ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อบายมุข ๖ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=34124 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 26 ส.ค. 2010, 20:50 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อบายมุข ๖ | ||
![]() ![]() ![]() อบายมุข ๖ อบายมุข หมายถึง ทางแห่งความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ หรือเหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ เป็นสาเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศและเสียทรัพย์สิน หรืออาจเป็นต้นเหตุให้สูญเสียชีวิตได้ นักปราชญ์ปัจจุบันได้ประพันธ์เปรียบอบายมุขเป็นผี ( ผี ๖ ตัว) เอาไว้ว่า ผีตัวที่หนึ่ง ชอบกินสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร ผีตัวที่สอง ชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้านรักลูกรักเมียตน ผีตัวที่สาม ชอบดูการละเล่น ไม่ละเว้นคลับบาร์ละครโขน ผีตัวที่สี่ ชอบคบคนชั่วมั่วกับโจร หนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน ผีตัวที่ห้า ชอบเล่นม้ากีฬาบัตร สารพัดถั่วโปไฮโลสิ้น ผีตัวที่หก ชอบเกียจคร้านการทำกิน มีทั้งสิ้นหกผีอัปรีย์เอย พระพุทธศาสนาสอนเรื่อง อบายมุข ๖ อย่าง ทั้งที่เป็นตัวเหตุและผลของเหตุไว้ดังนี้ ๑. เสพสุราและของมึนเมา มีใจหมกมุ่นอยู่ในสิ่งเสพติดให้โทษ จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ เสียทรัพย์, ก่อการทะเลาะวิวาท, เกิดโรค, ได้รับการติเตียน, ไม่รู้จักอายและปัญญาเสื่อม ๒. ชอบเที่ยวกลางคืน มีใจหมกมุ่นที่จะเที่ยว เที่ยวจนติด ต้องเที่ยวเป็นประจำ ไม่คำนึงว่าสถานที่นั้นมีอันตรายหรือไม่ จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ ไม่รักษาตัวเอง, ไม่รักษาลูกเมีย, ไม่รักษาสมบัติ, เป็นที่ระแวงสงสัยของคนทั้งหลาย, มักถูกใส่ความและเป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน ๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น มีใจหมกมุ่นครุ่นคิดที่จะไปหาความสำราญกับการละเล่นต่าง ๆ ไม่ตั้งใจทำงาน ลักษณะของการชอบดูการละเล่น เช่น มีรำที่ไหนไปที่นั่น มีการขับร้องที่ไหนไปที่นั่น เป็นต้น ๔. ติดการพนัน มีใจหมกมุ่นที่จะเล่นการพนัน เล่นจนติด จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ เมื่อชนะย่อมก่อเวร, เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสีย, ทรัพย์หมดไปอย่างเห็นได้ชัด, ไม่มีความเชื่อถือ, เป็นที่ดูหมิ่นของเพื่อน และไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร ไปมาหาสู่ ร่วมกินร่วมเที่ยวร่วมเล่นกับคนไม่ดี จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่างตามชนิดของคนชั่วที่คบ คือ คบนักเลงเล่นการพนันถูกชักนำให้เป็นนักเลงการพนัน คบนักเลงผู้หญิงถูกชักนำให้เป็นนักเลงผู้หญิง คบนักเลงสุราหรือผู้ติดยาเสพติดถูกชักนำให้เป็นนักเลงสุราหรือเป็นผู้ติดยาเสพติดด้วย คบนักเลงของปลอมถูกชักนำให้เป็นนักเลงของปลอม คบนักเลงหลอกลวงถูกชักนำให้เป็นนักเลงหลอกลวง และคบนักเลงหัวไม้ถูกชักนำให้เป็นนักเลงหัวไม้ ๖. เกียจคร้านการงาน ขี้เกียจทำงาน คิดหาอุบายมาอ้างเพื่อจะไม่ต้องทำงาน ทำให้ทรัพย์ใหม่ไม่เกิด ทรัพย์เก่าค่อย ๆ หมดสิ้นไป เหตุที่ยกมาอ้าง ๖ อย่าง คือ หนาวนัก, ร้อนนัก, เย็นแล้ว, ยังเช้าอยู่ , หิวนัก และอิ่มนัก แล้วไม่ทำการงาน ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | ทักทาย [ 26 ส.ค. 2010, 21:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อบายมุข ๖ |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 26 ส.ค. 2010, 22:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อบายมุข ๖ |
![]() |
เจ้าของ: | jekky [ 27 ส.ค. 2010, 17:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อบายมุข ๖ |
สาธุครับผม ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 27 ส.ค. 2010, 21:27 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อบายมุข ๖ | ||
![]() ![]() ![]() กลอนอบายมุข ๖ อบายมุขคือทางชั่วอย่ากลั้วใกล้ จงหลีกไกลถอยห่างอย่างเหมาะสม พระว่ามันคือผีเหมือนมีคม คอยหั่นให้เราล่มจมต่อไป ผีที่หนึ่งคือการเที่ยวกลางคืน จนดึกดื่นเที่ยวเตร่เถลไถล เสียเวลาเสียเงินและมีภัย อาจมีโทษขึ้นได้ในบางครา ผีที่สองคือชองดูการละเล่น มีที่ไหนโลดเต้นออกนอกหน้า ทั้งกลางวันกลางคืนดูตื่นตา ไม่นำพาการงานคร้ากระทำ ผีที่สามดื่มสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาพาถลำ ผีที่สี่เล่นพนันผลาญประจำ ผีที่ห้าเกียจคร้านทำนำการงาน ผีที่หกคบคนชั่วมั่วเป็นมิตร ไม่คบคิดคนดีมีหลักฐาน ผีทั้งหกจงหลีกไกลอย่าไปพาน จะสุขศานต์ชีวิตดีมีเจริญ ![]() ![]() ![]()
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |