ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=31179
หน้า 1 จากทั้งหมด 5

เจ้าของ:  natdanai [ 28 เม.ย. 2010, 14:51 ]
หัวข้อกระทู้:  อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมืองขณะนี้ มีอยู่หลายๆประเด็นของความขัดแย้งที่น่าจะนำมาพิจารณา จากหัวข้อที่ตั้งขึ้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่บรรดาผู้ชุมนุมนำมาปลุกระดม

สงครามระหว่างชนชั้น อำมาตย์ และ ไพร่ สมควรแล้วหรือที่จะมาเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นั้นนับถือพุทธศาสนา :b10: :b10:

ว่ากันตามหลักธรรมของศาสนาพุทธแล้ว...มนุษย์ทุกคนมีความเสมอภาค เท่าเทียมกันทุกอย่าง คือ เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย กันทั้งนั้น กระผมเองก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรต่างกัน
จะนอนโรงแรมบนเกาะส่วนตัว หรือนอนข้างถนนแถวแยกราษฏร์ประสงค์ ก็ต้องเจอเวทนาเหมือนกัน
จะนอนในพระราชวัง หรือนอนที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ต้องเจอเวทนาเหมือนกัน
กินน้ำจากถ้วยทองคำ ก็ไม่ต่างกันกับกินจากถ้วยพลาสติก เพราะก็แค่ดับกระหายเหมือนกัน

สิ่งที่ต่างนั้นเป็นเรื่องของวิบากกรรม และ กฏแห่งกรรม ก็เป็นสิ่งที่คนไทยควรจะทำความเข้าใจ เพราะหากเข้าใจถึงกฏแห่งกรรมแล้ว ชนชั้นอำมาตย์ และ ไพร่ ก็จะไม่มีในประเทศไทย

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 28 เม.ย. 2010, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

กระทู้พลีชีพหรือครับ ท่าน nat
นานๆเห็นพลีชีพทีนึงเนาะ

:b32:

เจ้าของ:  Bwitch [ 28 เม.ย. 2010, 16:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

รูปภาพ ..."วันนี้มันวิกฤติจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนกล้า แต่มันอาจจะไม่มีคนบ้าพอ”....

วันนี้ ท่าน nat มีใครที่ยังต้องห่วงอีกบ้างมั้ยคะ...รูปภาพ

เจ้าของ:  ชิโนะซึเกะ [ 28 เม.ย. 2010, 16:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

อะนะ :b32:

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 28 เม.ย. 2010, 16:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

:b13: :b12: :b4:

เจ้าของ:  enlighted [ 28 เม.ย. 2010, 17:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

เหอๆๆ

ของไม่เที่ยง มีประเทศไทย ก็ต้องมีอวสานประเทศไทย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 28 เม.ย. 2010, 17:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

เคยมีคนตั้งกระทู้รุ่งอรุณแห่งมิคสัญญี ประเทศไทยคงใกล้แล้วกระมั่ง เพราะปัจจุบันมองไม่เห็นผู้จะคลี่คลาย

ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติได้ มีแต่ผู้สุมไฟความขัดแย้งให้แรงขึ้นๆ

นี่ก็ใกล้เดือนพฤษภาแล้ว ดูกันว่าจะทมิฬหินทะชาดเหมือนปี 35 หรือยิ่งกว่าปี 35 :b22:

เหตุการรุนแรงเพิ่งเกิดเมื่อกี้แต่คลิปกระจายสู่ต่างประเทศแล้ว อนิจจา

เจ้าของ:  keaksim [ 28 เม.ย. 2010, 18:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

อ้างคำพูด:
enlightedเขียน : เหอๆๆ

ของไม่เที่ยง มีประเทศไทย ก็ต้องมีอวสานประเทศไทย


เขาเรียกว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดต่างหาก

และนี่ก็คือเวปไซด์ สอนธรรมะ อันหนึ่ง แต่ มิอาจช่วยอะไรได้ มีแต่เข้ามาหาเรื่องเถียงเอาชนะกัน แทนที่จะมาให้ความรู้ ผู้ที่ยังไม่รู้ เพิ่งเข้ามาใหม่ จะได้ศึกษาพระศาสนาอย่างถูกต้อง กลับต้องมาได้รับรู้ว่า ขนาดผู้เรียนรู้ธรรมะ ยังขัดแย้ง ชิงดีชิงเด่น ไล่บี้ขี่ตะครุบกันขนาดนี้ นับประสาอะไรกับ คนพวก 2 กลุ่มนั่นหละ จะเหลือสติปัญญา อะไรมาปกป้องกิเลส ตัวเองได้ นี่คือของจริงที่เกิดขึ้น ลองพินิจพิจารณาตัวเองดูบ้างเถิด เป็นผู้รู้ธรรมะ ข้อนั้นข้อนี้ อย่างนั้นอย่างนี้ สามารถที่ จะนำเอามาใช้ประโยชน์ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ได้อย่างไร ฤา.....จะเป็นเพราะพวกเรียน ศึกษาพุทธศาสตร์ เสียเองที่เป็นตัวทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน ........ไม่เชื่อในคำสอน และศรัทธา การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อย่างมันคงไม่หวั่นไหว เป็นผู้ทุศีล ไม่มีใจเมตตาต่อสรรพสัตว์ คิดแต่ว่า ฉันเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ จะทำอะไรก็ได้ ไม่สนใจ สัตว์ในภูมิอื่น ๆ เพราะฉันไม่เชื่อว่า จะมี ภูต ผี ปีศาจ เปรต ปอบ เทวดา มาร พรหม อะไรหรอกตำราเขียนไว้ให้กลัวกันเล่น ๆ เท่านั้น.....ทำบุญทานไปก็เพราะ สอนกันมาโบราณและทำไปงั้น ๆ ทำกับพระอะไรก็ได้ แม้ทุศีล เงินทอง ยุคสมัยนี้สมควรที่จะใส่บาตรด้วยเงินทอง ก็ไม่เป็นไร แม้ให้พระต้องอาบัติ ก็ได้ เดี่ยวพระก็ไปปลงอาบัติเอง ฉันก็ไม่สนใจ และไม่ต้องแบ่งปันบุญกุศลให้ใครอย่างถูกต้อง แผ่ิเมตตาไปเรื่อย ๆ เขาก็ได้รับเอง (แต่บางทีถ้าเจอลิงมันหิวกล้วยขึ้นมาเราได้สตางค์กับมัน มันก็ไม่เอานะ).....ตัวอย่างนี้คือการปฏิบัติตัวของผู้ที่ศึกษาวิชาพุทธศาสตร์ แทบทุกคนและครอบครัว.....แถมด้วย สวดมนต์อ้อนวอน...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง .....เป็นกันมากมาย...เพราะความหมายของมนต์ที่สวดยังไม่รู้แปลว่าอะไร แถมบางทียังจะไปเป็นเสียงรบกวนพวกไม่ชอบฟังบ้างก็มี...และคำว่า สวด ...แปลว่าประกาศ.....ประกาศธรรม การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อยู่ประเทศไทยสวดเป็นบาลี ...ผี ปีศาจ มันเลยฟังไม่ได้ น่ะซิ มันจึงได้กดหัวสมองผู้คน ให้ผิดเพี้ยนไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ อะไรคือเจ้าอะไรคือนาย อะไรคือขี้ข้า...คิดแต่ว่า เกิดมาต้องมีสิทธิ์ เท่ากันหมด....มันปรุงแต่งกันได้ขนาดนั้นหล่ะ..
จึงต้องมีวันนี้ที่วุ่นวาย.......และสงสารแต่ พ่ออยู่หัวนั้นแหละ...

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 28 เม.ย. 2010, 18:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

หลวงปู่ดูลย์เคยบอกว่า "คนสมัยนี้นี้ ทุกข์เพราะความคิด"
บ้านเมืองทุกวันที่เป้นปัญหา ก็ทำนองนี้
คือยึดถือความคิด ว่าความคิดนี้เป็น "ความจริง" แล้วก็ยึดอย่างเหนียวแน่น
แล้วก็พากันก่อกรรมไปตามกระแสความเชื่อของตน

ไม่มีใครสักคนนึง จะคิดว่า
"ที่ทำอยู่นี้คือความชั่ว ฉันยอมตายเพื่อทำความชั่ว"

มีแต่คนแน่วแน่แก่ใจว่า
"นี่คือความดี ฉันกำลังทำความดี ฉันยอมตายเพื่อรักษาความดี"

หนักเข้าหน่อยก็รู้สึกว่า อยากจะตี อยากจะฆ่า อีกพวกหนึ่งให้ตายลงไป

หนักเข้าไปอีก ก็เข้าใจว่าที่ทำอยู่นั้น เป็นมหากุศล เพื่อชาติ


นี่คืออำนาจสังขารธรรม อำนาจของความคิด
มันพาเราให้ตกต่ำลงจากความเป้นมนุษย์
พาเรากลายเป็นสัตว์

ความจริงเปรียบเทียบเป้นสัตว์นี่ ยังถือว่าดีไป
สัตว์นั้น จะฆ่าก้ต่อเมื่อเป้นอาหาร หรือป้องกันตน
แต่ชาวไทยนี่ เกรดต่ำกว่านั้น
เพราะว่าพากันอยากจะฆ่าจะตีคนอื่นด้วยความรู้สึกสะใจเล่นๆ (pleasure)
มีความสุขบนความเจ็บทุกข์ได้ยาก

คนประเภทที่ว่านี้ ไม่มีดีอะไรเพียงพอ ที่จะมารักษาชาติ
ที่รักษาๆกันอยู่ ก็คือรักษาความชั่วของตนให้มีกำลังเหนือผู้อื่นอยู่เท่านั้นเอง

เจ้าของ:  chulapinan [ 28 เม.ย. 2010, 19:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

ค่ะ ทุกอย่างเป็นไปตามกฏแห่งกรรมแต่คนเรามักไม่ยอมรับแบบนั้น เพราะอยากฝืนชะตากรรมเอากิเลสตนเป็นใหญ่ปัญหาเลยเกิดค่ะ

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 28 เม.ย. 2010, 20:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

ศาสนา ยังมี ศาสดาแห่งศาสนา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังมีผู้นำของมัน
สำมะหา อะไร กับมนุษย์ จะไม่มีผู้นำ หรือผู้ปกครอง คุ้มครอง ศูนย์รวมแห่งความรัก ความสามัคคี

กลุ่มบุคคลที่ใช้คนหมู่มาก เป็นเครื่องมือในการบีบบังคับ ข่มขู่ เขาเรียกว่า
"เผด็จการ คนหมู่มาก" หรือจะเรียกว่า "คอมมูนิสต์" ก็ไม่ผิดดอกขอรับ


เรียกร้องประชาธิปไตย เป็นข้ออ้าง โดยไม่สนใจว่า เงินภาษีอากรราษฎร จะฉิบหายอย่างไร ก็ช่างมัน เพราะไม่ใช่เงินของพวกมัน แล้วอย่างนั้นมันรักชาติ รักประชาธิปไตย จริงหรือ

เมื่ออยากให้มีการ ยุบสภา ก็ให้ ฯพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาได้เลย

แต่ให้พวกกลุ่มคนที่เรียกร้อง ออกเงินค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้งฯเองนะขอรับ เอ้า ฯพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรี ทำตามหน่อยเถิดน่า อยากจะรู้เหมือนกันว่า ใครรักประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากกว่ากัน

พุทธศาสนา มิได้สอนให้บุคคลมีความคิดว่า เท่าเทียมกัน แต่พุทธศาสนา สอนให้บุคคลรู้ว่า ทุกคน ล้วนย่อม เกิด ,แก,เจ็บ,ตาย เหมือนกัน ไม่แตกต่างกัน มีกรรม มีทุกข์ เป็นของตัวเอง เหมือนกัน

เจ้าของ:  natdanai [ 29 เม.ย. 2010, 11:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

Bwitch เขียน:
วันนี้ ท่าน nat มีใครที่ยังต้องห่วงอีกบ้างมั้ยคะ...


ก็ยังพอมีห่วงอยู่บ้างครับ เพราะยังวางได้ไม่หมด บางห่วงมันเหนียวติดมือน่ะครับ :b32: :b32:

เจ้าของ:  natdanai [ 29 เม.ย. 2010, 12:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

กรัชกาย เขียน:
เคยมีคนตั้งกระทู้รุ่งอรุณแห่งมิคสัญญี ประเทศไทยคงใกล้แล้วกระมั่ง เพราะปัจจุบันมองไม่เห็นผู้จะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติได้ มีแต่ผู้สุมไฟความขัดแย้งให้แรงขึ้นๆ

ผู้ที่จะคลี่คลายนั้นยังไม่มี...แต่เวลาที่ล่วงไปและเหตุปัจจัยต่างๆกำลังทำการคลี่คลายในตัวมันเองอยู่ :b6: :b6:

อ้างคำพูด:
นี่ก็ใกล้เดือนพฤษภาแล้ว ดูกันว่าจะทมิฬหินทะชาดเหมือนปี 35 หรือยิ่งกว่าปี 35 :b22:

คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอกครับ กระผมมองว่าฝ่ายผู้ชุมนุมนั้นแพ้ศึกติดต่อกันหลายครั้ง ขวัญและกำลังใจของผู้ชุมนุมนั้นลดลง ความหึกเหิมก็ลดลง เรี่ยวแรงก็ลดลง และเมื่อฝ่ายรัฐประกาศใช้กฏหมายอย่างจริงจัง และเอาจริงกับผู้ที่กระทำการเข้าข่ายก่อการร้าย พวกรับจ้างก็ลาออกไปตามๆกันอีก

ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายรัฐก็วางแผนได้ดี ถึงจะมีบกพร่องบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เสียกระบวนทัพ

อ้างคำพูด:
เหตุการรุนแรงเพิ่งเกิดเมื่อกี้แต่คลิปกระจายสู่ต่างประเทศแล้ว อนิจจา

อิทธิฤทธิ์ของคนยุคนี้ครับ

เจ้าของ:  keaksim [ 29 เม.ย. 2010, 16:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

จะตั้งชื่ออะไร พระพุทธเจ้า ก็เรียก สัตว์ในวัฏฏะ ...ทั้งนั้น
มันเกี่ยวอะไรกับชื่อของสัตว์ ภูมินั้นนี้ เืพื่ออะไร......
สมเพชตัวเองดีกว่า...
ทำไม ยังโง่ ดักดาน...ไม่พ้น..จากวัฏฏะ...ทุกข์ไปไ้ด้ซะที...
และยังมีคำสอนของพระพุทธองค์อย่างถูกต้อง บริบูรณ์อยู่ในกาลนี้
แต่ ดัน...พากันสอนแต่ ให้มีสติ......แล้ว สติ ..หายไปไหนกันหมด....

ลืมความมีสตางค์ คนมีสตางค์ก็ให้ถวายพระเยอะ ๆ ...จะได้บุญเยอะ ๆ...
จึงกลายเป็นทำบุญด้วยสตางค์ เลยทุกข์ ...จม...เจียนตายนี่ไหง ...
เพราะหลงแต่เอาเงินทำบุญ ถวายพระ....สร้างอะไรใหญ่โต ..ราคาหลาย ๆ ล้าน
ชาวบ้านจึงได้มีแต่ จน ลง จนลง....มันเป็นสูตรสำเร็จ ของคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง ๆ

ที่พระพุทธองค์ บัญญัติพระวินัยไว้ ....ห้ามภิกษุรับเงินและทอง........ห้ามยินดีเงินและทอง ...

แต่เพราะชาวพุทธไม่เอาคำสอน ....มัวแต่หาเงินทำบุญ จนตัวเองต้องทุกข์ ทรมารเจียนตาย...อย่างนี้แหละ....นี้คือสูตรสำเร็จของธรรมชาติ.....ใครจะเข้าหรือไม่เข้า ช่าง

ปล่อยให้ได้รับทุกข์ให้ตายซะ.......

เจ้าของ:  บ้านเรา [ 29 เม.ย. 2010, 17:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อำมาตย์ กับ ไพร่ ไม่มีอะไรต่างกัน

มีมิฏฉาทิฎฐิเข้ามาโจมตี

มีตัวกูของกูเมื่อไหร่ บรรลัยที่นั่น

ใครเชื่อไม่เหมือนข้า ก็ยอมเป็นควาย หรือยอดควาย ไม่รู้ท่านไปถูกควายที่ไหนจูงจมูกมา เลยมาควายในเว็ปนี้ที่ไม่เกี่ยวกับควาย พยายามจะยัดเยียดเรื่องของควายมาให้

เว็ปนี้ปราศจากสี..มีแต่เรื่องทางธรรมเข้ามาผิดที่ผิดทาง อยู่ๆก็มากล่าวหาคนในเว็ปนี้เป็นควาย เกิดกี่ชาติ
มาแล้วคุณที่ชอบควายรู้บ้างไหม มีความขัดแย้งแย่งชิงกันมากี่ภพกี่ชาติแล้ว จะเลือกสีอะไรก็เลือกไปเถิดท่าน ไม่มีใครในนี้เป็นควาย เพราะว่าเค้าแสวงหาความหลุดพ้นจากการเกิด

มาเรียกร้องหาประชาธิปไตย และความถูกต้อง ด้วยวิธีที่ใช้คำพูดแบบควาย ๆ แล้วจะได้ไหมท่าน ที่ท่านมาเว็ปนี้ใช่วาจาแบบนี้ มันแสดงถึงสกุลรุนชาติของท่านที่ต้องการประชาธิปไตยอย่างควายๆเลยหละ

สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล

หน้า 1 จากทั้งหมด 5 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/