วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 03:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 23:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 14:25
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


:b26: หากว่ามีเวลาว่างจากการงาน ดิฉันก็มักจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า เหตุผลที่เลือกสถานที่แห่งนี้เพราะรู้สึกได้ว่า เป็นที่ๆเหมาะสมสำหรับดิฉัน มันรู้สึกจากข้างใน และดิฉันเองก็มีโอกาสดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับพระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ( เนื่องจากลักษณะของดิฉันแล้วคนในครอบครับมักจะคิดอยู่เสมอว่าดิฉันเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ) ดิฉันเห็นว่าชั่วชีวิตนี้มีโอกาสยากนัก กว่าจะได้เจอครูบาอาจารย์แท้ๆ ดังนั้นเราก็ควรไม่ละโอกาสที่มีเร่งปฏิบัติธรรม หากเกิดติดขัดข้อปฏิบัติธรรม ท่านก็แนะนำแนวทางให้เรา ดังนั้นดิฉันก็จะไปวัดเสมอถ้าเวลาเหมาะสม ดิฉันไม่โกรธทางบ้านเลยเพราะเข้าใจในความรักที่มีต่อเรา (ในชีวิตที่ผ่านมา ดิฉันยังไม่เคยถูกหลอกเลย แต่คนอื่นที่ดูจะไม่น่าถูกหลอกก็โดนเป็นแถว เพราะดิฉันจะเป็นคนทำอะไรไม่เร็วแต่จะค่อยๆดูให้ชัดเจน เหมาะสมกับจังหวะตัวเองมากกว่า และก็เข้าใจในเหตุผลของตัวเองและคนอื่นเสมอ) เนื่องจากคนในครอบครัวจะดูข่าว จึงทำให้ยิ่งเป็นห่วงเรามากขึ้นเลื่อยๆ จนออกปากว่าจะไม่ให้เราไปวัดอีกแล้ว ดิฉันไม่รู้จะอธิบายยังงัย ยิ่งอธิบายไป ดูแล้วว่าทางครอบครัวก็ยังไม่เข้าใจ ใครมีประสบการณ์ หรือแนวทางที่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

Aqua2500

:b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 23:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุ..กับการไปปฏิบัติธรรมด้วยนะครับผม :b8: :b8: :b8:

กระผมไม่มีประสบการณ์ถูกห้าม...ก็คิดหาเหตุไปทั่วเผื่อจะถูก :b13:

แรก ๆ ให้ไป..ก็แสดงว่า..ครอบครัวไม่ขัดที่จะไปปฏิบัติธรรม

แต่พอดูข่าว..ก็นึกเป็นห่วง...แสดงว่ากลัวความไม่ปลอดภัย..ไม่ใช่กลัวการปฏิบัติธรรม

ก็ลองใช้มุก...ชวนไปปฏิบัติเป็นเพื่อนดูซิครับ

ใครที่เป็นคนกลัว...ก็ชวนคนนั้นไปปฏิบัติธรรมด้วยกันซะเลย..ได้บุญดีด้วย :b13:

เขาจะได้เห็นว่ามันไม่น่ากลัว...หากปล่อยให้เขานั่งคิด...สังขารความคิดมันก็หลอกให้กลัวนั้นกลัวนี้ร้ำไป

หากไม่ได้ผล..ก็ต้องหามุกใหม่ๆไปเรื่อย ๆ จนได้ผลนั้นแหละ... :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 23:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


หนักแน่นเข้าไว้ครับ พอเราปฏิบัติธรรมให้ท่านเห็นบ่อยๆ จนท่านเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงด้านอุปนิสัยใจคอที่ชัดเจน เดี๋ยวท่านก็เลิกห้ามไปเอง

พยายามศึกษาพุทธวจนะให้มากๆนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 23:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 14:25
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


ทางบ้านทำธุรกิจส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่สามารถไปวัดพร้อมกันได้ ต้องสลับกัน จึงจะไปไหนมาไหนได้ โอกาสที่จะช่วนคนอื่นในครัวครัวไปด้วยดูจะยากมากเลย (เลยต้องไปคนเดียวหรือไม่ถ้าเพื่อนว่างก็จะไปด้วยกัน)

ส่วนเรื่องความหนักแน่นก็เจริญสติอยู่เนื่องๆ เวลาทางบ้านพูดเรื่องห้ามเราไปวัด เราก็ทันความคิด จึงไม่โต้ตอบใด แต่ก็จับความรู้สึกได้ว่ามีความหนักใจอยู่ในส่วนลึกๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมารมณ์ ใดใดก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ แปรปรวนไปเป็นธรรมดาครับ ขอให้พิจารณอย่างงี้อยู่เนืองๆเช่นกัน หนักใจก็สักแต่ว่าหนักใจ แต่ไม่มีเราที่หนักใจ ไม่มีความหนักใจที่เป็นเรา ไม่มีความหนักใจที่เป็นของเรา


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 17 มิ.ย. 2011, 00:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 00:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มีครอบครัวหนึ่ง....ครอบครัวก็ค้าขาย

ลูกสาว..จบสูง..แต่ใจมาทางธรรมะ...

เริ่มไปปฏิบัติพร้อม ๆ กันกับกระผมนี้แหละ...

พี่สาวก็มา...แต่น้องสาวหนักมาก...

รู้สึกว่าแม่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร....

แต่สังเกตว่าเธอจะหนักแน่นมั่นคงอย่างมาก..จนถึงขนาดบวชชีเลย

ปัจจุบัน..ด้วยบุญบารมีของเธอ...

แม่..พี่ชาย..พี่สะไภ้...เข้าวัดปฏิบัติธรรมกันแล้ว...

แม่...ถึงขั้นมาปฏิบัติธรรมเลยนะ :b8: :b8: :b8:

ส่วนตัวกระผม..ยังมาคิกคักหน้าคอมพ์อยู่เลย.. :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้จะคัดค้านเรื่องการไปปฏิบัติธรรมที่วัดหรอกนะครับ

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่สะดวกจะไปวัด (เอาจริงๆเลยก็คือแถวที่ผมอยู่ไม่มีวัดให้ไป)

ถ้าอุปสรรคของเราคือการไปหาวัดได้ยาก ทำไมเราไม่ลองเอาวัดเข้ามาหาเราละครับ ลองเลือกเวลาที่ใจเราสงบที่สุด เวลาที่มีภาระน้อยที่สุด สมมุติว่าเวลานั้นเป็นเวลาที่เราจะใช้อยู่กับกายใจตัวเอง หาที่สงบๆ นึกถึงข้อธรรม พระรัตนตรัย หรือครูบาอาจารย์ที่เคารพซักครู่ แล้วลองปฏิบัติธรรมดูที่บ้านนั้นละครับ

ยิ่งที่บ้านมีสิ่งรบกวนมาก แต่เราสามารถประคองกายใจปฏิบัติธรรมได้ ผลที่ได้ย่อมจะไม่ด้อยกว่าปฏิบัติที่วัดแน่นอนครับ

เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็อยู่ที่ใจทั้งหมดครับ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 04:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


aqua2500 เขียน:
:b26: หากว่ามีเวลาว่างจากการงาน ดิฉันก็มักจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า

มันจำเป็นแต่ไหนครับ ถึงต้องไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า ผมว่าคุณเข้าใจผิดกับคำว่า
ปฏิบัติธรรมอยู่นะครับ คำว่าปฏิบัติธรรมทำได้ทุกที ทุกเวลาครับ
หลักการปฏิบัติธรรมก็แค่การเจริญสติทำสมาธิ แม้ในเวลาทำงานก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ครับ
aqua2500 เขียน:
: เหตุผลที่เลือกสถานที่แห่งนี้เพราะรู้สึกได้ว่า เป็นที่ๆเหมาะสมสำหรับดิฉัน มันรู้สึกจากข้างใน

นี่ไงครับมันเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณต้องไปปฏิบัตธรรมที่วัดป่า ทุกอย่างมันเกิดจากกิเลสครับ
aqua2500 เขียน:
: และดิฉันเองก็มีโอกาสดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับพระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ( เนื่องจากลักษณะของดิฉันแล้วคนในครอบครับมักจะคิดอยู่เสมอว่าดิฉันเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ) :

แล้วรู้ได้ไงครับว่า ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่ามองคนที่การแสดงออก
คุณเข้าใจกับคำว่า"หลอกลวง"มั้ยครับ อาการหลอกลวงคือการแสดงในสิ่ง
ที่ตรงข้ามกับความจริงครับ
คุณไม่ได้เป็นคนมองโลกในแง่ดีหรอกครับ เพราะคนมองโลกในแง่ดี
จะต้องเป็นคนที่รู้จักการเปรียบเทียบไตร่ตรอง แต่การกระทำของคุณเป็นการ
ทำตามใจตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่นที่คอยเป็นห่วง
aqua2500 เขียน:
ดิฉันเห็นว่าชั่วชีวิตนี้มีโอกาสยากนัก กว่าจะได้เจอครูบาอาจารย์แท้ๆ ดังนั้นเราก็ควรไม่ละโอกาสที่มีเร่งปฏิบัติธรรม

การปฏิบัติธรรมไม่ได้อยู่ที่ครูบาอาจารย์ มันอยู่ที่ใจเราตัวเราเอง
คัวครูบาอาจารย์ท่านก็ค้องปฏิบัติในส่วนของท่าน
คุณต้องเข้าใจนะครับว่า เหตุใดเขาถึงเรียกว่า วัดป่าพระป่าที่เรียกแบบนี้เพราะ
พระป่าจริงๆเขาไม่ยุ่งกับทางโลกพระท่านแยกตัวออกไปเพื่อ เร่งการปฏิบัติของท่าน
เพื่อมรรคผล ไม่ใช่มาเรียกตัวเองว่าพระป่า แต่ยังเปิดประดูวัดให้ชาวบ้านเดินเข้าเดินออก
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันไม่เหมาะที่พระป่าพึงกระทำครับ
aqua2500 เขียน:
ดิฉันไม่โกรธทางบ้านเลยเพราะเข้าใจในความรักที่มีต่อเรา (ในชีวิตที่ผ่านมา ดิฉันยังไม่เคยถูกหลอกเลย แต่คนอื่นที่ดูจะไม่น่าถูกหลอกก็โดนเป็นแถว เพราะดิฉันจะเป็นคนทำอะไรไม่เร็วแต่จะค่อยๆดูให้ชัดเจน เหมาะสมกับจังหวะตัวเองมากกว่า และก็เข้าใจในเหตุผลของตัวเองและคนอื่นเสมอ)

ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ คุณไม่รู้จักแยกแยะครับ ตัวคุณไม่มีสิทธิไปโกรธทางบ้าน
คนที่จะมีสิทธิโกรธก็คือญาติพี่น้องของคุณครับ การกระทำของคุณไม่รู้จักการวางตัวครับ
ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะใด ไม่รู้จักตอบแทนความรักความเป็นห่วงของคนอื่น

เรื่องถูกหลอกหรือไม่มันก็แค่ คนที่ถูกหลอกเขารู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกแล้ว
แต่คนที่บอกว่าไม่เคยถูกหลอกนั้น ยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกครับ เขายังหลอกเราได้อยู่
เราเลยไม่รู้ว่ากำลังถูกหลอก
aqua2500 เขียน:
เนื่องจากคนในครอบครัวจะดูข่าว จึงทำให้ยิ่งเป็นห่วงเรามากขึ้นเลื่อยๆ จนออกปากว่าจะไม่ให้เราไปวัดอีกแล้ว ดิฉันไม่รู้จะอธิบายยังงัย ยิ่งอธิบายไป ดูแล้วว่าทางครอบครัวก็ยังไม่เข้าใจ ใครมีประสบการณ์ หรือแนวทางที่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ

ผมถึงได้บอกไงครับว่า คุณไม่รู้จักสถานะของตัวเองครับ
ปัญหาของคุณแก้ได้ครับ เรื่องที่คุณยังไงๆต้องไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าให้ได้
และไม่ต้องการให้ทางบ้านเป็นห่วง คุณก็บวชชีไปเลยซิครับ ไปอยู่วัดให้เป็นกิจลักษณะ
ไม่ต้องพกเงินพกทอง พยายามทำให้คนอื่นรู้ว่า ตัวเองไม่มีเงินทองละทิ้งทุกอย่าง
ตั้งใจออกบวชเพื่อปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ผมว่าทำแบบนี้จะดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย
มันสำคัญอยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุคุณโฮฮับค่ะ


กาย วาจา ใจ อยู่ที่ไหนให้ปฏิบัติที่นั่นล่ะค่ะ งานก็ทำไป ใจก็เบา

แนะนำกระทู้นี้นะคะ หลวงปู่ชาท่านเมตตาสอนไว้ viewtopic.php?f=7&t=38320

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 13:02
โพสต์: 129

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณAqua 2500 :b8:
ปฏิบัติธรรมที่บ้านได้ค่ะ ดิฉันก็ปฏิบัติ โดยในระหว่างวันที่เราทำงาน หรือทำกิจวัตรประจำวันก็พยายามรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันขณะ และสวดมนต์นั่งสมาธิที่ห้องพระ แล้วก็ฟังธรรมอ่านหนังสือธรรมมะตามโอกาส ใส่บาตรทำบุญ รักษาศีลห้า
พอถึงเวลาที่เกิดความทุกข์ เศร้าใจ เสียใจ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ไม่ได้ดั่งใจ เพราะเหตุปัจจัยภายนอก ก็รู้ทุกข์ และนำธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาทบทวน ค่อยๆอดทนจนผ่านปัญหาแต่ละอย่างไปได้
ทางโลกก็ไม่เสีย ทางธรรมก็ก้าวหน้า ลองปฏิบัติดูนะค่ะ :b12:

.....................................................
ชีวิตที่เหลือ ขออยู่เพื่อธรรมะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท

การที่เราจะทำอะไรสักอย่างเราจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย
และวางแผนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่นเดียวกับการที่เรา
เข้ามาปฏิบัติธรรม เราจะต้องทราบเป้าหมายในการปฏิบัติธรรมของเรา
เสียก่อนว่าคืออะไร ถ้าเรามีความชัดเจนก็จะทำให้เราไม่หลงทางค่ะ...

เราเคยฟังท่านเจ้าคุณพระพรมคุณาภรณ์ ท่านเทศน์ไว้เกี่ยวกับ
เรื่องสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สัปปายะนั้น มีความจำเป็นสำหรับคนบางคน
แต่อาจจะไม่จำเป็นสำหรับอีกคนหนึ่งก็ได้ ซึ่งคนที่มีอินทรีย์เข้มแข็ง
แล้วนั้นสถานที่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติของเขา
แต่คนที่ยังมีอินทรีย์อ่อนสถานที่สัปปายะนั้นมีความจำเป็นต่อเขา
เพราะเกื้อกูลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมทำให้จิตตั้งมั่น
เป็นสมาธิสามารถระงับความฟุ้งซ่านมีจิตใจสงบเย็นได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แต่เมื่ออินทรีย์เริ่มเข้มแข็งขึ้นก็ต้องกลับเข้าสู่ภาวะปกติในชีวิตประจำวัน
เพราะฆราวาสอย่างเราจักต้องอยู่กับเรื่องปากท้องและการทำมาหากินซะ
เป็นส่วนมากดังนั้นปัญหามากมายย่อมต้องตามมาและการปฏิบัติ
ธรรมของเราก็เพื่อแก้ปัญหาและความทุกข์ยากจากการดำรงชีวิต
อยู่ในแต่ละวันนี่เอง การปฏิบัติธรรมไม่ได้พ้นไปจาก ตา หู จมูก
ลิ้น กาย ใจ และก็ไม่พ้นไปจากร่างกายยาววาหนาศอกนี้เลย

ดังนั้นถ้าเราเข้าใจเป้าหมายของการปฏิบัติธรรมเราก็จะไม่หลงทาง

ขอเจริญในธรรมค่ะ

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2011, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


aqua2500 เขียน:
:b26: หากว่ามีเวลาว่างจากการงาน ดิฉันก็มักจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า เหตุผลที่เลือกสถานที่แห่งนี้เพราะรู้สึกได้ว่า เป็นที่ๆเหมาะสมสำหรับดิฉัน มันรู้สึกจากข้างใน และดิฉันเองก็มีโอกาสดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับพระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ( เนื่องจากลักษณะของดิฉันแล้วคนในครอบครับมักจะคิดอยู่เสมอว่าดิฉันเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ) ดิฉันเห็นว่าชั่วชีวิตนี้มีโอกาสยากนัก กว่าจะได้เจอครูบาอาจารย์แท้ๆ ดังนั้นเราก็ควรไม่ละโอกาสที่มีเร่งปฏิบัติธรรม หากเกิดติดขัดข้อปฏิบัติธรรม ท่านก็แนะนำแนวทางให้เรา ดังนั้นดิฉันก็จะไปวัดเสมอถ้าเวลาเหมาะสม ดิฉันไม่โกรธทางบ้านเลยเพราะเข้าใจในความรักที่มีต่อเรา (ในชีวิตที่ผ่านมา ดิฉันยังไม่เคยถูกหลอกเลย แต่คนอื่นที่ดูจะไม่น่าถูกหลอกก็โดนเป็นแถว เพราะดิฉันจะเป็นคนทำอะไรไม่เร็วแต่จะค่อยๆดูให้ชัดเจน เหมาะสมกับจังหวะตัวเองมากกว่า และก็เข้าใจในเหตุผลของตัวเองและคนอื่นเสมอ) เนื่องจากคนในครอบครัวจะดูข่าว จึงทำให้ยิ่งเป็นห่วงเรามากขึ้นเลื่อยๆ จนออกปากว่าจะไม่ให้เราไปวัดอีกแล้ว ดิฉันไม่รู้จะอธิบายยังงัย ยิ่งอธิบายไป ดูแล้วว่าทางครอบครัวก็ยังไม่เข้าใจ ใครมีประสบการณ์ หรือแนวทางที่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

Aqua2500

:b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26: :b44: :b26:


เอาผลปฏิบัติของตนเป็นพยาน
อาจารย์ดีไม่ดี จริงไม่จริง เรื่องของท่าน

เรื่องของเราคือเราปฏิบัติ
ปฏิบัติแล้วปฏิเวทไหม บังเกิดผลในทางที่เจริญขึ้นหรือไม่

หมั่นมีวิมังสาคือความตรวจตราธรรมปฏิบัติของตนให้ตรง
เวลาเราสวดมนต์ว่า สุปฏิปันโน ภวควโต
เราไม่ได้สวดว่า อาจารย์ ก. ภควโต หรืออาจารย์ ข. ภควโต.
เพราะฉะนั้นไม่ควรยึดมั่นอาจารย์เดียว ควรหมั่นมีหูตากว้างขวาง เพื่อความกว้างขวางในธรรม

อาจารย์เป็นกัลยาณมิตร อยู่ในส่วนปริยัติ ยังมีปฏิบัติ ปฏิเวท
อาจารย์ไม่ใช่ทั้งหมดของการปฏิบัติ ที่เราต้องเป็นผู้พิสูจน์ด้วยตนเอง เป็นปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ คือหากเรามีปัญญาสมควรแก่ธรรมนั้นๆ เราย่อมรู้แจ้งได้ในธรรมนั้นๆด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งความเชื่อใครๆเขาบอก

ผู้เข้าใจการปฏิบัติ ย่อมมีความเห็นตรงกันประการหนึ่งว่า การปฏิบัตินั้น ปฏิบัติได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่ ดังที่พระพุทธเจ้าสอนว่า สติเป็นของที่ควรเจริญในทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ แต่ว่าพระพุทธเจ้าก็นิมยมให้พระเข้าป่า อยู่กับป่า เพราะความสัปปยะ อันส่งเสริมความเจริญในธรรม การเลือกสถานที่ก็นับว่ามีความสำคัญ

เลือกได้ค่อยเลือก
ถ้าเลือกไม่ได้ ก็ให้อยู่กับสิ่งมี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2011, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


นี้คือเหตุผลที่พระพุทธเจ้าไม่อยากให้ผู้หญิงบวชในพระศาสนา onion onion

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2011, 00:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 14:25
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านมากนะคะที่สละเวลามาชี้แนะ และเตือนสติ
:b24: ยังงัยก็แล้วแต่ ดิฉันก็หวังว่ากระทู้ในหัวข้อนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมเดินทางในทางธรรมนะคะ
:b39: ดิฉันเองก่อนที่จะเจอวัดนี้ หรือพระสงฆ์รูปนี้ ตัวดิฉันเองก็ศึกษาธรรมอยู่เนืองๆ ดิฉันถือคติที่ว่า ทำตัวให้เป็นวัด ทำใจให้เป็นพระ และก็หมั่นตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอๆ ดังนั้นจึงปฏิบัติถูกบ้าง ผิดบ้างตามประสาของคนที่มีปัญญาน้อยในทางธรรม แต่ทุกครั้งก็จะมาดูตัวเองเสมอ บ้างครั้งก็เจอคำตอบ แต่บางครั้งก็ยังไม่เข้าใจในสภาวะบางอย่าง
:b44: แต่เนื่องด้วยมีเหตุ จึงทำให้ดิฉันได้เดินทางไปวัดนี้ และได้เจอกับพระสงฆ์รูปนี้ ปัญญาที่ยังไม่มีคำตอบ ก็ได้พบคำตอบ( แต่ดิฉันเองก็ถือคติเดิมคือต้องดูภายในของเราว่ามันเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้เรากระจ่างขนาดไหน และสิ่งที่ท่านบอก มันจึงเป็นคำตอบที่ถูกต้องสำหรับดิฉัน)

แต่จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็อยากบอกเพื่อนร่วมธรรมว่า ดิฉันมิได้ยึดท่านเป็นหลักอย่างเดียว ดิฉันยึดคำสอนของพระพุทธองค์มากกว่า เพียงแค่ดิฉันคิดว่า หากเรายึดทางธรรมแล้ว และแน่วแน่ในหนทางนี้ จะดีมิใช่น้อยหากพบคนที่คอยช่วยแนะทาง

ดิฉันเองก็มีความตั้งใจอยู่เหมือนกันว่า หากหมดหน้านี้การเป็นลูกของพ่อและแม่แล้ว สักวันดิฉันก็จะบวชเป็นชี ซึ่งทุกคนทางบ้านก็รู้ดี แต่อนาคตก็คืออนาคต ยังงัยก็แล้วแต่ดิฉันก็ถือว่าปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ขอเพื่อนร่วมทางธรรมทุกท่านช่วยชีแนะด้วยหากดิฉันเกิดปัญหาที่ยังไม่พบคำตอบ
ขอขอบคุณทุกท่านด้วยความจริงใจ :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2011, 00:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เจ็บกาย กับเจ็บใจ สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ทนได้ยากกว่ากัน

บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องไปวัดเพื่อศึกษา จิต นะ

เจ็บกาย แม้อาการเจ็บนั้นจากไปแล้ืื่ว แต่ใจก็ยังรื้อฟื้นสิ่งที่ผ่านไปแล้วขึ้นมาให้เจ็บใจได้เรื่อย ๆ

สังเกต มันจะมีอาการทางขันธ์หลาย ๆ กรณีที่
การประชุมให้เกิดสภาวะที่แสดงทางกายนั้นอย่างหนึ่ง การประชุมให้เกิดสภาวะที่แสดงทางใจก็อีกอย่างหนึ่ง
เช่น อึดอัดกาย แต่ใจสบาย
อึดอัดใจ แต่กายสบาย

การปฏิบัติ จะอยู่ที่ไหนก็ได้ สถานภาพไหนก็ได้
แค่เป็นผู้ที่เฝ้าเพียรพิจารณาให้เห็น กาย-ใจ อยู่เนื่อง ๆ

:b1: :b1: :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 108 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร