ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ชำแหละพระยานาค http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=34665 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | แกงได [ 25 ก.ย. 2010, 16:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | ชำแหละพระยานาค |
- ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณซาหริ่ม จากกระทู้ “ ช่วยไขปัญหาชีวิตด้วยนะคะ“ ที่ผมเอาคำตอบปัญหาของคุณมาตั้งกระทู้ใหม่เพราะคำตอบของผมอาจเกิดข้อโต้แย้ง จนทำให้เจ้าของกระทู้รำคาญได้ หลังจากคุณอ่านแล้ว ขอให้คุณศึกษาเพิ่มเติม เมื่อคุณรู้จักมันมากขึ้นคุณจะหายกลัวไปเอง มันไม่สามารถทำร้ายคุณได้อีก ผมจะพยายามวิเคราะห์จากความทรงจำที่ดูมันจะเหลือน้อยนิดลงทุกวัน - ปัญหาขอคุณ ผมจะใช้ กาลามสูตร (คิดสักนิดก่อนที่จะเชื่อ) เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งในการแก้ปัญหาครั้งนี้ กาลามสูตร เปรียบเสมือนคำเตือนที่พระพุทธเจ้าแนบไว้ท้ายพระธรรม หลังจากที่เหล่าสาวกได้แยกย้ายกันออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็เกิดการตีความคำสอนกันต่างออกไป เวลาผ่านไปเพียงร้อยปีพุทธศาสนาเกิดแตกแยกทางความคิด แยกออก 18 นิกาย(บาลี) หรือ 20 นิกาย (สันสกฤต) (ร้อยปีก็ราวๆนับปัจจุบันย้อนไปประมาณ ร.5) แตกแยกได้มากขนาดนี้ก็น่าจะเริ่มแตกตั้งแต่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ ดีว่า อริยสัจ 4 นั้นไม่มีใครตีความไปเป็นอย่างอื่นได้ จึงยืนยงมา 2500 กว่าปีได้ - ขอตีความว่าคุณกำลังสู้กับพระยานาค (บ้างคนว่าคุณสู้กับตัวเอง) ผมให้พระยานาคมีตัวตนจริงๆ ถ้าจะสู้กันคุณต้องรู้อะไรบ้าง “รู้เขารู้เรา รบ 100 ครั้งชนะ 100 ครั้ง” (ตำราพิชัยสงครามซุนวู ก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ จะรวมประเทศจีนได้ ปัจจุบันนักการทหารทั่วโลกต้องเรียนตำรานี้ทุกคน) - มารู้เขากันก่อน โคตรเง่าพระยานาคนั้นเป็นใครมาจากไหน ถ้าเปรียบ มังกรของจีนกับพระยานาคของไทยน่าจะเป็นเคลือญาติกัน มังกรของจีนมีตัวตนจริงๆ เพราะตำรายาจีนบ้างตำรับต้องใช้กระดูกมังกรเป็นส่วนผสม วันนี้เรารู้แล้วว่ากระดูกมังกรคือ กระดูกไดโนเสาร์ ที่สูญพันธ์ไปเมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน (รัฐบาลจีนสั่งห้ามค้าขายอย่างเด็จขาด) หลายประเทศทั่วโลกก็มีมังกร รูปร่างคล้ายๆกันแตกต่างกันบ้างตามจิตนาการจากกองกระดูกนั้น เมื่อก่อนไม่มีนักโบราณคดี ไม่ได้ขุดตามหลักวิชาการ รูปร่างจึงผิดเพี้ยนจากตัวจริงไปบ้าง ทางยุโรปดูจะคล้ายไดโนเสาร์มากที่สุด เมื่อประกอบนิทาน นิยาย ตำนาน ก็จะเกิดความเชื่อขึ้นได้ (ไม่ต้องดูอื่นไกล ปลาบู่ คนไทยไม่นิยมกินเพราะเป็นแม่นางเอกในนิทานเรื่องปลาบู่ทอง ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นเนื้อปลาบู่เป็นปลาที่วิเศษที่สุด) --ส่วนพระยานาคของไทยนั้นน่าจะมีโคตรเง่าเช่นเดียวกับมังกร แต่โคตรเง้าที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ถ้าไล่ย้อนไปน่าจะรับอิทธิพลความเชื่อจากเขมร ซึ่งมีรูปสลักพระยานาคที่ปราสาทหินต่างๆทั่วไป อย่างนครวัด เป็นรูปพระยานาคร่วมกวนเกษียรสมุทร ที่เขมรรับความเชื่อนี้มาจากอินเดียอีกที่ จากการที่อินเดียเดินเรืออ้อมช่องแคบมะละกา เข้าอ่าวไทยผ่านเขมร (ปากแม่น้ำโขง) เวียตนาม เพื่อค้าขายกลับจีน นอกเหนือจากใช้เส้นทางสายไหมโดยทางบก ซึ่งจะขนสินค้าได้น้อยกว่าทางเรือ --แล้วมาไทยได้อย่างไร จะเห็นว่าเขมรยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้น เขมรเจริญสูงสุด ขยายดินแดนออกไปกว้างไกล เฉพาะในไทย ก็เข้ามาลึกถึง ลพบุรี หรือปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี ยิ่งทางอีสานยิ่งใกล้เขมรมากที่สุด จากพระยานาคศาสนาพราหมณ์ ค่อยๆกลายมาเป็นพระยานาคอย่างอีสานตามลุ่มแม่น้ำโขง เกิดนิยายตามแต่ท้องถิ่นนั้นจะจิตนาการได้ ในอดีตน่าจะเคยมีคนเห็นพระยานาคในแม่น้ำโขง ขึ้นมาเล่นน้ำบนผิวน้ำ จากข้อสันนิษฐานนี้น่าจะเป็น ปลาโลมา หรือ โลมาน้ำจืด ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง (ในแม่น้ำ อเมซอน อเมริกาใต้ก็มี) อยู่รวมเป็นฝูง เวลาว่ายน้ำก็จะเห็นหลังโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ว่ายหลายๆตัวเรียงกันไป ก็อาจจิตนาการการเป็น พระยานาคผัวเมียมาว่ายน้ำเล่นก็ได้ --ส่วนบั้งไฟพระยานาค น่าจะเกิดจากซากพืชใต้น้ำเกิดก๊าซผุดขึ้นมา เรืองแสงในเวลากลางคืน จำได้ว่าวันออกพรรษาหลายปีมาแล้ว บั้งไฟผุดขึ้นมาคืนนั้นเป็น 100 ลูก พอปีต่อมา ทาง ไอทีวี (ถูกรัฐบาลยึดเพราะผิดสัญญากลายเป็น ทีวีไทย แล้ว) ได้ไปทำข่าวฝั่งลาว ไปสัมภาษณ์ทหารลาว ได้ความว่าทางฝั่งไทยว่าจ้างให้ยิงพลุสัญญาณที่ใช้ในการทหาร ในคืนวันออกพรรษา ครั้งนั้น ไอทีวี โดนชาวบ้าน ข้าราชการ ของจังหวัดนั้นด่ายับ และให้ทาง ไอทีวี ของโทษชาวบ้าน เพราะทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดเสียหายหลายพันล้าน แต่กลับไม่ให้ใครไปพิสูจน์หาความจริงอีก ตั้งแต่ปีนั้นมา บั้งไฟขึ้นคืนไม่ถึง 10 ลูก - ผมอยากจะขอให้คุณพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พยายามศึกษาสัตว์ประหลาดจากความเชื่อของชาวบ้านทั่วโลก ว่าต้นกำเนิดมันมาจากไหน วันข้างหน้าคุณอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็ได้ ส่วนของผมถ้าว่าในรายละเอียดคงแต่งหนังสือได้เป็นเล่มโต เอาย่อๆเท่านี้ก่อน - ส่วนเรื่องรู้เรา คุณคงต้องเข้าใจตัวคุณเอง ผมคงช่วยไม่ได้มาก หวังว่าความทุกข์ของคุณคงเบาบางลงบ้าง การทำจิตใจให้สงบว่างเปล่าอาจช่วยคุณได้เป็นครั้งคราว แต่เมื่อคุณเข้าใจความจริง ความจริงจะช่วยคุณได้ตลอดชีวิต |
เจ้าของ: | student [ 26 ก.ย. 2010, 04:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ชำแหละพระยานาค |
กรรมจำแนกสัตว์ให้แตกต่างกัน ผมพิจารณาแล้วว่า ทำไมคนเห็นสิ่งแปลกๆไม่เหมือนกัน ไม่เฉพาะว่ามีสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันแม้ความคิดความอ่านความเชื่อของคนยังไม่เหมือนกัน ถ้าคนยินยอมเชื่อในสิ่งที่เราพูด เราได้อะไรจากตรงนั้น ได้สมาชิกที่เชื่อสิ่งเดียวกันเพิ่มขึ้นเหรอ เราสบายใจขึ้นเหรอ หรือว่าเราไม่เป็นคนโง่อีกต่อไปเพราะคนอื่นก็เชื่อเหมือนเรา หรือเรามีเพื่อนที่โง่เพิ่มขึ้นมาอีกเพราะความเชื่อเหมือนกัน หรือว่าเราฉลาดที่มี่ความเชื่อแบบนี้คนอื่นที่ไม่เชื่อโง่หมด พิจารณาหาเหตุผลแล้วควรหรือที่เราจะไล่หาสิ่งยืนยันต่างๆมาเพื่อยืนยันความเชื่อของเรา |
เจ้าของ: | แกงได [ 26 ก.ย. 2010, 17:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ชำแหละพระยานาค |
-ศาสนาพุทธสอนให้ใช้ปัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะโง่เขลาเบาปัญญาขนาดไหนอย่างน้อยก็ได้พยายามที่จะใช้ปัญญาคิดเองบ้าง ผมจึงขอใช้สมองคิดเพิ่มอีกนิด --จากภาพพระยานาคที่เราเคยเห็นกันทั่วไป อาการว่ายน้ำของพระยานาคนั้น หลังของพระยานาคจะโผล่พ้นน้ำเป็นส่วน ๆ แต่พระยานาคเป็นสัตว์ประเภทเดียวกับงู เวลางูว่ายน้ำจะมีอาการเหมือนกับเลื้อยใต้ผิวน้ำจะโผล่เฉพาะหัวเท่านั้น ส่วนตัวจะอยู่ใต้น้ำ ส่วนปลา หางปลาจะตั้งฉากกับผิวน้ำ เวลาขึ้นผิวน้ำก็จะโผล่เฉพาะกระโดงหลังอย่างปลาฉลาม ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวก โลมา วาฬ หางของสัตว์พวกนี้จะขนานกับผิวน้ำ หายใจด้วยปอด เวลาว่ายน้ำบนผิวน้ำจะมีอาการอย่างนักว่ายน้ำว่ายท่ากบ เพราะต้องว่ายไปหายใจไป ส่วนหลังจะโผล่พ้นน้ำเป็นระยะๆ เมื่อดำน้ำก็ต้องกลั้นหายใจ ถ้าว่ายกันเป็นฝูงก็จะจิตนาการคล้ายงูขนาดใหญ่ว่ายน้ำก็ได้ ![]() -คลายเครียดกันหน่อยครับ ผมมีปัญหาที่เคยทายเล่นกันตอนเด็กๆ ลองทายดูนะครับ ส่วนคนที่รู้คำตอบก็อย่าเพิ่งตอบนะครับ ใช้คนอื่นลองทายกันก่อน 1.จากภาพ เป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน 2.พระยานาคตัวผู้หรือตัวเมีย 3.น้ำจืดหรือน้ำเค็ม 4.ทำไมพระยานาคถึงตัวงอ 5. ข้อนี้ผมจำไม่ได้มันนานมากแล้วใครรู้คำถามช่วยเสริมให้ด้วยครับ เวลาตอบอธิบายเหตุผลด้วยนะครับ คำตอบผมจะเฉลยให้อีก 2-3 วัน |
เจ้าของ: | แกงได [ 29 ก.ย. 2010, 23:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ชำแหละพระยานาค |
เฉลย 1. กลางคืน เพราะมีดาว 2. ตัวผู้ มีเครา 3. น้ำเค็ม พระยานาคจึงพ่นทิ้ง 4. ถ้ายืดตัวตรงคงเลยออกนอกกล่อง |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |