วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 17:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 264 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่นำตัวอย่างมาให้ดูเท่านั้นก็ทำให้คนคิดไปต่างๆนานาแล้ว แล้วแต่ว่า ใครมีความคิดมีจิตโน้มเอียงทางไหนก็ว่าไปทางนั้น ผู้หนักไปทางอริยะก็เป็นอริยะ มีจิตโน้มเอียงไปทางภูตผีปีศาจ, เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ ก็ว่าไปคิดไปทางนั้นแล.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกาย รายสุดท้ายที่ยกมาซวยสุด เจอเทวปุตมาร หลอกได้เนียน แล้วก็ดันไปเชื่อ มันบอกอะไรมาก็เชื่อตามนั้น ในมโนวิญญาน เปรตมันเนรมิตให้เห็นภาพแสงสีเสียงได้ครบ ก็แบบนี้แหละ พวกถึงหลงว่าทำสมาธิแล้วได้เป็นอริยะเต็มไปหมด

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกภายนอก กว้างไกล ใครใครรู้
โลกภายใน ลึกซึ้งอยู่ รู้บ้างไหม
จะมองโลก ภายนอก มองออกไป
จะมองโลก ภายใน ให้มองตน.

เป็นความโชคดีของผู้ปฏิบัติธรรม หรือ ผู้ปฏิบัติกรรมฐาน หรือ ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน ฯลฯ มากกว่าครับ ไม่ใช่ซวย นอกจากผู้ไม่เข้าใจเรื่องดังกล่าว ก็จึงไม่เข้าใจธรรมชาติ คือ ชีวิตนี้ หรือกายกับใจนี้ นี่คือปัญหาของผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน หรือปฏิบัติธรรม หรือ ปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกทาง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทักษา เขียน
คุณ Supareak Mulpong คนที่ถูกเปรตครอบผมว่าจะไม่ต้องทำสมาธิอย่างที่
คุณกล่าวมาก็ถูกเปรตครอบได้ครับ ก็ดูอย่างคนทุกว้นนี้สิ่ ขับรถปาดหน้ากันมัน
ก็คว้าปืนออกมายิงกันแล้ว บางคนแค่มองหน้ากันก็เขม่นกันตีกันฆ่ากันแล้ว มีให้
เห็นในข่าวออกบ่อย ยิ่งพวกที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ผลประโยชน์ของตน พวกนี้ยิ่ง
เป็นมหาเปรตเลยครับ เอาแต่ได้อย่างเดียว ทั้งโกงทั้งกิน ใครจะเป็นยังไง ชาว
บ้านเขาจะอยู่อย่างไร ไม่สนใจ ขอให้กินได้เยอะๆเป็นดี กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม
นี่แหละเปรตครอบ มหาเปรตเลยล่ะ

เห็นด้วยครับกับข้อความนี้
ผมมาคิดดูว่า เจ้าเข้าทรงต่างๆนั้น หาได้มีการนั่งสมาธิที่มีจุดประสงค์ของการดับทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเลย โดยหากจะกล่าวว่าเปรตมาหลอกในสมาธิ ผมคิดว่าคนหลอกคนมากกว่า เพราะหากนั่งสมาธิตามคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องมีศีล5ยึดปฏิบัติ ไม่โกหก หลอกลวงเพื่อหวังเงินทองและชื่อเสียง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชีวิต เป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อยู่ในภาวะแห่งอนิจจตา ไม่เที่ยง ไม่คงทน เกิดแล้วสลายไป อนัตตา ภาวะที่ไร้ตัวตนที่แท้จริงของมันเอง ทุกขตา ภาวะที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายตัวอยู่ทุกขณะ มีความกดดันขัดแย้งแฝงอยู่ ไม่สมบูรณ์ในตัว และพร้อมที่จะก่อให้เกิดความทุกข์ได้เสมอ ในกรณีที่มีการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยความไม่รู้

ที่ว่าเป็นทุกข์ เพราะไตรลักษณ์มันเปลี่ยนแปรไปเรื่อยตามสภาวะของมัน แต่ผู้ปฏิบัติธรรมไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างนั้น ก็จึงขัดกับความต้องการของเรา ก็จึงเป็นทุกข์เพราะไตรลักษณ์คือภาวะอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สมกับที่กล่าวใน สํ.ข. 17/4/4 ; 32/21 ; 87/53 ว่า “การประสบไตรลักษณ์อย่างไม่รู้เท่าทัน กลับทำให้เกิดทุกข์”

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกาย การได้เป็นอริยะได้มาจากการสั่งสมปัญญา สั่งสมอนิจสัญญา ทุกขสัญญา อนันตสัญญา ใช้ปัญญาดั่งศาสตราขุดรากเห้างของโลภะ โทสะ โมหะ ให้สิ้นไป หรือค่อยๆ หมดไป ไม่ได้มาจากนั่งสมาธิจนนิ่งแล้วได้ยินเสียงบอกว่า ตัวไม่มี จิตไม่มี ... ถึงบอกว่า โง่กว่าเปรต มีที่ใหนเป็นอริยะเพราะได้ยินเสียงในสมาธิ

สภาวะที่เขาได้เป็น คือ ไปบังคับจิตจนจิตเกิดรับอารมณ์ในมโนทวารอย่างเดียว ตัดขาดจากการรับรู้ทางอื่น จึงรู้สึกว่า ตัวไม่มี เบาๆ ลอยๆ ใครนั่งสมาธิก็จะได้พบกับสภาวะนี้ บ้างก็มั่วเอาว่า นี่แหละ ละสักกายะได้แล้ว จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเทวปุตมารที่คอยจ้องเล่นงานพวกทำสมาธิ ... เข้าทางมาร ... หรือคุณโดนเข้าให้แล้ว :b6:

คุณ student แล้วไอ้คำสอนที่ว่า ให้ยึิดศีล ๕ แล้วมาทำสมาธิ มันมีในสูตรใหนเล่มใหนในพระไตรปิฏกครับ หามาให้ดูหน่อย!

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกภายนอก กว้างไกล ใครใครรู้
โลกภายใน ลึกซึ้งอยู่ รู้บ้างไหม
จะมองโลก ภายนอก มองออกไป
จะมองโลก ภายใน ให้มองตน.

เป็นความโชคดีของผู้ปฏิบัติธรรม หรือ ผู้ปฏิบัติกรรมฐาน หรือ ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน ฯลฯ มากกว่าครับ ไม่ใช่ซวย นอกจากผู้ไม่เข้าใจเรื่องดังกล่าว ก็จึงไม่เข้าใจธรรมชาติ คือ ชีวิตนี้ หรือกายกับใจนี้ นี่คือปัญหาของผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน หรือปฏิบัติธรรม หรือ ปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกทาง

:b8: :b8: :b8:
คนมากประสบการณ์นี้...นุ่มนวลลุ่มลึกอย่างนี้เอง.. :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:

คุณกบ! พวกโดนเปรตครอบดูไม่ยากหรอกครับ แต่ถ้าเป็นเทวปุตมารดูยากหน่อย เอาแบบคนทั่วไปดูได้ก็คือ รอบๆ ตัวเขาจะมีวัตถุบูชา รูปปั้นฤาษี รูปปั้นเทพ ฯ เต็มไปหมด มีธาตุฤาษีที่เขาเข้าใจว่าเป็นของพระพุทธเจ้า ฯ บางคนพูดภาษาเทพได้ จริงๆ ก็คือภาษาฮินดู สวดด่าพระพุทธเจ้าเป็นประจำ ลักษณะภายนอก ไม่ได้ต่างอะไรไปจากปุถุชน ทั้งความคิดเห็น พฤติกรรม แค่มีเปรตมาทำให้เกิดนิมิตร บางคนลืมตาก็เห็นได้ แต่ส่วนมาก ต้องสลึมสลือเหมือนตื่นนอน จึงจะมีฤทธิ์ คือ จิตต้องเข้าไกล้ภวังค์ก่อนเปรตมันถึงจะครอบได้ แล้วฤทธิ์ที่พวกนี้คิดว่าได้มา ก็สั่งไม่ได้ มาๆ ไปๆ เพราะจริงๆ มันไม่ใช่ของเขา เวลาต้องการของบูชา พวกจะบอกว่าขาดน้ำไม่ได้ แสดงว่าเจอพวกอสูรกาย พวกนี้ขาดน้ำต้องการน้ำ บ้างหัวเราะแล้วบอกว่าตนเองเป็นอรหันต์ เพราะเปรตมันจะเอาให้ลงมหานรก ... เกินจากนี้ก็เป็นเรื่องของญานทัศนะ แล้วอย่าคิดว่าเปรตโง่ละ มันตายไปจากคนก็ฉลาดเท่าคนนั่นแหละ



พวกนี้ดูง่าย....มาก...

และ..อริยะ..หรือไม่อริยะ...ก็ไม่ได้ยากอะไร

สนทนาสักหน่อยก็รู้สึกได้แล้ว...นี้ขนาดไม่มีญาณวิเศษอะไรกับเขานะเนี้ย

คุยให้ฟัง...เฉย ๆ ...ไม่ได้โม้ :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อีกสักราย


.......
ทันใด ก็มีเสียงหนึ่งถามว่า "กายเธออยู่ที่ไหน" เมื่อได้เห็นแบบนี้ก็เลยตอบว่า "ไม่มี" แล้วเสียงนั้นก็ตอบว่า "แล้วจิตเธออยู่ที่ไหน" ดิฉันพยายามมองหาคำตอบว่าจิตอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้กายไม่มีแล้ว ก็จะบริกรรมพุธโธต่อแต่ ไม่มีกายก็ไม่มีลม คำบริกรรมก็หาย มันมีสภาวะที่โล่งๆว่างๆเลยตอบไปว่า "จิตก็คงไม่มี" แล้วมันก็สว่างวาบ
ฯลฯ

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=271.0


นึกถึงตอนที่..ท่านจุฬบันถก..กำลังพิจารณ์ผ้าที่หมองจากการลูบคลำ..จนเห็นอนิจจลักษณ์สัญญา..แล้วพระพุทธเจ้าที่ประทับรับนิมนต์อยู่ที่บ้านท่านหมอชีวก..ก็ฉายฉัพรังสีเสมือนว่าอยู่ต่อหน้า..ท่านจุฬบันถก....แล้วก็เทศน์สอนให้พิจารณาธรรม.....

นึกถึงเฉย ๆ ....ไม่ได้มีความหมายอะไร :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตมายาจิต เห็นแล้วจะนึกขำ


ผมมือใหม่มากๆ
นั่งสมาธิได้แป้ปเดียว จะรู้สึกเหมือนโงนเงนโยกคลอน ทั้งๆที่พอลืมตาแล้ว ก็ตัวตั้งตรงเหมือนเดิม
ตอนนี้พยายามนั่งให้ถี่แต่นั่งไม่นานครับ แบบนี้ทำไงถึงจะนั่งได้นานๆครับ

มันมีเสียงเข้ามาในหัวด้วยครับ จะประมาณว่า จะไหวเหรอ นั่งนานแล้วนะ พอเถอะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูที่พระพุทธเจ้าเปรียบจิตหรือวิญญาณว่า เหมือนนักเล่นกล รู้ว่าเขาโกหกแต่ก็จับไม่ได้


"พระพุทธเจ้า ได้ตรัสแสดงไว้ว่า รูปอุปมาเหมือนฟูมฟองน้ำ เวทนาอุปมาเหมือนฟองน้ำฝน สัญญาอุปมาเหมือนพยับแดด สังขารอุปมาเหมือนต้นกล้วย วิญญาณอุปมาเหมือนมายากล ภิกษุพินิจดู โดยแยบคาย ซึ่งเบญจขันธ์นั้น โดยประการใดๆ ก็มีแต่สภาวะที่ว่างเปล่า พระผู้ทรงปัญญาดังผืนแผ่นดิน ทรงปรารภร่างกายนี้แล้ว ทรงแสดงการละธรรม 3 อย่าง (โลภะ โทสะ โมหะ หรือ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ) ไว้ ท่านทั้งหลาย จงดูรูปที่เขาทิ้งแล้ว เมื่อใด อายุ ไออุ่น และวิญญาณละกายนี้ เมื่อนั้น ร่างกายก็ถูกทิ้งนอนไร้จิตใจ กลายเป็นอาหารของสัตว์อื่น นี้แหละการสืบต่อชีวิตก็อย่างนี้ มันเป็นมายากล หลอกคนโง่ให้เพ้อ ได้บอกแล้วว่า เบญจขันธ์นี้ เป็นผู้ล่าสังหารอยู่ในตัว จะหาแก่นสารในเบญจขันธ์นี้ย่อมไม่มี ภิกษุระดมความเพียรแล้ว พึงพิจารณาขันธ์ทั้งหลาย โดยมีสติสัมปชัญญะ มีสติมั่น ทั้งวันทั้งคืน พึงละเครื่องผูกมัดเสียให้หมด พึงสร้างที่พึ่งให้แก่ตน เมื่อปรารถนาอัจจุบท (นิพพาน) ก็พึงประพฤติเหมือนดังคนที่ศีรษะถูกไฟไหม้"

สํ.ข.17/247/174

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ยกเอาคำสอนที่ท่านสอนพระอริยะมาอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วก็พาลากออกจากธรรมวินัย ให้ไปตกอยู่ในการควบคุมของสมุนมาร ... นี่ก็งานถนััดของพวกเทวปุตมาร

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
ยกเอาคำสอนที่ท่านสอนพระอริยะมาอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วก็พาลากออกจากธรรมวินัย ให้ไปตกอยู่ในการควบคุมของสมุนมาร ... นี่ก็งานถนััดของพวกเทวปุตมาร


มีอะไรรับประกันว่า...นี้ไม่ใช่อีกงานที่พวกเทวปุตมาร...ก็ถนัด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รายนี้ก็ได้ยินเสียงผู้ชายต้าน

รู้สึกว่า อาการตัวพองจะเกิดเร็วขึ้น พอกำหนดว่า “ตัวพองหนอๆๆ” ประมาณ 1-2 นาที คำภาวนาก็หายไปเอง
พอจะกำหนด “ยุบหนอ” “พองหนอ” ใหม่ ก็เหมือนมีแรงต้านว่าไม่ต้องกำหนดแล้ว เลยกำหนดจิตดูกาย (ไม่แน่ใจว่าทำถูกไหม) คือดูที่คอและไหล่ เห็นกระดูกคอและกระดูกไหล่เป็นสีขาว และดูต่อลงไปที่แขนขวาจนถึงมือก็เห็นกระดูกแขนกับกระดูกมือ และเห็นเนื้อสีแดงเข้มดูชุ่มๆ และเหมือนจะแฉะด้วย แล้วก็จะมีภาพพระพุทธรูปมีเฉพาะส่วนศีรษะกับไหล่ขึ้นมา บางทีก็มีวงกลมสีขาววนเข้าสู่จุดศูนย์กลางเรื่อย ๆ หรือไม่ก็เกิดวงกลมสีแดงส้ม

บางทีก็เป็นแสงสีขาว พระพุทธรูปจะเห็นหลายครั้ง ครั้งต่อ ๆ มาจะเห็นพระพุทธรูปองค์เดิมแต่เต็มตัวเป็นปางสมาธิ หรือปางแสดงธรรม หรือปางห้ามญาติ แต่ไม่ว่าจะครึ่งตัวหรือเต็มตัว ก็จะเห็นแต่ทางด้านซ้าย ก็กำหนดว่า “เห็นหนอ ๆ” อยู่ตลอด และครั้งสุดท้ายที่เห็น ก็เห็นครึ่งตัวแบบที่เห็นครั้งแรก
และมีเสียงผู้ชายบอกว่า “พอแล้ว” แล้วจิตก็หลุดออกจากสมาธิเลย


ลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=24320&start=15

สำหรับผู้ปฏิบัติกรรมฐาน สังเกตวิธีแก้อารมณ์ (หรือจะเรียกว่าอะไรก็ได้พร้อมในนั้น) นำวิธีการไปใช้ได้เลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดว่า ครบแล้วนะทั้งตัวอย่าง และวิธีแก้อารมณ์ การปรับอินทรีย์ เป็นต้น จากผู้ปฏิบัติจริงๆ ที่เหลือเชิญว่ากันตามสบายครับ บ๊ายบาย :b1: :b12: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 264 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 191 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร