วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
อนุโมทนา ในกุศลผลบุญ ที่สัตว์เหล่านั้นได้เกิดมาเป็นคน

อนุโมทนาคร๋าบ


เขาถามว่า =>

อ้างคำพูด:
พอดีมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดมาค่ะเมื่อวันที่2 - 4 เมษายนที่ผ่านมานี้ค่ะ
แม่ชีได้สอนการปฏิบัติ การเดินจงกรมและการนั่งสมาธิ ชุดแรกให้ทำอย่างละ 15 นาที
วันแรกที่ได้ทำฟุ้งซ่านมากเลยค่ะไม่มีสมาธิ
วันที่สองก็ทำแต่ก็เหมือนเดิมค่ะ
พอตกเย็นได้สอบอารมณ์กับพระอาจารย์ท่านได้ให้การบ้านเพิ่ม เป็นนั่งสมาธิ 20 นาที เดินจงกรม 20 นาที 3 ชุดติดกัน
เราเริ่มทำกับเพื่อนอีกคนค่ะ ไปปฏิบัติกันที่พระธาตุ ชุดแรกผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอชุดที่ 2 ตอนนั่งสมาธิเริ่มรู้สึกว่าหายใจติดขัด หัวใจเต้นแรงมาก อยากอาเจียร เหมือนคนจะเป็นลมค่ะ
พอทำชุดที่ 3 ก็เป็นเหมือนเดิม เพื่อนที่ไปด้วยกันก็เป็น จึงคิดว่าอากาศร้อนไปหรือสมาธิไม่ดีพอรึเปล่า
ก็เลยคุยกับเพื่อนว่า วันรุ่งขึ้นค่อยทำกันตอนเช้า ว่าจะเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า

ตกตอนเช้าก็ไปปฏิบัติธรรมเหมือนเดิมคือทำ 3 ชุดเหมือนตอนกลางคืน แล้วก็ย้ายสถานที่ เป็นเหมือนเดิมค่ะ เป็นอาการเป็นเหมือนตอนกลางคืน
แต่คราวนี้นั่งไปทนไม่ไหว ร้องไห้เลยค่ะน้ำตาไหลออกมา หัวใจเหมือนจะเต้นออกมาจากอกเลยค่ะ
ตอนเย็นไปสอบอารมณ์ พระท่านก็ถามว่า ตอนนั่งสมาธิเห็นอะไรหรือเปล่า
เราก็เล่าไปตามอาการที่เกิดขึ้น
ท่านก็ไม่ได้ตกใจอะไร แค่บอกให้เรากำหนดรู้ แล้วไม่ต้องไปสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าเพราะอะไร จึงถามพระอาจารย์ ไปอีกรอบ
ท่านก็ตอบว่า เป็นพวกสัมพเวสี แถว ๆ วัดนี่แหละ โยมไม่ต้องไปอยากรู้หรอก



แต่กลับตอบ => "อนุโมทนา ในกุศลผลบุญ ที่สัตว์เหล่านั้นได้เกิดมาเป็นคน"

ตอบคำถามเหมือนที่เขาพูดกันว่า ไปไหนมา ? ตอบ สามวาสองศอกคร๊าบ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
เหอๆๆ

บุญบารมี ไง ไม่เท่ากัน

สวรรค์ชั้นดุสิต บารมี ก็น้อยกว่า นิมมาณ อยู่แล้นนนน



ไม่แน่นะงับ ถ้า พระโพธิสัตว์ อยู่ดุสิต แต่บารมี มากกว่า นิมมานรดี มากมายนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 15:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
noohmairu เขียน:
คนดีที่โลกลืม เขียน:
ผมเขียนด้วยสัมมาทิฏฐิ ทีมงานดันลบข้อความทุกข้อความของผมทิ้ง

ต้องปล่อยให้คนในเว็บศาสนามีมิจฉาทิฎฐิ และหลงทางต่อไป

เมื่อเสื้อแดงล้มระบบอำมาตย์ลงได้ นำประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมาได้ ระบบตุลาการเราก็จะไม่เป็น 2 มาตรฐาน ถึงเวลานั้น...คนในเว็บธรรรมะจึงจะเริ่มฉลาดขึ้น


อิอิ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ละจ้าๆๆๆ

คุณคนดีที่ขี้ลืม ก็ยังทำ นิพพาน ให้เป็นสองมาตรฐานมาแล้ว นะจ้าๆ



:b8:


คุณคนดีที่ขี้ลืม ก็ยังทำ นิพพาน ให้เป็นสองมาตรฐานมาแล้ว จะกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่น ควรบอกให้รู้ว่า ผมทำอย่างไร นิพพาน จึงมี 2 มาตรฐาน


มีอัตตา อนัตตา ไงละงับ

2 มาตราฐานนิพพาน

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
enlighted เขียน:
เหอๆๆ

บุญบารมี ไง ไม่เท่ากัน

สวรรค์ชั้นดุสิต บารมี ก็น้อยกว่า นิมมาณ อยู่แล้นนนน



ไม่แน่นะงับ ถ้า พระโพธิสัตว์ อยู่ดุสิต แต่บารมี มากกว่า นิมมานรดี มากมายนะงับ

อนุโมทนาคร๊าบ

บารมีมากกว่า ก็ไม่ไปอยู่สวรรค์ชั้นต่ำกว่าหรอกคร๊าบบ

อย่างนี้ สวรรค์ ซี้ซั้ว สองมาตรฐานนะคร๊าบบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
noohmairu เขียน:
คนดีที่โลกลืม เขียน:
ผมเขียนด้วยสัมมาทิฏฐิ ทีมงานดันลบข้อความทุกข้อความของผมทิ้ง

ต้องปล่อยให้คนในเว็บศาสนามีมิจฉาทิฎฐิ และหลงทางต่อไป

เมื่อเสื้อแดงล้มระบบอำมาตย์ลงได้ นำประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมาได้ ระบบตุลาการเราก็จะไม่เป็น 2 มาตรฐาน ถึงเวลานั้น...คนในเว็บธรรรมะจึงจะเริ่มฉลาดขึ้น


อิอิ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ละจ้าๆๆๆ

คุณคนดีที่ขี้ลืม ก็ยังทำ นิพพาน ให้เป็นสองมาตรฐานมาแล้ว นะจ้าๆ



:b8:


คุณคนดีที่ขี้ลืม ก็ยังทำ นิพพาน ให้เป็นสองมาตรฐานมาแล้ว จะกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่น ควรบอกให้รู้ว่า ผมทำอย่างไร นิพพาน จึงมี 2 มาตรฐาน


อิอิ ก็นิพพานBefore กะ นิพพานAfter ของคุณคนดีที่ขี้ลืมไงละจ้าๆ

ในกระทู้นี้ไงจำไม่ได้อีกละจ้า คุณคนดีที่ขี้ลืมจริงๆๆ ละจ้าๆๆ

viewtopic.php?f=1&t=30822&st=0&sk=t&sd=a

อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

กรุงเทพมหานคร

http://music.gmember.com/player/html_pl ... 8900049101

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 พ.ค. 2010, 20:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 20:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 60.57 KiB | เปิดดู 4072 ครั้ง ]
กรุงเทพราตรี

http://www.youtube.com/watch?v=SG84UDO-lBA

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 พ.ค. 2010, 22:23, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2010, 04:16
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: แนวนั่ง แนวนอน แนวดิ่ง แนวๆๆๆ
งานอดิเรก: อยู่ไม่เฉย
สิ่งที่ชื่นชอบ: การ์ตูน เรื่องจะเอาอะไรกับผม
ชื่อเล่น: อาร์ต
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก้ไม่เห็นจะมีอะไรต่างกันอย่างที่ท่านnatกล่าวนั่นล่ะ มีแต่ธรรม ไม่มีปุคลาอะไรๆร๊อก คนก็คือคนอันนี้เหมือนกันทัดเทียมเท่ากัน สิ่งที่ต่างคือในความเป็นคนนี่มันเป็นอย่างไรก้แค่นั้น มันเหมือนกันหมด
สิ่งที่อยู่ภายในคนนั่นก็อย่างที่คุณบุดดาว่านั่นล่ะ มันเป็นสภาวะอย่างนั้น คนเขาจึงเห็นได้ แต่ที่ไม่เห็นคือทำไมเราไม่ดีให้ได้อย่างนั้นบ้าง มันก็เท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 23:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2010, 04:16
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: แนวนั่ง แนวนอน แนวดิ่ง แนวๆๆๆ
งานอดิเรก: อยู่ไม่เฉย
สิ่งที่ชื่นชอบ: การ์ตูน เรื่องจะเอาอะไรกับผม
ชื่อเล่น: อาร์ต
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนมันมีเจ้านายชื่อกิเลส ใครไม่มีเจ้านายชื่อกิเลสนี่ เขาไม่เรียกคนว่าเขาเรียกพุทธะ :b25: :b25: :b25:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าของกระทู้ครับ

หัวข้อกระทู้จั่วไว้ "อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน"

อ้างคำพูด:
สิ่งที่ต่างนั้นเป็นเรื่องของวิบากกรรม และ กฏแห่งกรรม ก็เป็นสิ่งที่คนไทยควรจะทำความเข้าใจ เพราะหากเข้าใจถึงกฏแห่งกรรมแล้ว ชนชั้นอำมาตย์ และ ไพร่ ก็จะไม่มีในประเทศไทย


เจ้าของกระทู้ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ ลักษณะนี้ อ่านแล้ว งง ครับ

1.ไม่มีอะไรต่างกัน----- สิ่งที่ต่างเป็นเรื่องวิบากกรรม และกฏแห่งกรรม

2.ถ้าเข้าใจกฏแห่งกรรม---ชนชั้นอำมาตย์ และไพร่ ก็จะไม่มีในประเทศไทย

กรณีแรก ต่าง หรือ ไม่ต่าง? ใช้วิบากเป็นตัวอธิบาย หรือเปล่าครับ?
กรณีที่สอง ความเข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรม กับการแบ่งแยกชนชั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร?

:b10:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 03 พ.ค. 2010, 01:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า อำมาตย์ หรือ อำมาตย [ อำหฺมาด,อำหฺมาดตะยะ, ] น.

หมายถึง ข้าราชการ, ข้าเฝ้า, ที่ปรึกษา

แผลงมาจาก อมาตย์. (ส. อมาตฺย; ป. อมจฺจ).

ที่มาพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒


ความหมายแต่ละคำ

ข้าเฝ้า น. ขุนนางที่คอยรับใช้พระเจ้าแผ่นดิน.

ที่ปรึกษา หมายถึง ผู้ให้คำแนะนำ

ข้าราชการ หรือข้ารัฐการ คือ บุคคลซึ่งทำงานอยู่ภายในระบบราชการหรือรัฐการแล้วแต่กรณี

ส่วนองค์กรที่บุคคลดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่นั้นเรียก "ส่วนราชการ" หรือ "ส่วนรัฐการ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไพร่

คือ ราษฎรทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเจ้านาย ขุนนาง และทาส บุคคลกลุ่มนี้มีมากที่สุดในสังคม ชายฉกรรจ์ทุกคน

เมื่อมีอายุถึงกำหนดเริ่มตั้งแต่ 18 หรือ 20 ปี ต้องไปขั้นทะเบียนสังกัดมูลนาย มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ

มา ทั้งในภาวะที่สังคมสงบหรือมีสงคราม โดยที่ไม่มีการให้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด ไพร่แบ่งออกเป็นหลาย

ประเภท ได้แก่

ไพร่หลวง

ไพร่ส่วย

ไพร่สม

http://jove.prohosting.com/~golfth/map_city_sub_9.html

เพลงไพร่

http://www.youtube.com/watch?v=1wWw9fnlyzQ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 10:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 19:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อืม นาคิด


จะว่าต่าง มันก้ต่าง ต่างโดยบัญญัติ จริงโดยบัญญัติ มีอยู่จริงๆโดยบัญญัติ
จะว่าไม่ต่าง มันก็ไม่ต่าง ไม่ต่างโดยปรมัตถ์

เหมือนคำว่า "บุพการี"
จะว่ามีจริงมันก็มีนะ โดยบัญญัติแล้วมันมี
จะว่าไม่มีมันก็ไม่มี มันก็ไม่มีจริงๆ เพราะโดยปรมัถต์แล้วมันไม่มี


จขกท จะเอามุมไหนล่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 22:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



เพราะความไม่รู้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 01:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน หรือเปล่า

เป็นมนุษย์ไม่ต่างกันครับเหมือนกันทุกประการ

แตกต่างกันที่ ผลกรรมของแต่ละคนต่างหากดังนั้น ผลกรรมที่ตามมาจากชาติไหนๆ ที่สร้างเหตุไว้และยังไม่ชดใช้ ก็ต้องรับผลกรรมกันไป
ส่วนกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นในชาตินี้นั้น ใครสร้างกรรมดีก็จะทำให้ส่งผลไปเกิดในที่ๆดี ใครสร้างกรรมชั่ว กรรมที่หนักสุดๆคือการฆ่าคนบริสุทธิ์ ต้องรับผลกรรมนั้นต้องเป็นผู้ถูกฆ่า ทั้งในอเวจี และโลกมนุษย์หนีไม่พ้น :b8: :b48: :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร