ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การประหาณอกุศลธรรม และสังโยชน์ โดยมรรค
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=30343
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Eikewsang [ 25 มี.ค. 2010, 19:09 ]
หัวข้อกระทู้:  การประหาณอกุศลธรรม และสังโยชน์ โดยมรรค

เนื่องจาก ได้มีการกล่าวถึงการประหาณอกุศลโดยพระโสดาบัน
โดยผิดไปจากที่ระบุไว้ในพระไตรปิฎก ทั้งนี้ด้วยความประมาท
ใน กระทู้ "ถ้ายังมีวจีทุจริต ก็ไม่ได้ชื่อว่าโสดาบัน

จึงขอนำการประหาณกิเลส คือ

อกุศลธรรม 12 และสังโยชน์ 10 โดยมรรคจิต 4

มาลงเพื่อยืนยันความถูกต้อง


การประหาณมี 2 ประเภท คือ

สมุจเฉทปหาน คือ ละได้เด็ดขาด
ตนุกรปหาน คือ ละได้โดยทำให้เบาบางลง

๐ โสดาปัตติมรรค คือ
-ทิฏฐิคตสัมปยุตตจิต 4 วิจิกจฉาสัมปยุตต 1 ประหาณเด็ดขาด 5
-ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต 4 โทสมูลจิต 2 ทำให้เบาบาง เฉพาะที่นำสู่อบาย(อปายคมนิยะ)

๐ สกทาคามีมรรค ทำให้เบาบางลง คือ
-ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต 4 โทสมูลจิต 2 ที่เป็นอย่างหยาบแต่ไม่นำสู่อบาย(โอฬาริกะ)

๐ อนาคามีมรรค ประหาณเด็ดขาดอีก 2 คือ
-ทิฏฐิตควิปปยุตจิตต 4 ประหาณเฉพาะเกี่ยวกับกามราคะ (สุขุมะ)
-โทสมูลจิต 2 สมุจเฉท

๐ อรหัตตมรรค ประหาณที่เหลือ 5
-ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต 4 ที่เป็นอย่างสุขุมะ เกี่ยวกับ รูปราคะ อรูปราคะ
-อุทธัจจสัมปยุตตจิต 1

สังเกต ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต 4 และ โทสมูลจิต 2
จำแนกได้ 5 ประเภท
1.ที่เป็นอปายคมนิยะ คือ ที่นำสู่อบายได้
2.ที่เป็นโอฬาริกะ คือ เป็นอย่างหยาบ แต่ไม่นำสู่อบาย
3.ที่เป็นสุขุมะ คือ ที่เกี่ยวกับ กามราคะ
4.ที่เป็นสุขุมะ คือ ที่เกี่ยวกับ รูปราคะ
5.ที่เป็นสุขุมะ คือ ที่เกี่ยวกับ อรูปราคะ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ว่าโดยการประหาณสังโยชน์

โดยนัยแห่งพระอภิธรรม

๐ โสดาปัตติมรรค ประหาณ 5
-ทิฏฐิสังโยชน์
-วิจิกิจฉาฯ
-สีลพพตปรามาสฯ
-อิสสาฯ
-มัจฉริยะฯ
(กามราคะ และปฏิฆะที่นำไปสู่อบาย)

๐ สกทาคามีมรรค
-กามราคะ และ ปฏิฆะ ที่เป็นอย่างหยาบ(โอฬาริกะ)

๐ อนาคามีมรรค ประหาณ 2
-กามราคะสังโยชน์
-ปฏิฆะฯ (ที่เป็นสุขุมะ)

๐ อรหัตตมรรค ประหาร 3
-มานสังโยชน์
-ภวราคะ
-อวิชชา

------------------------------------------

โดยนัยแห่งพระสุตตันตปิฎก

๐ โสดาปัตติมรรค ประหาณ 3
-สักกายทิฏฐิ
-วิจิกิจฉาฯ
-สีลพพตปรามาสฯ
(และกามราคะ และปฏิฆะที่นำไปสู่อบาย)

๐ สกทาคามีมรรค
- กามราคะ และ ปฏิฆะ ที่เป็นอย่างหยาบ (โอฬาริกะ)

๐ อนาคามีมรรค ประหาณ 2
-กามราคะสังโยชน์
-ปฏิฆะฯ (ที่เป็นสุขุมะ)

๐ อรหัตตมรรค ประหาร 5
-มานสังโยชน์
-รูปราคะ
-อรูปราคะ
-อุทธัจจะ
-อวิชชา

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 25 มี.ค. 2010, 20:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การประหาณอกุศลธรรม และสังโยชน์ โดยมรรค

Eikewsang เขียน:

๐ อรหัตตมรรค ประหาร 5
-มานสังโยชน์
-รูปราคะ
-อรูปราคะ
-อุทธัจจะ
-อวิชชา


?????????? :b10: :b10:

ประหาร ทั้ง 5 นี้ได้..เป็น..มรรค..หรือ..ผล???
:b10:

เจ้าของ:  Eikewsang [ 26 มี.ค. 2010, 09:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การประหาณอกุศลธรรม และสังโยชน์ โดยมรรค

กบนอกกะลา เขียน:
Eikewsang เขียน:

๐ อรหัตตมรรค ประหาร 5
-มานสังโยชน์
-รูปราคะ
-อรูปราคะ
-อุทธัจจะ
-อวิชชา


?????????? :b10: :b10:

ประหาร ทั้ง 5 นี้ได้..เป็น..มรรค..หรือ..ผล???
:b10:


คงต้องอธิบาย โดยลำดับ

จิตในขณะที่ปุถุชนท่านเข้าถึงมรรคญาณ
ไม่ว่าจะเป็นโสดาบัน หรือข้ามชั้นไปเป็นพระอรหันต์เลย
หรือพระอริยะบรรลุธรรมในระดับสูงขึ้น

เป็น....."กุศลจิต" แต่เนื่องจาก

เป็นจิตที่อยู่ในกลุ่มโลกุตตรจิต จึงได้ชื่อว่า "มรรคจิต"
เป็น "บัญญัติ" ครับ คือ ใช้เรียกชื่อโลกุตตรจิต ที่เป็นฝ่าย "กุศล"

แต่มีสภาวะธรรมอยู่ประการหนึ่ง ชื่อว่า "สัมมัตตนิยตา ธรรม"

คือ สภาวธรรมที่ "เป็นความดี" (กุศลธรรม) และ "ให้ผล" แน่นอน
ในลำดับแห่งตนติดต่อกัน "โดยไม่มีระหว่างคั่น" มีอยู่

เมื่อมีมรรคจิตเกิด ผลจิต ซึ่งเป็นจิตฝ่าย "วิบาก"
จึงเกิดติดต่อกันโดยไม่มีระหว่างคั่น ในลำดับแห่งตน
เช่น เมื่อโสดาปัตติมรรคเกิด....โสดาปัตติผล จะเกิดตามทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น
และ...เกิดครั้งเดียวแล้วจะไม่เกิดอีกเลย

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า โลกุตตรจิต จึงไม่มี กริริยาจิต
เหมือน มหากุศล รูป และ อรูปกุศล

สรุปคือ มรรค เป็น กุศล , ผล เป็น วิบาก

ขออนุโมทนาครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/