วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 01:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบคุณ"enlighted" สีแดง คำตอบของผมสีดำเข้ม


.....พุทธศาสนาเป็นเทวนิยมครับ แต่พวกที่ฝึกไม่ถึงขั้น หรือฝึกวิปัสสนาอย่างเดียว เขาเข้าใจผิดเองว่า ศาสนาพุทธไม่ใช่เทวนิยม

จืนตนาการนิยม นิมิตนิยม

ตอบ ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าก็เป็นจืนตนาการนิยม นิมิตนิยม สินะ เพราะพระองค์ตรัสสอนเรื่อง 3 ภพ 31 ภูมิให้แก่เถรวาท และตรัสสอนเรื่องพุทธเกษตรต่างๆให้มหายาน

ถ้าเป็นจริงเรื่องอภินิหารต่างๆ เทพเจ้าต่างๆ แต่งขึ้นภายหลังหรือไม่
.....ตัวคุณก็เลยเป็นเทพมา แต่คุณจำไม่ได้ พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่าเทพเจ้าต่างๆมีจริง และอธิบายการไปเกิดเป็นเทพเจ้าแบบต่างๆด้วย

อืม เข้าทรงก็มี เทพเจ้า ลูกแก้ว ในกาย

ตอบ นั่นเป็นสิ่งที่มีมาก่อนแล้ว ก่อนพระพุทธเจ้าจะมาจุติด้วย

หลายศาสนาห้ามสงสัยในพระเจ้าและคำสอนของพระองค์
.....พระเจ้า คือ พระอรหันต์ที่เป็นพระพุทธเจ้า

อืม พระอรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้าเสียเองก็ได้
ตอบ ในรัตนตรัย มีพระพุทธ = อาทิพุทธ หรือ ต้นธาตุ-ต้นธรรม
มีพระธรรม = พระพุทธเจ้าต่างๆที่เกิดมาเป็นมนุษย์
มีพระสงฆ์ = พระอรห้นต์สาวกของพระพุทธเจ้าต่างๆ เขาเรียกว่า อนุพุทธะ


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 30 เม.ย. 2010, 11:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เกือบจะ อนุโมทนาสาธุแล้วคร๊าบ

แก้ใข ใหม่เหมือนกัน


แก้ไขล่าสุดโดย enlighted เมื่อ 30 เม.ย. 2010, 22:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พุทธศาสนา ไม่ใช่ศาสนาอเทวนิยม เพราะพุทธศาสนามีต้นตอมาจาก "ศาสนาพราหมณ์(ฮินดู)"

เจ้าชายสิทธัตถะ เคยเสด็จไปศึกษาในสำนักเชน จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนานี้คือการบำเพ็ญตนให้หลุดพ้นจากกิเลส โดยนักบวชในศาสนานี้ใช้วิธีการตัดกิเลสโดยไม่นุ่งผ้า

ข้อ ปฏิบัติของผู้ครองเรือน
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
2. เว้นจากการพูดเท็จ
3. เว้นจากการลักฉ่อ
4. สันโดษในลูกเมียตน
5. มีความปรารถนาพอสมควร
6. เว้นจากการฆ่าสัตว์เป็นอาหาร
7. อยู่ในเขตของตนตามกำหนด
8. พอดีในการบริโภค
9. เป็นคนตรง
10. บำเพ็ญพรตประพฤติวัตรในคราวเทศกาล
11. รักษาอุโบสถ
12. บริบูรณ์ด้วยปฏิสันถารต่ออาคันตุกะ

ข้อ ปฏิบัติของบรรพชิต
1. ห้ามประกอบเมถุนธรรม
2. ห้ามเรียกสิ่งต่างๆว่าเป็นของตนเอง
3. กินอาหารเที่ยงแล้วได้ แต่ห้ามกินในราตรี
(น่าจะมีอีก แต่ค้นได้เพียงเท่านี้)

หลังพ.ศ. 200 จึงกแตกเป็น 2 นิกาย คือ

1. นิกายทิคัมพร นุ่งลมห่มฟ้า
2. นิกายเศวตัมพร นุ่งขาวห่มขาว

หลังธรรมคล้ายพุทธไหม

อ้างคำพูด:
ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าก็เป็นจืนตนาการ นิยม นิมิตนิยม สินะ เพราะพระองค์ตรัสสอนเรื่อง 3 ภพ 31 ภูมิให้แก่เถรวาท และตรัสสอนเรื่องพุทธเกษตรต่างๆให้มหายาน


หลังพุทธเจ้าปรินิพานแล้ว พ.ศ. 100 สังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่สอง พุทธศาสนาในขณะนั้นแตกเป็น 2 นิกาย หินยาน กับ มหายาน แล้วพระพุทธเจ้าไปสอนพวก มหายานตอนไหน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
ตอบคุณ"enlighted" สีแดง คำตอบของผมสีดำเข้ม


อิอิ จิต ไม่ใช่เป็นของที่มีสีแดง หรือสีดำเข้ม ละจ้าๆๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"แกงได" ครับ

1. ย้ำ!พุทธศาสนา เป็นศาสนาเทวนิยมแน่นอน และบอกวิธีการเข้าไปสู่ความเป็นเทพในชั้นต่างๆให้ด้วย แม้แต่การเข้าไปเป็นเทพเจ้าหรือพระเจ้าที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย พระพุทธองค์ก็สอนให้

2. สมัยยุคพุทธกาลเขาไม่เรียกว่า มหายาน เขาเรียกว่า มหาสังฆิกะ คำว่ามหายานเพิ่งใช้เมื่อพศ. 5


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหอๆๆ

สำแดงอภินิหาร น้ำไหลออก ไฟไหลเข้า

เสกปุ๊ป บรรลุธรรมปั๊ป ทำได้ป่าว

อภินิหารยังไม่มากพอ

อ๊ะจ๊าก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 09:30
โพสต์: 108

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ การศึกษาทำให้เกิดปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 01:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
2. สมัยยุคพุทธกาลเขาไม่เรียกว่า มหายาน เขาเรียกว่า มหาสังฆิกะ คำว่ามหายานเพิ่งใช้เมื่อพศ. 5

พุทธศตวรรษที่ 5 ครับ แปลว่า พ.ศ.401 ถึง พ.ศ.500 ไม่ใช่ พ.ศ.5
นิกายมหาสังฆิกะ(महासांघिक)เป็นนิกายใหญ่ที่แยกออกมาจากคณะสงฆ์ ดั้งเดิมหรือฝ่ายเถรวาทเมื่อครั้งสังคายนาครั้งที่ 2 โดยแยกตัวออกไปทำสังคายนาต่างหาก ในระยะแรกนิกายนี้ไม่ได้รุ่งเรืองมาก เนื่องจากมีความขัดแย้งกับฝ่ายเถรวาทอย่างรุนแรง ต่อมาจึงมีอิทธิพลที่เมืองปาฏลีบุตร เวสาลี แคว้นมคธ ไปจนถึงอินเดียใต้ มีนิกายที่แยกออกไป 5 นิกาย คือ นิกายโคกุลิกวาท นิกายเอกัพโยหาริกวาท นิกายปัญญตติกวาท นิกายพหุสสุติกวาท และนิกายเจติยวาท และถือเป็นต้นกำเนิดของมหายาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 01:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อภินิหารที่ผมรู้จักมี 3 ชนิด
1. มายากล พวกล้วงตะปูออกจากท้อง หรือเอาไข่ถูไปตามร่างกาย เมื่อตอกไข่ออกมามีเส้นผมและเลือด ยังอีกหลายอย่างครับที่พวกหมอผีทำ
2. จินตนาการ เหมือนพวกเห็นผีในความมืด หรือเด็กๆเล่นรถ เล่นเครื่องบิน ผมก็เห็นแก่เข็นหรือจับบิน โดยแก่จินตนาการให้เป็นของจริง หรือพวกเมายา หรือจิตผิดปกติ
3. จิตใต้สำนึก พระพะยอมเคยนำเจ้าเข้าทรงมาออก tv คนทรงออกมาสารภาพว่าตนอุปโลกน์ตนเองเป็น เง็กเซียนฮองเต้ ทุกครั้งที่เข้าทรงจะมีชายคนหนึ่งมาดูทุกครั้ง วันหนึ่งคนทรงบอกว่า เง็กเซียนฮองเต้ ต้องการม้าใช้(คนรับใช้) มีคนหนึ่งในนี้เมื่อชาติก่อนเคยเป็นมาก่อน แล้วก็มองไปที่ชายคนนั้น คนทรงทำอย่างนี้ในวันหลังอีก 2-3 ครั้ง พอคิดว่าชายคนนี้เชื่อว่าตนเองเคยเป็นม้าใช้ คนทรงก็ชี้แล้วพูดว่า “เจ้าเคยเป็น ม้าใช้ของข้า” เจ้าม้าใช้ลุกขึ้นเต้นอาการเหมือนพวกคนทรงทั่วไป หลังจากวันนั้นเมื่อมีการเข้าทรงก็จะชวนม้าใช้ไปด้วยเสมอ โดยเจ้าม้าใช้เข้าใจว่าตนเป็นจริง เมื่อคนทรงกลับใจสารภาพกับพระพยอม เจ้าม้าใช้ไม่ยอมรับความจริง พยามจะให้ม้าใช้ประทับร่างตนแต่ไม่สำเร็จ ตอนหลังจึงยอมมาออก tv ร่วมกับ เง็กเซียนฮองเต้ ถ้าใครมีโอกาสไปวัดสวนแก้วก็ไปถามท่านพระพะยอมเอาเองพระท่านคงไม่โกหก นอกจาก ม้าใช้แล้ว ก็ยังมีพวกคนทรงเจ้าทั่วไปที่คิดว่าตนเองเป็นจริงๆ หรือพวกสักลาย ที่เข้าใจว่าตนเป็นสัตว์ตัวที่อยู่บนหลัง โดยมากมักเกิดกับคนที่เชื่ออย่างฝังหัว

คุณคิดว่า อภินิหารมีจริง ถ้าฝึกจะสามารถทำได้ ลองเลือกจาก 3 ข้อข้างบนว่าเข้าข่ายข้อไหน หรือลองอธิบายมาเป็นรูปธรรมว่าอภินิหารอย่างไรให้พอเข้าใจได้ง่ายหน่อย ผมไม่ค่อยฉลาดนัก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 04:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหอๆๆ

พวกหลงเชื่อ อิทธิฤทธ์ ปาฎิหารย์

สติปัญญาทางธรรมยังอ่อนนัก

ไม่รู้จัก คำว่า มายา ซ้อน มายา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 17:59
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนายอมรับว่าปาฏิหารย์นั้นมีจริงอยู่ และสามารถทำได้โดยการฝึกตามลำดับๆ แต่อย่างไรก็ตามพระพุทธศาสนาถือว่า เรื่องอิทธิปาฏิหารย์นั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ของการบำเพ็ญเพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดคือความสิ้นกิเลส ปาฏิหารย์นั้นมีหลายลักษณะ
และ อนุสาสนีปาฏิหารย์ เป็นปาฏิหารย์ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ
เจริญในธรรม :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ศรีสมบัติ เมื่อ 02 พ.ค. 2010, 16:48, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2010, 01:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑
สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค



อโยคุฬสูตร
ว่าด้วยการแสดงฤทธิ์

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ บรรทัดที่ ๗๐๒๘ - ๗๐๖๕. หน้าที่ ๒๙๓ - ๒๙๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2010, 02:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2010, 04:16
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: แนวนั่ง แนวนอน แนวดิ่ง แนวๆๆๆ
งานอดิเรก: อยู่ไม่เฉย
สิ่งที่ชื่นชอบ: การ์ตูน เรื่องจะเอาอะไรกับผม
ชื่อเล่น: อาร์ต
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหนือกว่าความธรรมดาในพระพุทธศาสนาคือ อริยะสัจ4


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2010, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑



ปาฏิหาริย์ที่ ๑

ปาฏิหาริย์ที่ ๒

ปาฏิหาริย์ที่ ๓

ปาฏิหาริย์ที่ ๔

ปาฏิหาริย์ที่ ๕




เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ บรรทัดที่ ๘๘๘ - ๑๐๐๖. หน้าที่ ๓๗ - ๔๒.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron