ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เรื่องราว http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37734 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 11 เม.ย. 2011, 17:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | เรื่องราว |
อานิสงส์การสร้างวิหารทาน ต่อนี้ไปก็มาคุยกันถึงเรื่องการทำบุญ คนทำบุญบรรดาท่านพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าเมื่อจิตใจตั้งใจทำบุญเสร็จ ทำบุญแน่นอนแล้ว สมเด็จพระประทีปแก้วทรงยืนยันว่าวิมานคอยอยู่แล้ว คือเจ้าของยังไม่ตายแต่วิมานปรากฏอยู่ก่อน เรื่องราวมีอยู่ว่า ในสมัยที่องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เวลานั้นปรากฏว่า มีมาณพท่านหนึ่งคือ นันทิยมาณพ เป็นคนเคารพในพระพุทธศาสนาปกครองทรัพย์สินมากมาย คือเป็นเศรษฐี มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระมหามุนี สร้างศาลา ๔ หน้า ถวายพระพุทธเจ้าคือถวายเป็นของสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน หลังจากนั้นเวลาตอนกลางคืน อัครสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมาร คือพระโมคคัลลาน์ พระองค์นี้มีความสำคัญมาก เรียกว่าวันนี้ทั้งหมดบรรดาพุทธบริษัท พูดเรื่องจริงทั้งหมดนะ ไม่มีนิทาน แล้วก็ไม่มีนิมิต นิทานก็ดี นิมิตก็ดี ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าถือว่าจริงเกินไป เอาเหตุเอาผลเป็นสำคัญ แต่ว่าในเรื่องนั้นๆ ให้ถือว่าธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ ธรรมะน่ะจริงแน่ พระโมคคัลลาน์ท่องสวรรค์ มาตอนนี้ปรากฏว่าพระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์นี่ท่านเป็นพระพิเศษ แต่พระที่ท่องเที่ยวในสวรรค์ ในพรหมโลก ในนรก แดนเปรต แดนอสุรกาย มีเยอะ ไม่ใช่มีพระโมคคัลลาน์องค์เดียว แต่ว่าแต่ละท่าน ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างรู้ ไปเห็นแล้วรู้แล้ว เข้าใจแล้ว ก็มาแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัทด้วยความจริงใจว่า คนนั้นตายไปเกิดที่นั่น คนนี้ตายไปเกิดที่นี่ ใครเป็นญาติกานาติเกกันบ้าง เขาสั่งมาว่าอย่างไร ก็แนะนำตามนั้น เวลานั้นพระพุทธเจ้าทรงยืนยัน แต่พระโมคคัลลาน์นั้นไปแล้วไม่อยู่เปล่า ไปหามาทั่วพบทั่วแล้วก็กลับมาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เหตุที่พบมานั้นเป็นจริงหรือไม่ องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ทรงยืนยันรับรอง ทีนี้มาวันนั้น คืนวันนั้น ที่นันทิยมาณพท่านถวายศาลา ๔ หน้าเสร็จ กลางคืนพระโมคคัลลาน์ก็เจริญกรรมฐานปกติของพระอรหันต์ พระอรหันต์นี่เวลาเจริญกรรมฐาน บรรดท่านพุทธบริษัท จะไปดูเวลานั่งขัดสมาธินี่มันไม่ได้ ท่านไม่ถือการขัดสมาธิเป็นเรื่องสำคัญ นั่งขัดสมาธิมือซ้อนกันนี่นะ เพราะว่าเป็นพระที่จบแล้ว ท่านใช้อารมณ์ได้ทุกขณะ ขณะคุยกันนี่ท่านก็ใช้ได้ อย่าลืมว่าอรหันต์ใช้ฌานสมาบัติ ความเป็นทิพย์ไม่จำกัดเวลาจะพูด จะคุย จะทำงานทำการ อยากจะรู้เมื่อไรก็รู้ได้ เห็นอะไรปุ๊บปั๊บมีความรู้สึก แต่ว่าพระอรหันต์เป็นพระเก็บ ไม่แสดงออก ไม่ชูงวง อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระ++ล" นั่นหมายความว่า แสดงตนโอ้อวดว่าฉันเป็นพระอรหันต์บ้าง ฉันมีความรู้อย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ฉันเป็นเปรียญชั้นนั้นชั้นนี้ ฉันเป็นพระครู ฉันเป็นเจ้าคุณ อะไรพวกนี้ จริงๆ แล้วพระสมัยนี้ท่านก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีใครเขาชูงวงกัน แต่พวกชูงวงคงจะมีอยู่บ้าง เป็นของธรรมดาๆ สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าห้าม สิ่งนั้นก็ย่อมจะมี ท่านบอกว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระ++ล" คือประกาศตนว่าฉันเป็นขั้นนั้น ฉันเป็นขั้นนี้ เพื่อความเลื่อมใสของบุคคล อีกประการหนึ่ง ท่านบอกว่า "จงทำตนเหมือนโมคคัลลาน์ โมคคัลลาน์ทำตนเหมือนแมลงภู่ เข้าไปเชยน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ได้กินน้ำหวานแล้วดอกไม้เขาไม่ช้ำฉันใด บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายในพระพุทธศาสนา เวลาเข้าไปสู่ตระ++ล จงอย่าทำให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทชอกช้ำในความเป็นอยู่หรือจิตใจ" ก็รวมความว่า วันนั้นพระโมคคัลลาน์ขึ้นไปบนสวรรค์ก็ไปเจอวิมานที่ไปพบมาแล้วทุกๆวัน แต่ปรากฏว่า พอเลี้ยวเข้ามามุมหนึ่งของสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ก็มีความแปลกใจว่าเห็นวิมานใหม่มันเกิดขึ้น วิมานนี้เป็นวิมาน ๔ มุข มียอดใหญ่ตระการตาสวยสดงดงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ วิมานคอยอยู่แล้ว ท่านจึงหันไปถามเทพบุตรที่อยู่ใกล้ๆถามว่า "วิมานนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...?" เทพบุตรองค์นั้นท่านก็ตอบว่า "วิมานนี้เป็นวิมานของ นันทิยมาณพ เมื่อกลางวันวานที่แล้วมาปรากฏว่านันทิยมาณพเขาถวายวิหารศาลา ๔ มุขในพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พอถวายเสร็จวิมานก็ปรากฏก่อน" อัครสาวกขององค์สมเด็จรพระชินวรถามว่า "เป็นอย่างนี้ทุกรายรึ...?" เทพบุตรองค์นั้นก็บอกว่า "เป็นอย่างนี้ทุกราย คนที่ทำบุญเสร็จมีวิมานทันทีทันใด" พอพูดมาถึงตอนนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็นึกถึงว่าคนที่ถวายสังฆทาน ความจริงถวายสังฆทานก็พร้อมด้วยวิหารทาน คือปัจจัยที่นำมาถวายก็เป็นสังฆทานด้วย เป็นวิหารทานด้วย จึงมีวิมานปรากฏก่อนทุกคน อัครสาวกขององค์สมเด้จพระชินวรก็มองดูไปที่วิมาน เห็นนางฟ้าเต็มไปหมด เป็นพันคน เวลานั้นบรรดานางฟ้าทั้งหลายก็ลงมาจากวิมาน มากราบอัครสาวกขององค์สมเด็จพระทศพลแล้วเธอทั้งหลายก็กล่าวว่า "ภันเต พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระเจ้าข้า พวกฉันเป็นนางฟ้ามาอยู่ที่วิมานนี้หวังจะบำรุงบำเรอเทพบุตร คือนันทิยมาณพให้ความสุข แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ปรากฏว่าอยู่เปล่า ว่างๆใจเหวงหวาง เพราะไม่มีเทพบุตรที่จะบำรุงบำเรอ ฉะนั้น พระคุณเจ้ากลับลงไปเมืองมนุษย์ ได้โปรดบอกนันทิยมาณพด้วยว่า เวลานี้วิมานใหญ่โตสวยงามที่สุดปรากฏขึ้นแล้วในดาวดึงสเทวโลก เป็นที่อยู่ของท่าน และมีนางฟ้านับพันคอยบำรุงบำเรออยู่ ขอให้นันทิยมาณพละอัตภาพจากความเป็นคน คือรีบตายแล้วมาเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ดีกว่า" เธอเปรียบเทียบว่า "อยู่เมืองมนุษย์ก็เหมือนกับใช้ถาดดินเหนียว มาอยู่บนสวรรค์ก็เหมือนใช้ถาดทองคำ" พอเวลาเสร็จภาระกิจ พระโมคคัลลาน์ก็กลับ ตอนเช้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์จบ พระโมคคัลลาน์ก็ฟังด้วย ความจริงพระอรหันต์ก็ฟังเทศน์ อย่านึกว่าเป็นอรหันต์แล้วไม่ฟังนะ ทุกองค์ยังมีความเคารพในพระพุทธเจ้า มีความเคารพในพระธรรม และพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเทศน์อาจจะมีแปลกๆ นิดๆ หน่อยๆ เป็นความรู้ใหม่ เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์จบ พระโมคคัลลาน์ก็ทูลถามว่า "คนที่ทำบุญแลวแต่ยังไม่ตาย ปรากฏว่าวิมานเกิดคอยแล้ว ความจริงเป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า" ที่พระโมคคัลลาน์ถามอย่างนี้ บรรดาท่านพระพุทธบริษัทไม่ใชพระโมคคัลลาน์อวดดีพระโมคคัลลาน์อวดเด่น พระโมคคัลลาน์จะอวดใคร เป็นความดีที่พระโมคคัลลาน์ทำอย่างนั้นเพื่อเป็นการตัดอารมณ์ของตัวว่า การเห็นแบบนั้นเป็นอุปทานหรือเปล่า คำว่า อุปทาน เป็นการนึกขึ้นเอง แต่ก็ไม่แน่นัก คำว่าอุปทานอาตมาก็เคยเกิด เคยพบวันหนึ่งมีอารมณ์มัวไปนิดหนึ่ง ก็ปรากฏว่าอยากจะเฝ้าพระพุทธเจ้าขึ้นไปเห็นพระพุทธเจ้าสวยงามมาก เปล่งปลั่ง รัศมีปกติเหมือนทุกอย่าง กราบท่านแล้วก็ถามปัญหาบางอย่าง ปรากฏว่าคำตอบผิด อาตมาถามถึงเหตุที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า ระยะสั้นๆ คือถาม ๑ ชั่วโมง ต้องการผลใน ๑ ชั่วโมง ผลที่เกิดมาผิด ก็แปลกใจว่า ทุกครั้งที่เราฟังมาไม่เคยผิด วันต่อมาจึงเข้าไปเฝ้าองค์สมเด็จพระธรรมสามิสร ทำใหม่คราวนี้ทำใจให้สะอาดจริงๆ ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่นึกถึงเรื่องราวที่คิดไว้ก่อน ก็พบองค์สมเด็จพระชินวร ถามท่าน ท่านก็บอกว่า "ดูซ้ายมือซิ" พอดูซ้ายมือ เห็นเป็นรูปพระพุทธเจ้า แต่มีเขี้ยว ท่านบอกว่า "มารเข้าขวางทางของเธอก่อนที่เธอจะมาเธอจงอย่าคิดอะไรก่อน จงทำเหมือนทุกครั้งที่แล้วมา เมื่อวานนี้เธอคิดอะไรเสียก่อนแล้วขึ้นมา อารมณ์นั้นยังค้างอยู่ เขาเรียกอุปทาน" เป็นอันว่าพระโมคคัลลาน์ท่านตัดอุปทานอย่างนี้ เพื่อความมั่นใจ เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรทรงสดับแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสว่า "โมคคัลลาน์ เมื่อคืนนี้เธอไปเห็นมาเองแล้วใช่ไหม พระโมคคัลลาน์ก็มีความมั่นใจ นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท การทำบุญนั้น วิมานเขาค่อยอยู่แล้ว ทุกคนให้มั่นใจในความดีของตน นิมิต อย่างมีครั้งหนึ่งตามที่กล่าวมาว่า ครั้งหนึ่งที่อาตมานิมิตคือไม่ใช่นิมิตหรอก จิตมันวูบวาบไป มันตายน่ะ พูดง่ายๆถ้าใครเขาเห็นเวลานั้นก็เป็นความตาย แต่มันใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงนัก จากเวลา ๓ ทุ่มเศษๆ ไปถึงตี ๒ กลับมา ตอนนั้นที่บอกว่าไปนั่งอยู่หน้ากำแพงด้านหนึ่งตามที่ผ่านมาแล้ว แล้วก็มองเข้าไปข้างใน ใสสะอาดสวยงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ สว่างมาก แล้วท่านบอกว่า "มีวิมาน ๗ แสนหลังคอยพวกเธออยู่ภายใน เธอมีสิทธิ์ แต่ยังเข้าไม่ได้ คอยก่อน" อันนี้ก็เป็นนิมิตอันหนึ่ง ที่จะจริงก็ได้บรรดาท่านพุทธบริษัทตอนนี้เป็นนิมิตนะ ขอบรรดาท่านผู้รู้ใช้กำลังของท่านพิจารณาดูก็แล้วกัน แล้วต่อมาอีกวันหนึ่ง เข้าไปทบทวนใหม่ ถามว่า "วิมานชุดนั้นตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่...?" วันนั้นเข้าได้ เข้าแล้วอยู่ไม่ได้ วันที่ผ่านมาแล้วที่พูดเข้าไปจะอยู่เลย คือไปแล้วจะอยู่เลย ไม่กลับ ท่านเลยห้ามเขตแต่วันต่อมา ไม่เอาล่ะ จะไปแค่ดูเฉยๆ ท่านก็เลยบอกว่า "จากจุดนี้ที่เธอนั่ง หันหน้าไปทางด้านทิศเหนือ แล้วอยู่ทางซ้ายมือ วิมาน ๗ แสนวิมาน ตั้งเรียงรายเป็นระยับ" ก็มีคนถามว่า คล้ายบ้านจัดสรรใช่ไหม ก็บอกว่าใช่แต่บริเวณเขาไกลกว่ากันมาก เขากว้างมาก สวยสดงดงามเป็นระยับ ก็เดินเข้าไปดู ก็เกิดความเพลิดเพลินว่า วิมานนี้เป็นวิมานเฉาจริงๆไม่มีเจ้าของ ถ้าเป็นเมืองมนุษย์เราจะขายเลหลัง จะเลหลังคงจะได้หลายสตางค์ แต่ว่านี่เป็นนิพพาน ขายไม่ได้ เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เวลาเหลืออีกประมาณ ๑ นาทีเศษๆ ก็ขอบรรดาสาวกองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เอาธรรมเป็นเครื่องประจำใจไปใช้ปฏิบัติสักนิดหนึ่งว่า ความดีเบื้องต้นของคนก็คือศีล ๕ ทุกคนจงระมัดระวัง ศีล ๕ คือ ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ๒. ไม่ลักทรัพย์ ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม ๔. ไม่พูดมุสาวาท ๕. ไม่ดื่มสุราและเมรัย ทั้ง ๕ ประการนี้ ถ้าทำได้บรรดาพุทธบริษัท จะเป็นมหาเสน่ห์อย่างมาก เพราะการไม่ฆ่าสัตว์ เป็นคนที่มีใจไม่โหดร้าย อย่างนี้มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส มีเมตตาปรานี ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก เป็นเสน่ห์ การไม่ลักไม่ขโมยเขา ทุกคนก็ไว้วางใจ มีเพื่อนมากมีคนต้องการคบหาสมาคม จะไปพักที่ไหน จะไปนอนที่ไหนก็ได้ ข้าวปลาอาหารไม่อด เพราะเขารัก นี่ก็เป็นเหตุความสุขใจ การไม่ละเมิดสามีภรรยาของบุคคลอื่น อันนี้เป็นเครื่องสบายใจอย่างหนึ่ง เป็นที่ไว้วางใจของคน ไม่ทำลายความรักกันก็เป็นเสน่ห์ให้เกิดความรัก การพูดตรงไปตรงมาเป็นสัจธรรม อันนี้มีความสำคัญมาก บรรดาท่านพุทธบริษัท รักษาให้ดี เป็นเสน่ห์มหาศาล ต่อมาข้อสุดท้าย ที่พวกเราไม่ดื่มสุราบานไม่ทำสติสัมปชัญญะให้เสื่อม จะเป็นของดีมาก ทุกอย่าง ๕ ประการนี้ ทำได้มีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์ ความทุกข์ใดๆที่มีอยู่แล้วในโลกที่ปรากฏมาก่อน ตามศีล ๕ ที่องค์สมเด็จพระชินวรตรัสไว้แล้วนั้น บรรดาท่านทั้งหลายเขาถือว่าเป็น สีลานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานบทสำคัญทำให้ท่านทั้งหลายมีความสุขทั้งชาตินี้และชาติหน้า เวลาหมดแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูลผล จงมีแก่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้อ่านทุกท่าน จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ หน้าที่ ๒๑-๓๐ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) ภิกษุในศาสนานี้ เมื่อจิตมีราคะ ก็รู้ชัดว่าจิตของเรามีราคะ เมื่อจิตมีโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตของเรามีโทสะ เมื่อจิตมีโมหะ ก็รู้ชัดว่าจิตของเรามีโมหะ เมื่อจิตหดหู่ ก็รู้ชัดว่าจิตของเราหดหู่ หรือเมื่อจิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ชัดว่าจิตของเราฟุ้งซ่าน พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น คำที่พระองค์ตรัส เป็นหนึ่ง ไม่เป็นสอง พระองค์ตรัสว่า ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา ก็เป็นอนัตตา ตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ซึ่งเป็นพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์ ธรรม ทั้งปวง เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา เพราะเป็นธรรมแต่ละอย่าง ๆ เท่านั้น สำคัญอยูที่ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตาม ความเป็นจริง เพราะสิ่งที่มีจริงมีเพียง ๔ ประการเท่านั้น คือ จิต เจตสิก รูป (เป็นสภาพธรรมมีเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน) และ พระนิพพาน ซึ่งเป็นสภาพธรรม ที่ไม่เกิดไม่ดับ ซึ่งหาความเป็นเรา หาความเป็นสัตว์เป็นบุคคลในสภาพธรรมเหล่า นั้นไม่ได้เลย แต่เพราะยังไม่เข้าใจจึงมีการเห็นผิดว่าเป็นเรา เห็นผิดว่ามีเราจริง ๆ แท้ที่จริงแล้วเป็นแต่เพียงธรรมแต่ละอย่าง ๆ เท่านั้น สำหรับปัญจทวารวิถีจิตมีรูปเป็นอารมณ์ วาระแรก มโนทวารวิถีจิตเกิดต่อมีรูปทาง ปัญจทวารเป็นอารมณ์เช่นกันด้วยความรวดเร็วของวิถีจิตจากทางปัญจทวารวิถีไปมโน ทวารวิถีทำให้ชวนจิตทางปัญจทวารเมื่อเป็นอกุศล ชวนจิตทางมโนทวารที่รับต่อก็ยัง เป็นอกุศลด้วย เพราะความรวดเร็วของการสืบต่อของปัญจทวารวิถีไปมโนทวารและมีรูป เป็นอารมณ์ทางปัญจทวารครับ ซึ่งในส่วนของความรวดเร็วของวิถีจิตจากทางปัญจ- ทวารวิถีไปมโนทวารวิถีนั้น ก็ได้แสดงไว้ในพระไตรปิฎกดังนี้ครับ พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 243 บรรดาอารมณ์มีรูปเป็นต้นเหล่านั้น อารมณ์แต่ละอารมณ์ย่อมมาสู่ คลองในทวารทั้งสอง. จริงอยู่ รูปารมณ์กระทบจักขุประสาทแล้ว มาสู่คลอง มโนทวารในขณะนั้นทันที อธิบายว่า เป็นปัจจัยแก่ภวังคจลนะ. แม้สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ ก็นัยนี้. เหมือนอย่างว่า นกบินมาทาง อากาศ ซ่อนตัวอยู่ที่ยอดต้นไม้นั่นแหละ ย่อมกระทบกิ่งไม้ด้วย เงาของนกนั้น ย่อมกระทบแผ่นดินด้วย การกระทบที่กิ่งไม้ และการแผ่ไปแห่งเงาที่แผ่นดิน ย่อมมีในขณะเดียวกัน คือไม่ก่อนไม่หลังกัน ฉันใด การกระทบจักขุประสาท เป็นต้นของรูปที่เป็นปัจจุบันเป็นต้น และการมาสู่คลองมโนทวาร เพราะ สามารถให้ภวังค์ไหว ย่อมมีในขณะเดียวกันนั่นแหละไม่ก่อนไม่หลังกันฉันนั้น. ลำดับนั้น มหาจิตนี้ก็เกิดขึ้นในอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งแห่งอารมณ์เหล่านั้น อันติดต่อกันไปแห่งอาวัชชนจิตเป็นต้น ที่ตัดภวังค์แล้วเกิดขึ้นในจักขุทวาร เป็นต้น มีโวฏฐานจิต*เป็นที่สุด แต่ว่าในมโนทวารล้วน ๆ ไม่มีกิจกระทบกับ ประสาท โดยปกติอารมณ์เหล่านี้ ย่อมมาสู่คลองด้วยสามารถแห่งรูปที่เห็นแล้ว เสียงที่ฟังแล้ว กลิ่นที่ดมแล้ว รสที่ลิ้มแล้ว กายที่กระทบแล้วเท่านั้น. คติธรรมส่งท้าย การกล่าววาจาแม้ตั้งพันแต่ไม่เป็นประโยชน์ สู้การกล่าววาจาเพียงบทเดียว แต่เป็นประโยชน์ ฟังแล้วทำให้จิตสงบจากกิเลสประเสริฐกว่า จากคติธรรมเรื่องการพูด เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรผสมด้วยทองคำเปลวบริสุทธฺ์และนำดอกไม้มาถวายบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ บอกบุญ แบ่งบุญให้ผู้อื่น อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ได้รักษาศีล ฟังธรรม อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆที่ได้รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพาหนะและที่อยู่อาศัยเป็นทาน และวันนี้ได้ทำประโยชน์กับเพื่อนๆในการที่เกี่ยวกับการรักษาโรค และอนุโมทนาบุญกับผู้อื่น อนุโมมนาบุญกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัด ที่ผ่านมาได้อนุโมทนาบุญกับผู้บวชพระและผู้ที่ทำบุญเลี้ยงพระหลายแห่ง และได้ร่วมบุญสร้างตึกการแพทย์กับ ร.พ.ศิริราช และร่วมลงนามถวายพระพรที่ศิริราช และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้คตรบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรผสมด้วยทองคำเปลวบริสุทธฺ์และนำดอกไม้มาถวายบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ บอกบุญ แบ่งบุญให้ผู้อื่น อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น ร่วมบุญสร้างตึกการแพทย์กับ ร.พ.ศิริราช และร่วมลงนามถวายพระพรที่ศิริราช สร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะครับ วัดฉลองราชศรัทธาราม ขอประกาศบอกบุญหาเจ้าภาพเร่งด่วนที่สุด รับอุปถัมภ์ ถวาย "ขันแก้วทั้งสาม เพื่อใส่ดอกไม้บูชาพระ และขอขมาพระรัตนตรัยทั้ง ๓ (แบบทางเหนือ) และถาดใส่ของสำหรับถวายพระภิกษุสงฆ์" ด่วนที่สุดให้สำเร็จภายในวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๔ นี้ รายละเอียดทราบตามนี้ ๑. ขันแก้วทั้ง ๓ แบบแกะลายปิดทองคำ ๒ อัน ๆ ละ ๑,๖๐๐ บาท ๒. ถาดสังกระสีกลมใส่ของแบบธรรมดาทั่วไป ๕๐ ใบ ๆ ละ ๗๐ บาท โทรศัพท์ ๐๘-๕๐๓๗-๐๓๗๐ สร้างพระธาตุอินทร์แขวน ในประเทศไทย สามารถร่วมทำบุญได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาแพร่ ชื่อบัญชี นายนพดล วิทยาพันธ์ เลขที่บัญชี ๕๐๖ - ๐ - ๓๓๒๑๕ - ๒ ด้วยทางสำนักสิริธรรมวิมุตติ(เขาเศรษฐี) ได้ดำเนินการจัดสร้าง พระหินเขียวจากแม่น้ำโขง ปางแสดงปฐมเทศนา สูง 3 เมตร ประดิษฐาน ณ ลานธรรมของสำนักฯ เพื่อเป็นพระสำคัญองค์หนึ่งของบ้านเมืองในแดนทักษิณ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการนี้ ค่าหินเขียว และค่าช่างแกะสลักพระ เป็นเงิน 600,000 บาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยช่างใช้เวลาแกะสลักประมาณ 6 เดือน และจะนำมาตกแต่ง ณ สำนักฯ เมื่องานเหลือประมาณ 35% ทางสำนักฯ จึงขอเชิญชวนทุกดวงจิตของพระพุทธบริษัทร่วมบุญมหากุศลในครั้งนี้ตามกำลังศรัทธาที่ไม่เป็นเดือดร้อนภายหลัง จึงทำใบบอกมายังท่านทั้งหลาย ทางสำนักฯ รอคอยการสนับสนุนจากท่านทั้งหลาย ติดต่อสอบถามเรื่องราวได้ที่สำนักฯ หรือโทรติดต่อทางสำนัก เบอร์โทร 086-2899593 พระชูเกียรติ ชุติปัญโญ บัญชีธนาคาร กรุงเทพ จำกัด ประเภทออมทรัพย์สาขาระโนด เลขที่ 274-0-94098-2 ขอเชิญร่วมบุญใหญ่สร้างพระอุโบสถทรงเจดีย์พุทธคยา(จำลอง) วัดหนองก๋าย จ.เชียงใหม่ วัดหนองก๋าย เบอร์โทรศัพท์ 053-374488-9 และ 053-374095-6 โทรสาร 053-374677 ขอเชิญร่วมบุญผ่านบัญชีธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแม่ริม ชื่อบัญชีกองทุนพระอุโบสถโดยวัดหนองก๋าย เลขที่บัญชี 853-2-10309-7 ขอเชิญร่วมงานบุญเททองหล่อพระประธาน “หลวงพ่อทันใจ มิ่งมงคล” -------------------------------------------------------------------------------- โทรศัพท์ 038-293399ล,038293400 ขอเชิญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดถ้ำผาแด่น จ.สกลนคร ขอเชิญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดถ้ำผาแด่นบ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จ.สกลนคร ร่วมทำบุญได้ที่หลวงพ่อปกรณ์ กนฺตวีโร โทร 083-6263475 , 083-6263353 ชื่อพระพ่อปกรณ์กนฺตวีโร ออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสกลนคร เลขที่ 412-0-37401-7 ขอเชิญทุกๆท่านร่วมกันสร้างพระใหญ่จอมโลกอุดรบนอาคารสถานปฏิบัติธรรม..เชียงดาว เชิญติดต่อสอบถามร่วมเป็นเจ้าภาพซื้อปูน/หิน/ดิน/ทรายและอื่นๆได้ที่... พระครูสุนทรกิจกานุกิจ (หลวงพ่อทองแท้) 086-102-5396/084-114-5242 พระอาจารย์สำรวมมงคลสิโก 089-082-5285 คุณประเทือง ศรีเพชร 081-634-0623 คุณบุญเยี่ยม กองสีผิว 083-576-5838 คุณสมชัย เลี้ยงบำรุง 081-703-2170 คุณสุวิทย์ ผุ้ใหญ่บ้าน หมู่4 วังจ๊อม 087-182-1371 ร้านรุ่นเรื่องอะไหล่ยนต์(คุณสมศักดิ์-คุณเรวดี) นครชัยศรี นครปฐม 087-182-1371 หรือติดต่อสอบถามได้ที่เว็บไซค์ โอมศายะ.ดอทคอม www.ohmsaya.com พ่อครูพราหมณ์ อริยะเวทย์ สุรสิงห์ เทวะบัณฑิต 083-036-3380หรือ02-431-1840 ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างอุโบสถ วัดหนองหูลิง สถานที่ตั้ง : ม.9 ต.หูช้าง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พื้นที่ : ประมาณ 9 ไร่ กว่า ก่อตั้ง : ตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 (เป็นสำนักสงฆ์) จำนวนพระสงฆ์ : 4 รูป (ณ. วันที่ 10 เม.ย. 2554) สิ่งก่อสร้างภายในวัด : กุฏิสงฆ์, ศาลาเอกประสงค์, เมธุ, หอระฆัง เจ้าอาวาส : พระอธิการทองดี ถิรวิริโย (เจ้าอาวาส) เบอร์ติดต่อ : 082-4021448 ขอเรียนเชิญร่วมบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าเกษมสุข ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี วันที่ ๒๙ เมษายน - ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ (ตรงกับแรม ๑๑ - ๑๔ ค่่าเดือน ๕) ผู้ประสงค์ร่วมทำบุญถวายทาน อาหาร/น้ำปานะ ติดต่อได้ที่วัดป่าเกษมสุข หรือ โอนเงินเข้า บ/ช ธนาคารนครหลวงไทย สาขาเขตอุตสาหกรรม(หนองกี่) ชื่อ บ/ช วัดป่าเกษมสุข เลขที่ บ/ช ๔๓๙ - ๒ - ๑๐๔๐๓ - ๘ สอบถามรายละเอียดได้ที่.... โทร. ๐๘๑-๗๑๕ ๔๐๒๑ , ๐๘๙-๐๒๕ ๔๐๕๒ , ๐๘๙-๘๐๖ ๔๙๖๐ , ๐๘๑-๘๐๒ ๑๑๗๙ ทอดผ้าป่าสร้างถนนทางขึ้นวัดป่าภูเค็ง รับวัตถุมงคลและเหล็กไหล สนใจทำบุญกรุณาโอนเงินที่ นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ ธนาคารทหารไทย เลขที่บัญชี 438-2-38895-9 แล้วแจ้งที่อยู่ทาง E-mail teerapat992000@hotmail.com รับถึงวันที่ 13 เมษายน 2554 เวลา 12.00 เท่านั้นนะครับ 13 เมษา ขอเชิญร่วมบุญพิธีอาบน้ำว่านฯ น่าสนใจครับ ณ วัดสุทธาวาส วิปัสสนา ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อาบน้ำว่าน กัน แก้ สิ่งไม่ดี และเสริมมงคล ช่วงเช้า พิธีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ช่วงบ่าย พิธีสรงน้ำพระ ช่วงเย็น พิธีอาบน้ำว่าน ขอเชิญเที่ยวงานและไหว้พระประจำปี ณ พระวิหารหลวงวัดสุทัศน์เทพวราราม 11-17เมษายน 2554 เพียงท่าน กด 1900222200 รอฟังสักครู่ แล้วกด 1 ท่านจะสามารถช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ ครั้งละ 15 บาท |
เจ้าของ: | หัวหอม [ 11 เม.ย. 2011, 17:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรื่องราว |
"เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรผสมด้วยทองคำเปลวบริสุทธฺ์และนำดอกไม้มาถวายบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ บอกบุญ แบ่งบุญให้ผู้อื่น อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ได้รักษาศีล ฟังธรรม อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆที่ได้รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพาหนะและที่อยู่อาศัยเป็นทาน และวันนี้ได้ทำประโยชน์กับเพื่อนๆในการที่เกี่ยวกับการรักษาโรค และอนุโมทนาบุญกับผู้อื่น อนุโมมนาบุญกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัด ที่ผ่านมาได้อนุโมทนาบุญกับผู้บวชพระและผู้ที่ทำบุญเลี้ยงพระหลายแห่ง และได้ร่วมบุญสร้างตึกการแพทย์กับ ร.พ.ศิริราช และร่วมลงนามถวายพระพรที่ศิริราช และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้คตรบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย" ข้อความของคุณรสมนข้างต้นที่นำบุญมาฝาก ขออนุโมทนาด้วยครับ ขอบคุณๆรสมนครับ ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |