ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37414 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | Buaywhan [ 22 มี.ค. 2011, 20:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
สวัสดีค่ะ คือช่วงที่ผ่านมาค่ะ ไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไร รู้สึกได้มากเลยว่าใจร้อนมากขึ้น โมโหง่าย โมโหร้าย ขี้หงุดหงิด ใครทำอะไรให้หมางใจหน่อยไมได้ เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ค่ะ ใจเย็น ใจดี คิดดี ค่ะ ตอนนี้เหมือนคนละคน รู้นะค่ะว่าตัวเองเปลี่ยนแต่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ค่ะ จะมาคิดทบทวนได้ทีหลัง คือหนูควรปรับอารมณ์ยังงัยดีค่ะ พยายามใจเย็นแต่ทำไม่ได้เลยค่ะ ช่วยชี้แนกด้วยนะค่ะ ไม่อยากเป็นแบบนี้เลยค่ะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2011, 21:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ลองง่ายๆหยาบๆก่อนคือหางานให้จิตทำ เช่น นับ 1-100 ![]() ![]() โบราณว่าให้นับ 1-10 แต่เราคนรุ่นใหม่นับเก่งกว่า นับ 1-100 เลย |
เจ้าของ: | Buaywhan [ 22 มี.ค. 2011, 21:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ขอบคุณมากๆนะค่ะที่ช่วยแนะนำ จะลองทำดูค่ะ ไม่รู้จะนับ 1-100 ได้ครบมั้ย จะพยายามนับให้ได้มากที่สุดค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 22 มี.ค. 2011, 21:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
Buaywhan เขียน: สวัสดีค่ะ คือช่วงที่ผ่านมาค่ะ ไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไร รู้สึกได้มากเลยว่าใจร้อนมากขึ้น โมโหง่าย โมโหร้าย ขี้หงุดหงิด ใครทำอะไรให้หมางใจหน่อยไมได้ เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ค่ะ ใจเย็น ใจดี คิดดี ค่ะ ตอนนี้เหมือนคนละคน รู้นะค่ะว่าตัวเองเปลี่ยนแต่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ค่ะ จะมาคิดทบทวนได้ทีหลัง คือหนูควรปรับอารมณ์ยังงัยดีค่ะ พยายามใจเย็นแต่ทำไม่ได้เลยค่ะ ที่ผ่านมาค่ะ ไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไร รู้สึกได้มากเลยว่า ใจร้อนมากขึ้น โมโหง่าย โมโหร้าย ขี้หงุดหงิด พอรู้สึกตัวว่าใจร้อน หรือ โมโห หรือหงุดหงินงุ่นง่านงอแง...นับเลยครับ นับไป แล้วสังเกตดูความคิดด้วยว่ามันจะสงบลง เมื่อถึงหมายเลขเท่าไหร่ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ต้องครบ 100 ก็ได้ ดังกล่าวให้เป็นแนวสูงสุดไว้ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 มี.ค. 2011, 22:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
เมื่อกดมันอยู่...ก็อย่าลืมให้ความรู้กับมันซะหน่อย...ว่าทำไม...เราจึงไม่ควรโกรธ..หรือโมโห..หรือหงุดหงิด.. |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 22 มี.ค. 2011, 23:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ติตถิยสูตร [๕๐๘] ๖๙. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ ปริพาชกจะพึงถามเช่นนี้ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน คือ ราคะ โทสะ โมหะ ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างนี้แล ผู้มีอายุ ธรรม ๓ อย่างนี้ผิดแผกแตกต่างกันอย่างไร เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว จะพึงพยากรณ์แก่พวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านี้ว่าอย่างไร ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ธรรมของพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย มีพระผู้มีพระภาคเป็นรากฐาน มีพระผู้มีพระภาคเป็นผู้นำ มีพระผู้มีพระภาคเป็นที่พึ่งอาศัย ขอประทานพระวโรกาสขอเนื้อความแห่งภาษิตนั้น จงแจ่มแจ้งกะพระผู้มีพระภาคเถิด ภิกษุทั้งหลายได้สดับต่อพระผู้มีพระภาคแล้วจักทรงจำไว้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์จะพึงถามเช่นนี้ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างเป็นไฉนคือ ราคะ โทสะ โมหะ ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างนี้ ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างนี้ ผิดแผกแตกต่างกันอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาถามอย่างนี้ พึงพยากรณ์แก่ปริพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้นอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ราคะมีโทษน้อยคลายช้า โทสะมีโทษมากคลายเร็ว โมหะมีโทษมากคลายช้า ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัยเครื่องให้ราคะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า สุภนิมิต คือ ความกำหนดหมายว่างาม เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยอุบายไม่แยบคายถึงสุภนิมิต ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ ไพบูลย์ยิ่ง ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ราคะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่อง ให้โทสะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ ไพบูลย์ยิ่ง เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า ปฏิฆนิมิต คือ ความกำหนดหมายว่ากระทบกระทั่ง เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายถึงปฏิฆนิมิต โทสะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โทสะที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องให้โมหะที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ ไพบูลย์ยิ่ง เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า อโยนิโสมนสิการ เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย โมหะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โมหะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง ถ้าเขาถามอีกว่า ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ราคะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า อสุภนิมิต คือ ความกำหนดหมายว่าไม่งาม เมื่อบุคคลทำไว้ในใจโดยแยบคายถึงอสุภนิมิต ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ราคะที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ถ้าเขาถามต่อไปว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า เมตตาเจโตวิมุติ เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยแยบคายถึงเมตตาเจโตวิมุติ โทสะที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โทสะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โมหะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ เธอทั้งหลายควรพยากรณ์ว่า พึงกล่าวว่า โยนิโสมนสิการ เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยแยบคาย โมหะที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ผู้มีอายุทั้งหลายข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้โมหะที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมละได้ ฯ ที่มา: http://www.84000.org/tipitaka/pitaka...��สูตร http://board.palungjit.com/ |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 22 มี.ค. 2011, 23:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
![]() ![]() (๑) ท่านสอนให้พิจารณาให้เห็นโทษของความโกรธและเห็นคุณของขันติและเมตตาก่อน เพราะบุคคลจะไม่สามารถละสิ่งที่ตนยังไม่เห็นโทษได้ (๒) ให้แผ่เมตตาไปในตนและคนอื่นว่า ขอให้ตนมีความสุขและสรรพสัตว์ทั่วโลกจงมีความสุข ที่แผ่เมตตาให้ตนนั้น เพื่อให้ตนเป็นพยานว่า ตนรักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด คนอื่นสัตว์อื่นก็ฉันนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น (๓) เพื่อบรรเทาความแค้นเคือง พึงแผ่เมตตาไปยังบุคคลผู้เป็นศัตรูคู่เวรบ่อย ๆ จนใจของผู้แผ่อ่อนโยนลง (๔) ถ้ายังไม่หาย พึงระลึกถึงพระพุทธโอวาทในกกจูปมสูตรบ่อย ๆ ข้อความแห่งกกจูปโมวาทนั้นว่า "ภิกษุทั้งหลาย หากโจรใจเหี้ยมพึงเอาเลื่อยมาเลื่อยเธอให้ขาดเป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ ถ้าผู้ใดยังคิดประทุษร้ายโจรนั้นอยู่ ผู้นั้นยังหาชื่อว่าทำตามโอวาทเราไม่ -"อนึ่ง ผู้ใดโกรธตอบ ผู้นั้นเลวกว่าผู้โกรธก่อน ผู้ไม่โกรธตอบ ชื่อว่าเป็นผู้ชนะสงครามที่ชนะได้โดยยาก ผู้ที่รู้ว่าคนอื่นโกรธตัวแล้ว แต่ส่วนตนเป็นผู้มีสติสงบเสงี่ยมอยู่ ชื่อว่าประพฤติตนเป็นประโยชน์แก่คนทั้งสองฝ่าย คือทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น" (๕) ทรงเปรียบคนขี้โกรธเหมือนฟืนเผาผี ที่ไฟติดทั้งสองข้าง ตรงกลางเปื้อนคูถ จะจับข้างทั้งสองก็ร้อน จะจับตรงกลางก็เหม็น (๖) ถ้ายังไม่หายโกรธ ก็พึงระลึกถึงความดีของเขาบ้าง คือโดยปกติคน ๆ หนึ่งย่อมมีอะไรดีอยู่บ้าง แม้ไม่มากสักอย่างหนึ่งพึงระลึกถึงส่วนดีอันนั้นของเขา แล้วบรรเทความโกรธเสีย (๗) ถ้ายังไม่หายโกรธก็พึงโอวาทตนบ่อย ๆ (ถ้าเป็นพระ) ก็พึงโอวาทว่า สู้อุตส่าห์ละโลกียสุขทั้งปวงซึ่งเป็นสิ่งที่ละได้โดยยากมาแล้ว ไฉนจึงยอมตนให้ตกอยู่ในอำนาจของความโกรธเล่า ฯลฯ คนเป็นเวรกันทำทุกข์ให้ท่านที่กาย เหตุไฉนจึงลงโทษตนเองที่ใจเล่าความโกรธทำให้ใจของท่านเป็นทุกข์มิใช่หรือ? (ในข้อ ๗ นี้มีความละเอียดน่าสนใจมาก ยกมาเล็กน้อยพอเป็นตัวอย่าง) (๘) ถ้ายังไม่หายโกรธ ท่านสอนให้พิจารณาถึง กัมมัสสกตา คือความที่สัตว์ทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน ใครทำกรรมเช่นใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมเช่นนั้นเอง คือจักปรากฎด้วยกรรมของตนเอง เราเป็นผู้โกรธก็จักต้องได้รับผลแห่งความโกรธนี้เอง ฯลฯ (๙) ถ้ายังไม่หายโกรธ ก็พึงอนุสรณ์ถึงพระจริยาของพระศาสดาที่เคยทรงลำบากมา เคยทรงทุกข์ทรมานเพราะการกระทำของผู้อื่นมากมายหลายชาติหลายประการ แต่หาได้ทรงผูกโกรธหรือผูกเวรต่อผู้ใดไม่ เช่นสมัยที่ทรงเป็นช้างรักษาศีล ทรงยอมให้พรานตัดงาถึง ๓ ครั้ง แต่หาได้มีใจประทุษร้ายในพรานนั้นไม่ ในข้อนี้ ท่านประมวลมาซึ่งจริยาของพระศาสดามากหลายในอดีตเช่น สีลวชาดก เรื่องขันติวาทีดาบส จูฬธรรมปาลชาดก ฉัททันตชาดก เรื่องมหากบี่ (ลิงใหญ่) เรื่องภูริทัตตชาดก เรื่องจัมเปยยกนาคราชเรื่องสังขปาลนาคราช เป็นต้น (๑๐) ถ้ายังไม่หายโกรธ ท่านสอนให้พิจารณาถึงความยาวของสังสารวัฏ ในสังสารวัฏอันยาวนานนี้ คนที่ไม่เคยเป็นมารดา บิดาบุตรธิดา พี่ชาย พี่หญิง น้องชาย น้องหญิงและญาติสายโลหิตมิตรสหายเป็นไม่มี เขาเป็นศัตรูคู่เวรกับเราในชาตินี้ แต่ชาติก่อน ๆ เขาอาจเคยเป็นมารดาบิดาเป็นต้น ผู้มีอุปการะช่วยเหลือเกื้อกูลเรา บางทีอาจเคยยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือเราก็ได้ (๑๑) ถ้ายังไม่หายโกรธ ก็พึงระลึกถึงอานิสงส์ของเมตตาที่พระทศพลทรงแสดงไว้ ๑๑ ประการ มีหลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข เป็นต้น (๑๒) ถ้ายังไม่หายโกรธอีก ท่านสอนให้แยกธาตุ คือ พิจารณาว่าสิ่งทั้งปวงเป็นเพียงธาตุ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเราเขามันเพียงสักแต่ว่าธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะโกรธอะไรเล่า (๑๓) ถ้ายังไม่หายโกรธ ท่าสอนให้เผื่อแผ่แบ่งปัน คือให้ของแก่ผู้ที่เราโกรธ หรือรับของที่เขาให้ หากทำได้ดังนี้ ความโกรธเกลียดย่อมระงับไปอย่างแน่นอน ที่มา http://board.palungjit.com ![]() |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 22 มี.ค. 2011, 23:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
พระพุทธเจ้า...ทรงโต้ตอบเทวดาเรื่องฆ่าอะไรได้จึงอยู่เป็นสุข เทวดาผู้หนึ่งทูลถามว่า “ฆ่าอะไรเสียได้จึงอยู่เป็นสุข ฆ่าอะไรเสียได้จึงไม่เศร้าโศก พระองค์ทรงพอพระทัยการฆ่าอะไรว่าเป็นธรรมอันเอก” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า “ฆ่าความโกรธเสียได้อยู่เป็นสุข ฆ่าความโกรธเสียได้ไม่ต้องเศร้าโศก พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญการฆ่าความโกรธซึ่งมีรากเป็นพิษมียอดหวาน บุคคลฆ่าความโกรธได้แล้วย่อมไม่เศร้าโศก” (พระไตรปิฎก เล่ม ๑๕ ข้อ ๑๙๘-๑๙๙) ที่มา http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=110.0 |
เจ้าของ: | Nothing [ 22 มี.ค. 2011, 23:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ผมเคยใช้ครั้งหนึ่งครับ สำหรับเวลาโกรธ เป็นครั้งเดียวที่สติตามทัน ที่เหลือ ช้ากว่าสติ พยายามปรับอยู่เช่นกัน ใช้ปากช่วยครับ พูดออกมาเป็นเสียงเลย สำหรับผมนะ "โกรธอยู่ โมโหอยู่" พูดไปเรื่อยๆ จนกว่าอารมณ์จะเย็นลง เหมือนวิธีการนับ 1-100ของคุณกรัชกายครับ จากตอนนั้นที่ใช้ปากช่วยครั้งแรก ผมเพิ่งรู้ว่าร่างกายของเรามีอวัยวะมากมายที่ทำไปโดยอัตโนมัติ โดยเราไร้สติอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผมพิมพ์ ผมทั้งได้ยินเสียง หายใจ สั่นขา มือพิมพ์ ตากระพริบ สมองคิด ในเวลาเดียวกันหมด แต่สิ่งที่สติเพ่งไปหามากที่สุดตอนนี้คือ การพิมพ์ มากกว่าที่จะสนใจการหายใจ การได้ยิน หรือ รับรู้ว่ามือกำลังพิมพ์อยู่ |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 22 มี.ค. 2011, 23:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล viewtopic.php?f=7&t=37370 |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 มี.ค. 2011, 00:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
![]() (80.38/373 หรือ 45.25/252 ราคสูตร) ![]() (80.38/54-55 หรือ 45.25/35 คาถาธรรมบท) ![]() สัตว์เหล่าใดประกอบด้วยความเพียรในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งกลางคืนกลางวัน สัตว์เหล่านั้น ผู้มีความสำคัญอารมณ์ว่าไม่งามอยู่เป็นนิจ ย่อมดับไฟคือราคะได้ ส่วนสัตว์ทั้งหลายผู้สูงสุดในนรชน ย่อมดับไฟ คือโทสะได้ด้วยเมตตาและดับไฟคือโมหะ ได้ด้วยปัญญาอันเป็นเครื่องให้ถึงความชำแระกิเลส. สัตว์เหล่านั้นมีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน ไม่เกียจคร้านทั้งกลางคืนกลางวันดับไฟคือราคะ เป็นต้นได้ ย่อมปรินิพพานโดยไม่มีส่วนเหลือ ล่วงทุกข์ได้ไม่มีส่วนเหลือ บัณฑิตทั้งหลายผู้เห็นอริยสัจ ผู้ถึงที่สุดแห่งเวท รู้แล้วโดยชอบด้วยปัญญา เป็นเครื่องรู้ยิ่งซึ่งความสิ้นไปแห่งชาติ ย่อมไม่มาสู่ภพใหม่. (80.38/415-416 หรือ 45.25/281 อัคคิสูตร) ![]() สุภนิมิต คือ ความกำหนดหมายว่างาม เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจ โดยอุบายไม่แยบคายถึงสุภนิมิต ราคะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง. ปฏิฆนิมิต คือ ความกำหนดหมายความว่ากระทบกระทั่ง เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายถึงปฏิฆนิมิต โทสะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ ไพบูลย์ยิ่ง. อโยนิโสมนสิการ เมื่อบุคคลนั้นทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย โมหะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ ไพบูลย์ยิ่ง. (80.31/321-322 หรือ 45.20/226 ติตถิยสูตร) ![]() (80.23/193 หรือ 45.15/404 โลกสูตร) ![]() (80.38/354 หรือ 45.25/238 อกุศลมูลสูตร) ![]() โทสะให้เกิดความฉิบหาย โทสะทำจิตให้กำเริบ ชนไม่รู้สึกโทสะนั้นอันเกิดในภายในว่าเป็นภัย คนโกรธย่อมไม่รู้จักประโยชน์ ย่อมไม่เห็นธรรม โทสะย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น ก็บุคคลใดละโทสะได้ขาด ย่อมไม่ประทุษร้ายในอารมณ์ เป็นที่ตั้งแห่งความประทุษร้าย โทสะอันอริยมรรคย่อมละเสียได้จากบุคคลนั้น เปรียบเหมือนผลตาลสุกหลุดจากขั้ว ฉะนั้น. (80.38/404-405 หรือ 45.25/273-274 มลสูตร) ![]() (80.23/82 หรือ 45.15/50-60 นชีรติสูตร) ![]() (80.43/492 หรือ 45.27/321 มหาปทุมชาดก) ![]() (80.38/86 หรือ 45.25/55 คาถาธรรมบท) ที่มา พุทธธรรมสาร:สาระแห่งพุทธธรรม http://www.bds53.com/index.php?name=kno ... edge&id=16 |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 มี.ค. 2011, 00:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ลองศึกษาดูนะครับ ขอให้เจริญในธรรม ![]() |
เจ้าของ: | Buaywhan [ 23 มี.ค. 2011, 12:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
ขอบพระคุณมากๆเลยนะค่ะ สำหรับคำแนะนำทุกๆกระทู้ แค่ได้อ่านก็รู้สึกว่าใจในช่วงนั้นสงบมากค่ะ จะนำไปปฎิบัติให้เกิดประโยชน์มากที่สุดค่ะ ถ้าทำได้บ้างแล้วจะนำมาบอกกล่าวให้ฟังค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 23 มี.ค. 2011, 12:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
กรัชกาย เขียน: ลองง่ายๆหยาบๆก่อนคือหางานให้จิตทำ เช่น นับ 1-100 ![]() ![]() โบราณว่าให้นับ 1-10 แต่เราคนรุ่นใหม่นับเก่งกว่า นับ 1-100 เลย วิธีนี้ทำได้จริงหรือครับ ท่านเคยลองทำมาบ้างหรือยังครับ ถ้าวิธีนี้ดีจริง ผมจะไปแนะนำตาลุงข้างบ้านผมครับ แกไม่ชอบให้ใครขัดครับ ใครไปพูดขัดแกที่ไร แกด่าหยาบด่าคาย ผมยังเคยโดนแกด่าว่า ไอ้กระบือ แล้วก็โง่เหมือนกระบือเลยครับ จริงมันหยาบกว่านี่ครับ ผมไม่อยากโพสเพราะไม่สุภาพ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 มี.ค. 2011, 12:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำชี้แนะ เรื่องการควบคุมอารมณ์ค่ะ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: ลองง่ายๆหยาบๆก่อนคือหางานให้จิตทำ เช่น นับ 1-100 ![]() ![]() โบราณว่าให้นับ 1-10 แต่เราคนรุ่นใหม่นับเก่งกว่า นับ 1-100 เลย วิธีนี้ทำได้จริงหรือครับ ท่านเคยลองทำมาบ้างหรือยังครับ ถ้าวิธีนี้ดีจริง ผมจะไปแนะนำตาลุงข้างบ้านผมครับ แกไม่ชอบให้ใครขัดครับ ใครไปพูดขัดแกที่ไร แกด่าหยาบด่าคาย ผมยังเคยโดนแกด่าว่า ไอ้กระบือ แล้วก็โง่เหมือนกระบือเลยครับ จริงมันหยาบกว่านี่ครับ ผมไม่อยากโพสเพราะไม่สุภาพ ![]() พูดผิดแล้ว เขาไม่ได้ด่าว่า ไอ้กระบือ เขาว่า "ไอ้ควายโฮ" เพ้อเจ้อฟุ้งซ่านดันทุรัง ![]() ![]() ควายไม่ใช่คำหยาบ ถ้าหยาบเขาคงไม่เอาชื่อตั้งเป็น สะพานควาย หรอกนิ ใช่ไหมไอ้ควายโฮ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |