ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37480 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | somamomiji [ 27 มี.ค. 2011, 12:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
คือว่า ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัว สอบตรง +addmission อะครับ แล้วมันเกิดอุปสรรคขึ้นจะทำอย่างไรดี 1.ระหว่างเวลานั่งทำข้อสอบแล้วเกิดความรู้สึกเครียด เหนื่อย อยากจะรีบๆทำให้เสร็จๆ จะแก้อย่างไร 2.ตอนนั่งเรียนจิตคิดไปเรื่องอื่นทั้งที่ผมไม่ได้อยากคิด แต่มันคิดขึ้นเองละครับ 3.เวลาเรียนจะวางใจที่ไหนดี ให้รู้สึกไม่วุ่นวายละครับ 4.มหวังผลว่าอยากจะเรียนให้เข้าใจชั่วโมงเลยแต่บางทีก็ทำไม่ได้ ก็เลยพานหงุดหงิดทำให้เสียเลย 5ผมจะยึดหลัดอะไรดี ให้ใจรู้สึกสงบและมั่นคงละครับ 6.อยากรู้วิธีการพัฒนาเรื่องการเรียนอะครับ |
เจ้าของ: | หัสพล พวงแก้ว [ 27 มี.ค. 2011, 13:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
ขอแนะนำว่าให้สวดมนต์และนั่งสมาธิครับ และทำเป็นประจำด้วย |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 27 มี.ค. 2011, 14:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
ชั้นจะทำข้อสอบอย่างมีความสุข ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 27 มี.ค. 2011, 22:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
ธรรมชาติ ต่างก็เกิดจากเหตุปัจจัย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ ความรู้สึกเครียด ความอยาก ความคิด ความฟุ้งซ่าน ฯ ก็มีเหตุปัจจัย ถ้าจะดับ ก็ต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ ธรรมชาติที่เป็นนามธรรม แบ่งง่ายๆ เป็น ๓ หมู่ ได้แก่ ธรรมฝ่ายดี (กุศล) ธรรมฝ่ายไม่ดี (อกุศล) และฝ่ายที่เป็นกลาง (อัพยากฤต) (จะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าดีก็ไม่ใช่) ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะ ธรรมดี กับธรรมไม่ดี ธรรมทั้ง ๒ หมู่นี้ เกิดจากจากรากเหง้า ๖ ประการ แบ่งเป็น เหตุของธรรมฝ่ายดี ๓ และเหตุของธรรมฝ่ายไม่ดี ๓ ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเรา ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ต่างมีเหตุมาจากธรรม ๖ ประการนี้เท่านั้น ไม่มีมาจากอย่างอื่น ธรรม ๖ ประการนี้เป็นเหตุของธรรมอื่นและเป็นเหตุซึ่งกันและกัน จะเกิดประกอบกับการกระทำของเราทางกาย วาจา ใจ ตลอดเวลา อกุศลเหตุ ๓ ก็คือ ความพอใจ (โลภะ) ความไม่พอใจ (โทสะ) และความหลง (โมหะ) ถ้าจิตเราประกอบด้วยอาการ ๓ อย่างนี้ สิ่งไม่ทีทั้งหลาย จะเกิดประดังประเดเข้ามาหาเรา ควบคุมก็ไม่ได้ ประกอบกับความเคยชินที่เราอยู่กับความพอใจไม่พอใจและความหลงมาเป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นความเคยชินที่ละเอียด หรือเป้นนิสัย เราจึงต้านทานได้โดยยาก (ความรู้สึกเครียด ความอยาก หลงไปในความคิด ความฟุ้งซ่าน เป็นธรรมฝ่ายไม่ดีทั้งหมด) กุศลเหตุ ๓ คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ หรือ การเอาชนะความพอใจไม่พอใจและความหลงได้ เมื่อจิตไม่ประกอบด้วยเหตุของอกุศล สิ่งไม่ดีก็จะไม่เกิด สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นมาแทน ตามกฏของเหตุปัจจัย (ฯ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงไม่มี ฯ) เพราะฉะนั้น ถ้าเราดับความพอใจ ไม่พอใจ และความหลง ที่เกิดร่วมกับจิตปัจจุบันของเราได้ ตอนนั้นจิตเราก็เป็นฝ่ายดี สิ่งไม่ดีจะไม่มีเกิดร่วมกับจิตเลย ความสงบสุข จะเกิดขึ้นมาแทน เรียนรู้อะไรก็ง่ายไปหมด เพราะไม่มีตัวรบกวน แล้วจะเอาอะไรไปดับความพอใจไม่พอใจและความหลงได้ล่ะ? ความจริงอันประเสริฐนี้ ค้นพบโดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผู้รู้วิธีการดับความพอใจไม่พอใจและความหลงได้ด้วยตนเอง) และเอามาบอกพวกเราให้รู้ตาม พวกเรา จึงเป็น พุทธสาวก (ผู้รู้ตามผู้ที่รู้) เราจึงมีฉลยนี้อยู่ในมือ แล้วนำความรู้นี้ ไปจัดการกับกองทุกข์ที่อยู่กับเรามานานได้ ทุกข์ หรือ ความพอใจไม่พอใจ เกิดขึ้นมาเพราะเรารู้ไม่เท่าทันธรรมชาติตามความเป็นจริง ทำให้เกิดความหลง รวมกันเรียกว่า ทุกขอริยสุจจ์ (ทำให้เกิดสาระพัดทุกข์ตามมา) เกิดขึ้นที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ๖ ทางเท่านั้น นอกจาก ๖ ทางนี้ไม่มีทุกข์เกิดขึ้นกับเรา ถ้าเรารู้เท่าทัน ทุกข์ก็ไม่เกิด ทุกข์เกิด ๖ ทาง เราก็ต้องเอาปัญญาสัมมาทิฐิไปดับทั้ง ๖ แล้วทุกข์ จริงๆ แล้ว มันคืออะไร? พระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้ และนำความจริงของโลกและชีวิตมาบอกกับพวกเราว่า จริงๆ สิ่งเหล่านี้ ก็คือ ธรรมชาติ ที่มีลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ต้องดับไป แปรปรวนตลอดเวลา ไม่เคยหยุดอยู่นิ่งอยู่กับที่ ที่มันเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย ฯ (ซึ่งก็คือ กฏธรรมชาติ ๒ กฏ ได้แก่ ไตรลักษณ์ และกฏอิทัปปัจนายตาปกิจสมุปบาท) สรุปได้เป็นคำๆ เดียวว่า มันไม่เที่ยง ฯ เพราะฉะนั้น ไม่เที่ยงฯ คือ ก็ธรรมชาติ ๒ กฏ ถ้าเรารู้เห็นสิ่งที่เข้ามากระทบสัมผัสตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า รูปที่เห็นมันไม่เที่ยงฯ รส ฯ กลิ่น ฯ เสียง ฯ สัมผัส ฯ ความคิดก็ไม่เที่ยง ทันทีที่เราได้รับกระทบสัมผัส (พิจารณาที่ผัสสะ หรือปัจจุบันอารมณ์) แปลว่า เรามีสัมมาทิฐิที่นับเนื่องเป็นองค์แห่งมรรค ปัญญาหรือความรู้แบบนี้ ใช้ดับความพอใจไม่พอใจได้ทันที การฆ่าความคิดฟุ่งซ่าน ทำง่ายๆ คือ เมื่อเราคิดถึงเรื่องอะไร ก็ให้พิจารณาความคิดที่เกิดขึ้นตอนนั้นว่า ความคิดของเรามันไม่เที่ยงนะ เกิดขึ้นเดี๋ยวก็ดับไป ตัวเราคนคิดก็ไม่เที่ยง หนุ่ม แก่ เจ็บแล้วก็ต้องตาย .. ถ้าได้พิจารณาแบบนี้ประกบความความคิดเสมอ รับรองว่า ความเครียด ความฟุ้งซ่าน ฯ ไม่มีได้เกิด (รวมไปถึงโรคมะเร็งด้วย) ถ้าทำเป็นประจำ ทำประกอบกับการใช้ชีวิตประจำวัน รับรองผลการเรียนดีขึ้นแน่นอน ... |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 27 มี.ค. 2011, 22:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
สำคัญคือต้องเตรียมตัวให้ดีนะครับ ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่าน หมั่นทบทวน สอบความรู้ตัวเองบ่อยๆ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 28 มี.ค. 2011, 00:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
somamomiji เขียน: คือว่า ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัว สอบตรง +addmission อะครับ แล้วมันเกิดอุปสรรคขึ้นจะทำอย่างไรดี 1.ระหว่างเวลานั่งทำข้อสอบแล้วเกิดความรู้สึกเครียด เหนื่อย อยากจะรีบๆทำให้เสร็จๆ จะแก้อย่างไร 2.ตอนนั่งเรียนจิตคิดไปเรื่องอื่นทั้งที่ผมไม่ได้อยากคิด แต่มันคิดขึ้นเองละครับ 3.เวลาเรียนจะวางใจที่ไหนดี ให้รู้สึกไม่วุ่นวายละครับ 4.มหวังผลว่าอยากจะเรียนให้เข้าใจชั่วโมงเลยแต่บางทีก็ทำไม่ได้ ก็เลยพานหงุดหงิดทำให้เสียเลย 5ผมจะยึดหลัดอะไรดี ให้ใจรู้สึกสงบและมั่นคงละครับ 6.อยากรู้วิธีการพัฒนาเรื่องการเรียนอะครับ ![]() หาเงินซื้อไม้กอล์ฟสักอัน แล้วไปฝึกไดร์ฟกอล์ฟทุกวันหลังเลิกเรียน ถ้าไม่อยากจ้างโปรมาสอน ก็หาซีดีมาศึกษาการจัดระเบียบท่วงท่า ค่อย ๆ เริ่มจากวันละร้อยลูก สองร้อย และ อาจจะห้าร้อยลูก คือ การฝึกไดร์ฟกอล์ฟเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ได้บริหารจิตใจไปพร้อม ๆ กัน และจะช่วยตอบคำถามน้องในเบื้องต้นในทุก ๆ คำถามได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | narapan [ 28 มี.ค. 2011, 03:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
somamomiji เขียน: คือว่า ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัว สอบตรง +addmission อะครับ แล้วมันเกิดอุปสรรคขึ้นจะทำอย่างไรดี 1.ระหว่างเวลานั่งทำข้อสอบแล้วเกิดความรู้สึกเครียด เหนื่อย อยากจะรีบๆทำให้เสร็จๆ จะแก้อย่างไร 2.ตอนนั่งเรียนจิตคิดไปเรื่องอื่นทั้งที่ผมไม่ได้อยากคิด แต่มันคิดขึ้นเองละครับ 3.เวลาเรียนจะวางใจที่ไหนดี ให้รู้สึกไม่วุ่นวายละครับ 4.มหวังผลว่าอยากจะเรียนให้เข้าใจชั่วโมงเลยแต่บางทีก็ทำไม่ได้ ก็เลยพานหงุดหงิดทำให้เสียเลย 5ผมจะยึดหลัดอะไรดี ให้ใจรู้สึกสงบและมั่นคงละครับ 6.อยากรู้วิธีการพัฒนาเรื่องการเรียนอะครับ 1. พอรู้สึกว่าเครียด ให้หายใจลึกๆ แรงๆ หายใจเข้า-พุท หายใจออก-โธ ทำไปเรื่อยๆ จนลมหายใจเบาลง อาการเหล่านั้นก็จะเบาลงและหายไปเอง หรือหารูปพระที่ชอบเอาไว้เพ่งมองให้จิตสงบเวลาเครียด 2. พอเห็นว่าจิตคิดไปเรื่องอื่น ก็ให้รู้ว่าคิดแต่ไม่ต้องเข้าไปในความคิดนั้น แค่รู้ก็พอแล้วให้กำหนดว่าคิดหนอ ไม่เที่ยงหนอ หยุดคิดหนอ หรือจะใช้คำอื่นๆที่ชอบก็ได้ 3. ให้วางใจไว้ที่ความสงบ ให้รู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก (อาจจะกำหนดพุท-โธ หรือไม่ก็ได้) 4. พอรู้ว่าหงุดหงิด ให้หายใจลึกๆ แรงๆ หายใจเข้า-พุท หายใจออก-โธ ทำไปเรื่อยๆ จนหายหงุดหงิด หรือหารูปพระที่ชอบเอาไว้เพ่งมองให้จิตสงบเวลาหงุดหงิด 5. ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง (พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์) ไปศึกษาความหมายและพุทธคุณให้เข้าใจว่าหมายถึงอย่างไร 6. การพัฒนาเรื่องการเรียน โดย 6.1 ตอนเย็นให้ดูว่าพรุ่งนี้จะเรียนวิชาอะไรบ้าง ให้เอาวิชาที่จะเรียนมาอ่านมาศึกษาล่วงหน้าในเรื่องที่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องเรียน อ่านให้เข้าใจ หาสมุดมาช๊อคโน๊ตตรงที่สำคัญ และสรุปไว้ หรือขีดเส้นใต้ที่หนังสือไว้ก่อนก็ได้ ทำแบบนี้ทุกวิชาและทำทุกวัน (ต้องรักษาวินัย ต้องอดทน) 6.2 ทำตารางการอ่านหนังสือ โดยคำนวนว่าจะต้องอ่านวันละกี่บทในแต่ละวิชา จึงจะอ่านจบก่อนถึงวันสอบ และเหลือเวลาไว้ทบทวน หาสมุดมาทำช๊อตโน๊ตและสรุปสิ่งที่อ่านไว้ด้วย (ต้องรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด แต่ยืดหยุ่นได้ บางวันอาจไม่ได้อ่านแต่ในวันต่อไปต้องอ่านของวันเก่าให้จบด้วย) 6.3 ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง ให้ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ 6.4 ฝึกสติ ฝึกสมาธิ ก่อนนอนให้รู้ลมหายใจเข้าออกจนหลับ ลองทำดูนะครับ ทำไปเรื่อยๆ ได้ผลอย่างไร มาเล่าให้พี่ๆฟังนะครับ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 30 มี.ค. 2011, 23:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
ลงทะเล..ซะ |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 31 มี.ค. 2011, 20:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนอะครับ |
somamomiji เขียน: คือว่า ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัว สอบตรง +addmission อะครับ แล้วมันเกิดอุปสรรคขึ้นจะทำอย่างไรดี 1.ระหว่างเวลานั่งทำข้อสอบแล้วเกิดความรู้สึกเครียด เหนื่อย อยากจะรีบๆทำให้เสร็จๆ จะแก้อย่างไร 2.ตอนนั่งเรียนจิตคิดไปเรื่องอื่นทั้งที่ผมไม่ได้อยากคิด แต่มันคิดขึ้นเองละครับ 3.เวลาเรียนจะวางใจที่ไหนดี ให้รู้สึกไม่วุ่นวายละครับ 4.มหวังผลว่าอยากจะเรียนให้เข้าใจชั่วโมงเลยแต่บางทีก็ทำไม่ได้ ก็เลยพานหงุดหงิดทำให้เสียเลย 5ผมจะยึดหลัดอะไรดี ให้ใจรู้สึกสงบและมั่นคงละครับ 6.อยากรู้วิธีการพัฒนาเรื่องการเรียนอะครับ ![]() เท่าที่อ่านดูสิ่งที่น้องขาดและต้องเพียรพัฒนาให้เกิดมีสองอย่างค่ะ 1.สมาธิ 2.ปัญญา สมาธินั้นจำเป็นต้องพัฒนาให้มีขึ้นก่อน เพราะสมาธินั้นเป็นปัจจัยเอื้อต่อการเกิด "ปัญญา" วิธีการฝึกให้มีสมาธิ จะใช้วิธีนั่งสมาธิ สวดมนต์ นับเลขในใจ หรือระลึกรู้ลมหายใจ อะไรก็ได้ที่เป็นคำบริกรรมให้ใจหน่วงอยู่ที่อารมณ์นั้น ให้ฝึกเป็นประจำจะทำให้เป็นคนมีสมาธิควรแก่การงานและมีสมาธิได้ยาวนานขึ้น การพัฒนา "ปัญญา" ให้ฝึกการคิด..คิดในเชิงวิทยาศาสตร์..คิดแบบมีเหตุมีผล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอย ๆ มีผลย่อมต้องมีเหตุ ...และมีเหตุก็ย่อมต้องมีผล เช่นกัน ...ถ้ารู้ผลก็สืบสาวขึ้นไปหาเหตุ ...ถ้ารู้เหตุก็สืบสาวไปหาผล คนที่คิดได้แบบนี้เรียกว่า เป็นคนมีปัญญา ไม่ใช่เชื่อ เพราะ "เขาว่าอย่างนั้น" ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |