วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 02:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 94 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง คะท่านโฮฮับ
เผอิญอ่านเจอว่าจะไม่เอามาเกี่ยวแล้ว ต้องขอเกี่ยวบ้างซะแล้ว
เดิมตัวเองเป็นแม่ค้าคะ นอกจากแม่ค้าก้เป็นแม่บ้าน
ช่วงต้นเดือนอย่างนี้ ลูกค้าจะเต็มคะ แทบไม่มีเวลามาก จะมีเวลาก็ช่วยกลางเดือนไปแล้ว
ออกตัวก่อนคะ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเห็นหายไป จะหาว่าหายไปไหน
ploypet เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ploypet เขียน:
ขอออกตัวก่อนเป็นผู้ไม่มีปัญญาคะ

ที่ออกตัวว่าไม่มีปัญญาเพราะอ้างอิง พุทธพจน์ ไมใช่ปัญญาที่คิดเองคะ มักจะออกตัวเสมอว่าปัญญาน้อย เพราะ จากเด็ก โตขึ้นมาก็เป็นแม่ค้า และปัจจุบันก็มีหน้าที่เพิ่มเป็นภรรยาและแม่คะ เลยแทบจะไม่มีปัญญาไปหาข้อมูลให้แน่นเปียะ เหมือนกับท่านโฮฮับ อาศัยครูพักลักจำคะ ยิ่งเห็นท่านแสดงทัศนะ
ในแบบของท่าน ก็ยิ่งต้องออกตัวว่าไม่มีปัญญาคะ (พอส่งไปแล้วค่อยมานึกว่าน่าจะเป็นการทำให้ท่านต้องออกวาทะแน่ .....ก็เลยตอบท่านnat'' ไปเช่นนั้น ตอนแรกต้องบอกว่าเห็นเป็นว่าต้องได้รับวิบากกรรมแน่นอน แต่ตอนหลังกลับไปแก้เหลือเพียง คำว่า วิบาก เพราะเห็นว่า ที่ท่านตอบให้นั้น ก็มีส่วนจากความจริงใจ และตั้งใจจะให้ธรรมทานจริงๆ........เลยไม่ใส่คำว่ากรรมลงไป
ต่อมาถ้าจะบอกว่าเป็นการออกความเห็นทางธรรมที่เอาพักเอาพวกนั้น
ต้องขอปฏิเสธคะ
ploypet เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ploypet เขียน:

แต่ก่อนสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าบอกว่า คนเกิดเพราะไม่รู้ คนไม่รู้นี่แหละทุกข์คะ
ผู้ไม่รู้ทำผิด ก็เพราะไม่รู้ แต่จะทำผิดไปเรื่อยๆคะ เป็นอินฟินีตี้คะ จนกว่าเขาจะรู้คะ
แต่ผู้ที่รู้ว่าทำผิด บาปสิ่งแรกจะเกิดที่ใจเขาคะ เหมือนนรกในใจ
จะบาปไม่บาปสนใจไปใย กาจะรู้หรือไม่สนใจไปใย
สิ่งที่น่าสนใจคือธรรมะ ที่ทำให้เราเป็นผู้รู้
เมื่อรู้ว่าผิด ไม่ทำอีก นั่นคือทางที่ถูกคะ :b8: :b8: :b8:

คุณเล่นเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามากล่าว แบบผิดๆแบบนี้ก็แย่ซิครับ
ความไม่รู้ในความหมายของพระพุทธเจ้าคือ อวิชา
นั้นคือการที่เราไม่รู้ในสิ่งที่เป็นจริงของธรรมชาติ มันเป็นไตรลักษณ์
หลงไปยึดติดกับสิ่งต่างๆแล้วทำให้เกิดทุกข์
มันไม่ใช่แบบที่คุณบอกว่าผู้ไม่รู้ทำผิดเพราะไม่รู้
อ่านแล้วอยากหัวเราะให้ฟันร่วง :b13:


ไม่มีเจตนาจริงๆคะ แค่แสดงทัศนะเท่านั้นคะ ไม่มีเจตนาจะเข้าข้างใคร
มีต่อนะคะ


แก้ไขล่าสุดโดย ploypet เมื่อ 01 พ.ย. 2010, 10:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 11:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ถามว่าอวิชาคืออะไร สมุทัย คืออะไร ก็จากความตั้งใจเดิมว่า จะทดสอบว่าตรงกันหรือไม่
แต่เห็นจริงๆคะ ทำให้โทสะที่มีที่ควันออกหูเพราะก๋วยเตี๋ยวเรือที่เผ็ดร้อนนี้ เห็นโทสะมันหายไป
เห็นถึงจิตใจที่ดีของก๋วยเตี๋ยวเรือคะ (ต้องขออนุญาติ เพราะมองท่านโฮฮับเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ จะถูกจริตอย่างแม่ค้าเช่นดิฉันมากกว่า....ถ้าไม่ชอบครั้งหน้าท่านโฮฮับ บอกมาละกันคะว่าชอบเป็นอะไร หรือทานอะไร จะได้เอามาแทนคะ) ต่อนะคะ ที่เห็นจริงๆคือ ความตั้งใจจริงจะช่วยให้ธรรมทานที่ถูกต้องกับผู้ด้อยกว่า ไม่ว่าดิฉันจะแสดงทัศนะอย่างไร ท่านก๋วยเตี๋ยวเรือจะพอใจหรือไม่ ก็น่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนกันอย่างสมเหตุสมผลมากกว่าคะ

ยังไงๆสำหรับดิฉัน หรือคุณก๋วยเตี่ยวเรือ หรือท่านกา หรือเจ้าของกระทู้(ขอโทษนะคะที่ดึงมาเกี่ยวด้วย)
ก็ยังเป็นผู้ไม่รู้ในพุทธพจน์คะ ถ้าเป็นท่านกา คงจะรู้เพียงว่าความหิวเป็นทุกข์ แต่ไม่เห็นถึงทุกข์ที่ต้องอยู่ในวัฏฏคะ โดยนิสัยสันดานกาขี้ขโมยอยู่แล้วนั้น เห็นว่าไม่น่าจะใช่ คนเป็นคนบัญญัติเท่านั้น กาไม่ได้เป็นผู้บัญญัติ แค่ทำตามสัญชาตญาน(ถ้าเขียนผิดขอโทษด้วยนะคะ) กาแค่ทำเพราะหิวคะ แต่ที่ผิดอาจจะเพราะไปขัดขวางบุญอันยิ่งใหญ่ ส่วนผลที่ทำไมท่านกาไปเกิดเป็นเปรตนั้น น่าจะมาจากกรรมเป็นผู้กำหนด ด้วยไม่มีตรรกะคิดว่าใครเป็นเช่นนี้เพราะอะไร ก็เลยขอโทษท่านกรรมนะคะ

ส่วนท่านเจ้าของกระทู้ รู้สึกผิดอยู่แล้ว เลยมาตั้งเป็นกระทู้คะ อย่างแรกก็คงเหมือนดิฉัน เพราะตั้งแต่ตอนเด็กๆ ก็เคยทำทั้งที่เจตนา และไม่เจตนาคะ อยากหาทางระบายทุกข์ในใจคะ ดิฉันเข้ามาอ่านก็ด้วยยังมีบาปที่อยู่ในใจเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ก็เป็นกำลังใจให้คะ ทำดีต่อไป ซักวันธรรมที่มีอาจทำให้เราพ้นทุกข์คะ

สำหรับดิฉัน มีทุกข์มากมายมหาศาล จนไม่อาจเยียวยาจิตใจตัวเองได้ ต้องอาศัยธรรมะเยียวยาให้คะ
ก็เป็นผู้ไม่รู้อีกคน ที่พยายามก้าวไปคะ แต่ไม่ถึงไหนซักที ขอท่านก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นกำลังใจให้นะคะ เพราะธรรมทานที่ท่านให้ ก็แสดงว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่งคะ
(มีต่อคะ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 11:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนท่านก๋วยเตี๋ยวเรือ รสชาดเผ็ดร้อนคะ มีน้ำซุปข้น มีส่วนประกอยเยอะแยะ (ดิฉันชอบใส่ลูกชิ้นอย่างเดียวคะขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ) เวลาคนทานก็เผ็ดร้อน ทั้งๆที่ท่านออกจะแสดงความเป็นผู้มีจุดยืนเท่านั้นเอง ทำให้อยากหาเหตุมาอธิบายหน่อยนะคะ ว่าคนเรามีจริตหรือที่พุทธพจน์ เรียกว่าปัจเจก ทำให้การจะปิ๊งในคำพูด หรือธรรมของแต่ละท่านไม่เท่ากัน มีนานาทัศนะ ไม่เหมือนกัน

ทำไมประเทศอินเดีย รากของพุทธศาสนา แต่พุทธศาสนาไม่รุ่งเรืองเท่าประเทศไทยคะ

ทัศนะของดิฉัน เพราะไม่เดินสายกลางคะ ดิฉันมีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงไปบวชที่อินเดียคะ ดิฉันเรียกหลวงแม่คะ ทางโน้นเขาบวชต้องเคร่งจริงๆคะ ห้ามสึก มันตึงไปไงคะ คนที่จะสนใจเขาก็ไม่กล้าทิ้งครอบครัว หน้าที่มาทั้งตัว ต้องมีศรัทธาแรงกล้าจริงๆคะ แต่คนไทย ผู้ชายมีสิทธิบวช ได้ตลอด สึกเมื่อไหร่นั้น(ขอออกตัวก่อนว่าไม่เคยแม้แต่จะบวชชีพราหมณ์คะ) ก็มีตามวินัยสงฆ์ใช่มั้ยคะ แต่ก็สึกได้ บวชไม่กี่วันก็ได้ นี่แหละคะ ทำไมเราจึงมีทั้งคนที่อยู่ในผ้าเหลือง คนที่เป็นพระจริงๆ และอริยสงฆ์ แต่ก็ทำให้เราสืบต่อสาสนามาได้รุ่งเรืองจนปัจจุบัน

อยากให้ก๋วยเตี๋ยวเรือถ้วยเนี่ยะ เป็นอย่างที่ดิฉันคาดหวังคะ ด้วยจิตใจที่ดี ละไอ้ที่มันหนักๆออกบ้าง เช่น นำซุปที่เผ็ดร้อนแรง ก็ช่วยลดพริกออกไป ลดส่วนผสมออกไป อยากให้น้ำใสแจ๋วเลยคะ ทุกคนจะได้เห็นเหมือนที่ดิฉันเห็นคะ ต่อมาก็ละเส้นคะ ละลูกชิ้น ละตับ ละผัก ละๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนแม้กระช่างชามที่ใส่คะ...........จนสามารถละตัวตนได้ ละซึ่งสักยทิฐิคะ .........ขออนุโมทนาให้นะคะ

ด้วยจิตปราถนาดีคะ

ถ้าท่านกวยเตี๋ยวเรือมีข้อแนะนำก็จะตอบคะ จะไม่หายไป (ยกเว้นสามีห้ามคะ เพราะเห็นเล่นnetจนไม่ทำมาหากิน) ไปก่อนนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 01:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


โฮฮับ เขียน:
taktay เขียน:
นึกว่าตัวเองมีหน้าที่ ปัด กวาดใบไม้ ใบหญ้า
เช็ดถูสิ่งสกปรก รักษาลานให้สะอาด....เพิ่งเหลือบดูศรีษะ..
ว่าได้หัวโขนท้าวมาลีวราช...มิใช่ภารโรง.... :b13:
ขอบคุณค่ะที่เตือน...รับทราบ... :b1:

คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ


ขอวิจารณ์ความเห็นคุณหน่อยน่ะ การที่คุณเอาอาชีพภารโรงมาเปรียบ
กับเรื่องของผม นี่ก็ทำให้รู้แล้วว่าธาตุแท้ของคุณเป็นคนอย่างไร
คุณคิดเอาแต่จะประชดประชัน แบบที่เมียน้อยประชดเมียหลวง
เหมือนกับในห้องที่คุณดูแลมันไม่ได้ครับ

การที่คุณจะหยิบยกบุคคลหรืออาชีพอะไรมา
ควรที่จะให้เกียรติ์บุคคลเหล่านั้นด้วย
ผมถามคุณหน่อยอาชีพภารโรงมันต่ำมากในสายตาคุณหรือไงครับ
ถึงได้เอามาอ้าง เอามาประชดประชัน อย่าลืมซิครับอาชีพทุกอาชีพ
ถ้าเป็นอาชีพสุจริตมันก็ย่อมมีคุณค่าในตัวมันอยู่แล้ว แล้วยิ่งถ้าบุคคลในอาชีพนั้นๆ
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี และเหมาะสมต่อหน้าที่ บุคคลนั้นย่อมสูงส่ง
ในสายตาของผู้ประพฤติธรรมครับ


คุณไม่มีความเข้าใจหรือขาดประสบการณ์ อาจเป็นเพราะมัวแต่ต้องคอยยุ่งแต่
เรื่องที่พระท่านบอกว่า ไร้สาระเป็นเรื่องของโลกีย์ บางครั้งบางคราวเลยเอาเรื่อง
สามคนผัวเมีย มาเปรียบในเรื่องของธรรม สงสัยผมว่าคุณคงได้ยินประโยคนี้บ่อย
เลยจำเอาไว้ กับประโยคที่ว่าอ๋อ! ใช่ซิฉันเป็นเมียหลวงหรอกรึ ตอนแรกนึกว่าเป็น
เมียน้อยเสียอีก
พอเห็นสิ่งที่ผมเปรียบเทียบ เลยเอาเรื่องที่ตัวเองถนัดมาอ้าง
มันเลยไปทำให้คนที่ประกอบอาชีพสุจริตน้อยเนื้อต่ำใจ ประเภทที่ว่าดูถูกคนจน


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้...จะค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจนะค่ะ
เพราะเข้าใจยากจัง...เรื่องข้าวด้มมัด...แล้วก็มาถึงเรื่องบาปไม่บาป...แล้วก็มาถึงเรื่อง
หัวโขน แล้วก็มาเรื่องการดูถูกอาชีพภาพโรง...แล้วก็ไปเรื่องยุ่งกับเรื่องสามคนผัวเมีย
ซึ่งเป็นเรื่องโลกีย์ที่ไร้สาระ...แล้วก็กำลังวนไปหาก๋วยเตียวเรือ.... :b10:
บอกว่าภารโรง...มีหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูก...ก็หาว่าดูถูกอาชีพนี้


คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
[b]คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ


ตรงนี้หมายความว่า ที่หยิบยกอาชีพภารโรงมานั้น
เป็นของต่ำ...แล้วเป็นผู้ดูแลเรื่องผัวเมียละค่ะ..เป็นอย่างไร?


การที่คุณจะหยิบยกบุคคลหรืออาชีพอะไรมา
ควรที่จะให้เกียรติ์บุคคลเหล่านั้นด้วย
[b]ผมถามคุณหน่อยอาชีพภารโรงมันต่ำมากในสายตาคุณหรือไงครับ
ถึงได้เอามาอ้าง เอามาประชดประชัน อย่าลืมซิครับอาชีพทุกอาชีพ
ถ้าเป็นอาชีพสุจริตมันก็ย่อมมีคุณค่าในตัวมันอยู่แล้ว แล้วยิ่งถ้าบุคคลในอาชีพนั้นๆ
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี และเหมาะสมต่อหน้าที่ บุคคลนั้นย่อมสูงส่ง
ในสายตาของผู้ประพฤติธรรมครับคุณคิดเอาแต่จะประชดประชัน แบบที่เมียน้อยประชดเมียหลวง
เหมือนกับในห้องที่คุณดูแลมันไม่ได้ครับ


ตรงนี้หมายความว่าห้องเมียน้อยเมียหลวงที่ดูแลอยู่ สูงหรือต่ำค่ะ?
ใจเย็นๆนะ...ถามจริงๆ....เพราะอยากทราบว่า...เรื่องเมียน้อยเมียหลวง นอกจากจะไร้สาระแล้ว
จะจัดอยู่ในเรื่องของความสูงหรือต่ำได้หรือไม่?....ถ้าได้ควรอยู่ในหมวดไหนค่ะ?


การที่คุณจะหยิบยกบุคคลหรืออาชีพอะไรมา
ควรที่จะให้เกียรติ์บุคคลเหล่านั้นด้วย
[b]ผมถามคุณหน่อยอาชีพภารโรงมันต่ำมากในสายตาคุณหรือไงครับ
ถึงได้เอามาอ้าง เอามาประชดประชัน อย่าลืมซิครับอาชีพทุกอาชีพ
ถ้าเป็นอาชีพสุจริตมันก็ย่อมมีคุณค่าในตัวมันอยู่แล้ว แล้วยิ่งถ้าบุคคลในอาชีพนั้นๆ
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี และเหมาะสมต่อหน้าที่ บุคคลนั้นย่อมสูงส่ง
ในสายตาของผู้ประพฤติธรรมครับ


คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ


ไม่เข้าใจสองข้อความนี้จริงๆว่า สรุปแล้ว อาชีพภาพโรง
ต่ำหรือสูง...อ่านกี่ครั้ง...ก็สรุปไม่ได้สักที...ขอรบกวนหน่อยนะค่ะ


คุณไม่มีความเข้าใจหรือขาดประสบการณ์ อาจเป็นเพราะมัวแต่ต้องคอยยุ่งแต่
เรื่องที่พระท่านบอกว่า ไร้สาระเป็นเรื่องของโลกีย์ บางครั้งบางคราวเลยเอาเรื่อง
สามคนผัวเมีย มาเปรียบในเรื่องของธรรม สงสัยผมว่าคุณคงได้ยินประโยคนี้บ่อย
เลยจำเอาไว้ กับประโยคที่ว่าอ๋อ! ใช่ซิฉันเป็นเมียหลวงหรอกรึ ตอนแรกนึกว่าเป็น
เมียน้อยเสียอีก พอเห็นสิ่งที่ผมเปรียบเทียบ เลยเอาเรื่องที่ตัวเองถนัดมาอ้าง
มันเลยไปทำให้คนที่ประกอบอาชีพสุจริตน้อยเนื้อต่ำใจ ประเภทที่ว่าดูถูกคนจน


ประโยคนี้ได้ยินที่อื่นบ่อยๆ...แต่ได้ยินครั้งแรกที่นี่
คุณได้ยินเหมือนกันหรือค่ะ?.... :b13:(อันนี้ไม่ต้องแปล ประชดจริงๆค่ะ)
ส่วนเรื่องดูถูกคนจนนั้น...จะค่อยๆพิจารณานะค่ะว่าจริงไหม?


คนไทยดูความเป็นคน ดูความมีเกียรติ์เขาดูกันที่อุปนิสัยและการกระทำครับ
เขาไม่ดูที่การประกอบอาชีพ ไม่เหมือนพวกต่างเชื้อชาติที่มันคอยแต่เอา
ผลประโยชน์กับประเทศเล็กๆ เอาอาวุธเอาอำนาจมาเป็นธรรม
แบบนี้ครับที่คนไทยเกลียด รวมไปถึงคนที่เห็นดีเห็นงามและไปอาศัยคนพวกนี้อยู่ด้วยครับ
ผมไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจงลงไปน่ะ เดี๋ยวจะหาว่าผมก็กระทบคนอื่น


ที่จริงก็เห็นด้วยกับข้อความนี้ในเบี้องต้น...แต่ว่าการที่วิจารณ์
คนต่างเชื้อชาตินั้นถือเป็นการดูถูกได้ไหม?...แล้วคนที่ต้องไปอาศัยคนพวกนี้อยู่
เขาเห็นดีเห็นงามไปกับทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศที่เขาอาศัยอยู่อย่างนั้นเหรอ?
คุณทราบได้อย่างไรค่ะ?......เข้าใจว่าคุณคงประชดหรือกระทบใครไม่เป็นหรอก
เพราะไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องผัวๆเมียๆ...เมียหลวงเมียน้อยใช่ไหม่ค่ะ?
(นี่ก็ไม่ต้องแปล ประชดอีกเหมือนกัน..เอ๊ะ..วิญญาณเมียน้อยหรือเมียหลวง
เข้าสิงกันแน่นะเรา?)


อ๋อนี่ครับมาดาม มีความเห็นของท่านผู้ปฏิบัติธรรมบางท่าน
เขาชี้แนะมาในกระทู้นี้ ผมเห็นว่ามันเป็นธรรมแท้ ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านมั้ย
เอาเป็นว่าผมเอามาให้อ่านอีกครั้งคงไม่เป็นไร
กลัวว่าใครไม่ยอมอ่านเดี๋ยวมันจะเสียของ


ผู้ปฏิบัติธรรม สมควรเห็นแก่ "ธรรม" มากกว่า "พรรคพวก"
หากคิดว่าตนเองคือผู้ปฏิบัติธรรม การแสดงความเห็นที่ถูกต้อง ต้องเห็น "ธรรม"
ก่อนความเป็นเพื่อน ความเป็นพวกพ้อง
"การปฏิบัติธรรม ไม่ใช่เพื่อการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ"


ขอบคุณมากค่ะ..."ซินญอ" อนุโมทนากับข้อความนี้
อ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง...แต่คุณกรุณาแนะนำก็จะขออ่านอีกหลายๆครั้ง...เพื่อปฎิบัติ
ให้ได้....เรามาอ่านกันอีกคนละหลายๆเที่ยวนะค่ะคุณโฮฮับ :b12:

สนทนากับคุณแล้ว....ได้ฝึกปรือตัวเองไปพร้อมกันหลายอย่าง...ขอบคุณมากนะค่ะ
ที่เป็นกระจกเงาให้ในหลายๆด้าน...ทียังไม่เห็นตัวเอง....ทุกคำพูดที่คุณแนะนำมา
แม้จะเข้าใจค่อนข้างยาก...แต่ก็จะพยายามพิจารณา...แต่ขออนุญาตไม่เชื่อทั้งหมดนะค่ะ

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
[ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้...จะค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจนะค่ะ
เพราะเข้าใจยากจัง...เรื่องข้าวด้มมัด...แล้วก็มาถึงเรื่องบาปไม่บาป...แล้วก็มาถึงเรื่อง
หัวโขน แล้วก็มาเรื่องการดูถูกอาชีพภาพโรง...แล้วก็ไปเรื่องยุ่งกับเรื่องสามคนผัวเมีย
ซึ่งเป็นเรื่องโลกีย์ที่ไร้สาระ...แล้วก็กำลังวนไปหาก๋วยเตียวเรือ.... :b10:
บอกว่าภารโรง...มีหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูก...ก็หาว่าดูถูกอาชีพนี้


มาดามครับ มันไม่ได้เข้าใจยากอย่างคุณว่าเลย ถ้าคุณจะทำใจให้เป็นกลาง
แล้วค่อยๆอ่านไปที่ละความเห็น และคิดทบทวนตามไปด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ
เรื่องวัยวุฒิผมว่าคุณมีแน่ แต่เรื่องคุณวุฒิผมไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร เพราะดูจาก
การที่เจ้าตัวเป็นผู้ดูแลยังบอกเป็นภารโรงไปได้

ที่คุณบอกว่าเข้าใจยากก็เพราะ ไม่พยายามสนใจเนื้อหาที่สืบเนื่องกันด้วยเหตุและผล
แต่ที่คุณกำลังทำอยู่คือ การกระทำของพวกคนที่เอาแต่พวกพ้อง พยายามทุกอย่าง
ที่จะช่วยพวกของตัวเอง แม้จะเป็นสิ่งน่าอายและกระทบต่อหน้าที่ ที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่
สิ่งที่กระทำคือ แทนที่จะดูเนื้อหาในมวลรวม กลับไปคอยหาคำที่ไม่มีความสำคัญมาคอยเสียดสี
อีกทั้งยังคอยเป็นลูกคู่คอยฮาคอยแหย่อีกฝ่ายให้เสียสมาธิ ไม่รู้ว่าคุณพอจะทราบหรือเปล่าว่า
ผู้กระทำตัวดังกล่าว เป็นสิ่งที่คนที่มีหน้าที่อย่างคุณ ต้องเก็บกวาดให้สะอาด ต้องให้หมดไปจากกระทู้

คุณกำลังทำความสะอาดแบบผิดวิธี การจะกวาดสิ่งสกปรกต้องไม่กวาดเข้าหาตัว
ต้องกวาดไปข้างหน้าแล้วเอาไปกองรวมกัน นี่อะไรกันครับไม่รู้กวาดอย่างไร ตัวเองถึงได้
มอมแม้มขนาดนี้
แล้วเรื่อง ภารโรงก็ด้วยครับ ที่คุณลืมตัวเผยธาตุแท้ แล้วไปดูถูกเขาก็เป็นเพราะ
มัวแต่คอยดูแต่จุดบกพร่องของผมเพื่อที่จะมาฮ่าป่า คอยสะใจแต่ผิดคลาดครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 05:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
มาดามครับ มันไม่ได้เข้าใจยากอย่างคุณว่าเลย ถ้าคุณจะทำใจให้เป็นกลาง
แล้วค่อยๆอ่านไปที่ละความเห็น และคิดทบทวนตามไปด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ
เรื่องวัยวุฒิผมว่าคุณมีแน่ แต่เรื่องคุณวุฒิผมไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร เพราะดูจาก
การที่เจ้าตัวเป็นผู้ดูแลยังบอกเป็นภารโรงไปได้


ถ้าผู้ดูแลบอร์ดก็คงมีหน้าที่อย่างที่คุณว่าจริงแหละ
แต่ที่ทักทายเป้นอยู่นี้คือผู้รักษาลาน...จึงเข้าใจว่ามีหน้าที่ ปัดกวาดเช็ดถู
รักษาลานให้สะอาด....นั่นคือความเข้าใจที่แท้จริง...สงสัยทักทายท่าจะ
ไม่มีคุณวุฒิจริงๆด้วยแหละ...ถึงได้สับสนในตำแหน่งและหน้าที่ :b13:


อ้างคำพูด:
การที่เจ้าตัวเป็นผู้ดูแลยังบอกเป็นภารโรงไปได้


ประโยคนี้รู้สึกน้ำเสียงจะยกย่อง
หน้าที่ "ผู้ดูแลบอร์ด" แต่ดูแคลน"ภารโรง"นิดๆนะ...คุณว่าไหม?


อ้างคำพูด:
ที่คุณบอกว่าเข้าใจยากก็เพราะ ไม่พยายามสนใจเนื้อหาที่สืบเนื่องกันด้วยเหตุและผล
แต่ที่คุณกำลังทำอยู่คือ การกระทำของพวกคนที่เอาแต่พวกพ้อง พยายามทุกอย่าง
ที่จะช่วยพวกของตัวเอง แม้จะเป็นสิ่งน่าอายและกระทบต่อหน้าที่ ที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่
สิ่งที่กระทำคือ แทนที่จะดูเนื้อหาในมวลรวม กลับไปคอยหาคำที่ไม่มีความสำคัญมาคอยเสียดสี
อีกทั้งยังคอยเป็นลูกคู่คอยฮาคอยแหย่อีกฝ่ายให้เสียสมาธิ ไม่รู้ว่าคุณพอจะทราบหรือเปล่าว่า
ผู้กระทำตัวดังกล่าว เป็นสิ่งที่คนที่มีหน้าที่อย่างคุณ ต้องเก็บกวาดให้สะอาด ต้องให้หมดไปจากกระทู้


ทักทายถือว่าทุกท่านในลานนี้คือพวกพ้องทุกคน...ถึงจะมีบางท่านไม่คิด
ว่าจะเป็นพวกพ้องด้วย.....ทุกความคิดเห็นที่แสดงออกมา ทักทายแสดงออกมาจากใจทั้งสิ้น
หากคุณเห็นว่า นั่นคือ"ธาตุแท้" ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะไม่เคยคิดปิดบังธาตุแท้ของตัวเองอยู่แล้ว
ว่าแต่ท่าน...แสดงความคิดเห็นออกมาจากใจหรือเปล่าค่ะ?

ไม่ทราบว่าคุณนำข้อความตรงไหน?...หรืออะไร?...มาเป็นสิ่งยืนยันว่า "เอาแต่พวกพ้อง"

หัวโขนที่ได้รับมา...ไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่....ทักทายก็ยังคงความเป็นทักทายคนเดิม
ที่ต้องการแสดงทุกอย่างออกมาจากใจ มิสามารถปกปิดธาตุแท้ของตัวเองได้เพียงเพราะ
ใส่หัวโขน...ชอบก็จะแสดงออกว่าชอบ...ไม่เห็นด้วยก็จะบอกว่าไม่เห็นด้วย...
แต่จะไม่ขัดความความคิดเห็นของใคร เพราะเห็นว่าความคิดเห็นของแต่ละท่าน
ย่อมมีมุมมองต่างกันไป ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด แล้วแต่ วาระ โอกาส หรือบุคคล
ทำได้ก็แค่เลี่ยงออกมา...ไม่ปราถนาจะเข้าไปชี้ผิดชี้ถูกให้ใคร...ถือว่าทุกคนมี
อิสระที่จะแสดงออกมาได้....
หรือท่านคิดว่าไม่สมควรแสดง..เมื่อใส่หัวโขนแล้วต้องปกปิดธาตุแท้...ไม่ชอบก็ต้องทำเป็นชอบ
ไม่เห็นด้วยก็ต้องทำเป็นเห็นด้วยอย่างนั้นหรือค่ะ?เห็นทีจะทำไม่ได้ค่ะ

ตรงไหนที่ท่านว่าเป็นข้อความเสียดสี..แล้วตรงไหน?ที่เป็นลูกคู่คอยฮาให้อีกฝ่ายเสียสมาธิ
กรุณาชี้แจงหน่อยได้ไหมค่ะ?


อ้างคำพูด:
ไม่รู้ว่าคุณพอจะทราบหรือเปล่าว่า
ผู้กระทำตัวดังกล่าว เป็นสิ่งที่คนที่มีหน้าที่อย่างคุณ
ต้องเก็บกวาดให้สะอาด ต้องให้หมดไปจากกระทู้


แล้วหน้าที่นี้...ต่างกับภารโรงที่ทักทายเคยเปรียบเปรยมา
หรือเปล่าค่ะ "ซิญอ"?


อ้างคำพูด:
แทนที่จะดูเนื้อหาในมวลรวม กลับไปคอยหาคำที่ไม่มีความสำคัญมาคอยเสียดสี
อีกทั้งยังคอยเป็นลูกคู่คอยฮาคอยแหย่อีกฝ่ายให้เสียสมาธิ


อ้างคำพูด:
คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
[b]คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ


อ้างคำพูด:
คุณไม่มีความเข้าใจหรือขาดประสบการณ์ อาจเป็นเพราะมัวแต่ต้องคอยยุ่งแต่
เรื่องที่พระท่านบอกว่า ไร้สาระเป็นเรื่องของโลกีย์ บางครั้งบางคราวเลยเอาเรื่อง
สามคนผัวเมีย มาเปรียบในเรื่องของธรรม


ท่านซินญอ...ผู้เพรียบพร้อมด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิและคุณธรรม
กรุณาชี้แจงประโยคด้านบนทั้งหมดมาให้ทราบหน่อยได้ไหมค่ะว่า นั่นเป็นความคิดเห็น
ที่ออกมาจากใจที่แสดงธาตุแท้ของท่าน แบบมิได้ประชด ประชัน เสียดสี ดูหมิ่น
ดูแคลนในประโยคเหล่านี้เลย....แล้วยังมีอีกหลายคำถามในข้อความก่อนหน้านี้ที่ท่าน
ยังมิได้แสดงคุณธรรม คุณวุฒิด้วยวัยวุฒิของท่านตอบมาให้ทักทายผู้ด้อยคุณวุฒิ
ได้แจ้งบ้างเลย....สงสัยจริงๆนะค่ะ ถ้าจะกรุณากลับไปอ่านใหม่และช่วยตอบหน่อยได้ไหมค่ะ?


อ้างคำพูด:
คุณไม่มีความเข้าใจหรือขาดประสบการณ์ อาจเป็นเพราะมัวแต่ต้องคอยยุ่งแต่
เรื่องที่พระท่านบอกว่า ไร้สาระเป็นเรื่องของโลกีย์ บางครั้งบางคราวเลยเอาเรื่อง
สามคนผัวเมีย มาเปรียบในเรื่องของธรรม


อ่านกี่ครั้งๆ...ประโยคนี้ก็มองเห็นแต่ความรู้สึก "เหยียดหยาม"
ท่านที่กำลังมีทุกข์ ด้วยเรื่อง "สามคนผัวเมีย"....ท่านไม่มีวันที่จะรู้สึกถึงความทุกข์
ทรมานของ "เมีย" ไม่ว่าจะเป็นเมียหลวง เมียน้อย เมียเก็บ เมียแก่...เพราะท่านคงไม่มี
โอกาสได้เป็น "เมีย" แต่ทักทายทราบดี เพราะประสบการณ์ตามที่ท่านดูแคลนมานั่นแหละ
ถึงได้รู้ว่า ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า การให้กำลังใจในขณะนั้น...การที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้
มาเปรียบในเรื่องของธรรม....ท่านเห็นว่าไม่สมควรกระนั้นหรือ?....

การจะสนทนาธรรมควรจะพูดแต่เรื่องอะไร? และไม่ควรพูดถึงเรื่องอะไร?....
แล้วทุกข์ของเรื่อง ผัวๆเมียๆ เป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรเกี่ยวข้องกับธรรมะเลยหรือค่ะ?
ไม่ควรพูด ไม่ควรยุ่งเกี่ยว....ในประเทศไทยนี้จะเหลือสักกี่คนที่ควรจะพูดด้วย?
กรุณาชี้แจงด้วย......

สนทนากับท่านแล้วได้เห็นอะไรดีๆเยอะเลยค่ะ....หวังว่าคงไม่เบื่อที่จะสนทนากันต่อนะค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
โฮฮับ เขียน:
taktay เขียน:
นึกว่าตัวเองมีหน้าที่ ปัด กวาดใบไม้ ใบหญ้า
เช็ดถูสิ่งสกปรก รักษาลานให้สะอาด....เพิ่งเหลือบดูศรีษะ..
ว่าได้หัวโขนท้าวมาลีวราช...มิใช่ภารโรง.... :b13:
ขอบคุณค่ะที่เตือน...รับทราบ... :b1:
คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ
ตรงนี้หมายความว่า ที่หยิบยกอาชีพภารโรงมานั้น
เป็นของต่ำ...แล้วเป็นผู้ดูแลเรื่องผัวเมียละค่ะ..เป็นอย่างไร?


คุณรู้จักการแยกแยะมั้ยครับว่า สิ่งไหนเป็นจริง สิ่งไหนสมมุติ
และสิ่งไหนเป็นเรื่องเปรียบเทียบ

ผมถามหน่อยครับ ห้องที่คุณดูแลอยู่ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง ผัวเมียหรือเปล่าครับ
เรื่องการนอกใจกันหรือเปล่าครับ ถ้าใช่มันก็เป็นจริงตามที่ผมบอก มันไม่ใช่เรื่องการดูถูก
ที่คุณกำลังพยายามเอามาย้อนผม

ส่วนเรื่องที่คุณเรื่องของภารโรงมาประชดประชันผม มันไม่จริงคุณไม่ได้เป็น และมันเป็นคนละเรื่อง
ถ้าเรามาดูกันตามความเป็นจริง ท้าวมาลีวราชไม่มีจริง แต่อาชีพภารโรงมีอยู่จริง
เราก็รู้ว่าท่านท้าวมาลีวราชในรามเกียรติ์สูงส่งเพียงไหน
ผมก็ให้เกียรติ์คุณไปเปรียบกับท่านท้าว โดยบอกว่ามีหน้าที่ที่คล้ายกัน
แต่มาตำหนิตรงที่ว่า ทำหน้าที่ไม่เหมาะสมคือทำตัวเหมือนลิงสมุนพระราม
ซึ่งมันก็ไม่มีอยู่จริงอีกเช่นกัน

[b]มันสำคัญตรงนี้ครับ จากการที่คุณไม่ยอมรับความเห็นผม และมันก็นำไปสู่การ
แสดงความเห็นประชดเสียดสีด้วยคำที่ว่า " นึกว่าเป็นภารโรง"
ตามหลักตรรกะ และตามความเป็นจริงในใจมนุษย์ คำย้อน คำเสียดสีหรือประชด
ผู้กล่าวมักจะกล่าวให้ผู้ฟังซึ่งเป็นอีกฝ่ายเห็นจริงและเจ็บใจ แต่แทนที่คุณจะกล่าว
ในเชิงเปรียบเทียบกลับเอาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมาเปรียบ เอาอาชีพที่มีอยู่จริงมาเปรียบ
ด้วยความลืมตัว ผมจะชี้ชัดให้ดูครับ ผมยกเรื่องรามเกียรติ์และบอกว่าท่านท้าวมาลีวราช
นั้นดีแค่ไหนและสูงเพียงใด ซึ่งตรงข้ามกับสมุนพระรามที่เป็นแค่พวกลิงกังไม่มีเกียรติ์
และศักดิ์ศรีถ้ามาเทียบกัน
มันก็เหมือนกับที่ผมบอกว่าคุณเป็นผู้ดูแลเทียบได้กับท่านท้าว แต่คุณบอกว่า
คิดว่าเป็นภารโรง แค่นี้ก็รู้อยู่แล้วว่า ในใจคุณคิดว่า
ผู้ดูแลนั้นสูงส่ง แต่ภารโรงนั้นต่ำต้อย


แต่ก็เอาเถอะใครจะไปรู้ดีได้เท่ากับตัวเอง คุณบอกใครๆว่าไม่ได้ดูถูก มันก็ไม่มีใคร
ไปคลาดครั้นกับคุณได้ แต่คุณลองถามใจคุณดูว่าคุณดูถูกคนอาชีพนี้มั้ย
ผมว่าใจคุณ มันไม่พูดปดกับคุณหรอก
taktay เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ตรงนี้หมายความว่าห้องเมียน้อยเมียหลวงที่ดูแลอยู่ สูงหรือต่ำค่ะ?
ใจเย็นๆนะ...ถามจริงๆ....เพราะอยากทราบว่า...เรื่องเมียน้อยเมียหลวง นอกจากจะไร้สาระแล้ว
จะจัดอยู่ในเรื่องของความสูงหรือต่ำได้หรือไม่?....ถ้าได้ควรอยู่ในหมวดไหนค่ะ?


คุณครับในเรื่องของความเป็นจริงหรือเรื่องของธรรมชาติ มันไม่มีสูงต่ำหรอกครับ
การจะดูเรื่องสูงต่ำเขาดูกันในเรื่องการกระทำมันเป็นธรรมะ ผมก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า
คุณเอาเรื่องที่มีอยู่จริงมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เรื่องของเรื่องมันเลยฟ้องออกมาว่า
จิตใจลึกๆของคุณเป็นคนอย่างไร

เรื่องเมียน้อยเมียหลวงถึงมันจะไม่มีสูงต่ำ แต่มันก็ไร้สาระในทางธรรม
ครูบาอาจารย์ก็กล่าวไว้ครับว่า อย่าเอามาปนกัน คนที่ปฏิบัติจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง
ตัดเรื่องเหล่านี้ออกไป อีกอย่างจะเห็นได้ว่า พระท่านไม่ยอมให้คำปรึกษาเรื่องเหล่านี้
เพราะเป็นอาบัติ แต่อาจมีบางเรื่องให้กำลังใจ ตัวอย่างเช่น "ทำใจเสียเถอะโยม"

ไอ้เรื่องอยากให้เรื่องเมียน้อยเมียหลวงไปอยู่หมวดไหน มันเรื่องของคุณผมไม่สนใจหรอก
เพราะผมไม่ชอบให้คำปรึกษาใครในเรื่องนี้ อาจมีเพลอก็ประเภทตอบเอามันครับ
แต่ก็ไม่ใช่ไม่อ่านเลย พออ่านแล้วมันมีอารมณ์สองอย่างครับ อารมณ์แรกคือ รู้สึกสงสาร
และสมเพทคนที่ประสบเหตุการณ์แบบนี้ครับ แต่อีกอารมณ์คือรู้สึกทุ...(คำนี้มันไม่เพราะ)เอาเปลี่ยน
รู้สึกไม่ชอบใจผู้ที่เข้ามาให้คำปรึกษาครับ ดูแล้วมันน่าชวนหัวมาก แนะนำเสียเป็นคุ้งเป็นแคว
ถามจริงที่แนะนำมาถ้ามันเกิดกับตัวเองทำได้หรือเปล่า
ผมจะบอกให้ที่แนะนำเขาไป เขาก็รู้ทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ยังต้องมาเศร้ามาร่ำพรรณก็เพราะเขายังทำใจไม่ได้แค่นั้นเอง
เอาเสนอแนะให้หน่อยก็ได้ ความเห็นผมห้องเมียน้อยเมียหลวงยุบไปเถอะ
มันเปลื้องหน้าเว็บ ถ้าใครมีปัญหาให้มาถามในห้องสนทนาธรรมนี้
แต่ผมว่าคงไม่มีใครอยากเข้ามาหรอก เพราะชอบจมอยู่กับเรื่องผัวเน่าเมียน้อย
คิดแล้วทุกข์ก็ชอบคิด มันสุขอยู่อย่างเดียวคือจินตนาการไปว่า ตัวเองเป็นนางเอก
กำลังถูกนางอิจฉากลั่นแกล้ง เอ่อ! เซ็งจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 06:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
[คนไทยดูความเป็นคน ดูความมีเกียรติ์เขาดูกันที่อุปนิสัยและการกระทำครับ
เขาไม่ดูที่การประกอบอาชีพ ไม่เหมือนพวกต่างเชื้อชาติที่มันคอยแต่เอา
ผลประโยชน์กับประเทศเล็กๆ เอาอาวุธเอาอำนาจมาเป็นธรรม
แบบนี้ครับที่คนไทยเกลียด รวมไปถึงคนที่เห็นดีเห็นงามและไปอาศัยคนพวกนี้อยู่ด้วยครับ
ผมไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจงลงไปน่ะ เดี๋ยวจะหาว่าผมก็กระทบคนอื่น


ที่จริงก็เห็นด้วยกับข้อความนี้ในเบี้องต้น...แต่ว่าการที่วิจารณ์
คนต่างเชื้อชาตินั้นถือเป็นการดูถูกได้ไหม?...แล้วคนที่ต้องไปอาศัยคนพวกนี้อยู่
เขาเห็นดีเห็นงามไปกับทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศที่เขาอาศัยอยู่อย่างนั้นเหรอ?
คุณทราบได้อย่างไรค่ะ?......เข้าใจว่าคุณคงประชดหรือกระทบใครไม่เป็นหรอก
เพราะไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องผัวๆเมียๆ...เมียหลวงเมียน้อยใช่ไหม่ค่ะ?
(นี่ก็ไม่ต้องแปล ประชดอีกเหมือนกัน..เอ๊ะ..วิญญาณเมียน้อยหรือเมียหลวง
เข้าสิงกันแน่นะเรา?)


เข้าใจคำว่าวิจารณ์หรือเปล่าครับ ลักษณะที่ว่าคือการหยิบยก
เอาการกระทำของบุคคลนั้น ที่ได้กระทำไปจริง แล้วเอามาพิจารณาในแง่ของผู้วิจารณ์ครับ
เรื่องผิดเรื่องถูกมันก็เป็นอีกเรื่อง มันไม่ได้ไปดูถูกดูแคลนใครเขา
แล้วสิ่งที่ผมอ้างมาว่า ใช้อำนาจบาทใหญ่ ใช้อาวุธที่ทันสมัยกว่า
เข้าไปรังแกชาติเล็กๆถึงในบ้านเขามันจริงมั้ยครับ แล้วเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์
ของชาติที่ด้อยกว่าจริงมั้ยครับ

แล้วการที่คุณเอ้ยไม่ใช่! แล้วการที่คนคนๆหนึ่งที่ไม่มีเชื้อชาติประเทศ
ที่ผมวิจารณ์อยู่ เข้าไปในประเทศนั้น อย่าบอกน่ะครับว่า เข้าไปเพื่อหยุดยั้ง
การกระทำที่ผมได้กล่าวมา มันก็เข้าประเพื่อทำมาหากินหรือหาผลประโยชน์
เพื่อตัวเอง แล้วคุณลองคิดดูซิว่า ผลประโยชน์ที่คนๆนั้นได้จากประเทศนั้น
ไอ้ตัวประเทศนั้นมันก็เอามาจาก ประเทศเล็กๆที่มันไปข่มขู่เขามา
หวังว่าคงเข้าใจน่ะครับ ไอ้เรื่องเห็นดีเห็นงามหรือไม่
แบบนี้สุภาษิตว่า"เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง"


แล้วเรื่องเมียน้อยเมียหลวง ผมก็พอรู้ครับ แต่ก็แค่พอรู้ครับมันยังไม่เข้าขั้น
เป็นผัวน้อยผัวหลวง หรือเมียน้อยเมียหลวงใคร
เพราะรู้จักทำใจเสียก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b13: :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 07:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
การกระทำของพวกคนที่เอาแต่พวกพ้อง พยายามทุกอย่าง
ที่จะช่วยพวกของตัวเอง แม้จะเป็นสิ่งน่าอายและกระทบต่อหน้าที่

:b32: :b32: :b32: :b32:
ขนาด..เป็น..กา..ยังถูกปรักปรัม..ว่ามันต้องรู้เลย..

สัตว์เดรัจฉานนะนั้นนะ..ป้ายสีมันไปได้..

นี้ก็คงป้ายสี..ด้วยทิฎฐิอันเลวทราม..ตามเคย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
อ้างคำพูด:
มาดามครับ มันไม่ได้เข้าใจยากอย่างคุณว่าเลย ถ้าคุณจะทำใจให้เป็นกลาง
แล้วค่อยๆอ่านไปที่ละความเห็น และคิดทบทวนตามไปด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ
เรื่องวัยวุฒิผมว่าคุณมีแน่ แต่เรื่องคุณวุฒิผมไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร เพราะดูจาก
การที่เจ้าตัวเป็นผู้ดูแลยังบอกเป็นภารโรงไปได้


ถ้าผู้ดูแลบอร์ดก็คงมีหน้าที่อย่างที่คุณว่าจริงแหละ
แต่ที่ทักทายเป้นอยู่นี้คือผู้รักษาลาน...จึงเข้าใจว่ามีหน้าที่ ปัดกวาดเช็ดถู
รักษาลานให้สะอาด....นั่นคือความเข้าใจที่แท้จริง...สงสัยทักทายท่าจะ
ไม่มีคุณวุฒิจริงๆด้วยแหละ...ถึงได้สับสนในตำแหน่งและหน้าที่ :b13:


ถามคุณหน่อยเถอะที่คุณบอกคุณมีหน้าที่เก็บกวาด เช็ดถู รักษาลานให้สะอาด
คุณมาเพ้อเจ้ออะไรครับ ไอ้แบบที่คุณบอกมันต้องผงซักฟอกด้วยหรือเปล่าครับ
แล้วเครื่องดูดฝุ่นต้องการด้วยมั้ย

แล้วการที่จะรักษาลานนี่น่ะ คนที่รักษาไม่ต้องดูต้องแลเลยหรือ ว่าจะรักษาอะไร
รักษาตรงไหน
taktay เขียน:
อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:
การที่เจ้าตัวเป็นผู้ดูแลยังบอกเป็นภารโรงไปได้


ประโยคนี้รู้สึกน้ำเสียงจะยกย่อง
หน้าที่ "ผู้ดูแลบอร์ด" แต่ดูแคลน"ภารโรง"นิดๆนะ...คุณว่าไหม?


น้ำเสียงผมอาจดูแคลนครับ แต่ไม่ใช้คำว่าภารโรง แต่เป็นการดูแคลน
คนที่เป็นคนไทยแท้ๆ แต่ไม่รู้จักหลักการใช้ภาษาไทย ผมจะบอกคุณให้ครับว่า
การไปอาศัยประเทศคนอื่นอยู่ไม่จำเป็นเลยที่จะต้อง เห็นภาษาเขาดีกว่าเราจนทำให้
ลืมภาษาหรือหลักการใช้ภาษาของบรรพบุรุษ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ทักทายถือว่าทุกท่านในลานนี้คือพวกพ้องทุกคน...ถึงจะมีบางท่านไม่คิด
ว่าจะเป็นพวกพ้องด้วย.....ทุกความคิดเห็นที่แสดงออกมา ทักทายแสดงออกมาจากใจทั้งสิ้น
หากคุณเห็นว่า นั่นคือ"ธาตุแท้" ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะไม่เคยคิดปิดบังธาตุแท้ของตัวเองอยู่แล้ว
ว่าแต่ท่าน...แสดงความคิดเห็นออกมาจากใจหรือเปล่าค่ะ?

ใจใครคิดอย่างไรเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ แต่ก็มีวิธีหนึ่งที่คนอื่นสามารถเดาได้ว่า
เขาเป็นคนเช่นนั้นหรือแบบนั้นครับ อาการแสดงที่ว่า คือการแสดงที่แสดงออกมา
โดยมิได้คำนึงว่า คนอื่นจะชอบมั้ย จะเกลียดเรามั้ย เป็นคนพูดจาไม่หวานหู
ก็พูดออกมาโดยไม่ต้องการรักษาภาพพจน์จอมปลอมครับ
มาดามครับ ลองกลับไปดูลักษณะคำพูดหรือการแสดงความเห็นของผม
แล้วลองดูซิครับว่าผมปิดบังธาตุแท้หรือเปล่า

taktay เขียน:
ไม่ทราบว่าคุณนำข้อความตรงไหน?...หรืออะไร?...มาเป็นสิ่งยืนยันว่า "เอาแต่พวกพ้อง"

เอาเป็นว่า คุณไม่เห็นแก่พวกพ้อง ก็เอาตามนั้นครับ มัวมาเซ้าซี้ก็เปล่าประโยชน์
แต่ยังไงคิดไว้บ้างก็ดีน่ะ เพราะมีสมาชิกที่ไม่มีส่วนได้เสีย บางท่านแสดงความเห็นไว้
แถมยังให้ข้อธรรมมาให้ดูอีก
taktay เขียน:
หัวโขนที่ได้รับมา...ไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่....ทักทายก็ยังคงความเป็นทักทายคนเดิม
ที่ต้องการแสดงทุกอย่างออกมาจากใจ มิสามารถปกปิดธาตุแท้ของตัวเองได้เพียงเพราะ
ใส่หัวโขน...ชอบก็จะแสดงออกว่าชอบ...ไม่เห็นด้วยก็จะบอกว่าไม่เห็นด้วย...
แต่จะไม่ขัดความความคิดเห็นของใคร เพราะเห็นว่าความคิดเห็นของแต่ละท่าน
ย่อมมีมุมมองต่างกันไป ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด แล้วแต่ วาระ โอกาส หรือบุคคล
ทำได้ก็แค่เลี่ยงออกมา...ไม่ปราถนาจะเข้าไปชี้ผิดชี้ถูกให้ใคร...ถือว่าทุกคนมี
อิสระที่จะแสดงออกมาได้....
หรือท่านคิดว่าไม่สมควรแสดง..เมื่อใส่หัวโขนแล้วต้องปกปิดธาตุแท้...ไม่ชอบก็ต้องทำเป็นชอบ
ไม่เห็นด้วยก็ต้องทำเป็นเห็นด้วยอย่างนั้นหรือค่ะ?เห็นทีจะทำไม่ได้ค่ะ
ตรงไหนที่ท่านว่าเป็นข้อความเสียดสี..แล้วตรงไหน?ที่เป็นลูกคู่คอยฮาให้อีกฝ่ายเสียสมาธิ
กรุณาชี้แจงหน่อยได้ไหมค่ะ?[/color][/i]

เอาตามที่คุณว่า นั้นแหล่ะครับ คุณเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนมีเหตุมีผล
แต่ผมว่ามันช้าไปหน่อยครับ เอางี้คุณย้อนไปดูความเห็นของคุณตอนต้นๆ
แล้วเอาไปเทียบดูกับความเห็นของคุณdatdanaiกับคุณกบนอกกะลาดู
ผมว่ามันไปในแนว ส่งมุขรับมุกเป็นตลกคาเฟ่เลยครับ แต่ไม่เป็นไรครับ
ผมอาจคิดผิดก็ได้ ฮะ ฮะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ท่านซินญอ...ผู้เพรียบพร้อมด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิและคุณธรรม
กรุณาชี้แจงประโยคด้านบนทั้งหมดมาให้ทราบหน่อยได้ไหมค่ะว่า นั่นเป็นความคิดเห็น
ที่ออกมาจากใจที่แสดงธาตุแท้ของท่าน แบบมิได้ประชด ประชัน เสียดสี ดูหมิ่น
ดูแคลนในประโยคเหล่านี้เลย....แล้วยังมีอีกหลายคำถามในข้อความก่อนหน้านี้ที่ท่าน
ยังมิได้แสดงคุณธรรม คุณวุฒิด้วยวัยวุฒิของท่านตอบมาให้ทักทายผู้ด้อยคุณวุฒิ
ได้แจ้งบ้างเลย....สงสัยจริงๆนะค่ะ ถ้าจะกรุณากลับไปอ่านใหม่และช่วยตอบหน่อยได้ไหมค่ะ?


สิ่งที่ผมกล่าวไป ถ้าผู้รับฟังหรือผู้ที่ถูกกล่าวถึง ไม่ยอมรับฟังก็จะเหมาไปว่าเป็นการเสียดสี ประชดประชัน แต่ผมจะบอกให้เลยครับว่าไม่ใช่ ผมผมพูดแบบฟันธงและเต็มปากเต็มคำว่า มันเป็นเช่นนั้น
ที่ผมสามารถเอามาพูดได้ก็มาจากการกระทำของคูณเองนั้นแหล่ะ

แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่า ผมมีคุณธรรม คุณวุฒิอะไร ผมบอกแต่เพียงว่า
ผมเป็นสมาชิกธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่เรื่องวัยวุฒิก็พอมีถ้าคิดว่าการมีครอบครัวแล้ว
บ่งบอกถึงวัยวุฒิ
taktay เขียน:
อ่านกี่ครั้งๆ...ประโยคนี้ก็มองเห็นแต่ความรู้สึก "เหยียดหยาม"
ท่านที่กำลังมีทุกข์ ด้วยเรื่อง "สามคนผัวเมีย"....ท่านไม่มีวันที่จะรู้สึกถึงความทุกข์
ทรมานของ "เมีย" ไม่ว่าจะเป็นเมียหลวง เมียน้อย เมียเก็บ เมียแก่...เพราะท่านคงไม่มี
โอกาสได้เป็น "เมีย" แต่ทักทายทราบดี เพราะประสบการณ์ตามที่ท่านดูแคลนมานั่นแหละ
ถึงได้รู้ว่า ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า การให้กำลังใจในขณะนั้น...การที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้
มาเปรียบในเรื่องของธรรม....ท่านเห็นว่าไม่สมควรกระนั้นหรือ?....

ผมจะบอกให้ครับ ถ้าสมมุติคุณมีญาติสนิท หรือเพื่อนสนิทที่รักกันมาก ทั้งเพื่อนและญาติ
มีฐานะที่ดีกว่า การศึกษาก็สูงกว่า แถมหน้าที่การงานก็ดีมีเกียรติ์กว่า บุคคลที่ว่านี้ใครได้เป็น
ญาติหรือเป็นเพื่อนก็พลอยได้ภูมิใจ เชิดหน้าชูตาไปด้วย แล้วจะมีญาติหรือเพื่อนคนไหนกล้าไป
เหยียดหยามคนดังว่ามั้ยครับ

แล้วก็อีกนั้นแหล่ะคุณรู้มั้ยว่า ผมเคยกล่าวตำหนิในธรรมนองนี้กับญาติและเพื่อน
ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้มาแล้ว ถามหน่อยครับสิ่งที่ผมทำไป เป็นการเหยียดหยามคนที่ผมรัก
และภาคภูมิใจมั้ยครับ
หวังว่าคงรู้น่ะว่าญาติและเพื่อนผมไปทำอะไรที่ไร้สาระ

วิธีการสอนการเตือนของคนมันไม่เหมือนกัน
อย่าเหมาว่าความคิดการแสดงออกที่ไม่เหมือนเรา
เป็นการเหยียดหยาม ผมว่าคนที่คิดแบบนี้นั้นแหล่ะ
กำลังนำความว่า เหยียดหยามมาเหยียดหยามคนอื่นอยู่ครับ

taktay เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณไม่มีความเข้าใจหรือขาดประสบการณ์ อาจเป็นเพราะมัวแต่ต้องคอยยุ่งแต่
เรื่องที่พระท่านบอกว่า ไร้สาระเป็นเรื่องของโลกีย์ บางครั้งบางคราวเลยเอาเรื่อง
สามคนผัวเมีย มาเปรียบในเรื่องของธรรม


การจะสนทนาธรรมควรจะพูดแต่เรื่องอะไร? และไม่ควรพูดถึงเรื่องอะไร?....
แล้วทุกข์ของเรื่อง ผัวๆเมียๆ เป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรเกี่ยวข้องกับธรรมะเลยหรือค่ะ?
ไม่ควรพูด ไม่ควรยุ่งเกี่ยว....ในประเทศไทยนี้จะเหลือสักกี่คนที่ควรจะพูดด้วย?
กรุณาชี้แจงด้วย......

สนทนากับท่านแล้วได้เห็นอะไรดีๆเยอะเลยค่ะ....หวังว่าคงไม่เบื่อที่จะสนทนากันต่อนะค่ะ
[/color][/i]


ผมจะบอกให้เรื่องที่เกี่ยวกับจิตใจ เราต้องเอาธรรมะมาสอนมาระงับ
แต่มันต้องเป็นวิธีทางแห่งธรรมะ แต่วิธีที่คุณใช้มันไม่ใช่ ของพวกคุณผมดูแล้วมันก็แค่ปลอบใจ
เป็นเพื่อนคุย เขาสบายใจขึ้นก็แค่ช่วงที่มีคนคุยเป็นเพื่อน แต่หลังจากนั้นแหล่ะ
เรี่องที่คิดมันกลับพอกพูนขึ้นมากกว่าเดิม ไหนจะเรื่องของตัวเอง ยังมีเรื่องที่พวกคุณมาปลอบมาเล่าอีก

ก็ผมบอกแล้วไงว่า พระท่านบอกว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระ หาแก่นสารไม่ได้
มีวิธีเดียวก็คือทำใจ มันหมายถึงการไม่คิดปรุงแต่งเพิ่ม แล้วก็พยายามตัดใจให้ได้
ไม่ไปคิดเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว สรุปคืดอย่าไปสร้างความหวังใหม่


ประเทศไทยมีคนคุยเรื่องธรรมเยอะครับ เพียงแต่คนที่พูดธรรมแบบไม่ดัดจริตหายากหน่อย
ผมเห็นมีแต่คนที่มันชอบอวดรู้ แต่พอเอาเข้าจริงไม่ได้เรื่อง แถมยังทำนิสัยพาลไม่เลิกลา
สงสัยจริงมันไม่อายเพื่อนสมาชิกบางเลยหรือ(ไม่ได้หมายถึงคุณน่ะ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2010, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ผมถามคุณหน่อยอาชีพภารโรงมันต่ำมากในสายตาคุณหรือไงครับ
ถึงได้เอามาอ้าง เอามาประชดประชัน อย่าลืมซิครับอาชีพทุกอาชีพ
ถ้าเป็นอาชีพสุจริตมันก็ย่อมมีคุณค่าในตัวมันอยู่แล้ว แล้วยิ่งถ้าบุคคลในอาชีพนั้นๆ
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี และเหมาะสมต่อหน้าที่ บุคคลนั้นย่อมสูงส่ง
ในสายตาของผู้ประพฤติธรรมครับ


อ้างคำพูด:
คุณผู้คอยดูแลเรื่องของผัวเมียครับ มันมีอุทาหรณ์สอนใจอยู่ครับว่า
คนที่มีจิตใจสูงเมื่อเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ก็มักหยิบแต่ของสูงครับ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้างครับ
ตรงนี้หมายความว่า ที่หยิบยกอาชีพภารโรงมานั้น
เป็นของต่ำ...แล้วเป็นผู้ดูแลเรื่องผัวเมียละค่ะ..เป็นอย่างไร?


ท่านช่วยอ่านที่ท่านโพสต์มาทั้งสองข้อข้างต้นนี้
ทักทายว่ามันขัดๆกันอย่างไรอยู่นาท่านว่าไหม?.....


ทักทายคิดว่าตัวเองมีหน้าที่รักษาดูแล
ความสะอาดเรียบร้อยในลาน ก็เปรียบเสมือนเป็นภารโรงในลาน
ซินญอก็บอกว่า "คนที่มีจิตใจสูงก็มักหยิบแต่ของสูงมาเปรียบเทียบ
แต่คนที่มีจิตใจต่ำก็จะเอาแต่สิงที่คิดว่าเป็นของต่ำมาอ้าง"
สรุปอาชีพภาพโรง สูงหรือต่ำ...อ่านกี่ครั้งคำตอบก็วนไปวนมา
ไม่สรุปให้สักที....ต่ำหรือสูงกันแน่ เอาตรงๆ ไม่ต้องเปรียบเปรย
และไม่ต้องอ้อมค้อม....ได้ไหมค่ะ?...เพื่อไขข้อข้องใจ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะซินญอ :b8:


วันนี้ขอถามท่านแค่นี้แหละค่ะ...เพราะเน็ทไม่ดี
พยายามเข้ามาในลานตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากคิดถึงท่านมากแต่ก็เข้าไม่ได้
จึงไม่แน่ใจว่าสนทนากันนานๆแล้วจะส่งได้หรือไม่?.....ขอสั้นๆง่ายๆ
ส่วนเรื่องอื่นๆจะค่อยๆเข้ามาอ่านและเข้ามาเรียนรู้จากท่าน...ตอนนี้
ยอมรับว่า...เวียนหัวมาก....ขออนุญาตแต่งตั้งตำแหน่งท่านสักตำแหน่งหนึ่ง
ไม่ทราบท่านพอจะให้เกียรติรับไว้ได้หรือเปล่า? คือตำแหน่ง
"พระมะเหลเถไถ"...ไม่ได้ประชดนะ แต่เหน็บแบบขำๆค่ะท่าน :b13:
และคงไม่เป็นไรนะ...เพราะตำแหน่งก็มิได้ต่ำต้อย คงไม่หาว่าดูถูกกัน
และยังเป็นสิ่งสมมุติ และไม่มีตัวตน พอๆกับหนุมาน สมุนพระรามในเรื่อง
รามเกียร์...อ้อ...ทักทายขอเปลี่ยนตัวเองจากที่ท่านเปรียบเทียบเป็นหนุมาน
ขอเป็นพิเภกได้ไหมค่ะ?...เนื่องจากชอบเป็นการส่วนตัวค่ะซินญอ:b13:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2010, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กบนอกกะลา เขียน:
โฮฮับ เขียน:
การกระทำของพวกคนที่เอาแต่พวกพ้อง พยายามทุกอย่าง
ที่จะช่วยพวกของตัวเอง แม้จะเป็นสิ่งน่าอายและกระทบต่อหน้าที่

:b32: :b32: :b32: :b32:
ขนาด..เป็น..กา..ยังถูกปรักปรัม..ว่ามันต้องรู้เลย..

สัตว์เดรัจฉานนะนั้นนะ..ป้ายสีมันไปได้..

นี้ก็คงป้ายสี..ด้วยทิฎฐิอันเลวทราม..ตามเคย

จะกดปุ่มอนุโมทนาให้ท่าน..ก็ชักขยาด
ครั้นจะไม่ทักท่านฯ...กลัวท่านคิดว่าลืมพวกพ้อง
ว้า...หนักหัวจังเลย..... :b13:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 94 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 31 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron