ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36732 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 |
เจ้าของ: | Bwitch [ 11 ก.พ. 2011, 15:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
“คนธรรมดาทำบุญก็อยากได้บุญ คนมีปัญญาทำบุญหวังจะเกิดในภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่ชาวพุทธแท้ทำบุญเพื่อการปล่อยวางกิเลสอย่างสิ้นเชิง” เพราะเหตุที่คนเรามีระดับสติปัญญาแตกต่างกันไป รูปแบบการทำบุญจึงแตกต่างกันตามสติปัญญา ![]() ![]() |
เจ้าของ: | มัทนา ณ หิมะวัน [ 11 ก.พ. 2011, 17:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
![]() ข้าพเจ้าขอประเดิมวิสัชนา...จ้า คือการทำบุญที่บริสุทธิ์ด้วยเจตนา และมีความบริสุทธิ์ทั้งฝ่ายผู้ให้ ผู้รับ และสิ่งของที่ให้ (ในกรณีที่เป็นทาน) โดยผู้ทำรู้ประโยชน์และอานิสงส์แห่งบุญนั้นว่า ต้องเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสของตนเองและผู้อื่น มิได้เป็นไปเพื่อส่งเสริมอัตตาตัวตน หรือลาภ ยศ สรรเสริญใดใด... เป็นการทำบุญเพื่อสั่งสมให้เกิด "กุศล" จนนำไปสู่ความหลุดพ้นในที่สุด ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 ก.พ. 2011, 18:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
ขอตามมาอีกคน.. ![]() การทำบุญด้วยปัญญา..ก็มีระดับแตกต่างกันตามกำลังปัญญา ปัญญาอย่างหยาบ..ก็หวังลาภในปัจจุบัน ปัญญาอย่างกลาง...ก็หวังสุขในภพหน้า ปัญญาอย่างละเอียด...ก็เพื่อละความยึดความอยากทั้งหลาย..แม้แต่อยากในบุญ..ให้ถึงสุขในปัจจุบัน |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 11 ก.พ. 2011, 19:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
อนุโมทนา สาธุค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 11 ก.พ. 2011, 21:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
![]() ![]() ![]() เดี๋ยวขอฟังความเห็นท่านอื่นๆ บ้างนะคะ หนูจำไมอาจจะมีคำถามต่อไป |
เจ้าของ: | จางบาง [ 12 ก.พ. 2011, 18:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
ทำบุญด้วยปัญญา น่าจะหมายถึง ถอดเอาความฉลาดของเรา ยกให้คนอื่นเขาให้หมด ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ก.พ. 2011, 21:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
จางบางลางเลือน เขียน: ทำบุญด้วยปัญญา น่าจะหมายถึง ถอดเอาความฉลาดของเรา ยกให้คนอื่นเขาให้หมด ![]() ![]() ![]() ถอดได้ ยกได้ด้วย เฮ้ออ..หมดกัน .... ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ก.พ. 2011, 22:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
Bwitch เขียน: จางบางลางเลือน เขียน: ทำบุญด้วยปัญญา น่าจะหมายถึง ถอดเอาความฉลาดของเรา ยกให้คนอื่นเขาให้หมด ![]() ![]() ![]() ถอดได้ ยกได้ด้วย ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ก.พ. 2011, 23:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
eragon_joe เขียน: Bwitch เขียน: จางบางลางเลือน เขียน: ทำบุญด้วยปัญญา น่าจะหมายถึง ถอดเอาความฉลาดของเรา ยกให้คนอื่นเขาให้หมด ![]() ![]() ![]() ถอดได้ ยกได้ด้วย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจโตวิมุติ [ 13 ก.พ. 2011, 09:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
![]() มา (เปรียบเหมือนข้าวพรรณดี) ........2พิจารณา ผู้รับ ต้องบริสุทธิ์ (เหมือนนาที่มีดินดี น้ำดี)ถ้าในเกณฑ์นี้ถ้าเป็นสงฆ์ ต้องเป็นพระที่มี ศีล ปฏิบัติ ดี ปฏิบัติชอบ(ถ้าไม่แน่ใจให้ทำสังฆทาน) ........3.พิจารณาเจตนาที่ให้ ภาวะจิตขณะให้ - ให้ด้วยโลภะ ทำเพื่อหวังความรำรวย มีอำนาจวาสนา ยศถาบรรดาศักดิ์ นี้ต่ำสุด -ให้เพื่อความสุข เพื่อความอนุเคราะห์ เพื่อเกื้อกูลศาสนา เพื่อสะสมบารมีในชาติภพหน้า อันนี้ผลไพบูลย์ ขึ้น -ให้เพื่อสละออก ซึ่งโลภะ ไม่หวังสิ่งตอบแทน(สูญญตาทาน) อันนีเป็นบุญสูงสุด เรียกว่ากุศล เป็นบุญเพื่อมรรคผลนิพพานโดยแท้ผลบุญ(คือเมล็ดพันธ์ข้าว)จะสมบูรณ์ที่สุด ........4.พิจารณาวัตถุประสงค์ของการให้ บุญใดเป็นเพื่อเกื้อกูล เกื้อหนุน ศีล สมาธิ ปัญญา อันนั้นเป็นบุญตรง ในหลักพุทธศาสนา .............การสรางโบสถ์ ศาลา พระประธาน โคมไฟ หลอดไฟ ถวายอาหารอันประณีต คิลาเภสัช บาตรจีวร อัน สมคารแก่สมณะ เพื่อสงเคราะสงฆ์ เพื่อเกื้อกูลสงค์ ในการปฏิบัต ศีล สมาธิ ปัญญา นั้นเป็นเป็นบุญ โดยชอบ การถวายเครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าแพรราคาแพง รถประจำตำแหน่ง ก็พิจารณากันเอา เองว่าเอากิเลสไปป้ายพระหรือเปล่า เอาสิ่ง ที่ไม่สมควรแก่สมณะไปให้พระหรือเปล่า ถ้าจะให้ พระสะดวก ถวายวัดเป็น ของกลางไป แล้วอย่ามาอ้างว่าต้องเป็นเบนซ์ มันจะทำให้ท่านไป ไม่ถึงไหน......เจโตวิมุติ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 13 ก.พ. 2011, 09:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
Bwitch เขียน: eragon_joe เขียน: Bwitch เขียน: จางบางลางเลือน เขียน: ทำบุญด้วยปัญญา น่าจะหมายถึง ถอดเอาความฉลาดของเรา ยกให้คนอื่นเขาให้หมด ![]() ![]() ![]() ถอดได้ ยกได้ด้วย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() อิอิ จริง ๆ มีเรื่องอยากจะพูดมากมาย มากมายจนไม่รู้จะพูดอะไร ๆ ออกมาอย่างไร เสียงแรกที่ปรากฎภายใน คือเสียงใด เสียงแรกที่ปรากฎออกมาภายนอก คือเสียงใด ก่อนที่เสียงอื่น ๆ จะทยอยออกมา เมื่อเราพูดด้วยหัว เสียง สำเนียงจะออกมาอย่าง เมื่อเราพูดด้วยใจ เสียง สำเนียง ออกมาอย่างไร เสียงที่ออกมาจากสองแหล่งนี้ เงี่ยฟังดี ๆ เสียงที่เราใช้ หัวฟัง กับเสียงที่เราใช้ ใจฟัง เสียงที่ได้ยินจากสองแหล่งนี้ ให้อรรถรสอย่างไร การวางชีวิตไว้ในหนทางที่ง่าย ก็ทำให้เราไม่ต้องถูกปั่นถูกชักจูงให้ต้องไปวกวนกับความเจ้าเลห์ซับซ้อนของสังขาร ซึ่งมันไม่ได้ พาเราไป พบเจอกับสิ่งที่เราแสวงหา มันพาเราไปไกลจากเป้าหมาย ไกลสุดกู่เลย จนเราเห็นว่าสิ่งที่เคยมีมันลางเลือนหายไปจากสายตา ทำให้เราได้เผชิญหน้ากับ สิ่งที่เคยมี คือ มันเคยมีไง ถ้าบนยอดมะม่วงคือที่สถิตย์อันสูงสุดที่ผลมะม่วงพึงไปดำรงอยู่ แล้วมันจะ ร่วงลงสู่ดินทำไมกันล่ะ ทำไมมันไม่พยายามแขวนตัวเองให้อยู่บนนั้น เพราะอะไร ถ้ามองเป็นการเกิด และ การตาย ของสังขาร ก็ได้ในระดับหนึ่ง สังขาร คือสิ่งที่มันไม่เที่ยง สิ่งที่เที่ยง จะคือสิ่งที่ไม่ใช่สังขาร อย่างงั๊นหรือ ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปฏิบัติจะเที่ยวทำความรู้ตาม เมื่อรู้ตาม เราย่อมเห็นคำตอบสิ่งที่เราแสวงหาอยู่ในใจ เมื่อเราเห็นสิ่งที่สังขารว่าไม่ใช่ เราก็ผลักออก หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปข้องด้วยประการทั้งปวง เมื่อเราเห็นสิ่งที่เราวาดไว้ เราก็เข้าไปยึด จนกว่าจะพบว่าสิ่งนั้นแปรปรวน เราก็เริ่มมองหาสิ่งที่จะยึดใหม่ขึ้นมาอีก ตามแรงการส่งมาจากพื้นฐานสังขารเดิม ๆ เราจะวกวนอยู่กับสังขาร จนกว่าเราจะเห็นแง่ของ อสังขาร นั่นคือ การเห็น แค่การเห็น และเราก็ยังไม่ได้พ้นไปจากสังขาร เพียงแต่ว่าเราเห็นตัวมัน เห็นภัยแห่งสังขาร เมื่อนั้น การปฏิบัติธรรมเพิ่งจะเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ดังนั้น การประมาทว่าสิ่งนั้นเรารู้แล้ว สิ่งนี้เรารู้แล้ว เพราะ รู้แล้ว จึงเห็นสิ่งนั้นใช่-ก็เอา ก็รับไว้ สิ่งนั้นไม่ใช่-ไม่เอา ไม่รับไว้ รูปแบบเช่นนี้มันไม่ใช่ การกำหนดการเดินเช่นนั้น นั่นคือ เราได้ตกอยู่ภายใต้การกำกับของสังขาร คือยังไงเราก็ต้องอาศัยการชักจูงไปของมันในการเดินทางอยู่แล้ว แต่เราต้องหา คู่ต่อกรกับมันให้เจอ นั่นคือ สิ่งที่จะตัดหัวมันได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ขอบอก เอกอนงงเอง...ว่ะ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 13 ก.พ. 2011, 09:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
หากมีข้าวสวยสักทัพพี...แกงสักถุง..ดอกไม้สักดอก..เราก็ทำบุญตักบาตรได้แล้วเน๊าะ.. ถ้าเราไม่มีของเหล่านี้เลย...แล้วอยากได้บุญจากการตักบาตรนี้..???..มันก็ต้องใช้สมองกันหน่อย... ![]() เดินหาคนที่เขากำลังรอตักบาตร...แล้วก็..รอ.. ![]() ![]() พอเขาตักบาตร..ปั๊ป.... ![]() ก็ให้..อนุโมทนาสาธุ..กับเขา..ทันที ![]() ![]() ![]() ทีนี้..ก็ได้บุญแล้วละเน๊าะ... อย่างนี้..เป็นต้น |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 13 ก.พ. 2011, 10:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
บุญกิริยาวัตถุ มี 10 ข้อ...มีข้อเดียวคือ ทาน ที่ใช้สิ่งของเป็นอามิส (ยกเว้น อภัยทาน ) นอกนั้นก็ล้วนแต่ต้องใช้ปัญญาเป็นสำคัญ.. ไม่ว่าจะเป็น ...รักษาศีล ...การเจริญภาวนา ...การแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม ...การขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ ...การอุทิศส่วนบุญให้ผู้อื่น ...การอนุโมทนาส่วนบุญ ...การฟังพระสัทธรรม ...การให้ธรรมะแก่ผู้อื่น โดยมีหัวเรือใหญ่..คือ ..ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นของตนให้ตรง.. เป็นหลักชัย |
เจ้าของ: | neemagirl [ 13 ก.พ. 2011, 10:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 13 ก.พ. 2011, 10:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปุจฉา : การทำบุญด้วยปัญญา คืออย่างไร? |
eragon_joe เขียน: เสียงที่เราใช้ หัวฟัง กับเสียงที่เราใช้ ใจฟัง เสียงที่ได้ยินจากสองแหล่งนี้ ให้อรรถรสอย่างไร เสียงที่เราใช้ หัวฟัง .....ไอ้นี้สวย..ไอ้นี้ดี..พูดแล้วเราได้ประโยชน์ เสียงที่เราใช้ ใจฟัง ....เราอยู่นี้..แล้วไอ้เสียงเมื่อกี้...ใครพูดละหว่า??? |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |