ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=34328 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 05 ก.ย. 2010, 21:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
จาก suthee เขียน: อริยะสัจจ์ ๔ ของจิต จิต รู้เกิด-รู้ดับ เป็น สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้เกิด รู้ดับ เป็น ทุกข์ จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับเป็น มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้ไม่เกิด ไม่ดับ เป็น นิโรธความดับทุกข์ อริยะสัจจ์ ๔ ล้วนแล้วแต่เป็นแค่อาการของจิตทั้งนั้น จิตที่พ้นจากอริสัจจ์ ๔ จึงไม่มีอาการของสมมติใดๆทั้งสิ้น การไปการมา การตั้งอยู่หรือการดับไปของจิตจึงไม่มี สิ่ง ต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของสมมติทั้งสิ้น ที่กล่าวกันว่าจิตที่พ้นจากสมมติแล้วเป็นจิตดับความรู้ก็ดับด้วยนั้น เป็นความรู้ความเห็นของนักปฏิบัติธรรมประเภทสุ่มเดาต่อให้ด้นเดาต่อไปอีกนับกัปป์ นับกัลป์ไม่ถ้วนก็ไม่มีโอกาสพบพระนิพพานของจริง ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ จิตที่พ้นจากอริยะสัจจ์ ๔ นั่นเองท่านให้ชื่อให้นามว่า พระนิพพาน ความจริงแล้วจะเรียกว่าอย่างไรก็ไม่มีปัญหาสำหรับจิตที่พ้นแล้วจากสมมติโดยประการทั้งปวง จิตเป็นอกาลิโกตลอดอนันตกาลท่านเรียกว่า จิต เป็นวิสังขาร สังขารไม่อาจปรุ่งแต่งจิตนั้นได้อีกต่อไป สิ่งใดก็ตามขึ้นชื่อว่าสมมติย่อมตกอยู่ภายใต้กฏอะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา จิตที่อยู่ภายใต้ความเกิดและความดับจึงเป็นจิตที่อยู่กับสมมติของกิเลสดีๆนี่เอง จิตประเภทนี้ย่อมอยู่กับความเกิด-ความดับตลอดอนันตกาลเหมือนกัน เป็นจิตที่อยู่กับความเกิด-ความตายนั่นเอง แล้วจะเสกให้เป็นพระนิพพานได้ยังไง ? ผู้ที่ปัญญาเท่านั้นไม่ไว้วางใจกับจิตประเภทนี้ ยกเว้นพวกที่มีปัญญาอ่อนหรือปัญญาหน่อมแน้มไปหน่อยเท่านั้นเอง จิตที่พ้นจากสมมติเป็นจิตที่บริสุทธิ์ล้วนๆเป็นวิสุทธิจิต พ้นจากกฏอะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา ตลอดอนันตกาล เมื่อถึงที่สุดของจิตแล้วมันไม่มีชื่อเรียกด้วยซ้ำไป ที่กล่าวกันว่า สิ่งที่ไม่มีชื่อ ไม่มีฉายา ไม่มีการมา ไม่มีการไป ไม่มีการตั้งอยู่ และไม่มีการดับไป ไม่มีร่องรอยให้กล่าวถึง แต่มีอยู่จริง มันเป็นสันติสุขที่รุ่งเรืองและเร้นลับและมีอยู่อย่างสมบูรณ์ภายในจิตใจของทุกๆคนอยู่แล้ว นั่นแหละท่านเรียกว่าที่สุดแห่งทุกข์หรือพระนิพพานนั่นเอง พระนิพพานมีอยู่ตลอดกาล(อะกาลิโก)ไม่เลือกกาลเวลา ปฏิบัติเวลาใหนเห็นเวลานั้นไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ ภิกษุทั้งหลาย อายตนะอันไม่เกิดแล้ว อันปัจจัยไม่ทำแล้วไม่แต่งแล้วมีอยู่ (หมายถึงจิตหรือรู้ที่บริสุทธิ์ล้วนๆนั่นเองคืออายตนะนิพาน ) ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เราไม่กลับมาเกิดอีกตลอตอนันตกาล this nation is last our nation , we don't come back to are born again time stump suthee ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 05 ก.ย. 2010, 21:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
เจ้าบ้าน ก๊อป แปะ แต่ no comment เช่นนั้น ก็เดินมาดู แล้วก็จากไป เอิ๊กๆๆ |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 05 ก.ย. 2010, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
เช่นนั้น เขียน: เจ้าบ้าน ก๊อป แปะ แต่ no comment เช่นนั้น ก็เดินมาดู แล้วก็จากไป เอิ๊กๆๆ กำลังจะ comment หง่ะ ท่านเช่นนั้นมีกำลังนิ้วในการจิ้มดีดไวกว่า...หง่ะ อิ อิ เลยลืมไปเลยยยย ว่าจะ comment อะไร... คือ เสวนาแบบเบา ๆ หง่ะ.... เพราะเอกอน...เห็นว่า เป็นไงมาไง ไหง๋กลับตาลปัดไปได้เล่าท่าน... อ้า...ใช่....เอกอนนึกออกแล้ว.... มันเป็น ทัศนะแบบ กลับตาลปัด อิ อิ ไม่รู้ ตาลปัด หรือ ตาลปัตร อิ อิ แบบว่าเอกอนเกือบตกภาษาไทยทุกเทอม... ![]() แต่ได้ภาษาอังกฤษเกรด 4 อิ อิ น่าตีบบบบออกนอกประเทศ...เน๊อะ... คือ...จะมีอยู่บ้าง ที่เอกอนเองก็เคยอ่านเจอ ลักษณะ ความรู้ที่เข้ามาแบบ กลับขั้ว กลับข้างเช่นนี้ และ เท่าที่เคยอ่าน ๆ ประสพการณ์ของพระปฏิบัติ ก็เคยได้ยินเรื่องเล่าในลักษณะนี้บ้าง และ ก็เคยอ่านเจอใน concept ของนักเขียนท่านหนึ่ง ซึ่งมาอ่านเจอ ความเห็นของท่านสุธีอีก ทำให้เอกอน สนใจขึ้นมา...หง่ะ... ![]() เอกอน comment ง่าย ๆ ไม่ยากหรอก "เป็นไงมาไงเล่าท่าน จึงได้เป็นเช่นนี้" ![]() |
เจ้าของ: | ผงธุลีดิน [ 05 ก.ย. 2010, 21:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
![]() |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 05 ก.ย. 2010, 21:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
ผงธุลีดิน เขียน: ![]() ผง ผง เดี๋ยวเตอะ ... เดี๋ยวเอกอนเอาหนังติ๊กไล่ยิงก้นหรอก... ไม่ลอยหน้ายิ้ม ก็หัวเราะคิก คิก ... .... ![]() เดี๋ยวคอยดูสิ่ พ่อตับหวาน อีกคน... ดีนะ...ช่วงนี้เงียบ ๆ ไป ไม่เอางูเขียวมาแกล้งเอกอน... ไม่เอา ไม่พูดถึง เดี๋ยวโผล่..... ![]() |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 05 ก.ย. 2010, 22:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
![]() ![]() อิ อิ ตั้ง comment ใหม่ก็ได้... จิต รู้เกิด-รู้ดับ เป็น สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้เกิด รู้ดับ เป็น ทุกข์ จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับเป็น มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้ไม่เกิด ไม่ดับ เป็น นิโรธความดับทุกข์ ตรงนี้ ท่านสุธี ท่านพี่เช่นนั้น... หง่ะ.... ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงที่ขีดเส้นใต้เอาไว้...หง่ะ วางผิด วางถูก ลงก่อน... นะคะ... เอกอนอยาก...ยลทัศนะ... ซึ่งจริง ๆ ตรงนี้ มันจะมีทัศนะที่มีความหมายใกล้กันอยู่ กับการกล่าวถึง จิตเกิดดับเป็นดวง ๆ ต่อเนื่องกัน ตรงนั้น ตัดไป เพราะภาษามันใช้คำ ๆ เดียวกัน... แต่...การกล่าวถึงจิตในมุมนั้น กับการกล่าวถึงในมุมนี้ มันคนละประเด็นกัน... เพราะจิต เกิด-ดับ ในประเด็นนั้น มันเป็นสิ่งขมุกขมัว ![]() แต่จิตที่แสดงตามทัศนะนี้ มันเป็นจิตที่เหนือไปจากการปนเปื้อนแล้ว ![]() อิ อิ ท่านพี่เช่นนั้น เริ่มเกาหัวแกรก ๆ อิ อิ ![]() ก็...เอกอนถนัดใช้คำว่า ปนเปื้อน มากว่าคำว่า อวิชา นี่... ![]() มันเป็นจิตที่ต้องเห็น การเกิดขึ้น และ ดับไป จนนนนน.... ![]() ![]() แหง๋วววว.... อิ อิ (น่าไล่เตะ... ![]() คือ...มันต้องเห็นจน คลาย คลาย คลาย คลายยยย....???? อยากรู้...ตรงที่ตอนคลาย คลาย คลาย หง่ะ... ![]() คือ..เอกอนเข้าใจว่า...การคลาย แล้วประจักษ์ กับการน้อมไปเห็นนี่ ไม่เหมือนกันอีกนะ การน้อมนี่ เอกอนมองเหมือน กับการต้องพยายามกระตุกว่าวให้ติดลมบน ว่าวมันจะเคลื่อนที่ไปตามการบังคับ ก็คือ น้อมไปเห็นในสิ่งที่เชื่อ แต่คลายนี่...คือ เมื่อว่าวมันติดลมบนแล้ววววว... การเห็นจะเป็นการเห็น...ไปตามธรรมชาติของแรงลมมมมมมม... อิ อิ ว่าแต่...ว่าวอะไรลอยได้สูงที่สุด จุฬา หรือ ปักเป้า... ??? ![]() แล้ว...จริง ๆ มันมีว่าวกี่ประเภท.... ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 ก.ย. 2010, 00:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
พยายามจะมองผิดให้เป็นถูก..หรืองัยเอกอน ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 ก.ย. 2010, 00:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
แต่..ก็ทำได้นะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 ก.ย. 2010, 00:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
แค่..วางจิตในแง่ของดวง ๆ ทั้ง ร้อยกว่าดวง..ลงก่อน แล้วมาดูแค่ 4..เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วรู้มั้ย..ทั้ง 4 นี้ ทำงานโดยมีเป้าหมายอย่างไร?? ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 06 ก.ย. 2010, 00:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
กบนอกกะลา เขียน: แต่..ก็ทำได้นะ ![]() ![]() อิ อิ ท่านอ๊บซ์ อ๊บซ์ มาเล่นกับเอกอน แร๊ววววว... ไม่ใช่ มองผิดเป็นถูก... หรือ มองถูกเป็นผิด... คือจริง ๆ ก็มีอยู่ที่เอกอนก็เคยมีทัศนะเกิดประมาณนี้ล่ะ คือ... กลับตาลปัตร ก็คือ...ก็เดินมาดี ๆ อยู่ ๆ มัน uturn เฉย... เหมือน พลิกไข่เจียว...เลย เหมือน การดูหนังแบบถอยหลัง ... เป็น มุมมองที่มองจากอีกทบหนึ่งที่เป็นด้านกลับ... ก็ยังคิดอยู่ว่า เราคงจะประสาทกลับ... อิ อิ ก็เลย ไม่ได้คิดอะไร ไงท่าน อ๊บซ์ อ๊บซ์ แต่นี่ เอกอนก็มาเจอ...ท่านสุธี เอกอนก็เลยฉุกคิดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา... ![]() รอคำชี้แจง...จากผู้ที่มีความเข้าใจ...ดีกว่า เพราะเอกอนก็ ไม่รู้... |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 06 ก.ย. 2010, 00:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
กบนอกกะลา เขียน: แค่..วางจิตในแง่ของดวง ๆ ทั้ง ร้อยกว่าดวง..ลงก่อน แล้วมาดูแค่ 4..เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วรู้มั้ย..ทั้ง 4 นี้ ทำงานโดยมีเป้าหมายอย่างไร?? ![]() ![]() มี ก. ข. ค. ง. มั๊ย... ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 ก.ย. 2010, 00:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
วันนี้..ไปพบของดี..ที่ปราจีณ วัดนี้ไม่เคยไปมาก่อน.. เจ้าอาวาสก็ไม่เคยเห็น.. เจอปุ๊ปก็ชวนไปนิพพานปั๊ป... ![]() มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 กายมี3 ร่างกาย1..ขันธ์5 1..จิต1.. ![]() ![]() มาแบบไหนละนี้...งงมั้ย??..กบไม่งง ![]() ![]() (ไม่รู้จะงงอะไร ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 06 ก.ย. 2010, 00:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
555555 |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 06 ก.ย. 2010, 00:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
เอรากอน เขียน: จิต รู้เกิด-รู้ดับ เป็น สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้เกิด รู้ดับ เป็น ทุกข์ จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับเป็น มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้ไม่เกิด ไม่ดับ เป็น นิโรธความดับทุกข์ ตรงนี้ ท่านสุธี ท่านพี่เช่นนั้น... หง่ะ.... ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงที่ขีดเส้นใต้เอาไว้...หง่ะ สมุทัย เป็นเหตุแห่งทุกข์เสมอ และเป็นการงานของจิตโดยตรง จะกล่าวว่า จิตรู้เกิด-รู้ดับ เป็นสมุทัยก็็คงไม่ใช่ไปเสียทั้งหมด เพราะในขณะแห่งวิปัสนาจิตทำงาน จิตก็รู้เกิด-รู้ดับเหมือนกัน ถ้าจะแสดงโดยธรรมชาติของจิตเองว่าทำการปรุงแต่งเป็นสมุทัย ก็กล้อมๆแกล้มถูๆไถๆ ไปได้โดยต้องยอมรับว่าเนื้อหานั้นไม่บริบูรณ์ จิตรู้เกิด-รู้ดับ รู้ไม่เกิด-ไม่ดับ เป็นมรรค อย่างนี้น่าจะครอบลงไปเพื่อคลุมทั้งสมถะวิปัสสนาลงไป ผลที่ได้ จึงเป็นนิโรธ คือไม่กักกั้นอาสวะไว้ในจิต และทำลายทิฏฐิทั้งปวงได้ การแสดงธรรมแบบนี้ ไม่ควรแสดงให้แพร่หลาย ... เพราะพยัญชนะคลุมเคลือ อรรถไม่กระจ่าง แสดงเฉพาะกลุ่มรู้กันเองภายในก็พอ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 ก.ย. 2010, 00:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เสวนาเบา ๆ ประเด็น จิต รู้ไม่เกิด ไม่ดับ |
เอรากอน เขียน: มี ก. ข. ค. ง. มั๊ย... ![]() ไม่มี... แต่ตอบเลย.. ![]() ..รักษารูป(กาย).. ทำไมมันถึงคิดรักษารูป(กาย)..ละ???.. ..ก็มันรักรูป(กาย).. อะไรที่รักรูป(กาย)..ละ??? ..ก็จิตปนเปื่อน..ของเอกอนนั้นแหละ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |