ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระพุทธเจ้าเทศน์เรื่องเจตนา http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=31034 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เดียวดาย [ 22 เม.ย. 2010, 17:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระพุทธเจ้าเทศน์เรื่องเจตนา |
ตอนเช้า เมื่อพระพุทธเจ้าเทศน์โปรดพระ และประชาชน พระอรหันต์ทุกองค์ก็ฟังเหมือนกัน บางท่านคิดว่าพระอรหันต์หยุดทำความดีนั้นไม่ตรงความจริงตามความเป็นจริงแล้ว พระอรหันต์ขยันทำความดีมาก ทั้งนี้เพราะใจท่านสะอาด ท่านก็เลยชอบความสะอาด เมื่อความดีเป็นความสะอาด ท่านก็เลยทำเป็นปกติ และทำหนักกว่าท่านที่มีใจไม่ใคร่สะอาด เมื่อพระพุทธเจ้าเทศน์ ท่านเทศน์สอนวิธีทำใจให้สะอาด พระอรหันต์ต่างก็ฟังและเอาไปสอนคนอื่นต่อ หน้าที่ของพระสงฆ์ต้องทำใจให้สะอาด และสอนคนอื่นให้ทำความสะอาดใจ ไม่ใช่พระสงฆ์ทำใจให้สกปรกแล้วก็ชวนชาวบ้านให้สกปรกเหมือนตน เช่น เมาในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข วุ่นวาย เพราะเสื่อมลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อาการอย่างนี้ ไม่ใช่อาการของพระ เป็นอารมณ์ความต้องการของนักไปอบายภูมิ คุยกันต่อไป เมื่อพระพุทธเจ้าเทศน์จบแล้ว พระโมคคัลลาน์ท่านประสงค์ให้ประชาชนและพระปุถุชนเข้าใจเรื่องเจตนา จึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า คนที่ตั้งใจจะทำบุญ แต่ยังไม่ทันได้ทำ ตายเสียระหว่างทาง ไปเกิดเป็นเทวดามีไหม พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า "ก็เมื่อคืนนี้เธอไปพบมาแล้วใช่ไหม" พระโมคคัลลาน์รับว่า ใช่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอกล่าวว่า ความตั้งใจนั้นนั่นแหละเป็นบุญ" มีความหมายว่า อานิสงส์ของบุญกุศลเริ่มมีตั้งแต่เมื่อตัดสินใจว่าจะทำบุญแน่นอน ที่เอาพระสูตรเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็เพื่อประโยชน์ของท่านที่ทำบุญ เวลาประเคนของบางสถานที่จะต้องรอคนนั้นคนนี้ให้มาประเคนพร้อมกัน บางแห่งก็เล่นงูกินหาง เกาะกันเป็นแถวยาวเหยียด ที่เกาะไม่ทันก็คิดว่าไม่ได้บุญที่เป็นเช่นนี้เห็นจะเป็นเพราะผู้แนะนำศึกษาพลาดไปนิดหนึ่ง ผู้แนะนำควรเข้าใจว่า เมื่อจะประเคนของก็แจ้งให้ทราบทั่วกัน แล้วก็ประเคน ก็เป็นการดีมากแล้ว การเกาะกันโยงกันแบบนั้น คนที่ไม่เข้าใจจะเห็นเป็นจำอวดไปและทำกำลังใจของคนบางคนให้เสียเพราะประเคนไม่ถึงเกาะกันไม่ทัน ดีไม่ดีคนที่เกาะกันไกลเลยคิดว่าได้บุญน้อยกว่าคนที่อยู่ใกล้พระ เจตนาลดตัวหลัง ทำให้บุญที่จะพึงได้นั้นน้อยไป ทายกควรเข้าใจตามพระสูตนี้ก็จะดีมาก สูตรก่อนพูดถึงเรื่อง กากะเปรต จึงเอาสูตรนี้มาเปรียบเทียบให้ทราบว่า การทำบุญหรือทำบาป ผลจะเกิดขึ้นได้ในลักษณะไหน พระที่อนุญาตให้ของแก่ผู้ขอก็ต้องระมัดระวังของที่เป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านให้ได้ แต่ของส่วนกลางอย่างอาหารถวายพระพุทธรูปท่านไม่มีสิทธิ์ให้ เป็นของสังฆทาน ต้องหมดเวลาอาหารหลังเพลเสียก่อนจคงมีสิทธิ์ พระผมไม่เตือนมาก ถ้าเตือนมากเกินไปท่านจะต้องเหนื่อยมาก เพราะด่าผม |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |