ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32472 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | จันทร์ ณ ฟ้า [ 11 มิ.ย. 2010, 00:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
เป็นความเห็นของคนนึงที่น่ารับฟังค่ะ (ไม่รู้จะผิดระเบียบลานธรรมจักรหรือเปล่า ถ้าผิดก็แล้วแต่เห็นสมควรนะคะ) แหะๆ แต่ขอไม่ตอบกระทู้นะคะ แค่อยากให้อ่านเฉยๆ และพิจารณาตามหลักกาลามสูตรค่ะ หากข้อความใดอ่านแล้วทำให้เกิดอกุศลจิต ดิฉันขออโหสิกรรม ณ ที่นี้ ผมต้องบอกว่าผมเองก็คนเหมือนคนทั่วๆไป ที่ไม่ได้บรรลุธรรมอะไร และใช้แนวทางการปฎิบัติเรื่องสติปัฏฐาน 4 ขณะที่ใช้แนวทางสมาธิควบคู่ ผมต้องบอกว่าผมเองเคยฝึกปฎิบัติ ในเรื่องสติปัฏฐาน 4 ที่วัดแห่งหนึ่งภาคอีสาน ผมต้องบอกว่าผมสงสัยในหลวงพ่อหลายรูป แต่ผมคิดว่าถ้าธรรมะมีอยู่แนวเดียวคือ แนวของพระพุทธเจ้า เราควรใช้ปัญญาพิจารณาอย่างรอบคอบ อันไหนมันเข้ากับแนวพระพุทธเจ้าเก็บไว้ อันไหนเห็นไม่เข้าท่าจริงๆก็ปัดทิ้งไป อันไหนยังพิสูจน์ไม่ได้เก็บไว้ก่อน ผมต้องบอกว่าแม้กับหลวงพ่อรูปที่ท่านสอนผม มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ ผมก็ยังสงสัยว่าท่านสอนถูกแนวไหม แต่ผมใช้วิธีการพิสูจน์ที่ตัวท่านโดยตรง มีอยู่บ้างที่ผมคิดไม่ดีปรามาสท่านทางความคิด สุดท้ายผมก็ต้องไปขอขมาท่าน เพราะผมจัดตัวเองอยู่ในพวกปัญญามาก่อนศรัธทา ผมต้องบอกว่าแม้ผมสงสัย ผมจะไม่มาโพสต์ว่าท่านนู้นผิดท่านนี้ผิด เพราะผมคิดว่าถ้าท่านผิดจริงการแก้ปัญหาคือไปที่ต้นตอของปัญหา ผมจะลุยไปคุยกับท่านเลยแล้วชี้แจงว่า ท่านผิดอย่างนี้ ท่านผิดอย่างนี้ กรุณาตอบผมด้วยว่าสิ่งที่ผมคิดเห็นอย่างนั้นท่านว่าอย่างไร ผมต้องบอกว่าถ้าผมสงสัยจริงๆ แล้วมั่นใจว่าตัวเองถูก ผมแก้ที่ต้นตอคือใจตัวเอง ถ้าใจมันสงสัย ผมก็หาเหตุแห่งทุกข์ แล้วค้นพบว่าปัญหาคือผมสงสัยที่ตัวหลวงพ่อ สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือ ลุยไปที่ตัวหลวงพ่อ ที่เป็นต้นเหตุของความสงสัย เพราะพระพุทธเจ้าให้แก้ที่ต้นเหตุ ผมต้องบอกว่าถ้าท่านใดสงสัยในตัวหลวงพ่อรูปใดแล้วคิดว่าหลวงพ่อรูปนั้นสอนผิดจริงๆ หลวงพ่อไม่ควรออกมาสอนธรรมะ ให้ลุยไปที่ตัวหลวงพ่อเลย แล้วพูดให้ท่านเชื่อให้ได้ว่า ตัวเราเองเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ถูกต้องอย่างยิ่ง ถ้าท่านผิดจริงแล้วกลับตัวก็ควรอภัยท่าน ถ้าตัวเราเองผิดก็ขอโทษท่านเท่านั้นเอง แล้วก็เลือกปฏิบัติในสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ผมต้องบอกว่ากรรมที่ส่งผลกับคนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ ท่านสร้างความสงสัย สร้างความหลงให้คนหมู่มาก มันไม่ใช่กรรมน้อยๆเลยนะ ทำไมไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุล่ะ สิ่งที่ผมค้นพบหลังจากความสงสัยของตัวเอง คือ พระพุทธศาสนา สอนให้พึ่งตนเองมากกว่าพึ่งผู้อื่น "อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา" สิ่งที่ผมค้นพลหลังจากความสงสัยของตัวเอง คือพระพุทธศาสนา สอนให้พึ่งกัลยาณมิตร เพราะกัลยาณมิตรเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์ แล้วทำไมผมไม่สงสัยว่า 2 พุทธพจน์นี้ขัดแย้งกันล่ะ นั่นเพราะการปฏิบัติ ทำให้เข้าใจมากกว่าการ อ่านหรือศึกษาตามตำรา ท่านต้องพิสูจน์เองผมอธิบายมันเป็นคำพูดไม่ได้ แนวที่ท่านปฎิบัติอยู่ ที่ท่านว่าสำนักนั้นผิด สำนักนี้ผิด คำว่าผิดๆ ที่เพ่งโทษกันอยู่นั้น ท่านไม่เคยได้รับประโยชน์จากมันเลยหรือ ? แนวที่ท่านปฎิบัติอยู่ นั้นมาจากธรรมะแท้อันเดียวกันไม่ใช่หรือ ? ธรรมะที่นำ เอาคำสอนของครูบาอาจารย์ มาตอบโต้กันนั้น ครูบาอาจารย์ท่านรับรองแล้วหรือว่าท่านเข้าใจถูก ? ธรรมะที่นำ เอาคำสอนของพระพุทธเจ้า มาตอบโต้กันนั้น พระพุทธเจ้าท่านรับรองแล้วหรือว่าท่านเข้าใจถูก ? ธรรมะที่ถูกต้องจริง ต้องมีผู้ใดเป็นผู้รับรอง แล้วใครควรเป็นผู้รับรอง ? ธรรมะที่ถูกต้องจริง มันรับรองตัวมันเองไม่ใช่หรือ ? พระรูปที่จะช่วยให้ชี้แนวทางได้ ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นหรือ ? พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ฟังธรรมะจากพระอรหันต์เท่านั้นหรือ ? พระอาจารย์ที่สอน พุทธศาสนาตอนคุณเด็ก ท่านคงไม่ใช่พระอรหันต์ แต่ท่านสอนให้คุณได้รับประโยชน์จากมันไม่ใช่หรือ ? คำว่าความผิด ความถูก ที่เราๆ ท่านๆ เข้าใจถูกผิดตามความคิดของตัวเอง มันไม่ช่วยให้ท่านมีความสุขอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยคนไม่มีธรรมะหรือ ? แล้วหลวงพ่อที่ท่านคิดว่าผิด ไม่ได้ช่วยให้ท่านมีความสุขเพิ่มขึ้นมาบ้าง กับการมีธรรมะในหัวใจบ้างหรือ ? สุดท้ายนี้ท่านต้องกรองสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ตามหลักการพึ่งพาตนเอง ในขณะที่ท่านต้องมีเพื่อนธรรมร่วมเดินทาง ตามหลักกัลยณมิตร เพราะสิ่งหนึ่งกรองด้านใน สิ่งหนึ่งกรองด้านนอก ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่เคยขัดแย้งกัน มันขัดแย้งกันเพราะท่านไม่เข้าใจมันต่างหาก ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ท่านควรอ่านแล้วพิจารณาตามหลักกาลามสูตร |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 มิ.ย. 2010, 00:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
ควรหันมาแก้ปัญหาของตน...ก่อนเป็นดีที่สุด ที่ร่ำ ๆ อยากไปแก้ปัญหาผู้อื่น..มันกิเลสตัวเป้ง ๆ ของตัวเองทั้งนั้น ตัวเองจะตายวันไหน...ก็ไม่รู้.. จะจมอยู่ในกองมู้ดกองคูถอีกนานเท่าไร...ก็ไม่รู้ ยังมีแก่ใจไปแก้ปัญหาผู้อื่นอยู่อีกหรือ?? ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 11 มิ.ย. 2010, 01:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
กบนอกกะลา เขียน: ควรหันมาแก้ปัญหาของตน...ก่อนเป็นดีที่สุด ที่ร่ำ ๆ อยากไปแก้ปัญหาผู้อื่น..มันกิเลสตัวเป้ง ๆ ของตัวเองทั้งนั้น ตัวเองจะตายวันไหน...ก็ไม่รู้.. จะจมอยู่ในกองมู้ดกองคูถอีกนานเท่าไร...ก็ไม่รู้ ยังมีแก่ใจไปแก้ปัญหาผู้อื่นอยู่อีกหรือ?? ![]() ![]() ![]() สบายดีหรือคะคุณกบ ![]() พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ ![]() |
เจ้าของ: | mes [ 11 มิ.ย. 2010, 10:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
walaiporn เขียน: สบายดีหรือคะคุณกบ พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ ขึ้นอยู้กับไวรัสตัวนั้นมีขันธ์เท่าไหร่ (ตอบให้ขำ ครับ) |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 มิ.ย. 2010, 11:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
![]() ![]() ...กัลยาณมิตรที่ดีที่สุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...ยุคปัจจุบันก็คือพระอรหันต์จริงไหม... ...พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าพระธรรมและพระวินัยจะเป็นศาสดาเมื่อตถาคตได้ล่วงลับไปแล้ว... ...ธรรมะต้องศึกษาตลอดชีวิตและต้องอาศัยการฟังจากนักปราชญ์ที่ศึกษาและเผยแผ่ธรรมะด้วย... ...การตีความพุทธพจน์และคติธรรมขึ้นกับความรู้และเข้าใจคือปัญญาที่สั่งสมมาของแต่ละบุคคล... ![]() ...ทั้งผู้แสดงธรรมและผู้รับเอาธรรมต้องพิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจถูกจึงจะเป็นปัญญาของตน... ...การแสดงธรรมพิจารณาได้ทั้งจากการเห็นมาก่อน...ถูก-ผิดให้เข้าใจว่านั่นน่ะล้วนแต่เป็นธรรมะ... ...ให้พิจารณาก่อน...ไม่ใช่ให้หลงงมงายโดยไม่ลืมหูลืมตา...ถูก-ผิดก็แค่ให้รู้และละความเห็นที่ผิด... ...เพราะทุกสิ่งที่เราแสดงออกทั้งทางกาย วาจา จิตใจ ก็จิตใจดวงที่ทำกรรมย่อมต้องรับผลของกรรมนั้น... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | student [ 11 มิ.ย. 2010, 11:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
ผมโชคดีที่ผมไปวัดได้หนังสือการตอบปัญหาธรรมของพระอาจารย์ เทสก์ เทสรังสี แก่ผู้สงสัยในการปฏิบัติ จากการค้นตู้หนังสือในวัดเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมไปเจอหนังสือเก่ามากๆ หนังสือพิมพ์เมื่อปี 2525 หรือ ราว 30ปีมาแล้ว ตอนนั้นท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมอ่านปัญหาการปฏิบัติธรรมของหลายคนที่เป็นพระและแมีชีที่ถามปัญหากับท่าน และท่านก็แนะนำไปว่านั่งอย่างไรให้ดีขึ้น พิจารณาอะไร เช่น คนที่คิดว่าตัวเองได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ เราขอเตือนท่านว่าตอนนี้ท่านกำลังเสื่อมจากธรรมแล้ว ท่านรู้จริงเพราะท่านเป็นพระอริยะสงฆ์จากกระดูกท่านที่เป็นแก้วใสหลังมรณะภาพ ลองหาอ่านดู หนังสือ ธรรมปฏิบัติ พิมพ์ครั้งที่2 กรกฏาคม 2524 จำนวน 600 เล่ม (หกร้อยเล่ม) พิมพ์ที่โรงพิมพ์ ส สง่า 333ฝ4 ถนนพระราม1 กรุงเทพฯ สง่า ชุปวา ผู้พิมพ์โฆษณา |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 มิ.ย. 2010, 14:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
![]() ![]() ...โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการปฏิบัติของตนเองว่าปฏิบัติได้ไม่หลงทาง... ...เพราะข้าพเจ้าได้สดับเทศนาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระอรหันต์... ...คือเทศนาธรรมของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนที่เทศน์สอนพระเรียกว่าแกงหม้อจิ๋ว... ...และเทศนาธรรมที่เป็นแกงหม้อใหญ่คือเทศน์สอนทั้งพระและฆราวาสในคราวเดียวกันเลย... ![]() ...และมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อสภาวะธรรมที่ได้เคยสดับมาก่อนนั้นเกิดขึ้นและเห็นผลของการปฏิบัติเอง... ...และความเชื่ออันนั้นเพราะเหตุได้พิสูจน์แล้วไม่สงสัยด้วยเป็นปัจจัตตังคือความรู้เฉพาะตนเจ้าค่ะ... ...และแจ้งด้วยตาเนื้อว่าเจ้าอาวาสหลายรูปที่มรณภาพอัฐิเป็นพระธาตุเจอว่ามีเทปของหลวงตาในกฏิ... ...เหตุคือส่งพระลูกวัดผลัดเปลี่ยนกันหมุนเวียนกันมาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาดกับหลวงตาฯเป็นประจำ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 มิ.ย. 2010, 14:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
![]() ![]() ...การสั่งสมบุญกุศลเข้าสู่จิตใจต้องกระทำเป็นเนืองนิตย์ทำประจำๆจนเกิดเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง... ...แม้การฟังเทศน์อันเดียวกันครั้งแรกกับครั้งที่ร้อยก็เกิดความรู้ไม่เท่ากันเพราะต้องฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า... ...จนไม่สงสัยและรู้ตามสภาพธรรมะนั้นๆ แต่ละอย่าง ถ้ายังไม่หายสงสัยก็ต้องฟังซ้ำๆและอยากฟังซ้ำ... ...โดยลักษณะนิสัยส่วนตัวอ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศนาธรรม ก็จะน้อมจิตเสมอว่าท่านสอนเราจริงๆ... ...การศึกษาประวัติพระพุทธเจ้าก็น้อมที่จิตตนว่าทรงแสดงความจริงเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ให้เราได้รู้... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 12 มิ.ย. 2010, 00:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
walaiporn เขียน: สบายดีหรือคะคุณกบ ![]() พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ ![]() ![]() ตัวสบายดีครับ.. ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 12 มิ.ย. 2010, 00:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
Rosarin เขียน: tongue ![]() ...โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการปฏิบัติของตนเองว่าปฏิบัติได้ไม่หลงทาง... ...เพราะข้าพเจ้าได้สดับเทศนาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระอรหันต์... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 12 มิ.ย. 2010, 07:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
การเพ่งโทษผู้อื่น ไม่ใช่วิสัยของบัณฑิต ไม่ใช่การฝึกตนแก้กิเลสตน การเพ่งโทษตน เป็นการฝึกตนแก้กิเลสตน พ้นทุกข์ พ้นโศก พ้นโลกสงสาร สาธุขอรับ ![]() |
เจ้าของ: | anisa2521 [ 14 มิ.ย. 2010, 03:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
เคยสงสัยไหมว่า? หากธรรมะปัจจุบันไม่แตกจากพุทธกาล แล้วเหตุใดเราไม่บรรลุธรรมกันเลยล่ะ ผมว่านะก็เหมือนเราลอกการบ้านครับ ซึ่งส่วนมาพอได้คำตอบแล้ว ก็มักที่จะละเลยที่จะทำความเข้าใจกับมัน สักแต่รู้สักแต่ท่อง ปัญญาในการคิดใครควรไม่เกิด รู้ก็รู้ปลอมๆแตนๆ เด็กๆก็ท่องได้ว่าอริยสัจสี่คืออะไร?และมีอะไรบ้าง? แต่อริยสัจสี่แก่นแท้จริงๆ ต่อให้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ก็คงยากที่จะเข้าถึงและเข้าใจ เราสบายเกินไป รู้ธรรมะเหมือนเด็กเคี้ยวคำข้าว..ป้อนกินป้อนกิน..! แล้วรู้ไหมว่าข้าวคำนั้นกว่าจะได้มาต้องทำอย่างไร? เราเห็นก้อนข้าวบนโต๊ะ แต่รู้ไหมว่ากระบวนการมันมากเพียงใด? (กว่าจะปลูก-เก็บเกี่ยว-แลกเปลี่ยนซื้อขาย-ปรุงสำเร็จพร้อมทาน) มันง่ายซะจน เวลาเจอรสชาติไม่ถูกใจ จัดปัดทิ้งปวนทิ้งซะงั้น?? แถมเที่ยวมาด่าว่ากับคนป้อนข้าวอีกว่า เจ้าโน้นดีกว่าอร่อยกว่าอีก..นี่แหละวิสัยพวกเนรคุณ (ครูบาอาจารย์ท่านมีวาระธรรมไม่เหมือนกัน..การสอนก็ไม่เหมือนกัน..ไม่ชอบ-ไม่ตรงจริต..เราก็ไม่ควรดูแคลน) ของมันอยู่ข้างในแท้ๆ..ไหงหลงไปหาข้างนอกซะล่ะ..หลงๆๆๆๆ...! เราว่านะที่แน่ๆ..สิ่งที่เราเรียนรู้ได้,รู้สึกได้ คือ ตัวทุกข์ ไม่ต้องไปหาศึกษาธรรมเลิศหรูที่ไหนหรอก? เข้าใจมันตัวเดียวเป็นพอ รักก็ทุกข์ สุขก็ทุกข์ เขาว่ากันว่า..ความสุขคือความทุกข์ที่ลดน้อยลงไปเท่านั้น ในเมื่อทุกข์มันอยู่กับเราทุกขณะ ทุกลมหายใจ ทำไมเราไม่ศึกษาเหตุของทุกข์ซะล่ะ หากเรารู้ถึงต้นเหตุของทุกข์ ผลการที่จะดับทุกข์..คงจะต้องมีสักวัน (ยึดติดยึดมั่น พัวพันหลงไหล เชือกเกลียวเกี่ยวก่าย ว่ายวัฐวนกรรม) ศึกษาและฝึกฝนต่อไป..// ![]() ![]() |
เจ้าของ: | anisa2521 [ 14 มิ.ย. 2010, 04:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
ตอนพระพุทธเจ้าศึกษาสำนักของอาฬารดาบสและอุทกดาบสนั้น ท่านปฎิบัติจนถึงฌาน 8 แต่ก็ไม่บรรลุ ท่านเห็นว่าแบบนี้ไม่ใช่ทางหลุดพ้นแน่ๆ ก็เลยขอแยกตัวลาไปปฎิบัติด้วยองค์จนตรัสรู และก็กลับไปชี้ทางให้ผู้เป็นอาจารย์ได้เห็นแจ้งตามด้วย..สาธุ อาจารย์เสาร์เป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น แต่ศิษย์บรรลุก่อน ท่านก็ไม่เห็นยึดมั่นถือตัวเลย ท่านอาจารย์มั่นก็มาแนะกรรมฐานจนให้ผู้เป็นอาจารย์บรรลุตามกัน คนเราถ้ามีมิจฉาทิฐิ-ไม่ใจกว้างแล้ว ก็ยากที่จะปฏิบัติธรรมเห็นผล มาเอาอย่างพระพุทธเจ้าดีไหม? 1. ท่านไม่เคยตำหนิผู้เป็นอาจารย์เลยว่าทางนี้ผิด,ทางนี้ไม่ดี (แต่เรากลับว่าครูบาอาจารย์ทั้งที่เราเองก็ไม่รู้จริงๆซะด้วยซ้ำ) 2. ในเมื่อเรารู้ว่าไม่ใช่ ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์หน่อยดีไหม? พิสูจน์ให้รู้จริงๆหน่อยดิ อย่ามีแต่จับผิดสงสัย? ไม่รู้จริงอย่ามาคิดล้มทฤษฎีเขา 3. ในเมื่อคิดว่าตัวรู้ดี ก็ทำให้ดูทีซิว่าที่ตัวเองเชื่อนะ มันเป็นอย่างนั้น-มีผลออกมาอย่างนั้นจริงๆ 4. เก่งก่อนรู้ก่อน..แล้วค่อยมาเพ่งโทษคนอื่น (อย่าดีแต่จำเขามาพูดบ้างล่ะ? เขาว่าบ้างล่ะ? ตัวเองก็ไม่ได้อะไร? พาลคนจะเกลียดกว่าเดิมซะอีก.. ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 มิ.ย. 2010, 10:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: post ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกรูปนาม |
![]() ![]() ...เพราะเหตุไม่เข้าใจสภาวะธรรมตามเป็นจริง จริงๆ จึงหลงยึดมั่นถือมั่น... ...จึงต้องเทียวเกิดเทียวตายเพื่อมาเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมะตามความเป็นจริง... ...เพราะธรรมะคือธรรมชาติที่มีการเกิด-ดับตลอดเวลาโดยจิตไปยึดมั่นถือมั่นเอาไว้... ...เมื่อไม่เที่ยงจึงเป็นอนิจจัง ไม่มีตัวตนจึงเป็นอนัตตา การไปยึดถือจึงทำให้ทุกข์เกิดเป็นทุกขัง... ...ขออ้างอิงพระธรรมเทศนาของครูบาอาจารย์สายกรรมฐานที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมา...คิดตามว่าจริง?... ...สุขๆ ทุกข์ๆ คุกขังคน จะอาศัยในประเทศอะไรก็คือคุกดีๆที่ขังจิตคนให้เทียวเกิด-ตายไม่หยุดไม่ถอย... ...และขออ้างอิงในธรรมะของผู้ที่ศึกษาพระธรรมจนเข้าใจจริงๆจากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา... ![]() พระธรรมเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนควรศึกษาให้เข้าใจ http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=1032 ธรรมะคือความจริงจริงๆ http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=725 การรู้ความจริงประเสริฐกว่าอะไรทั้งหมด http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=664 ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |