ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37236
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ดอกอุบล [ 13 มี.ค. 2011, 07:29 ]
หัวข้อกระทู้:  ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

:b26: เมื่อผมทำความดีแล้วทำบุญแล้วมีทานศีลภาวนาผมจะอธิษฐานขอให้ได้บรรลุธรรมได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าในอนาคตกาล ผมเห็นสรรพสัตว์ทั้งหลายแล้วผมรู้สึกสงสารเป็นห่วงเกิดเมตตากรุณาขึ้นมากในใจอยากให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์ในวัฏสงสารอยากให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ผมรู้สึกแบบนี้มานานแล้วครับตั้งแต่ได้ศึกษาธรรมะเมื่อห้าปีก่อนแล้วทุกๆท่านรู้สึกเหมือนผมหรือไม่ครับ?
แต่บางครั้งผมก็ท้อใจเมื่อมีคนมาดุด่าทำท่าทางไม่ดีใส่หรือกลั่นแกล้งให้เจ็บกายเจ็บใจก็เกิดอาการเบื่อวัฏฏะอยากบรรลุมรรคผลนิพพานโดยไวไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่งให้เป็นพระอรหันต์สาวก(สาวกญาณภูมิ)ให้ได้ แต่เมื่อใจดีขึ้นมาทำใจได้แล้ว กลับคิดอยากจะเป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าเหมือนเดิมไม่มั่นใจว่าจะเป็นอะไรกันแน่ ผมควรทำอย่างไรครับ?

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 13 มี.ค. 2011, 11:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

สาธุ สาธุ สาธุ
แต่ต้องใช้เวลานานเหลือหลาย และทนทุกข์มากมาย
คุณตั้งใจแน่วแน่แล้วใช่มั้ยครับ

เจ้าของ:  narapan [ 13 มี.ค. 2011, 12:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

อนุโมทนาด้วยครับ

:b8: :b46:

เจ้าของ:  kritsadakorn [ 13 มี.ค. 2011, 21:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

พยายามต่อไป

เจ้าของ:  ทักทาย [ 13 มี.ค. 2011, 23:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

เริ่มต้นแต่วันนี้...ค่อยๆขจัดกิเลสหยาบๆก่อน
คำติฉินนินทา นั่นคือด่านแรกที่ต้องผ่านไปให้ได้

อนุโมทนาค่ะ :b8:

เจ้าของ:  panuwat84000 [ 14 มี.ค. 2011, 00:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

:b12: ตอบ คุณดอกอุบล

เมื่อต้นปีทีแล้วนี้เอง ผมได้ดูการ์ตูนพระพุทธเจ้า พอดูจบก็รู้สึกอยากบวชอย่างแรงครับ อยากจะนิพพานไปเลย
ตอนนั้นยังไม่ได้คิดปรารถนาพุทธภูมิ คิดว่าเป็นพระสาวกก็พอใจแล้วครับ อยากจะบรรลุมรรคผลนิพพานในชาตินี้
แต่พอได้ฟังธรรมจาก DMC ว่า "เราจะไม่นิพพานคนเดียว แต่จะพาคนอื่นไปกับเราด้วย" ก็เลยเปลี่ยนใจเป็นพุทธภูมิ
เพราะคิดว่า "นิพพานอยู่แค่เอื้อม จะไปเมื่อไหร่ก็ได้ จะรีบไปทำไม ไหนๆจะนิพพานทั้งที ก็ขอเอาคนอื่นไปด้วยสิ"
คิดยังงี้มานาน แต่ยังไม่รู้ว่าปรารถนาพระโพธิญาณประเภทใด พอได้มาศึกษาพระโพธิสัตว์ทั้งสามประเภท
ก็รู้สึกว่าชอบแบบวิริยาธิกะมากที่สุด เพราะช่วยสรรพสัตว์ให้ออกจากทุกข์ได้มากที่สุด ก็เลยตั้งแบบวิริยาธิกะ
(แต่ไม่ได้คิดอยากเป็นพระพุทธเจ้า เพราะลาภสักการะ สรรเสริญ ฯลฯ ไม่มีความคิดเช่นนี้ๆ)

แต่ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกเหมือนกับคุณดอกอุบลครับ

ใจหนึ่งผมปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะ (เพราะว่าจะเอาไป ให้ได้มากที่สุด)
บางทีเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร ช่วยเหลือคนอื่นเมื่อเขามีทุกข์ และอยากจะให้เขารู้เข้าใจธรรม เห็นสัจจธรรม

อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเบื่อโลกนี้เต็มทีแล้ว อยากจะเข้านิพพานไปเลย :b7:

แต่ที่คุณดอกอุบลถามว่าควรทำอย่างไร?
หลวงพ่อปราโมทย์เคยเทศน์ไว้ว่า เมื่อเข้าสมาธิถึงขั้นอุเปกขารุณาน ก็จะรู้เองว่าตนจะนิพพานหรือพุทธภูมิ
เข้าสมาธิจนถึงจิตที่รู้สึกเบื่อหน่ายก็จะนิพพานเป็นอารมณ์เดียว ..นิพพานดิบ... (เอกัคคตารมณ์)
ส่วนจิตที่มีเมตตาสงสารสรรพสัตว์จะยังไม่ไปนิพพาน แต่จะปรารถนากันต่อไป (บำเพ็ญบารมีกันต่อไป)

อันนี้ตัวกระผมกำลังปฏิบัติอยู่ครับ.... (เดี๋ยวก็รู้ว่าหมู่หรือจ่า)
toyohot@hotmail.com @facebook

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 14 มี.ค. 2011, 18:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความปรารถนาอันสูงสุดของผมครับ

ความปารถนาเปลี่ยนได้นี่ครับ

(อันนี้เขาเล่ากันต่อๆมานะ)
ก็หลวงปู่เสาร์ พระอาจารย์หลวงปู่มั่น ไม่บรรลุขั้นสุดท้ายเสียที
ก็เลยถามหลวงปู่มั่นที่ถึงที่สุดแล้ว ว่ามันเป็นยังไง ทำไมไม่ถึงที่สุดสักที ท่านติดอะไร

หลวงปู่มั่นท่านมีปัญญากว้างขวาง ท่านหยั่งทราบว่าหลวงปู่เสาร์ผู้เป็นอาจารย์ ตั้งความหวังว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ดังนั้น จึงไม่บรรลุ ต้องบำเพ็ญบารมีต่อไป
เมื่อหลวงปู่เสาร์ทราบดังนั้น จึงตั้งความปารถนาใหม่ ก็ว่ากันว่าในที่สุดหลวงปู่เสาร์เป็นพระอรหันต์พระองค์หนึ่ง

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/