ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การบนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=30489
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  pladok [ 31 มี.ค. 2010, 16:57 ]
หัวข้อกระทู้:  การบนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่สนใจทางธรรม อ่านหนังสือธรรมะและเข้าวัดปฏิบัติธรรม จนมีความรู้สึกอยากไปบวชชีตลอดชีวิตในช่วงวัยกลางคน ที่นี้ดิฉันมีเรื่องที่ยังสานฝันไม่เสร็จลุล่วง ดิฉันจึงได้บนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์ (พระพุทธรูป) เพื่อขอให้สิ่งที่เราใฝ่ฝันนั้นประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ดิฉันก็ไม่ใช่คนที่จะรอบุญวาสนาส่งมา นอกจากลงมือทำ แต่มันก็เป็นอุปสรรคในหลายปัจจัยอยู่ คือ ทุน ที่นี่อยากเรียนถามท่านในลานธรรมจักรหน่อยคะ ว่าการบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสิ่งที่ทำได้ยาก แต่อยู่ในศีลธรรมจรรยานะคะ จะเป็นอะไรไหมค่ะ

ถามว่าทำไมถึงบนบาน เพราะรู้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นตามจิตอธิษฐานมีน้อยมาก แม้ตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นทาง แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากทำ นอกจากต้องเบนเข็มชีวิต เรียนใหม่ หางานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ขอ แล้วรอโอกาส ในขณะที่ตัวเองล่วงเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็อาจทำได้ค่ะ แต่โอกาสก็ยังน้อยอยู่ บางครั้งคิดว่าการบนบานเหมือนสร้างความเชื่อมั่นให้กับจิตใจ แม้ชาตินี้อาจไม่ได้ตามที่ขอ ก็ไม่เป็นไรคะ :b46:

เจ้าของ:  kokorado [ 02 เม.ย. 2010, 10:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์

การบนบานอาจจะเป็นที่พึ่งทางใจ แต่ถ้าสิ่งใด ๆ ล้วนสำเร็จด้วยการบนบาน
โลกนี้คงไม่มีใครผิดหวังในสิ่งต่าง ๆ ขอให้พึ่ง สติปัญญา ความมานะพยายามของตัวเอง
ฟ้าจะช่วยคนที่ช่วยตัวเอง ถ้าเหตุปัจจัยพร้อม ความปรารถนาของท่านก็จะสมหวัง

เจ้าของ:  chulapinan [ 02 เม.ย. 2010, 12:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์

บนบานได้ค่ะ แต่จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับกรรมค่ะ กรรมจะนำพาไปเองโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ และกรรมที่ถูกกำหนดมาแล้วแก้ไขไม่ได้ค่ะ สิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้คือสร้างกรรมดีสะสมเอาไว้ค่ะ

เป็นประเด็นนะคะ
อ้างคำพูด:
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่สนใจทางธรรม อ่านหนังสือธรรมะและเข้าวัดปฏิบัติธรรม จนมีความรู้สึกอยากไปบวชชีตลอดชีวิตในช่วงวัยกลางคน ที่นี้ดิฉันมีเรื่องที่ยังสานฝันไม่เสร็จลุล่วง ดิฉันจึงได้บนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์ (พระพุทธรูป) เพื่อขอให้สิ่งที่เราใฝ่ฝันนั้นประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ดิฉันก็ไม่ใช่คนที่จะรอบุญวาสนาส่งมา นอกจากลงมือทำ แต่มันก็เป็นอุปสรรคในหลายปัจจัยอยู่ คือ ทุน ที่นี่อยากเรียนถามท่านในลานธรรมจักรหน่อยคะ ว่าการบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสิ่งที่ทำได้ยาก แต่อยู่ในศีลธรรมจรรยานะคะ จะเป็นอะไรไหมค่ะ


ตอบเหมือนเดิมคือเป็นได้ค่ะแต่อยู่ที่กรรม


อ้างคำพูด:
ถามว่าทำไมถึงบนบาน เพราะรู้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นตามจิตอธิษฐานมีน้อยมาก แม้ตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นทาง แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากทำ นอกจากต้องเบนเข็มชีวิต เรียนใหม่ หางานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ขอ แล้วรอโอกาส ในขณะที่ตัวเองล่วงเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็อาจทำได้ค่ะ แต่โอกาสก็ยังน้อยอยู่ บางครั้งคิดว่าการบนบานเหมือนสร้างความเชื่อมั่นให้กับจิตใจ แม้ชาตินี้อาจไม่ได้ตามที่ขอ ก็ไม่เป็นไรคะ


ถ้ากรรมกำหนดมาว่าจะได้ก็ได้ค่ะโดยไม่ต้องขอด้วย คุณอยากเปลี่ยนสาขาอาชีพก็ยากหน่อยแต่มันก็อยู่ในวิสัยที่เป็นได้ การบนบานของคุณก็เป็นการช่วยเหลือคุณทางใจมากกว่าค่ะ ย้ำค่ะว่าอยู่ที่บุญกรรมที่คุณทำมาแต่อดีต

เจ้าของ:  -dd- [ 02 เม.ย. 2010, 13:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบนบานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์

คำว่าบนบาน ฟังดูคล้ายการอ้อนวอนขออำนาจอะไรบางอย่างมาช่วยทำให้เราได้ในสิ่งต้องการโดยเราปรารภจะให้สินจ้างรางวัลตอบแทน หรือติดสินบน..ปรากฏมีมากในลัทธินอกศาสนาเช่นพวกถือผี ไหว้จอมปลวก เจ้าต่างๆ

การอธิษฐานในทางคำสอนพุทธศาสนาเป็นการเรียกร้องเอา"คุณ หรือ บุญ "ที่เรามีอยู่จริงมาเป็นฐานเพื่อการส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่ตนต้องการ... เช่นในอดีตชาติของท่านพระอนุรุทธ (พระอนุรุทธเถระผู้ได้รับการแต่งตั้งจากพระบรมศาสดาให้เป็นยอดของภิกษุทั้งหลายผู้มีจักษุทิพย์) ได้เคยทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว
อธิษฐานว่า "ขอให้พวกข้าพเจ้าพ้นจากความอยู่อย่างลำบากเช่นนี้เถิด ขอข้าพเจ้าจงอย่าได้สดับคำว่า ‘ ไม่มี "...
....ตั้งแต่วันนั้น เขากระทำแต่กรรมอันดีงามจนตลอดชีวิตจุติจากภพนั้นไปเกิดในเทวโลก เวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์เป็นเวลานาน ครั้งที่พระศาสดาของพวกเราทรงอุบัติ เขาก็มาถือปฏิสนธิเป็น เจ้าอนุรุทธ พระโอรสแห่งเจ้าอมิโตทนะศากยะ ผู้เป็นพระอนุชาแห่งพระพุทธบิดา คือพระเจ้าสุทโธทนศากยะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ เจ้าอนุรุทธเป็นน้องชายของเจ้ามหานามะศากยะ ท่านทรงเป็นสุขุมาลชาติอย่างยิ่ง เป็นผู้มีบุญมาก ทรงมีโภคะสมบูรณ์ ไม่เคยทรงสดับคำว่า“ ไม่มี ” ......

อ่านเต็มที่นี่...
http://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-anurootta.htm

การอธิษฐาน ไม่ใช่การอ้อนวอนขอร้อง แต่เป็นการตั้งเจตนาให้ผลบุญมาส่งในแนวทางที่ตนต้องการ เปรียบเหมือนการตั้งเข็มทิศเพื่อไปสู่เป้าที่ต้องการ หากไม่มีเข็มทิศก็ไม่ถึงเป้า การตั้งเป้าที่เป็นประโยชน์ทั้งประโยชน์ในโลกนี้(หน้าที่การงาน) ประโยชน์ในโลกหน้า (การมีชีวิตที่ดี ได้พบพระพุทธศาสนา) และประโยชน์อย่างยิ่ง(การพ้นวัฏทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) เป็นสิ่งที่ควรทำ

ส่วนที่จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ๑. บุญที่ทำ มากหรือน้อย ๒. ปโยค หรือการประกอบกิจของตนเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น มีความเพียรบากบั่นอย่างไรเพื่อการไปสู่เป้าหมาย ๓. อกุศลที่เคยทำไว้ก่อนมีอำนาจเบียดเบียนอยู่หรือไม่ในเวลานั้น..

:b49: :b54: :b50:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/