ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สมาธิที่มีผลเป็นความไม่มีอหังการะ.มมังการะ-มานานุสัย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37222 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | อานาปานา [ 12 มี.ค. 2011, 15:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | สมาธิที่มีผลเป็นความไม่มีอหังการะ.มมังการะ-มานานุสัย |
สมาธิที่มีผลเป็นความไม่มีอหังการะ.มมังการะ-มานานุสัย พระอานนท์ ได้ทูลถามว่า "มีอยู่หรือหนอ พระเจ้าข้า ! การที่ภิกษุได้สมาธิ ชนิดที่มีผลคือ ไม่มีอหังการะ..มมังการะ-มานานุสัย ในกายอันมีวิญญาณนี้ ด้วย, ไม่มีอหังการะ..มมังการะ-มานานุสัย ในนิมิตทั้งปวงในภายนอก ด้วย, และเธอนั้นเข้าถึงแล้วแลอยู่ ซึ่งเจโตวิมุตติ..ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอหังการะ..มมังการะ-มานานุสัย ด้วย, พระเจ้าข้า ?" อานนท์ ! สมาธิที่ภิกษุได้แล้วมีผลเป็นอย่างนั้น มีอยู่!!. "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! สมาธิที่ภิกษุได้แล้วมีผลเป็นอย่างนั้น มีอยู่ เป็นอย่างไรเล่า? พระเจ้าข้า!" อานนท์ ! ความเพ่งเฉพาะของภิกษุในกรณีนี้ มีอยู่อย่างนี้ว่า "นั่นสงบ-ระงับ นั่นประณีต : นั่นคือธรรมชาติเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืน ซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับ เป็นนิพพาน (เย็น)" ดังนี้. อานนท์ ! อย่างนี้แล การที่ภิกษุได้สมาธิชนิดที่มีผล คือ ไม่มีอหังการะ มมังการะ-มานานุสัย ในกายอันมีวิญญาณนี้ ด้วย, ไม่มีอหังการะ มมังการะ-มามานุสัย ในนิมิตทั้งปวงในภายนอกด้วย, และเธอนั้นเข้าถึงแล้วแลอยู่ ซึ่งเจโตวิมุตติ..ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอหังการะ..มมังการะ..มานานุสัย ด้วย. อานนท์ ! ข้อนี้เรากล่าวอาศัยคำ กล่าว ในการตอบปัญหาแก่ปุณณก-มาณพ ในปารายนสมาคม ว่า :- "ท่านผู้ใด พิจารณาเห็นแล้ว ซึ่งสภาพยิ่งและหย่อนในโลก(ว่าเป็นของว่างเสมอกัน) ไม่มีความหวั่นไหวไปในอารมณ์ไหน ๆ ในโลกเลย, เป็นผู้รำงับสงบแล้ว ไม่มีกิเลสฟุ้งกลุ้มเหมือนควัน ไม่มีความทุกข์ความคับแค้นแล้ว เป็นผู้ไม่หวังอะไรแล้ว, เราตถาคตกล่าว..ผู้นั้น ว่าเป็นผู้ข้ามเสียได้ซึ่งความเกิดและความแก่" ดังนี้แล. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อานาปานา [ 13 มี.ค. 2011, 05:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิที่มีผลเป็นความไม่มีอหังการะ.มมังการะ-มานานุสัย |
ในคัมภีร์วิภังค์ เรียกปปัญจะ 3 นี้เป็น ฉันทะ (คือตัณหา) มานะ ทิฏฐิ ![]() ![]() ![]() [91] ปปัญจะ, ปปัญจธรรม 3 กิเลสเครื่องเนิ่นช้า, กิเลสที่เป็นตัวการทำให้คิดปรุงแต่งยืดเยื้อพิสดาร ทำให้เขว ห่างออกไปจากความเป็นจริงที่ง่ายๆ เปิดเผย ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ และขัดขวางไม่ให้เข้าถึงความจริง หรือทำให้ไม่อาจแก้ปัญหาอย่างถูกทางตรงไปตรงมา 1. ตัณหา ความทะยานอยาก, ความปรารถนาที่จะบำรุงบำเรอปรนเปรอตน, ความอยากได้อยากเอา 2. ทิฏฐิ ความคิดเห็น ความเชื่อถือ ลัทธิ ทฤษฎี อุดมการณ์ต่างๆ ที่ยึดถือไว้โดยงมงาย หรือโดยอาการเชิดชูว่าอย่างนี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเท็จทั้งนั้น เป็นต้น ทำให้ปิดตัวแคบ ไม่ยอมรับฟังใคร ตัดโอกาสที่จะเจริญปัญญา หรือคิดเตลิดไปข้างเดียว ตลอดจนเป็นเหตุแห่งการเบียดเบียนบีบคั้นผู้อื่นที่ไม่ถืออย่างตน, ความยึดติดในทฤษฎี ฯลฯ ถือความคิดเห็นเป็นความจริง 3. มานะ ความถือตัว, ความสำคัญตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ถือสูงถือต่ำ ยิ่งใหญ่เท่าเทียม หรือด้อยกว่าผู้อื่น, ความอยากเด่นอยากยกชูตนให้ยิ่งใหญ่ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |