วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 09:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 00:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2010, 21:05
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเกลียดครอบครัวบ้านหลังตรงกันข้ามมาก เพราะว่าตั้งแต่ย้ายบ้านมา คนในบ้านหลังนี้มีนิสัยเลวร้ายมาก "บ้านเรา" โดนตั้งแต่แรกๆที่เราย้ายเข้ามา

บ้านนั้นชอบด่า นินทา ดูถูกสอดรู้สอดเห็น วิพากษ์วิจารณ์บ้านเรา(โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงเลยซักนิด) กระทั่งจงใจด่าลอยๆก็มี เกิดมาไม่เคยเจอคนแบบนี้ นึกว่ามีแต่ตัวอิจฉาในละคร ที่ทำกัน
ทั้งๆที่พวกเราไม่เคยไปทำอะไรให้ ไม่เคยข้องเกี่ยวกับเค้า (เคยทักเค้าตอนย้ายมาใหม่ๆ แต่เค้าไม่ทักตอบ คงนึกว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น)

ต่อมา.. พอเรารู้ว่าคนบ้านนั้นเป็นอย่างไร เราก็ไม่อยากเสวนากับคนประเภทนี้ และไม่เคยเสวนาด้วย เราไม่ชอบ เข้าขั้นเกลียดก็ว่าได้

ซึ่งเราพยายามละอยู่ เพราะรู้ว่า .. ความเกลียด .. มันไม่ดี

.................

แต่ทุกครั้งที่เราพยายาม ก็ดูเหมือนมารพวกนั้นก็ยิ่งก่อกวน แกล้งด่าดังๆ บ้าง หรือทำกิริยาทรามๆต่างๆ เช่น จงใจขากเสลดดังๆหลายๆครั้งแบบตั้งใจ เวลาเรามายืนนอกบ้าน ด้านที่ติดกับบ้านพวกมัน

เราถือว่าสุดๆเลย คนแบบนี้ ..อเสวนา จะ พาลานัง..

คือตอนนี้เราเลือกวิธี ปิดหน้าต่าง ปิดม่านด้านที่ติดกับบ้านหลังนี้ และไม่ออกไปด้านที่ติดกับบ้านหลังนั้น ถ้าไม่จำเป็น เพราะเราไม่อยากเห็นหรือได้ยินอะไรเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ ให้จิตใจเราขุ่น มันบาป

..................

เราทำแบบนี้มาซักพักแล้ว ซึ่งจริงๆ เราไม่อยากทำวิธีนี้ เพราะนี่มันบ้านเรา จริงๆเราจะไปไหนมาไหน ก็น่าจะไปได้โดยอิสระ ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้

แต่ตบะเรายังมีไม่พอ เราไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูง เรากลัวว่า ถ้าบ้านนั้นทำกิริยาทรามๆ ฯลฯ อีก เราจะทรามตามมัน

เราควรทำอย่างไรดี ถึงจะละความเกลียดได้


แก้ไขล่าสุดโดย chickenpie เมื่อ 05 ส.ค. 2010, 00:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 03:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue อย่าไปรับการกระทำของคนอื่นมาเป็นอารมณ์ของตนโดยไม่รู้ตัว
ืทำให้อารมณ์ขุ่นมัว โกรธเคือง ซึ่งเป็นบาป
ให้คำนึงถึง กฏไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง แน่นอน
ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก
ให้มีสติระลึกรู้ ว่าทุกอย่างที่พบเจอ ที่ได้ยิน เป็นครูสอนให้มีความอดทน

มีความรู้จริง และให้ท่องไว้ในใจเสมอ "ช่างมันเถอะ"
ให้ทำทุกครั้งที่เกิดอารมณ์เข้ากระทบจิต แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
คุณจะอยู่กับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยความสุข สงบ
ถ้าไม่เชื่อ..ลองดูนะ :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองอดทน แผ่เมตตา สวดพาหุงสักตั้งนะครับ

แล้วเวลาไปไหน ลองซื้อขนมนิดหน่อยไปฝาก
เช่นอาจจะเป็น แค่ ขนมหม้อแกงซักถาด หรือนิดหน่อย

แล้วบอก ไปเที่ยมา เลยซื้อมาฝากจ้ะ


ลองดูว่าจะช่วยได้ไหม ทำสักสองสามที รับรองว่า ช่วยได้จริงๆครับ

ความเป็นพาล นั้น ก็เปลี่ยนแปลงได้ เช่นกันครับ และในตัวเราก็มี

ลองดูนิดนึง

จะไหวมั้ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 13:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 13:00
โพสต์: 599

งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม พัฒนาวัดร้าง
สิ่งที่ชื่นชอบ: กฎแห่งกรรม
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


sawaddee kaa พี่หมอจักรแก้วรัตนะ tongue

.....................................................
จงมีจิตใจที่ดี รักเพื่อนมนุษย์ เชื่อในความดีของผู้อื่น
และไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด จงพยายามยิ้มกับตัวเองแล้วบอกว่า
ตนเองมีความสุข สามารถแก้ปัญหาได้
ความคิดแบบนี้จะช่วยทำให้มีสติในการควบคุมสถานการณ์ต่างๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เจอเหมือนกันค่ะ
ย้ายบ้านมากี่หลังก็เจอเพื่อนบ้านแบบนี้ ทั้งที่บ้านเราทำดีสารพัด
เคยคิดว่าถ้าย้ายไปอยู่หมู่บ้านแพงๆ สิ่งแวดล้อมดีๆ เพื่อนบ้านจะดี
แต่ไม่ใช่เลย กลับร้ายยิ่งกว่าที่เจออีก ถึงขนาดเอายาฆ่าหญ้ามาราดต้นไม้บ้านเราให้ตายอะ
และมายืนตะโกนพูดจาหยาบคายหน้าบ้านเราติดกันหลายวัน
จนแม่เราสุขภาพจิตแย่ไปเลยช่วงนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมเคยคุยกันดีๆอยู่ๆเค้ามาเป็นแบบนี้
ตอนหลังมารู้สาเหตุว่าเพราะบ้านเราไปคุยกับอีกหลังนึงซึ่งเค้าไม่ชอบ

เลยคิดว่ากรรมไม่ได้ส่งผลที่ตัวบุคคลค่ะ
เพราะแรงส่งของเหตุยังไม่หมด เลยยังต้องรับผลอยู่
เราบอกแม่ว่าจริงๆคนที่น่าสงสารเป็นเค้ามากกว่า
ไม่มีใครคุยกะเค้าเลย แล้วเค้าต้องแบกความคิดร้ายๆ คำพูด การกระทำแย่ๆอยู่ตลอดเวลา
เค้าจะมีความสุขจริงๆได้เหรอ
แล้วนี่เค้าก็ไม่รู้ตัวหรอกว่า สิ่งที่เค้าทำไปทุกอย่างไม่มีโมฆะหรอก วันนึงเมื่อเหตุปัจจัยส่งผล
เค้าก็อาจต้องไปเจอเพื่อนบ้านแย่ๆอย่างเค้านี่แหละ หรือผลอย่างอื่นที่ทำให้ไร้สุขได้ใกล้เคียงกัน

อย่างคุณธรรมบุตรบอกค่ะ เราได้ครูฟรีๆสอนทั้งวิชาขันติบารมี เมตตาบารมี
จดหมายที่ไม่มีผู้รับ ก็ต้องถูกตีกลับไปหาคนส่งอยู่ดี เราก็ไม่ต้องรับมาดีกว่า
หลังๆเค้าก็เงียบๆไปค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ อดทนไว้นะ ถ้าเค้าไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการคุกคามชีวิตและทรัพย์สิน
ก็อย่าไปสร้างอกุศลกรรมเพิ่มเพราะพวกเค้าเลย ไม่คุ้ม
ทำเหตุใหม่ๆที่ดี เมื่อถึงพร้อม ผลก็จะดีเองค่ะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 07 ส.ค. 2010, 00:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาหูไปนา เอาตาไปไร่
ไม่มอง ไม่ดู ไม่รู้ไม่เห็น
ได้ยินเสียง..ก็ไม่ตีความหมายใดๆ
ไม่นึก..ไม่คิด ไม่ประดิษฐ์
ไม่ใช่สัตว์..ไม่ใช่บุคคล
ไม่มีตัวเรา...ไม่มีตัวเขา
มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ..มันมีแต่การสมมุติเอาก็เท่านั้น
เดินเลย แล้วก็เฉยไป ผัสสะใดๆ ที่มากระทบ
เกิดขึ้น...แล้วก็ดับไป....นี่ เอาปรมัตถ์ธรรมเข้าสู้


ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2010, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ให้ธรรมะ เป็นทาน
อาจดีกว่าให้ขนมหม้อแกง
ต้องแก้ที่จิตใจของเขา และของเรา

วิบากกรรมเก่า > ผัสสะ > เวทนา > ตัณหา > อุปาทาน > ทำกรรมใหม่

เกิดมาแล้ว หนีไม่พ้น ผัสสะ
เมื่อมีผัสสะ แล้ว ก็ต้องเกิดเวทนา ไม่สุข ก็ทุกข์ ไม่ทุกข์ก็เฉย
เมื่อเสวยเวทนาแล้ว ก็เกิดตัณหา ชอบ ไม่ชอบ
เมื่อมีตัณหา แล้ว ก็เกิดอุปาทาน ตัวกูของกู
เมื่อมีตัวกูของกูแล้ว ก็กระทำกรรมใหม่ ต่อไป

วิบาก> กิเลส >กรรม ...................................หมุนวนไปดุจล้อเกวียน

ไม่จบไม่สิ้น

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2010, 19:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2010, 21:05
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ

ตอนนี้เราอภัย และอโหสิกรรมให้กับพวกเค้าแล้ว เพราะไม่อยากให้ใจตัวเองต้องแบกความเกลียดไว้ มันทำให้เราไม่มีความสุขเลยค่ะ :b43:

ยังไงต่อไปนี้จะอดทน ไม่ว่าจะได้ยิน ได้เห็น หรือรับรู้อะไร จะไม่รับเข้ามาให้ใจขุ่นอีกค่ะ
ขออนุโมทนาทุกความเห็นอีกครั้งค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2010, 14:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


ประการแรก ขอให้ทำใจให้ว่างจากอารมณ์ทั้งปวงก่อน ตั้งสติให้ดี ใช้เหตุผลเข้าสู้

ประการที่ 2 ต้องหาทางผูกมิตรกับบ้านหลังอื่น ๆ ละแวกนั้นหลาย ๆ หลัง มันคงไม่เหมือนกันทุกคนหรอกนะ อย่างน้อย ถ้าบ้านตรงข้ามไม่ดีจริง บ้านอื่น ๆ เขาก็ต้องมีบ้างที่ไม่ชอบเขา เราไม่มีเพื่อนบ้านเลยก็จะอยู่ลำบาก แล้วยิ่งถ้าเราไม่เอาใครเลย ไม่ผูกมิตรกับใครเลย ก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้วนะครับ

ประการที่ 3 ใช้หลักธรรม สังคหวัตถุ 4 ครับ
ทาน ปิยะวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา......ต้องแปลไหม??????????


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2010, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chickenpie เขียน:
เราเกลียดครอบครัวบ้านหลังตรงกันข้ามมาก เพราะว่าตั้งแต่ย้ายบ้านมา คนในบ้านหลังนี้มีนิสัยเลวร้ายมาก "บ้านเรา" โดนตั้งแต่แรกๆที่เราย้ายเข้ามา


เราควรทำอย่างไรดี ถึงจะละความเกลียดได้

ปัญหามันเกิดเป็นกรณี2ฝ่าย การจะไปแก้ที่คนอื่นมันยากครับ
เราต้องแก้ที่ตัวเรา สิ่งที่เพื่อนบ้านทำมันต้องมีเหตุ เขาถึงได้ทำแบบนั้น
อยู่ดีๆไม่มีใครเขามาหาเรื่องคนโดยไม่มีสาเหตุหรอกครับ :b8:

ทำไมเราไม่สำรวจตัวเราเองว่า ได้กระทำอะไรให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง
โดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า ถ้าเราหาสาเหตุเจอเราก็คงแก้ปัญหาได้ไม่ยาก
ส่วนใหญ่คนเราชอบจะดูความผิดของคนอื่น จนอาจลืมดูตัวเราเอง

การกระทำของเราบางเรื่อง เราอาจมองว่าไม่เป็นไร แต่คนอื่นอาจไม่ใช่ก็ได้ครับ
เราทำอะไรไปเพื่อนบ้านอาจจะเกรงใจ ไม่กล้าบอกหรือกลัวมีเรื่อง
แต่พอครั้งต่อๆไปเลยกลายเป็นความโกรธ ผลก็เลยออกมาดังว่า
คือโกรธกันทั้งๆที่ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง

ลองหาสาเหตในตัวดู ถ้ายังหาไม่ได้ เราก็เปลี่ยนความโกรธแค้นของเรา
เป็นความกล้า เขาไปขอปรับความเข้าใจกับเพื่อนบ้าน เรื่องราวจะได้ไม่ลุกลาม
ใหญ่โตกว่านี้ครับ ที่สำคัญก่อนจะเข้าเรื่องควรกล่าวนำด้วยวาจาที่อ่อนหวานนะครับ
ไม่งั้นเดี๋ยวจะเข้าใจว่าไปเอาเรื่องเขา
:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2010, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 22:34
โพสต์: 173

ชื่อเล่น: เจ้ก
อายุ: 23

 ข้อมูลส่วนตัว


นานา จิตตัง ครับ ดีแล้วครับที่เจ้าของกระทู้ไม่ได้ทำกริยาเช่นคนข้างบ้านตอบกลับไป แสดงว่ายังหักห้ามใจตัวเองได้ครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ได้เจอกับตัวเราเองคงไม่รู้สึกอะไร จะว่ายังงั้ยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นขอแสดงความนับถือเจ้าของกระทู้น่ะครับ ที่หักห้ามใจตัวเองได้ครับ แต่ถ้าคุณทำแบบนี้ได้ก็แสดงว่าคุณมีธรรมมะในใจครับ งั้นผมว่าลองทำอย่างที่หลายท่านแนะนำก่อน หากไม่ได้ผลยังงั้ย ก็คงต้องหันกลับมามองที่ตัวเราเองครับ คือต้องช่วยตัวเองไม่ให้ไปพัวพันกับสิ่งเหล่านี้อย่างที่คุณทำในตอนแรกครับ แต่คงต้องใช้จิตใจที่เข็มแข็งมากกว่าเดิมครับ วางเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักวันถ้าข้างบ้านเขาเห็นว่าทำไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเขาคงเลิกทำไปเองแหละครับ หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะหายไปจากการดำเนินชิวิตของเจ้าของกระทู้เร็วๆน่ะครับ

เป็นกำลังใจให้น่ะครับ :b20:

.....................................................
จะขอเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า..เพื่อเติมเต็มธรรมที่ขาดหาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2010, 18:50
โพสต์: 24

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราไม่สามารถทำให้คนอื่นดีได้ดังใจเรา

แต่เราสามารถอบรมจิตใจเราให้มองความชั่วของคนอื่นแล้วใจเราเฉยๆ ได้

เวลาเจอสิ่งที่ไม่ชอบ ให้มองใจตัวเอง มองเข้าไปลึกๆ ความเกลียด
ความไม่ชอบ มันทำร้ายใครกันแน่ มันทำร้ายเราเอง หรือเขากันแน่ที่เร่าร้อนๆ
เดือดปุดๆๆ อยู่นี่มันใจของใครกันแน่

เจอครูมาสอบอารมณ์หน่อยเดียว ก็สอบตกแล้ว
เราต้องเจออะไรอีกมากมายกว่าเราจะตายจากกันไป
ดูเค้าเป็นอาจารย์สอบอารมณ์เรานะ คนสมัยนี้เค้าเรียกพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับกรรมของคนอื่น เพราะมันจะเป็นการสร้างกรรมต่อกันไปอีก
ไม่รู้จบ ผลัดกันรักผลัดกันเกลียดกันอยู่อย่างนี้ต่อไป เรื่อยหารู้จบไม่
แต่ถ้าคุณวางเฉยได้ คุณจะหลุดมาจากวงจรนี้ทันที

แต่การจะวางเฉยๆได้ มันต้องใช้ สติ ต่อเนื่องกัน จนเกิดปัญญา หน่ายในสิ่งนี้
หมั่นฝึกนะ แล้วเราจะเห็นทุกอย่างผ่านเข้ามา แล้วผ่านไป
มีสตินั่งดู นั่งรู้สิ่งที่ไหลผ่านเฉยๆ มันจะไม่ทุกข์ อย่ากระโดดเข้าไปเล่นกับมัน
มันจะเร่าร้อน ไปตามฉาก มันแค่มายาของกรรม แสดงให้ดู ไม่มีอะไรหรอกฯ

รักษาศีล 5 ไว้นะ อย่าสร้างกรรมเพิ่ม เดี๋ยวมันจะหนักกว่าเดิมฯ
เป็นกำลังใจให้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2010, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เราเกลียดครอบครัวบ้านหลังตรงกันข้ามมาก เพราะว่าตั้งแต่ย้ายบ้านมา คนในบ้านหลังนี้มีนิสัยเลวร้ายมาก "บ้านเรา" โดนตั้งแต่แรกๆที่เราย้ายเข้ามา

ต้องเอาความดีในจิตใจเข้าไปแก้ไข เมื่อบ้านหลังนั้นไม่ชอบเรา และเราก้ไม่ถูกชะตาหรือไม่ชอบอากัปกิริยาที่เขาทำมาทั้งหลาย หากให้อภัยเขาได้ ความโกรธความเกลียด ความกังวลความหนักใจเบาบาง
ลงแล้ว ก้ลองคิดแผ่เมตตาให้เขา ..."ให้เขามีความสุขอย่ามาโกรธเกลียดอะไรกันเลย"......ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ชอบขี้หน้าเรา ยังอยากแกล้งเราแล้วมีความสุขที่ได้แกล้ง แต่เราได้ให้อภัยเขาพร้อมแผ่เมตตาให้เขาเกิดความสุข ความสุขก้ได้เกิดในจิตใจตัวเองแล้ว นี่แหละเรียกว่า แผ่เมตตาให้ทั้งตัวเอง
คนที่เป้นศัตรูของเรา และมีแนวโน้มที่ให้ผลในทิศทางบวกด้วย เพราะเราเปนคนแรกที่สบายใจและตัดความโกรธได้ :b41: :b41:

ถ้าตามหลักธรรม ความมีความอดทนคือขันติ กับการปล่อยวางอารมณที่ขุ่นเคืองคืออุเบกขา ล้วนเป้น
คุณธรรมข้อแรกหรือขั้นพื้นฐานที่ทำให้เกิดปัญญา
:b39: :b39: :b39: :b40: :b40: :b40:


แก้ไขล่าสุดโดย อินทรีย์5 เมื่อ 28 ส.ค. 2010, 15:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 16:27
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความโกรธเป็นสิ่งไม่ดี น่าจะบาปด้วยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 19:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อนบ้านดิฉันเคยขู่ฆ่า เอามีดยาวๆมาขู่จะฆ่าแม่ดิฉัน

คงไม่ต้องพูดถึงความเกลียดที่เกิดขึ้นมากมาย ไม่รวมทีเขาเคยใช้สายตาแทะโลมดิฉันอีก

จนปัจจุบันก็คอยอาละวาดที่ร้านของดิฉันอยู่เรื่อยๆ

บอกได้เลยว่า กับบางคนเราไม่สามารถดีด้วยได้จริงๆ แต่ที่ทำให้ไฟในใจเบาลงๆๆจนเดี๋ยวนี้มอดไปแล้ว

นั่นคือ >>> ขันติ โดยสิ่งที่ทำให้เราอดได้ทนได้นั่นก็คือ การพจารณาว่าเขาก็คือคนพาล เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงใครได้เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเรา คติที่ท่องทุกครั้งก็คือ "ความชั่วของคนอื่น..อย่าให้มาทำเราทุกข์" (จำได้ไม่ถูกทุกอักขระ...จำได้แต่ว่า ประโยคนี้เอามาจากหนังสือ"ทั้งชีวิตให้อยู่ด้วยอานาปานสติ"ของพระอาจารย์มิตซูโอะ)

ลองดูค่ะ

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 136 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร