ผู้ที่นิพพานไปแล้ว ยังมีจิตของผู้นิพพานอยู่ไหม

ขอบคุณครับ

สวัสดี "เด็จพี่"
นิพพาน ไม่ได้ตอบคำถามว่า มีจิต หรือไม่มีจิต นะครับ
นิพพาน ตอบคำถามว่า ความสกปรกโสมม หมักหมม ของเชื้อกิเลส อันก่อนให้เกิดภพทั้งหลายทั้งปวงนั้นจบแล้วหรือไม่.

ตอบคำถามเช่นนี้ ก็เพียงพอแล้ว นอกเหนือจากนั้นไม่เป็นประโยชน์ เลย..

เจริญในการปฏิบัติธรรมยิ่งขึ้นไปนะครับ

ผู้ที่นิพพานไปแล้ว ยังมีจิตของผู้นิพพานอยู่ไหม

นิพพาน ไม่มีอาการแห่งรูปและนาม เป็นธรรมธาตุ ไม่มีคำว่าจิต เพราะไม่มีเหตุ ปัจจัยให้เกิดจิต

ดูก่อนท่านผู้เจริญ..............

จิตคือตัวตนของเราที่ได้ดำรงอยู่หลายภพหลายชาติจนกว่าจะไม่มีกิเลส

จิตที่เต็มไปด้วยกองกิเลส นำพาให้เราไปยังสู่ภพที่ต่ำ
จิตที่เป็นกลางได้บังเกิดเป็นมนุษย์
จิตที่ปราศจากกองกิเลสและสะอาดสดใสหรือว่างเปล่า จิตคือพระนิพพาน

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมเทอญ............

นิพพาน เป็น ธรรมารมณ์ รับรู้ได้ด้วยจิต แต่ไม่ใช่จิต

จิต ประกอบขึ้นมาจากเหตุปัจจัย เป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นสังขตธรรม

นิพพาน ไม่ประกอบขึ้นมาจากเหตุปัจจัย ไม่เป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นอสังขตธรรม

ผู้เข้าถึงนิพพานแล้ว แต่ยังไม่ทำกาละ ยังดำรงขันธ์อยู่ มีจิตที่รับรู้นิพพานได้

ผู้เข้าถึงนิพพานแล้ว และทำกาละคือตาย ไม่มีธาตุขันธ์เหลืออยู่ หมดจิตที่รับรู้นิพพานได้

นิพพานมีอยู่ มิใช่ไม่มี นิพพานตั้งอยู่ มิใช่เกิดหรือดับ นิพพานเป็นอยู่อย่างนั้น

ผู้นิพพานแล้ว ตายแล้ว รูปขันธ์ก็ทิ้งไว้ในโลก จิตก็หมดเหตุปัจจัยให้เกิดจึงดับไป...จึงเข้าถึงนิพพานธาตุอย่างนี้

ขอให้เจริญในธรรม

ภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ ๒ ประการเป็นไฉน คือ สอุปาทิเสสนิพพาน
ธาตุ ๑ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำ
กิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มี
สังโยชน์ในภพนี้สิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นย่อมเสวย
อารมณ์ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจ ยังเสวยสุขและทุกข์อยู่ เพราะความที่อินทรีย์ ๕
เหล่าใดเป็นธรรมชาติไม่บุบสลาย อินทรีย์ ๕ เหล่านั้นของเธอยังตั้งอยู่นั่นเทียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่ง
โมหะ ของภิกษุนั้น นี้เราเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็อนุปาทิเสสนิพพานธาตุเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของ
ตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ
เวทนาทั้งปวงในอัตภาพนี้แหละของภิกษุนั้น เป็นธรรมชาติอันกิเลสทั้งหลายมี
ตัณหาเป็นต้นให้เพลิดเพลินมิได้แล้ว จัก (ดับ) เย็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรา
เรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการ
นี้แล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... E%BE%D2%B9

สวัสดีคับ ผมก็ดูจิตอยู่ได้พักนึงล่ะคับ อายุผม เพิ่ง 19 คับ ตอนนี้ผมก็สนใจเรื่องนี้มากคับ

จิตเป็นอนัตตาครับ อย่างเราๆเห็นว่าจิตเป็นตัวๆ แต่สำหรับผู้ที่ภาวนาจะเห็นว่าจิตนั้นประกอบกันขึ้นเป็นกระบวนการ เป็นกระแส เป็นสภาวะ เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย รูปเข้าตาพึงใจก็เป็นสุข เรียกจิตสุข เมื่อหมดเหตุ สภาวะนั้นก็ดับ ไม่จีรัง อยู่เหนืออำนาจการบังคับบัญชา เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ตัวตน เราเขา แล้วนิพพานจะมีจิตไหม

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพ
ขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา
ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... A%D9%B5%C3

จิตนิพพานยังมีอยู่ทุกตัวตน ในสามโลก ทั้งมนุษย์โลก,เทวพรหมโลก,และนรกโลก
แม้พระอรหันต์ท่านจบกิจกลับนิพพานไปแล้ว แต่จิตท่านยังดลจิตดลใจให้ลูกหลาน
ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง....พระนิพพานไม่ใช่อัตตา ไม่ใช่อนัตตา แต่เป็นอมตธรรม
ส่วนทั้งสามโลกเป็นสุญญตาธรรม เพราะฉนั้นจิตจึงไม่สูญ...เหมือนร่างกาย
จิตเป็นของจริง....ไม่มีวันสูญสลาย..เหมือนกายคน เทพ พรหม
จิตเป็นโลกกุตตระธรรม กายคน,สัตว์,เทพ,พรหม เป็นโลกียธรรม=สุญญตาธรรม
พระนิิพพานสูญสิ้นจากกิเลส ตัณหา อวิชชา อุปาทาน อกุศลกรรม...ไม่มีกลางวันกลางคืน
ไม่มีพระอาทิพย์,พระจันทร์ ไม่มีดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่มีขันธ์ 5 ตรงข้ามกับโลกมนุษย์ทุกอย่าง
โลกมนุษย์เป็นโลกวัตถุ เทพ,พรหม มีความเป็นทิพย์ก็จริงแต่ก็มีการเคลื่อนไปตามบุญบารมี
นิพพานมีความเป็นทิพย์ตลอดกาล ไม่มีการเปลี่ยนแปลง...
มีพระพุทธเจ้าหลายแสนพระองค์....พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์อีกหลายล้านล้านพระองค์
กายทิพย์นิพพานเป็นกายแก้วกายเพชร สว่างไสวไปทั้งสามโลก
สามารถจะทำให้มีรูปลักษณ์หรือไม่มีก็ได้....เรียกว่ากายพระวิสุทธิเทพ
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.sangthipnipparn.com

ท่านมาจากวัดท่าซุงหรือครับ? :b16:

ถูกต้องครับ

....

...ชื่นใจจังเลยยยยย...

เป็นกำลังใจ...ให้นะจ๊ะ...น้องรัก...

พี่ ๆ ลานธรรม...ดูแล...น้อง "ธรรมมะที่แท้จริง" ด้วยนะจ๊ะ...

มันก็เหมือนกับ แสงอาทิตย์ที่ไม่มีเมฆมาบัง