีความทุกข์ สิ่งนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "อายตนะนิพพาน" หรือ "ธรรมกาย" "อนัตตา" = เปลือกนอก ที่คุณกำลังเป็นอยู่ และจะเป็นต่อไปเรื่อยๆถ้ายังมีกิเลสอวิชชาอยู่ สิ่งนี้คือควมเป็นมนุษย์ของคุณ "อนัตตา" = เปลือกใน ที่คุณจะเป็นในอนาคต(กายทิพย์,อทิสมานกาย)เมื่อตายแล้ว แต่ยังไม่สามารถละทิ้งกิเลสอวิชชา สิ่งนี้คือควมเป็นเทพ เป็นเปรต เป็นพรหม ฯลฯ ของคุณ "อัตตา" แก่นแท้ ที่คุณเคยเป็น สิ่งนั้นไม่มีกิเลสอวิชชา มันจึงเป็นอมตะ เป็นนิรันดร ไม่มีความทุกข์ สิ่งนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "อายตนะนิพพาน" หรือ "ธรรมกาย" อ๋อ ...ยังงั้นหรือขอรับ ![]() ยังงั้นถามอีกนิดหนึ่งแล้วที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า อัตตา หิ อัตตโน นาโถ แปลว่า ตน แล เป็นที่พึงแห่งตน อัตตา นี่ล่ะจะว่ายังไง ![]() พระพุทธองค์ก็ตรัสชัดอยู่แล้ว เรามีแก่นเป็นอัตตา ซ่อนอยู่ในขันธ์ที่เป็นอนัตตาของเรา แก่นของเราคือพระเจ้าหรือพุทธะ ทุกข์ใดๆของเราจะหมดไปเมื่อเราเข้าถึงแก่นหรืออัตตาของตนเอง |
เจ้าของ: | natdanai [ 23 มี.ค. 2010, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
![]() ![]() ![]() เพลิดเพลินดีจังครับ ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 23 มี.ค. 2010, 16:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ถามความหมาย "อัตตา" กะท่าน คนดีที่โลกลืมหน่อย |
![]() ![]() ![]() ![]() ศพรักในโลงใจ คำร้อง - ทำนอง : ครูพยงค์ มุกดา ขับร้อง : นิตรา พึ่งสุจิตร จังหวะ : โบเลโร่ ( พูด ) ความรักเมื่อสิ้นแล้ว เขาก็ไม่หันหลังมาเหลียวแลเราแล้ว ในห้วงหัวใจก็มีสภาพคล้ายโกดังผี แว่วยินแต่เสียง......... ร้องหลิ่งพาเสมือนใครมาย้อนกระซิบสั่ง ให้ความรักเราถึงคราวเก็บฝัง ท่ามกลางหัวใจคลุ้มคลั่ง รักหักไม่ล้างกลางใจลำเค็ญ ธูปเทียนเวียนหอม.......... น้อมจิตใจยิ่งคิดนึกไปหัวใจยิ่งเต้น ตรอมตรมเผาใจรักใครจะเห็น ชั่วดีทุกมีเฉกเช่น เหมือนอย่างเดือนเพ็ญจากฟ้าราตรี รักจากพรากไป........... เหลือเพียงโลงดวงใจโศกนี้ เอาเนื้อเอาตัว ทั่วตนนั่นเป็นสักขี เอาแหล่งแห่งฝันวจี คล้ายเสียงดนตรีคอยย้อมดวงใจ แว่วใครมากล่าวขาน.......... เหมือนวิญญาณมาคิดรังควานร้องเรียกร่ำไห้ ไม่เคยเห็นร่าง เสียงครางเหือดหาย ยิ่งพาหัวใจเราให้ ซบอยู่เพียงในสุสานอุรา |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |