ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เห็นใจ คือ เห็นธรรม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=33851 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Joyly [ 15 ส.ค. 2010, 06:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
เห็นใจ คือ เห็นธรรม ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้เจ้าคะ เพื่อสนับสนุน คำกล่าวนี้ว่า เป็นจริงหรือไม่? ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ใบไผ่เขียว [ 15 ส.ค. 2010, 18:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ ![]() |
เจ้าของ: | จันทร์เจ้าขา [ 15 ส.ค. 2010, 21:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
เพราะธรรมเกิดที่ใจเจ้าข้า สาธุ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ศรีสมบัติ [ 15 ส.ค. 2010, 22:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
Joyly เขียน: เห็นใจ คือ เห็นธรรม รู้ เห็น ในใจตน..ว่า..เป็นเช่นไร ใจทุกข์..หรือ สุข สงบ..เฉยๆ ฟุ้งซ่าน หดหู่ เศร้าหมอง ฟู ลังเล สงสัย ลิงโลด โกรธ อิจฉา..หึง หวง เมตตา สงสาร ฯลฯ มี สติ ตามรู้ อยู่อย่างเท่าทัน ขอเจริญในธรรม ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 16 ส.ค. 2010, 11:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
Joyly เขียน: เห็นใจ คือ เห็นธรรม ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้เจ้าคะ เพื่อสนับสนุน คำกล่าวนี้ว่า เป็นจริงหรือไม่? ![]() ![]() เพราะ "ใจ" ที่อบรมดีแล้วด้วย "ศีล สมาธิ ปัญญา" ย่อมเป็นที่รองรับธรรมและเข้าถึงธรรมอันยิ่ง คือ พระนิพพาน ท่านจึงว่า เห็นใจ คือ เห็นธรรม ฉะนี้แล..ขอรับ ![]() |
เจ้าของ: | Joyly [ 17 ส.ค. 2010, 09:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
Joyly กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความรู้เป็นธรรมทาน สาธุจ้า ![]() ![]() |
เจ้าของ: | suthee [ 12 ก.ย. 2010, 13:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
การที่จะเห็นจิตเห็นใจตนเองให้ชัดเจนแจ่มแจ้งนั้นมีแต่พระพุทธเจ้ากับเหล่าสาวกพระอรหันต์เท่านั้นนอกนั้นจะเห็นได้แค่เปลือกแค่กระพี้ของจิตใจแล้วก็มาคุยอวดกันเล่นอาการต่างๆของจิตใจมันเป็นแค่เปลือกแค่กระพี้ของจิตใจทั้งนั้นเช่นความว่างความสว่างความสงบของจิตใจความวุ่วายความมืดมนความไม่สงบความฟุ้งซ่านของจิตใจสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นอาการของจิตใจไม่ใช่จิตใจแท้จิตใจที่แท้จริงนั้นมีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆมีอยู่แล้วภายในจิตของทุกคนเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์มีความสว่างอยู่ตลอดเวลาแต่ที่มืดไปนั้นก็เพราะว่ามีสิ่งมาบดบังดวงอาทิตย์จิตใจที่สามารถถอดถอนความมืดมนเช่นอวิชชาตัณหาอุปปาทานออกไปจากจตใจจนหมดแล้วนั่นแหละเราจึงจะเห็นใจของตนเองอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายจิตใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันคือบริสุทธิ์ล้วนๆคือธรรมหรือพระนิพพานนั่นเอง พระนิพพานอยู่ที่ใจ พระนิพพานอยู่ที่ใจ เห็นไหมเล่า ? ไม่มีว่างไม่มีเปล่า อยู่ทั้งนั้น จะมีอะไรเป็นเรา ที่ไหนกัน ? ทุกสิ่งนั้นดับไป เหลือใจเอย ชีวิตนี้ น้อยๆและสั้นๆ อย่าพากันปล่อยใจ เลยท่านเอ๋ย มีสติรู้อยู่ที่ใจ ให้คุ้นเคย ต้องได้เชยชม พระนิพพานอยู่ที่ใจ เป็นการอยู่กับผู้รู้ ละกิเลส จะมีเพศชั้นวรรณะ กันที่ไหน ? ทุกขณะที่รู้ อยู่กับใจ จงหมั่นใช้ปัญญา รู้ของจริง รู้ของจริงทิ้งของเท็จ ได้เด็ดเดี่ยว ไม่เกาะเกี่ยวแม้ความว่าง สว่างยิ่ง รู้อะไรก็ไม่สู้ รู้ใจจริง ยิ่งรู้ยิ่งหลุดพ้น ไม่ต้องเบิกบาน ความร้อนร้นหม่นไหม้ ไกลใจหมด พระนิพพานปรากฏ ก็ไม่ยึดเป็นแก่นสาร มีสติรู้ให้ได้ ทุกอาการ จะพบพระนิพพานจริงๆ ที่ใจเอย ! พระนิพพาน พระนิพพาน พ้นจากความมีและไม่มีให้คนเห็น พระนิพพาน พ้นจากความเป็นและไม่เป็นเช่นสังขาร พระนิพพาน พ้นจากความหมายและไม่หมายให้วิจารณ์ พระนิพพาน ไม่เกิด-ไม่ดับ คือจิตหรือรู้ล้วนๆที่บริสุทธิ์เอย suthee |
เจ้าของ: | อนัตตญาณ [ 12 ก.ย. 2010, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
สัพเพ ธัมมา อนัตตา สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน เมื่อใดที่เห็นว่าใจนี้ ไม่เที่ยง เห็นความแปรปรวน เห็นความเป็นอื่นไม่หยุดนิ่งเฉย เห็นความไม่ใช่อัตตาตัวตน...เมื่อนั้นจึงได้ชื่อว่าเห็นธรรม. หากทว่ายังเห็นใจนี้ เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา อยู่ ยังมิได้ชื่อว่า เห็นธรรมแต่อย่างใด. เห็นใจคือเห็นธรรม... เห็นว่าใจนี้แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ตัวตนแต่อย่างใด สักกายะทิฐิ สัญโญชน์ข้อแรกเป็นอันข้ามพ้นผ่านไปได้. เห็นปฏิจจสมุปบาท ก็อาจบอกได้ว่าเห็นใจ ได้ด้วยเช่นกัน เพราะมีคำกล่าวว่า ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผุ้นั้นเห็นธรรม เพราะปฏิจจสมุปบาท คือการบอกเล่าถึงขบวนการแห่งการปรากฏและการดับของธรรมนั่นเอง เมื่อยังไม่อาจปล่อย ละ วาง สละ ทิ้งคืน ธรรม และใจ นี้ได้ ก็คงจะเรียกว่าเป็นผู้เห็นใจ หรือเป็นผู้เห็นธรรม หรือเป็นผู้เห็นปฏิจจสมุปบาท ไม่ได้ ![]() เมื่อใดความเพลินกำหนัดยินดีไม่มีอยู่ในธรรมใดๆทั้งหลาย เมื่อนั้นความสิ้นสุดแห่งทุกข์จึงเป็นสิ่งที่มีได้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสุขที่เหนือกว่าสุขใดๆทั้งหลายทั้งปวง สุขที่ว่านั้น ก็ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ สุขที่ว่านั้น ก็ไม่อาจที่จะยินดีเพลิดเพลินหลงใหล ได้แต่ประการใด เพราะความเพลินยินดีนั้นแหละ คือมูลเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์... |
เจ้าของ: | natdanai [ 13 ก.ย. 2010, 12:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
Joyly เขียน: เห็นใจ คือ เห็นธรรม ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้เจ้าคะ เพื่อสนับสนุน คำกล่าวนี้ว่า เป็นจริงหรือไม่? ![]() ![]() เพราะธรรมะ เป็นเรื่องของใจ ปฏิบัติธรรมก็ปฏิบัติที่ใจ ตรัสรู้ก็ที่ใจ หลุดพ้นก็มีแต่ใจเท่านั้นที่หลุดพ้น ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | govit2552 [ 13 ก.ย. 2010, 20:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
ใจ คงเห็นได้ด้วยปัญญา จะเห็นได้ด้วยตาเนื้อ คงไม่เห็น |
เจ้าของ: | จางบาง [ 26 ก.ย. 2010, 23:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
รู้แจ้งจิตก็ยังไม่ชื่อว่ารู้แจ้งธรรมครบถ้วน แต่รู้แจ้งอริยสัจจ์ จึงชื่อว่ารู้แจ้งครบถ้วน |
เจ้าของ: | suthee [ 02 ต.ค. 2010, 00:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เห็นใจ คือ เห็นธรรม |
๑ . วิมุตติ ความหลุดพ้น อุทเทส ๑.วิราคา วิมุจฺจติ . เพราะสิ้นกำหนัด ย่อมหลุดพ้น, อนัตตลักขณสูตร, ๒. กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ. จิตหลุดพ้นแล้ว แม้จากอาสวะเนื่องด้วยกาม จิตหลุดพ้นแล้ว แม้จากอาสวะเนื่องด้วยภพ จิตหลุดพ้นแล้ว แม้จากอาสวะเนื่องด้วยอวิชชา. มหาวิภงฺค วินย, ๓. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติ, เมื่อหลุดพ้นแล้ว ญาณว่าหลุดพ้นแล้ว ย่อมมี. อตฺถิ ภิกขเว อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. ภิกษุทั้งหลาย อายตนะอันไม่เกิดแล้ว อันปัจจัยไม่ทำแล้ว ไม่แต่งแล้ว มีอยู่(หมายถึงจิตหรือรู้ที่บริสุทธิ์ล้วนๆนั่นเองคืออายตนะนิพาน ) ปาฏลิคามิวคฺค อุทาน. พระนิพพานอยู่ที่ใจ พระนิพพานอยู่ที่ใจ เห็นไหมเล่า ? ไม่มีว่างไม่มีเปล่า อยู่ทั้งนั้น จะมีอะไรเป็นเรา ที่ไหนกัน ? ทุกสิ่งนั้นดับไป เหลือใจเอย ชีวิตนี้ น้อยๆและสั้นๆ อย่าพากันปล่อยใจ เลยท่านเอ๋ย มีสติรู้อยู่ที่ใจ ให้คุ้นเคย ต้องได้เชยชม พระนิพพานอยู่ที่ใจ เป็นการอยู่กับผู้รู้ ละกิเลส จะมีเพศชั้นวรรณะ กันที่ไหน ? ทุกขณะที่รู้ อยู่กับใจ จงหมั่นใช้ปัญญา รู้ของจริง รู้ของจริงทิ้งของเท็จ ได้เด็ดเดี่ยว ไม่เกาะเกี่ยวแม้ความว่าง สว่างยิ่ง รู้อะไรก็ไม่สู้ รู้ใจจริง ยิ่งรู้ยิ่งหลุดพ้น ไม่ต้องเบิกบาน ความร้อนร้นหม่นไหม้ ไกลใจหมด พระนิพพานปรากฏ ก็ไม่ยึดเป็นแก่นสาร มีสติรู้ให้ได้ ทุกอาการ จะพบพระนิพพานจริงๆ ที่ใจเอย ! พระนิพพาน พระนิพพาน พ้นจากความมีและไม่มีให้คนเห็น พระนิพพาน พ้นจากความเป็นและไม่เป็นเช่นสังขาร พระนิพพาน พ้นจากความหมายและไม่หมายให้วิจารณ์ พระนิพพาน ไม่เกิด-ไม่ดับ คือจิตหรือรู้ล้วนๆที่บริสุทธิ์เอย ! |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |