วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 01:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2011, 15:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


คือมีคนบอกว่า การที่พระบิณฑบาตเวลาที่เราถวายอาหารเสร็จ ถ้าพระให้พรท่านจะผิดพระวินัย แล้วทีนี้มาเยี่ยมบ้านยายที่ชัยภูมิหลังจากที่ตักบาตรเสร็จยายก็บอกให้มานั่งให้มารับพร ผมควรจะบอกกับท่านอย่างไรดี เพราะหากเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าเรามีส่วนในการทำให้พระพุทธศาสนาย่อหย่อนลง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2011, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2010, 08:25
โพสต์: 326


 ข้อมูลส่วนตัว




พระพุทธเจ้า.jpg
พระพุทธเจ้า.jpg [ 12.01 KiB | เปิดดู 8075 ครั้ง ]
คนเกือบหลงทาง เขียน:
คือมีคนบอกว่า การที่พระบิณฑบาตเวลาที่เราถวายอาหารเสร็จ ถ้าพระให้พรท่านจะผิดพระวินัย แล้วทีนี้มาเยี่ยมบ้านยายที่ชัยภูมิหลังจากที่ตักบาตรเสร็จยายก็บอกให้มานั่งให้มารับพร ผมควรจะบอกกับท่านอย่างไรดี เพราะหากเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าเรามีส่วนในการทำให้พระพุทธศาสนาย่อหย่อนลง


tongue :b8: อันนี้สุดปลายฟ้าก็ไม่ทราบนะคะว่าคุณได้ยินมาจากไหน จะผิดหรือถูกนั้น คงจะมีผู้รู้เข้ามาอธิบายให้ฟังได้ค่ะ แต่ของสุดปลายฟ้าจากประสบการณ์ที่สุดปลายฟ้าเจอมานะคะ ทุกๆวันที่สุดปลายฟ้าใส่บาตรพระท่าน หลังจากที่ใส่เสร็จแล้ว สุดปลายฟ้าก็จะคุกเข่ารับพระท่านทุกวันค่ะ พระท่านจะให้พร บทสัพพีค่ะ หรือไม่ก็อายุโทค่ะ แต่ถ้าเราเตรียมน้ำไว้ท่านก็จะให้ยะถา ก่อนสัพพีค่ะ ทุกวัน เลยไม่ทราบว่าในพระไตรปิฏกได้บัญญัติข้อห้ามพระภิกษุให้พรโยมด้วย แต่สุดปลายฟ้าว่าดีนะคะที่ท่านให้พรเรา คุณยายท่านคงเหมือนสุดปลายฟ้า ท่านคงจะมีประเพณีเหมือน ๆ กันค่ะ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ การที่คุณใส่บาตรแล้วนั้น จิตคุณก็ย่อมได้กุศลแล้วละค่ะ ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ ขอให้เจริญในธรรมสูง ยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

.....................................................
สุดปลายฟ้า... เชื่อมั่นและสัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้รู้แจ้ง เห็นจริง ยึดถือพระองค์เป็นสรณะ อย่างไม่มีสิ่งใดเหนือกว่า
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 02:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


การให้พรของพระภิกษุหลังที่เราใส่บาตรแล้วนั้นจริงๆแล้วถ้าท่านจะให้หรือไม่ให้ก็ได้ครับ
เพียงแต่ช่วงหลัง ๆ นี้เห็นญาติโยมต้องการพรพระเพื่อความเป็นสิริมงคลและความสุขใจท่านก็เลยให้พรหลังญาติโยมใส่บาตรจนกลายเป็นการให้พรกันมาจนถึงในปัจจุบันนี้ครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


คือมันมีกำหนดไว้ในพระวินัยอะครับ คือ ญาติโยมจะเอาสบายใจญาติโยมแล้วพระอาบัติมันก็คงดูแปลกๆ
เพราะมีระบุในพระวินัยไว้ แต่จำไม่ได้ว่าอยู่หน้าไหน วอนผู้รุ้ช่วยไขความกระจ่างด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ก็เสียเวลา พิมพ์อยู่ครึ่งชั่วโมง ก่อนจะโพสต์ก็ตรวจสอบว่าเรายังอยู่ในระบบอยู่ พอโพสต์ปุ๊บมันหายไปหมดมันขึ้นว่า ให้ล็อค-อินเข้าระบบ เลยไม่รู้ว่าเป็นที่คนหรือที่เครื่อง ไม่เป็นไร ตั้งใจแล้วขอพิมพ์ใหม่
....เรื่องของการให้พรนี้ มันอยู่ที่เจตนา ถ้าเราจะให้พรเพื่อให้ญาติโยมสบายใจมันก็อย่างหนึ่ง ถ้าจะให้พรเพื่อให้ญาตืโยมติดใจมาใส่บาตรทุกวันมันก็อย่างหนึ่ง แต่ถามว่าให้กับไม่ให้ญาติโยมได้บุญเท่ากันไหม มันเท่ากัน คือเวลาพระออกเดินบิณฑบาตรนี้ สายตาต้องทอดต่ำ แล้วต้องสวดบทสัพเพสัตรา สัตว์ทั้งหลาย...ไปตลอดทางเพื่อแผ่เมตตา(เราเหยียบสัตว์เล็ก สัตว์น้อยไปตลอดทาง) เวลารับบาตร ก็ให้รับแค่คอบาตร แล้วให้หันหลังกลับวัด ถ้ามีเทศกาลให้รับได้ไม่เกิน 2 บาตร(ถ่าย 1ครั้ง) เมื่อพระฉันท์เสร็จแล้ว(ฉันท์รวม) ก็จะสวดยถาสัพพีพร้อมกัน ญาติโยมก็จะได้รับบุญกุศลเต็มที่ตอนนั้น ทีนี้ถ้าเรามีเจตนาที่จะแผ่(ส่งต่อ)บุญกุศลไปถึงใคร เราก็กรวดน้ำให้ แล้วระบุชื่อผู้รับ หรือถ้าไม่มีชื่อเช่นสัตว์ทั้งหลายที่เสวยทุกข์ เสวยกรรมอยู่ก็ระบุไป ก็จะถือว่าเป็นการแผ่ส่วนบุญ ส่วนกุศล ถามว่าบุญของเราไปส่งต่อให้คนอื่น ไปแผ่ให้คนอื่น แล้วบุญของเรามันลดลง มันหมด มันพร่องไปไหม ตอบว่าไม่ มันกลับเพิ่ม คือเราตั้งใจทำบุญแล้วก็ได้บุญไปทอดหนึ่ง มีใจกุศลแบ่งบุญให้คนอื่นมันเกิดบุญขึ้นอีกทอดหนึ่ง เขาจึงว่าของอย่างอื่นยิ่งให้มันยิ่งหมดไป แต่บุญ กุศลนี้ ยิ่งให้มันยิ่งเพิ่มขึ้น
......แต่ทีนี้ถ้าเราจะให้พร ก็ได้แต่ต้องดูที่เจตนาหนึ่ง ว่ามีเจตนาติดสินบนให้โยมติดใจมาดักใส่บาตรเราทุกวันหรือเปล่า สองพรนั้น มันไปสร้างความเขาใจผิดในบุญกุศล ไปสร้างกิเลสให้โยมหรือเปล่า เช่นหลวงพ่อชาท่านว่า พอพระให้พรว่า อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง โยมก็กล่าว สาธุ ยิ้มหน้าบานกันทั้งศาลา ที่นี้ ท่านถามต่อว่า ความจริงแล้ว คนอายุเยอะๆนี้ วรรณะผิวพรรณดีๆมันมี(มาก)ไหม คนอายุเยอะๆนี้ มีความสุขหลายๆมันมีมากไหม(ท่านหมายความว่า คนแก่นี้มันมีแต่ทุกข์สังขาร ปวดข้อ ปวดเข่า หูตา ฝ้าฟาง มันจะสุขเหมือนหนุ่มสาวได้อย่างไร) คนอายุเยอะๆนี้ กำลังหลายๆ(แข็งแรงเหมือนคนหนุ่ม)มันมีมากไหม.....มันไม่มี หรือมีมันก็น้อย ฉะนั้นท่านจึงว่า เจตนาในการให้พร และพรที่ให้นี่ก้สำคัญ ถ้าให้ผิดๆโยมก้จะเข้าใจอะไรผิดไปตลอดให้ไม่ถูก ก็แค่กล่าวว่า ขอให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รักษานะจ๊ะ หรือขอให้บุญกุศลที่ทำรักษานะ เท่านี้ก็ได้อันนี้ ก็ลองไปพิจาณรากันดู......เจโตวิมุตฺ/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเกือบหลงทาง เขียน:
ถ้าพระให้พรท่านจะผิดพระวินัย


ผมไม่เข้าใจคำถามครับ ถ้าพระให้พร แล้วท่านจะผิดวินัยยังไงครับ ผมเห็นเวลา
เราใส่บาตรให้พระเสร็จ พระท่านก็ให้พรทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพระที่บวชอยู่
ส่วนไหนของประเทศ......อายุ วัณโณ สุขขัง พะลัง.....คุณพิมพ์ผิด หรือ
ว่าผมเข้าใจผิด ไม่เข้าใจคำถามครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


แก้ไขล่าสุดโดย เสียงธรรม เมื่อ 17 เม.ย. 2011, 14:32, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หัสพล พวงแก้ว เขียน:
การให้พรของพระภิกษุหลังที่เราใส่บาตรแล้วนั้นจริงๆแล้วถ้าท่านจะให้หรือไม่ให้ก็ได้ครับ
เพียงแต่ช่วงหลัง ๆ นี้เห็นญาติโยมต้องการพรพระเพื่อความเป็นสิริมงคลและความสุขใจท่านก็เลยให้พรหลังญาติโยมใส่บาตรจนกลายเป็นการให้พรกันมาจนถึงในปัจจุบันนี้ครับ


คุณ จขกท หมายความตามนี้หรือเปล่าครับ ที่บอกว่าพระให้พรแล้วเป็นการผิดวินัย

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: เป็นอันว่าเราไม่เถียงกันดีกว่าไหม ผมไม่ได้พูดเรื่องวินัย สักคำ ผมพูดเรื่องเจตนาหนึ่ง ให้พรกับไม่ให้ได้บุญเท่ากันไหมหนึ่ง ให้ก็ได้ ไมให้ก็ได้ แต่ต้องพิจาณรา พรที่ให้ ว่าให้แล้วญาติโยม โง่ลงหรือฉลาดขึ้น หนึ่ง
.....อันนีผมก็จบลง ด้วยคำว่า ก็ลองไปพิจาณรากันดู คือเห็นด้วยก็ไปแนะนำกัน ไม่เห็นด้วยก็วางเสียจะไปแบกไว้ ท่านอื่นเขาก็พิจาณรากันเอง ด้วยสติปัญญาของใครของมัน ผมพูดผิด ผมกล่าวตู่คนตกนรกเป็นผม ขอบคุณที่หวังดี ที่ผมตอบคุณนี้เห็นว่าคุณมีเจตนาดี ตั้งแต่เรื่องความขัดแย้ง เรื่องถูกลบกระทู้ ถ้าผมเห็นเป็นคนพาลผมไม่ตอบ
......อีกอย่างผมไปทำบุญทุกวัดนั่นแหละ พระท่านก็ให้พรผมแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ยินดีกับพรประเภทนี้ ยิ่งขอให้ร่ำให้รวยยิ่งไปกันใหญ่ มันเป็นสากลไปแล้ว ผมจึงต้องบอกว่าหลวงพ่อชาท่านพูด(ถ้าอยากรู้ว่าจริงไหมไปหาอ่านเอง) เพราะถ้าผมพูดต้องไม่มีใครเชื่อ บางคนอาจคิดเอาว่าผมเป็นมารศาสนาไปเลยก็อาจมี
.......ผมจะเล่าเรื่องหลวงพ่อชาให้ฟังเรื่องหนึ่ง อันนี้เป็นเรื่องเล่าต่อกันในหมู่ศิษย์ วันหนึ่งในวังจัดงาน ก็นิมนต์พระป่าเข้ามาฉันท์ หลวงพ่อชาท่านก็สะพายบาตรเข้ามาด้วย(ท่านฉันท์ในบาตร) พอดีมีพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคุณรูปหนึ่งมาพบเข้า ก็กล่าวตำหนิว่า นี่พระบ้านนอกเข้ามาในรั้วในวัง สะพายบาตรเข้ามาไม่อาย(เบื้องสูง)หรือ หลวงพ่อชา ท่านก็ ตอบกลับไปบ้างว่า แล้วท่านล่ะบวชมาจนเป็นเจ้าคุณแล้วสะพายบาตรไม่เป็น(ไม่เคยบิณพบาตร ซึ่งเป็นกิจของสงฆ์) ไม่อายพระพุทธเจ้าหรือ....อย่างนี้ท่านวินิจฉัยอย่างไร แต่เราว่าถูกคือถูก ไม่ใช่มากแล้วถูก....(ตอบครั้งเดียวและสุดท้ายแล้วเรื่องแบบนี้ ถ้าปัญหามาก ก้จะไปเหมือนกัน)....เจโตวิมุติ/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 14:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2011, 22:38
โพสต์: 15


 ข้อมูลส่วนตัว


เรียน...ท่านเจโตวิมุติ

ความคิดเห็นของท่านมีประโยชน์ และเป็นความรู้สำหรับบุคคลอื่น ๆ อีกมากมาย ...

ให้ข้อคิดข้อธรรมมะต่อไป...เพื่อผู้ไม่รู้จะได้รู้...ผู้รู้แล้ว จะได้รู้อีกแนวทาง...



(เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เคยรู้จักและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับ เจโตวิมุติ )


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจโตวิมุติ เขียน:
:b42: เป็นอันว่าเราไม่เถียงกันดีกว่าไหม [u]


คุณ เจโตวิมุติครับ ใครไปเถียงคุณตอนไหนครับ งง แต่ละคนเขาก็เข้ามาแสดง
ความคิดเห็นของเขาไปตามเรื่องตามราว ผมไม่เห็นจะมีใครเถียงคุณเลยครับ
หรือว่าความคิดเห็นของคุณ เจโตวิมุติ ถือเป็นเด็ดขาด เมื่อคุณเจโตวิมุติโพสต์แล้ว
ห้ามผู้อื่นโพสต์ต่อ ถ้ายังขืนโพสต์ต่อถือว่าเถียง เป็นอย่างนั้นหรือเปล่าครับ งงงง

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 14:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


การกล่าวอนุโมทนานั่นแหละคือการให้พร :b8: :b8: :b8:
สังเกตว่าพระตถาคตพระองค์ท่านไม่ให้พรแล้วครับ แต่ทรงกล่าวอนุโมทนา


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 17 เม.ย. 2011, 14:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 14:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ชัวร์นะ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเอานะ
ลองอ่านตามนี้นะ
http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 28411.html

สรุปว่าส่วนหนึ่งผมก็เข้าใจผิด แล้วก็อีกส่วนก็คือ พระให้พรได้ก็ต่อเมื่อเรายืนโดยถอดรองเท้าออก และ ถอดหมวกออก
หรือหาที่นั่งที่สูงให้พอควรไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกไหมครับ

ปล.เรียนกระทู้ข้างบนอย่าใช้คำว่า "แล้ว"สิ มันดูแปลกๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 15:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเกือบหลงทาง เขียน:
ปล.เรียนกระทู้ข้างบนอย่าใช้คำว่า "แล้ว"สิ มันดูแปลกๆ


หมายถึงกระทู้ไหนครับ ผมก็กระทู้ข้างบนนะ และผมก็ใช้คำว่า แล้ว นะครับ
ถ้าหมายถึงผม ขอคำอธิบายด้วยครับ ว่าแปลกยังไงครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


FLAME เขียน:
การกล่าวอนุโมทนานั่นแหละคือการให้พร :b8: :b8: :b8:
สังเกตว่าพระตถาคตพระองค์ท่านไม่ให้พรแล้วครับ แต่ทรงกล่าวอนุโมทนา

:b8: สาธุ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณFLAME อะ แต่ความจริงใช้คำว่าแล้วก็ได้
แต่พรของพระพุทธองค์ก็จะมาแนวๆ นางวิสาขามหาอุบาสิกา ทูลขอพรพระพุทธเจ้านั่นก็เรียกว่าพรเนอะลืมไป

อีกแง่ก็คือ มีคนบอกมานะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอ่าน คือ โสเภณีเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงทอง
ไฉนเลยพระภิกษุกลับเอาธรรมมาเป็นของเลี้ยงปากเลี้ยงท้องย่อมไม่สมควร ประมาณนี้มั้ง ใครอ่านพุทธพจน์เต็มรบกวนหน่อยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ หากผิด หรือทำให้เข้าใจผิดกระผมต้องขออโหสิกรรมด้วยครับขอบพระคุณครับ

สำหรับคุณเสียงธรรมขอความกรุณาเปลี่ยนสีตัวอักษรได้ไหมครับ มันมองแล้วมันแสบตา หรือว่าเรามันแก่แล้วหนอ
รู้ละเป็นคนชอบสีธรรมดาพอตัวมันใหญ่แล้วมีสีมันเลยดูแปลกๆ

อีก 1 ปล. พระพุทธเจ้าให้พรเมื่อมีคนทูลขอเช่นนางวิสาขา ว่าด้วยเรื่องต่างๆ
ลองอ่านในประวัตินางวิสาขาดู จะมีช่วงหนึ่งนางวิสาขาบอกว่า ข้าพระองค์ขอพรจากพุทธองค์
แล้วนางวิสาขาก้ร่ายยาว เกี่ยวกับ อาคันตุกะภัต ฯลฯ
พระพุทธองค์ท่านบอกว่าเราเลิกให้พรแล้ว(ตอนแรกคิดว่ามันแปลก พอนึกถึงตรงนี้มันก็เลยไม่แปลก)
เธอเห็นประโยชน์อันใดจากพรเหล่านี้ นางวิสาขาก็กล่าวประโยชน์จากเรื่องนางขอ
เวอร์ชั่นเต็มอ่านในประวัติของนางวิสาขาครับ


แก้ไขล่าสุดโดย คนเกือบหลงทาง เมื่อ 17 เม.ย. 2011, 19:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 110 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร