ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ธรรมจริง ธรรมปลอม ?
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32676
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ต้อยตีวิด [ 20 มิ.ย. 2010, 08:11 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

"ธรรมของตถาคต แม้เป็นของจริง แต่เมื่อสถิตในโมฆะบุรุษ ธรรมนั้นก็กลายเป็นของปลอม"
ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้ เพื่อความเข้าใจ เป็นธรรมทานแด่ผู้รู้น้อยหน่อยนะค่ะ :b20: :b8:

เจ้าของ:  จันทร์ ณ ฟ้า [ 20 มิ.ย. 2010, 12:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ส่วนตัวคิดว่าธรรมไม่มีของจริงของปลอม
ธรรมเป็นของกลางๆอยู่ที่แต่ละคนจะรู้ได้แค่ไหนตามความหนาบางของอวิชชาที่มี
เพราะธรรมไม่ได้รู้ได้ด้วยการคิดนึกด้นเดา แต่รู้ด้วยการปฏิบัติ

ยังไม่เป็นผู้รู้ค่ะ แต่ขออ้างอิงธรรมของผู้รู้นะคะ

-----------------------------------------------------------------------------
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒

[๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษเปล่า บางพวกในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ
บุรุษเปล่าเหล่านั้น เล่าเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่ไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้นด้วย
ปัญญา ธรรมเหล่านั้น ย่อมไม่ควรซึ่งการเพ่งแก่บุรุษเปล่าเหล่านั้น ผู้ไม่ไตร่ตรองเนื้อความด้วย
ปัญญา บุรุษเปล่าเหล่านั้นเป็นผู้มีความข่มผู้อื่นเป็นอานิสงส์ และมีการเปลื้องเสียซึ่งความนินทา
เป็นอานิสงส์ ย่อมเล่าเรียนธรรม ก็กุลบุตรทั้งหลาย ย่อมเล่าเรียนธรรมเพื่อประโยชน์อันใด
บุรุษเปล่าเหล่านั้น ย่อมไม่ได้เสวยประโยชน์นั้นแห่งธรรมนั้น ธรรมเหล่านั้น อันบุรุษเปล่า
เหล่านั้นเรียนไม่ดีแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน ข้อนั้น
เป็นเพราะอะไร เพราะธรรมทั้งหลายอันตนเรียนไม่ดีแล้ว. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือน
บุรุษผู้มีความต้องการด้วยงูพิษ เสาะหางูพิษ เที่ยวแสวงหางูพิษเขาพึงพบงูพิษตัวใหญ่ พึงจับงูพิษ
นั้นที่ขนดหรือที่หาง งูพิษนั้นพึงแว้งกัดเขาที่ข้อมือ ที่แขน หรือที่อวัยวะใหญ่น้อยแห่งใดแห่งหนึ่ง
เขาพึงถึงความตาย หรือความทุกข์ปางตาย มีการกัดนั้นเป็นเหตุ ข้อนั้นเป็นเหตุเพราะอะไร
เพราะงูพิษตนจับไม่ดีแล้ว แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกบุรุษเปล่า บางพวกในธรรมวินัยนี้
ก็ฉันนั้นนั่นแล ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ ... อัพภูตธรรม เวทัลละ บุรุษเปล่าเหล่านั้น
เล่าเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่ไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้น
ย่อมไม่ควรซึ่ง การเพ่งแก่บุรุษเปล่าเหล่านั้น ผู้ไม่ไตร่ตรองเนื้อความด้วยปัญญา บุรุษเปล่าเหล่า
นั้นเป็นผู้มีการข่มผู้อื่นเป็นอานิสงส์ และมีการเปลื้องเสียซึ่งความนินทาเป็นอานิสงส์ ย่อม
เล่าเรียนธรรม ก็กุลบุตรทั้งหลาย ย่อมเล่าเรียนธรรมเพื่อประโยชน์อันใด บุรุษเปล่าเหล่านั้น
ย่อมไม่ได้เสวยประโยชน์นั้นแห่งธรรมนั้น ธรรมเหล่านั้น อันบุรุษเปล่าเหล่านั้นเรียนไม่ดีแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะ
ธรรมทั้งหลาย อันตนเรียนไม่ดีแล้ว.

เจ้าของ:  อินทรีย์5 [ 20 มิ.ย. 2010, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ผมคิดว่าธรรมของพระตถาคต เป็นจริงทุกประการ แต่ที่ไม่จริง
เพราะปฏิบัติไม่ถูกจุด และทำไม่ถูกวิธี อีกทั้ง ไม่ทำด้วยความพอดีและสม่ำเสมอ
ไม่ทำความตั้งใจและศรัทธาผลที่ได้ก้เลยกลายเป็นของปลอม เพราะของจริงต้องคู่
กับคนที่ทำจริง และไม่อย่บนพื่นศีลสมาธิปัญญาด้วย

เจ้าของ:  ศรีสมบัติ [ 20 มิ.ย. 2010, 14:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ต้อยตีวิด เขียน:
"ธรรมของตถาคต แม้เป็นของจริง แต่เมื่อสถิตในโมฆะบุรุษ ธรรมนั้นก็กลายเป็นของปลอม"
ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้ เพื่อความเข้าใจ เป็นธรรมทานแด่ผู้รู้น้อยหน่อยนะค่ะ :b20: :b8:

คำถามนั้นกว้างจริงๆ มองได้หลายแง่มุม..ขอให้ความเห็นตามภูมิปัญญาน้อยๆต้อยตีวิด
ง่ายๆ สั้นๆ...ธรรมเป็นของจริงที่เป็นจริงตามธรรมชาติ..มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
แต่เมื่อผู้ใดได้แลเห็น..ทุกอย่างตามความเป็นจริงตามธรรมชาติ..เห็นตรงถูกต้องตามธรรมชาติ..แล้วธรรมทั้งหลายก็ไม่ควรยึด..สิ่งทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น...มี เกิดขึ้น..ตั้งอยู่..ดับไป เป็นอย่างนี้..ปัญญา เกิดขึ้น..ปัญญาตั้งอยู่ และปัญญา ดับไป..ทุกอย่างจึงเป็นสิ่งสมมุติมันไม่จริง..นี่น่าจะเป็นมุมมองของ"โมฆะบุรุษ"เท่านั้น

ขอยกคำกล่าวของท่านพระพุทธทาส
....ของเท็จ ก็มิได้มีอยู่จริง
....ของจริง ก็มิได้มีอยู่จริง
....นอกจากของจริงคือความว่าง
....ของจริงนอกนั้นเป็นเพียงจริงอย่างสมมุติ
....หรือจริงอย่างบัญญัติ
....หรือจริงเพียงเท่าที่จะใช้เป็นอุบายสำหรับกำจัดของเท็จ
....หรือบำบัดความทุกข์ไปชั่วขณะหนึ่งๆ เท่านั้น
....ของจิรงแท้ซึ่งมีอยู่ตลอดกาลก็คือ ความว่าง
....ซึ่งไม่มีตัวตนที่ควรจะถูกเรียกว่า ของเท็จ หรือ ของจริง
แต่ประการใดเลย....

ขอเจริญในธรรม :b8:

เจ้าของ:  ต้อยตีวิด [ 20 มิ.ย. 2010, 15:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ขอบคุณเจ้าข้า กับทุกท่านที่เมตตา :b4: :b8:

เจ้าของ:  วิริยะ [ 20 มิ.ย. 2010, 16:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ธรรม หรือพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น เป็นของจริง ของแท้ ผู้นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อนำตนอันเป็นที่รักออกจากกาม สามารถพาตน พ้นจากทุกข์ พ้นโศก พ้นภัย พ้นโลกสงสารตั้งแต่พ้นจากน้อยไปหามาก คือ ตั้งแต่พระอริยะขั้นต้น คือโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี จนถึงพระอรหันต์ ได้จริง

ธรรมอันเดียวกันนี้แหละ โมฆะบุรุษ คือบุรุษผู้ไม่สนใจจะนำตนออกจากกาม โมฆะบุรุษนี้หมายรวมทั้งชายและหญิง ศึกษาธรรมนั้น เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ความมีชื่อเสียง ไม่แยแสกับธรรมวิเศษที่ตนมี ไม่น้อมนำเข้ามายังตน ปากพร่ำสอนแต่ผู้อื่น ให้ปฏิบัติอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ตนเองไม่เคยสนใจที่จะปฏิบัติตามที่ธรรมสอนผู้อื่น ธรรมนั้นจึงเป็นของปลอม ของเทียม ของไม่มีค่ากับโมฆะบุรุษ ท่านจึงเปรียบได้กับ

- ทัพพีในหม้อแกง ซึ่งไม่เคยได้ริ่มรสแกง
- ไก่ได้พลอย(เพชร) มองไม่เห็นค่า เมินเฉย
- มือถือสากปากถือศีล (แหะ..ไม่ทราบเข้ากันได้หรือเปล่านะ)

จึงพอจะกล่าวได้ว่า ธรรมแท้นั้น เมื่อโมฆะบุรุษนำไปศึกษาปฏิบัติ ก็กลายเป็นของปลอม ของเทียมไปได้

ดังกระผม ผู้เป็นโมฆะบุรุษพรรณามา ฉะนี้แล..ผิดพลาดขออภัยไว้ก่อนนะขอรับ
สาธุ.. :b8:

เจ้าของ:  Joyly [ 20 มิ.ย. 2010, 18:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ขอโมทนาคะ :b16: :b8:

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 20 มิ.ย. 2010, 20:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้ตอบคำถามครับ

ธรรมมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นของจริงแท้แน่นอน....แต่ผู้ที่ถ่ายทอดพระธรรมนั้นถ่ายทอดในสิ่งที่ตรงกับคำสอนหรือเปล่า....????....หมายความว่าอย่างนี้หรือเปล่าครับ จขกท..???

สำหรับผมแล้ว เมื่อมีของจริงก็ย่อมมีของปลอมเป็นของคู่กัน เหมือนด้านมืดกับด้านสว่างนั่นแหละครับ
ถ้าเราเป็นผู้รู้น้อยมากแต่รู้จริงนั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเรา แต่อย่างน้อยถ้าเราไม่รู้อะไรเลยอย่างน้อยผมเชื่อว่า ศีล 5 นี่เราต้องรู้บ้างล่ะ เพราะเรียนกันมาตั้งแต่ประถม แล้วถ้าเรานำศีล 5 มาปฏิบัติได้ครบก็ถือว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีคนนึงเลยครับ...


ถือโอกาสถามพี่น้องในนี้เลยว่า แล้วถ้ากลับกันกับคำถามของ จขกท ล่ะ

สมมติว่า ของปลอมมาอยู่ในมือคนจริงและคนชอบธรรมล่ะ คุณคิดว่าของนั้นจะกลายเป็นของจริงหรือของปลอมล่ะ อืมมมมมมมมมม......น่าคิดๆ.........???

พุทธคุณคุ้มครองครับ

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 20 มิ.ย. 2010, 20:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

วิริยะ เขียน:
จึงพอจะกล่าวได้ว่า ธรรมแท้นั้น เมื่อโมฆะบุรุษนำไปศึกษาปฏิบัติ ก็กลายเป็นของปลอม ของเทียมไปได้
ดังกระผม ผู้เป็นโมฆะบุรุษพรรณามา ฉะนี้แล..ผิดพลาดขออภัยไว้ก่อนนะขอรับ
สาธุ..


ธรรมแท้นั้น เมื่อโมฆะบุรุษนำไปศึกษาปฏิบัติ ธรรมนั้นก็จะขัดเกลาจิตใจโมฆะบุรุษผู้นั้นให้กลับกลายเป็นผู้ปฎิบัติธรรม เป็นคนจริง ปฏิบัติแต่คุณงามความดี และเป็นผู้ที่เห็นธรรม (ทำคนชั่วให้กลายเป็นคนดี...ประมาณนั้น)...ก็ด้วยประการฉะนี้

เจ้าของ:  ต้อยตีวิด [ 21 มิ.ย. 2010, 07:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

หลากหลายมุมมอง ขอบคุณคะ :b20: :b8:

เจ้าของ:  boonga [ 23 มิ.ย. 2010, 09:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมจริง ธรรมปลอม ?

ประเภท 1 มีธรรมแท้อยู่ในมือ แต่ไม่เห็นค่า

ประเภท 2 มีธรรมเทียมอยู่ในมือ เห็นคุณค่า

สรุปว่าทั้ง 2 ประเภท ไม่ได้ผลที่ ถูก ใช่ ตรง ตามอริยะสัจจ์ จนตัวตายครับ shocked

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/