วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 11:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2011, 13:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2011, 18:38
โพสต์: 33


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมสงสัยกับประโยคที่ว่า ใจไม่ใช่ของเรา แล้วมันเป็นของใคร แล้วผมก็สงสัยอีกว่า บางความคิดที่ผมไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นแต่มันขึ้นเองนี่ จะทำอย่างไรกับมันดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2011, 17:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ร่างกาย และจิตใจ ที่เรารู้สึกว่าเป็นเรา เป็นของเรานั้น ที่จริงแล้ว กายและใจไม่ได้เป็นเราเป็นของเราแต่อย่างใด เป็นเพียงการจำได้หมายเอาเองว่ากายเป็นเรา เป็นของเรา (รูปสัญญา) ใจเป็นเรา เป็นของเรา (นามสัญญา)สังเกตว่า เราไม่สามารถบังคับกายเราไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ป่วยได้ จิตใจก็บังคับไม่ให้คิด ไม่ให้รู้สึกก็ไม่ได้เช่นกัน ทั้งกายและใจแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง เมื่อเราหลงผิดคิดว่า กายใจเป็นเรา เป็นของเราก็จะหลงดิ้นรนรักษาให้กายใจดีตลอด โดยเฉพาะเวลาที่ทุกข์กายทุกข์ใจ ยิ่งดิ้นรนยิ่งทุกข์บีบคั้น หากว่าเราวางใจกลางยอมรับได้ว่า กายใจไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ก็จะเหลือแต่ความทุกข์ตามธรรมชาติ (ทุกข์สัจจ์) ทุกข์ที่เกิดจากความดิ้นรนอยากหายอยากพ้นทุกข์ก็ไม่มี (คือไม่มี resistance) เพียงแค่คิดตามน้อมใจเชื่อตามก็ช่วยผ่อนคลายขึ้นได้ ที่สำคัญกว่าเพียงแค่น้อมใจเชื่อคือ การฝึกเจริญสติจนจิตใจตั้งมั่นเป็นสมาธิจะเห็นว่า กายใจไม่ใช่เราจริงๆ เมื่อนั้นความปลอยวางกายใจได้ คือปล่อยวางทุกข์ได้

http://my.opera.com/racsp/blog/show.dml/4366062


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2011, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2011, 18:38
โพสต์: 33


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับบบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2011, 21:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


somamomiji เขียน:
ผมสงสัยกับประโยคที่ว่า ใจไม่ใช่ของเรา แล้วมันเป็นของใคร แล้วผมก็สงสัยอีกว่า บางความคิดที่ผมไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นแต่มันขึ้นเองนี่ จะทำอย่างไรกับมันดี


:b14: ถ้ายังหาเจ้าของไม่ได้ ก็เลี้ยงเอาไว้ก่อนก็ได้

ก็ทำเหมือนการเลี้ยง สุนัขที่มันดุ ๆ ก็ได้
ไม่รู้ด้วยนะนั่น ว่ามีเชื้อพิษสุนัขบ้าด้วยรึเปล่า :b5:

:b9: :b9: :b9:

อิอิ คือจริง ๆ พูดยากนะ
เพราะการมองเห็นใจไม่ใช่ของเรานี่ มันมีแง่ของมันหลายอรรถประโยชน์

ในช่วงที่เราหลงมัน เราต้องพิจารณาแง่หนึ่ง เพื่อจะได้เห็นพฤติกรรมต่าง ๆ นานาของมัน
แต่เมื่อเราเท่าทันมันแล้ว ทัศนะที่ว่าปฏิเสธว่ามันไม่ใช่ของเรา จะเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ

คือ มันจะเป็นของเราก็ไม่ใช่ มันจะไม่เป็นของเราก็ไม่เชิง
เพราะมันเนื่องด้วยปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2011, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ใจมันก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ธรรมชาติไม่มีเจ้าของ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2011, 18:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


somamomiji เขียน:
ผมสงสัยกับประโยคที่ว่า ใจไม่ใช่ของเรา แล้วมันเป็นของใคร

เป็นของคนที่มีอุปปาทานขันธ์ 5 หรือคนที่มีทุกข์ :b13: :b13:
somamomiji เขียน:
แล้วผมก็สงสัยอีกว่า บางความคิดที่ผมไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นแต่มันขึ้นเองนี่ จะทำอย่างไรกับมันดี

เฝ้าดูมันครับ ดูว่ามันยืนยันความจริงที่ว่า ใจไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2011, 19:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เพราะเราไม่มี
กายจึงไม่ใช่ของเรา
ใจจึงไม่ใช่ของเรา

ความรู้สึกว่ามีเรา เกิดขึ้นเพราะอะไร...........นี่คือสิ่งที่น่าหาคำตอบ
และต้องหาทางละ ความรู้สึกนี้ให้ได้ด้วย เขาเรียกว่า ละสักกายทิฏฐิ

แต่การที่ไม่มีเรา
แล้วจะทำบาปทำกรรม ได้อย่างสบายใจ นั้นไม่ใช่
เพราะกายและใจ มีจริง
รูปทั้งหลายรวมเรียกว่า กาย
ใจ มาจากคำว่าวิญญาณ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ........เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อยู่ตลอดเวลาด้วยความรวดเร็ว

เพราะมีวิญญาณ จึงมี เวทนา สัญญา สังขาร เกิดขึ้นร่วมด้วย............ เพราะสหชาตปัจจัย

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ รวมเรียกว่า ขันธ์5

ขันธ์5 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างรวดเร็ว ตลอดเวลา
ขันธ์5เมื่อดับไปแล้ว จะไปหาที่ไหนก็ไม่เจอ เพราะมันไม่มีอีก
ขันธ์5ไม่มี แล้วก็มีอีก เกิดจากเหตุปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น อนันตรปัจจัย กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย เป็นต้น

เพราะฉะนั้น การกระทำกรรมต่างๆ ทางกาย วาจา ใจ
ส่งผลกระทบต่อ การเกิดขึ้นของขันธ์5 ในอนาคตทั้งใกล้และไกล

ขันธ์5 มีลักษณะ 3 ประการคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ความเป็นอนัตตา ของขันธ์5 มันถูกระบุ ก็เพราะสภาพของมันมีแล้ว ไม่มี
จากไม่มี แล้วมามี
จะขัง จะหยุดยั้ง จะเก็บมันเอาไว้ก็ไม่ได้ เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป อย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครจะไปยับยั้ง
คือบังคับบัญชาไม่ได้
ขันธ์5 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป อยู่ตลอดเวลา ต่อเนื่องไปในวัฏฏสงสาร อันยาวนาน
โดยไม่สามารถสืบหาต้นตอ การเกิดขึ้นตอนแรกได้ เขาอุปมาเหมือนกงล้อ
ไม่อาจหาจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของกงล้อเกวียนได้ เนื่องจากมันกลม จึงหาจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดไม่เจอ

ขันธ์5 นี้คือ สังขาร(คนละตัวกับสังขารขันธ์)

"อนิจจา วตสังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชฌิตวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปสโม สุโข"

แปลว่า

" สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
ครั้นเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมดับไป การเข้าไปสงบระงับสังขารได้ เป็นความสุข"

ขันธ์5 เวียนว่าย ไปในภพภูมิต่างๆ ตลอดกาลอันยาวนาน
การดับขันธ์5(ปรินิพพาน) เสียได้ ก็ย่อมพ้นทุกข์ทั้งปวง
เลิกการเวียนว่ายตายเกิด อันประกอบไปด้วยความทุกข์
เพราะการเกิด นำมาซึ่งความแก่ ความเจ็บ และความตาย อยู่ทุกภพทุกชาติไป

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 18:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวันก่อน
ตอนเย็นฝนตกหนัก
น้ำท่วมทางด้านต้นซอย
ไม่ได้ปิดฝาท่อน้ำทิ้งภายในบ้าน
แมลงสาบหนีน้ำมาตามท่อระบายน้ำ
กลับถึงบ้าน เข้าบ้าน เดินไปหลังบ้าน
ปรากฎภาพ แมลงสาบ กระจุกกันเป็นกลุ่ม ๆ
เปิดไฟ แล้วค่อย ๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดูในแหล่งที่มา :b14:
...
ถอยออกมา เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเต้าหู้มาอุ่น
แล้วเอาไปนั่งซดหน้าทีวี
ถักผ้าพันคอไปด้วย
...
...

"แมงขาบออกมาเท่าไรก็ไม่รู้ แต่จะรู้เมื่อหยุดคิด"
คำกล่าวอาจารย์

...

นี่คือคำตอบ คำถาม "เรื่องใจ"

"เรารู้อะไร เมื่อหยุดคิด"
คั๊บป๋ม

กราบขอบพระคุณท่านแมลงสาบทุกท่านที่ได้มาร่วมกันสร้างสถานการณ์ให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้
ขออานิสงผลบุญที่พวกท่านได้กระทำต่อข้าพเจ้าในกาลนั้น
ส่งผลพวกท่านมีดวงตาเห็นแสงแห่งธรรม เจริญในธรรม
และเข้าสู่เส้นแห่งการพ้นทุกข์ภัยแห่งสังสารด้วยเถิด

กราบ

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 03:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


นักภาวนาทุกๆคนนั้นล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ รู้เท่าทันจิต การห้ามคิดต้องมีอุบาย คือสติเป็นเครื่องกั้นกระแสแห่งโลก นักภาวนาทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องผ่านด่านที่ยากแต่ถ้าตั้งใจก็ทำได้นั่นคือ การเป็นคนที่มีสติที่มั่นคง ไม่วอกแวกไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ครับ ส่วนใจเป็นของใครนั้น เกิดขึ้นเพราะมีเหตุครับ และดับลงเพราะมีเหตุเช่นกัน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 71 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร