ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=30528
หน้า 3 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  อายะ [ 05 เม.ย. 2010, 18:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

เรียนท่าน Eikewsang
ก็สรุปว่า ท่านเชื่อพระอาจารย์ปราโมทย์ 100 % ถ้าอย่างนั้นท่านน่าจะศึกษาธรรมคำสอนที่แตกต่างจากครูอาจารย์ท่านอื่นบ้าง
เท่าที่ผมหาเจอก็มี ห้ามเพ่ง ห้ามกำหนด ห้ามจงใจ สติเกิดไม่ต่อเนื่อง(อันนี้สำคัญมาก ) ต้องทำสมาธิตอนไหนไม่แน่ชัด ฯ ผมเคยโพสไว้แล้วหลายกระทู้เรื่องธรรมะที่ขัดกับหลักธรรม อย่างหลวงตามหาบัวนี้หนังสือท่านก็มากมายอีกทั้งชนทั้งหลายก็ประจักษ์แจ้งชัดว่าท่านเป็นพระอรหันต์ เป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่มั่น
เหตุผลที่ต้องคัดค้านก็เพราะว่าหากทำตามวิธีที่พระคุณเจ้าปราโมทย์ ท่านสอนแล้วจะไม่สามารถละทุกข์จริงๆ ได้ เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ



อ้างคำพูด:
ซึ่งโดยส่วนตัวผมพบความเปลี่ยนแปลงในตนเอง....โดยไม่เนิ่นช้า

ถ้าจะกรุณาช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคับว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผมก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะบุคคลแวดล้อมผมที่บอกว่า เคยโดนทัก สว่างแล้ว ถึงแล้ว
ผมก็ยังเห็น จั่วบ๊อกเด้ง เล่นบีบี แชตกับเพื่อน ดูเอเอฟ ติดเพลง ติดละคร เชื่อหมดดู ติดพระเครื่อง ฯ กิเลสอย่างหยาบละไม่ได้ซะอย่าง ผมก็อยากรู้เหมือนกันที่ท่านพบความเปลี่ยนแปลงนะ เปลี่ยนอย่างไร

เจ้าของ:  คาร์เนชั่น [ 05 เม.ย. 2010, 22:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

นิทาน
เขาให้ชื่อเรื่องว่า "ช่างไม่เมตตาเสียเลย" อาตมา แปลออกมา ตามตัว ว่า "ช่างไม่เมตตาเสียเลย" เขา

เล่าว่า ในประเทศจีน ในสมัยที่ นิกายเซ็น กำลังรุ่งเรืองมาก อีกเหมือนกัน ใครๆ ก็นิยมนับถือภิกษุ ในนิกายเซ็นนี้ มียายแก่ คนหนึ่ง เป็นอุปัฎฐาก ของภิกษุองค์หนึ่ง ซึ่งปฏิบัติเซ็น ด้วยความศรัทธา อย่างยิ่ง มาเป็นเวลาถึง ยี่สิบปี; แกได้ สร้างกุฏิน้อยๆ ที่เหมาะสม อย่างยิ่งให้ และส่งอาหารทุกวัน นับว่า พระภิกษุองค์นี้ ไม่ลำบาก ในการจะปฏิบัติ สมาธิภาวนาอะไรเลย แต่ในที่สุด ล่วงมาถึง ๒๐ ปี ยายแก่ เกิดความสงสัย ขึ้นมาว่า พระรูปนี้ จะได้อะไร เป็นผลสำเร็จ ของการปฏิบัติ บ้างไหม ที่มัน จะคุ้มกันกับ ข้าวปลาอาหาร ของเรา ที่ส่งเสียมาถึง ๒๐ ปี

เพื่อให้รู้ความจริงข้อนี้ แกก็คิดหาหนทาง ในที่สุด พบหนทางของแก คือ แกขอร้อง หญิงสาวคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาท่าทางอะไรๆ ยั่วยวน ไปหมด ให้ไปหา พระองค์นั้น โดยบอกว่า ให้ไปที่นั่น แล้วไปกอด พระองค์นั้น แล้วถามว่า เดี๋ยวนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ผู้หญิงคนนั้น ก็ทำอย่างนั้น พระองค์นั้นตอบ ด้วยถ้อยคำเป็น กาพย์กลอน poetically; ซึ่งค่อนข้างเป็น คำประพันธ์ ตามธรรมดา ของบุคคลบางคน ที่มีนิสัย ทางคำประพันธ์ ตรงนี้เขาเขียน เป็นคำประพันธ์ ซึ่งแปลเป็น ตัวหนังสือ ก็จะเท่ากับว่า

"ต้นไม้แก่ ใบโกร๋น บนยอดผา ฤดูหนาวทั้งคราวลม ระดมมา อย่ามัวหาไออุ่น แม่คุณเอย" ว่าอย่างนี้ เท่านั้น แล้วไม่ว่าอะไรอีก ไม่มีอะไร ที่จะพูดกันรู้เรื่องอีก

หญิงสาว คนนั้น ก็กลับมาบอก ยายแก่ อย่างที่ว่านั้น ยายแก่ก็ขึ้นเสียง ตะบึงขึ้นมาว่า คิดดูทีซิ ฉันเลี้ยงไอ้หมอนี่ that fellow ซึ่งตรงกับ ภาษาไทยว่า อ้ายหมอนั่น มาตั้ง ๒๐ ปีเต็มๆ มันไม่มีอะไรเลย แม้จะเพียง แสดงความเมตตา ออกมาสักนิดหนึ่ง ก็ไม่มี ถึงแม้จะไม่สนอง ความต้องการ ทางกิเลส ของเขา ก็ควรจะ เอ่ยปาก เป็นการแสดง ความเมตตา กรุณา หรือ ขอบคุณ บ้าง นี่มันแสดงว่า เขาไม่มี คุณธรรม อะไรเลย ฉะนั้น ยายแก่ ก็ไปที่นั่น เอาไฟเผา กุฎิ นั้นเสีย และ ไม่ส่งอาหาร ต่อไป แล้วนิทานของเขาก็จบ

นิทานนี้ สอนว่าอย่างไร จะเห็นว่าอย่างไร ก็ลองคิดดู คนบางคน เขาย่อมต้องการอะไร อย่างที่ตรงกันข้าม กับที่เราจะนึก จะฝันก็เป็นได้ นี่จงดูสติปัญญา ของคนแก่ ซิ แกมี แบบแห่งความ ยึดมั่น ถือมั่น ของแกเอง เป็นแบบหนึ่ง ยิ่งแก่ ยิ่งหนังเหนียว คือ หมายความว่า มันยิ่ง ยึดมั่นถือมั่นมาก ฉะนั้น ถ้าเราจะไปโกรธ คนที่มีความคิด อย่างอื่น มีหลักเกณฑ์ อย่างอื่น มีความเคยชิน เป็นนิสัย อย่างอื่น นั้นไม่ได้ เราต้องให้อภัย เราไม่โกรธใครเร็วเกินไป หรือเราไม่โกรธใครเลย นั่นแหละดีที่สุด และจะเป็น ครูบาอาจารย์ ที่มีความสุขที่สุด แล้วจะเป็น ครูบาอาจารย์ ที่ทำหน้าที่ ได้ดีที่สุดด้วย และสนุกที่สุดด้วย ฉะนั้น ขอให้จำไว้ว่า คนเรานั้น มีอะไรที่ ไม่เหมือนกัน มีอะไรที่ ไม่นึกไม่ฝัน กันมาก ถึงอย่างนี้

พุทธทาส ภิกขุ

เจ้าของ:  อายะ [ 05 เม.ย. 2010, 22:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

คาร์เนชั่น เขียน:
นิทาน
"ช่างไม่เมตตาเสียเลย"


เอาที่ท่านพุทธทาสเทศน์ในเรื่องทางโลกเพื่อให้ได้แง่คิด ซึ่งเป็น จินต กับสุตมยปัญญา ก็ไม่ได้ผิดอะไร
มารวมกับเรื่องธรรมปฎิบัติ(ภาวนามยปัญญา) อีกแล้วเวรกรรมแท้

เจ้าของ:  คาร์เนชั่น [ 05 เม.ย. 2010, 23:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

ขอโทษจริงๆนะคะ
หากความโง่เขลา
ทำให้แยกปัญญาทั้ง 3 ไม่ออก
เลยทำให้ไม่เข้าพวก

งั้นเชิญต่อ เลยนะคะ
ขออภัย จริงๆที่ทำให้เสียเวลา
tongue

เจ้าของ:  อายะ [ 06 เม.ย. 2010, 00:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

คาร์เนชั่น เขียน:
ขอโทษจริงๆนะคะ
หากความโง่เขลา
ทำให้แยกปัญญาทั้ง 3 ไม่ออก
เลยทำให้ไม่เข้าพวก

งั้นเชิญต่อ เลยนะคะ
ขออภัย จริงๆที่ทำให้เสียเวลา
tongue



ขอโหสิท่านคาเนชั่นด้วย อาจเป็นเพราะพิมพ์มากไปเลยจิตตก เลยใช้คำรุนแรงไป
ขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ

เจ้าของ:  enlighted [ 08 เม.ย. 2010, 12:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

30528.ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

ตถตาของภิกษุ ที่ยังมิใช่อรหันต์

เจ้าของ:  Kamonchanok [ 08 เม.ย. 2010, 12:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

enlighted เขียน:
30528.ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

ตถตาของภิกษุ ที่ยังมิใช่อรหันต์


smiley smiley smiley

เจ้าของ:  Eikewsang [ 08 เม.ย. 2010, 14:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

อายะ เขียน:
เรียนท่าน Eikewsang
เหตุผลที่ต้องคัดค้านก็เพราะว่าหากทำตามวิธีที่พระคุณเจ้าปราโมทย์ ท่านสอนแล้วจะไม่สามารถละทุกข์จริงๆ ได้ เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ


แล้วคุณจะไปสนใจท่านทำไม

ผมเองก็ไม่รู้ และไม่สนใจด้วยว่า ตัวผมจะบรรลุธรรใด หรือไม่

ทำทาน ถือศีล เจริญภาวนา เพียงทำเหตุไปเช่นนี้ เรื่อยๆ
จะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องเข้าไปสอดแทรก

ความเปลี่ยนแปลง หรือสภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้น หรือรู้ได้จากการปฏิบัติ
นักปฏิบัติไม่มีใครเอามาเล่าให้คนอื่นฟังหรอกคุณ

ถ้าคุณรู้จักหลวงพ่อวีระ วัดราชสิทธาราม
สอนกรรมฐานตามแนวตำราโบราณคุณจะต้องยึดหลักนี้

พระอาจารย์ปราโมทย์ฯ จะสอนถูกหรือผิด ผมก็พอจะมีปัญญารู้ได้อยู่บ้าง

เพราะผมก็ไม่ใช่ว่า จะมีอาจารย์เพียงคนเดียว

หลวงตา ผมก็เคยฟัง แต่ไม่ตรงจริต จึงไม่ชอบ
(ผมติดตามถึงขนาดเคยดู วีซีดี ที่ท่านพูดว่า
ท่านเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว)

อาจารย์ใหญ่ที่แท้จริงของผม คือ พระสัทธรรม
โดยมี มหาบิดาของผมคือ พระพุทธเจ้า

ส่วนพระอาจารย์ปราโมทย์ ตลอดจนอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่ผมนับถือ
ก็เป็นอาจารย์ อีกระดับหนึ่ง

เจ้าของ:  Eikewsang [ 08 เม.ย. 2010, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภิกษุ๒รูปก่อการทะเลาะวิวาท ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์

คาร์เนชั่น เขียน:
นิทาน
เขาให้ชื่อเรื่องว่า "ช่างไม่เมตตาเสียเลย" อาตมา แปลออกมา ตามตัว ว่า "ช่างไม่เมตตาเสียเลย" เขา

เล่าว่า .....ฯลฯ... ถ้าเราจะไปโกรธ คนที่มีความคิด อย่างอื่น มีหลักเกณฑ์ อย่างอื่น มีความเคยชิน เป็นนิสัย อย่างอื่น นั้นไม่ได้ เราต้องให้อภัย

คาร์เนชั่น เขียน:
ขอโทษจริงๆนะคะ
หากความโง่เขลา
ทำให้แยกปัญญาทั้ง 3 ไม่ออก
เลยทำให้ไม่เข้าพวก

งั้นเชิญต่อ เลยนะคะ
ขออภัย จริงๆที่ทำให้เสียเวลา


สวัสดีครับ... คุณคาร์เนชั่น

ก็เป็นเรื่องที่สอนให้มีเจริญเมตตาภาวนาใดดีเรื่องหนึ่งนี่ครับ

ผมไม่เห็นว่า เป็นการไม่เข้าพวกตรงไหนเลย

การมีจิตระลึกถึงความเมตตาในสัตว์บุคคลทั้งหลายอยู่เนืองๆ

ก็เป็นกรรมฐานชนิดหนึ่ง เรียกว่า เมตตาภาวนา โดย "ปิยมนาปสัตวบัญญติ" เป็นอารมณ์

ก็คือ มีสัตว์บุคคลเป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา

อยู่ในเรื่อง อัปมัญญา ๔

ศึกษาให้ดีจะได้แยกให้ออกระหว่าง

ตัณหาเปมะ กับ เมตตาอโทสะ

จิตที่ฝึกมาดีในการเจริญเมตตาภาวนา

จะเป็นที่รักของคนทั้งหลาย เพราะเป็นผู้มีจิตใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่
หน้าสดใส เพราะเป็นผู้ไม่โกรธ มีแต่จะให้อภัย


ความจริงเรื่องของคุณ คาร์เนชั่น
เป็นเรื่องที่น่าจะนำไปตั้งเป็นกระทู้ใหม่เพื่อมให้เพื่อนได้อ่านกัน
ผมขออนุญาตนำไปลงเลยก็แล้วกัน

ขออนุโมทนาครับ

หน้า 3 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/