ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=38786 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | deecup [ 27 มิ.ย. 2011, 20:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
ถ้าเป็นพระ อยู่แบบสบายแบบ ภพเทวดา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่พักอาศัยพร้อม แล้วก็ปฏิบัติกิจ วิปัสสนา สติปัฐฐาน 4 แล้วไม่ออกธุดงค์ แบบนี้จะบรรลุธรรมได้ไหม แล้วจำเป็นไหมต้องออกธุดงค์ ไปทดสอบอยู่แบบคนเดียวในป่า เหมือนพระป่าหลายรูป |
เจ้าของ: | chanachai2010 [ 27 มิ.ย. 2011, 21:16 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดง ไหม | ||
ดูก่อนท่านทั้งหลาย............................. ต้นไม้ที่ถูกบ่มเพาะด้วยอาหาร น้ำ อากาศ ยารักษา และสิ่งแวดล้อมต้นไม้ยังพึงออกดอก ออกผลได้รึไม่........ เมื่อได้ปุถุชนพึงพร้อมด้วยธรรมทั้งหลายแล้วพึงไม่มีกิเลส ปุถุชนก็พึงเป็นดั่งต้นไม้ที่ออกดอก และ ผล ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมเทอญฯ............................
|
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 27 มิ.ย. 2011, 22:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดง ไหม |
หากเรามีจุดประสงค์เพื่อลด ละ เลิกกิเลส... กิจอะไรที่ทำแล้ว...เพื่อให้ถึงความประสงค์..ก็ควรทำอย่างยิ่ง เมื่อต้องการบรรลุธรรม..อะไรบรรลุ...กายหรือใจ?...ใจ เมื่อใจเป็นผู้บรรลุ...ใจก็ควรเป็นผู้ทำงาน...สติปัฎฐาน 4 คืองานของใจ.. ใจจะทำงานได้ดี..เมื่อมีสัปปาย ที่จะสัปปายได้ก็ขึ้นอยู่กับใจของเรา...ซึ่งอาจจะเป็นที่ไหน ๆ ก็ได้ หากการธุดงค์ไปในป่าเขาลำเนาไพร...ในที่เงียบสงัด..เกิดสัปปายแก่เราได้...ก็ควรทำ แต่ก่อนจะไปก็ควรปรึกษาครูบาอาจารย์ท่านก่อนว่าเรา...มีอินทรีย์เหมาะที่จะทำอย่างนี้แล้วหรือยัง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มิ.ย. 2011, 05:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดง ไหม |
deecup เขียน: ถ้าเป็นพระ อยู่แบบสบายแบบ ภพเทวดา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่พักอาศัยพร้อม แล้วก็ปฏิบัติกิจ วิปัสสนา สติปัฐฐาน 4 แล้วไม่ออกธุดงค์ แบบนี้จะบรรลุธรรมได้ไหม แล้วจำเป็นไหมต้องออกธุดงค์ ไปทดสอบอยู่แบบคนเดียวในป่า เหมือนพระป่าหลายรูป ถามว่า เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ไหม ? ข้อนี้พระพุทธเจ้ามิได้บังคับ ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ปฎิบัติกิจ วิปัสสนา สติปัฐฐาน4 แล้วไม่ออกธุดง แบบนี้จะบรรลุธรรมได้ไหม ดูพุทธพจน์ที่ตรัสถึงสติปัฏฐาน "ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางเอก (คือทางเดียว) เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อข้ามพ้นความโศกและปริเทวะ เพื่อควมอัสดงแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบุรรลุโลกุตรมรรค เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน นี่คือ สติปัฏฐาน 4" หากปฏิบัติสติปัฏฐานถูกต้องแล้วจะอยู่บ้านอยู่วัดอยู่ป่าธุดงค์ไม่ธุดงค์ก็บรรลุธรรมตามพุทธพจน์นั้นได้ แต่หากปฏิบัติไม่ถูกต้อง จะอยู่ถ้ำอยู่เขาลำเนาไพร ก็ไม่บรรลุธรรมเช่นนั้นได้ ขยายความอีกนิดหนึ่ง การเจริญสติปัฏฐานนี้ เป็นวิธีปฏิบัติธรรมที่นิยมกันมาก และยกย่องนับถือกันอย่างสูง ถือว่ามีพร้อมทั้งสมถะและวิปัสสนาในตัว ผู้ปฏิบัติอาจเจริญสมถะจนได้ฌานก่อนแล้ว จึงเจริญวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐานไปจนถึงที่สุดก็ได้ หรือ จะอาศัยสมาธิเพียงขั้นต้นๆ เท่าที่จำเป็นมาประกอบ เจริญวิปัสสนาเป็นตัวนำตามแนวสติปัฏฐานนี้ไปจนถึงที่สุดก็ได้ วิปัสสนาเป็นหลักปฏิบัติสำคัญในพระพุทธศาสนาที่ได้ยินได้ฟังกันมาก พร้อมกับที่มีความเข้าใจไขว้เขวอยู่มากเช่นเดียวกัน |
เจ้าของ: | สัจจะธรรมของชีวิต [ 28 มิ.ย. 2011, 09:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
เวลาเรียนหนังสือทำไมต้องไปเรียนที่ร.รด้วย เรียนอยู่ที่บ้านไม่ได้หรอ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มิ.ย. 2011, 12:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
มีพุทธวจนะที่ตรัสถึงภิกษุอยุ่ป่าไว้จะคัดมาให้ดู "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อยู่ป่า มี 5 ประเภท ดังนี้ 5 ประเภทคืออะไรบ้าง ได้แก่ ผู้ที่อยู่ป่าเพราะเป็นผู้โง่เขลา เพราะงมงาย 1 ผู้มีความปราถนาลามก ถูกความปราถนาครอบงำ จึงอยู่ป่า 1 ผู้อยู่ป่าเพราะความเสียจริต เพราะจิตฟุ้งซ่าน 1 ผู้อยู่ป่าเพราะเห็นว่าการอยู่ป่านี้พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธสาวกทั้งหลายสรรเสริญ 1 ผู้อยู่ป่า เพราะอาศัยความเป็นผู้มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี 1 ... บรรดาผู้อยู่ป่า 5 ประเภทเหล่านี้ ผุ้ที่อยู่ป่าเพราะอาศัยความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี นี้เป็นอย่างเลิศ ประเสริฐ สูงสุด ดีเยี่ยม ในบรรดาผู้อยู่ป่าทั้ง 5 ประเภทเหล่านี้" องฺ.ปญฺจก.22/181-190/245-7 (ตรัสถึงภิกษุผู้ถือครองผ้าบังสุกุล ผู้ถืออยู่รุกขมูล และผู้ถือธุดงค์อืนๆอีกหลายข้อในทำนองเดียวกัน) |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มิ.ย. 2011, 12:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
“ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าอยู่แดนป่าแห่งใดแห่งหนึ่ง เมื่อเธอเข้าอยู่อาศัยแดนป่านั้น สติที่ยังไม่กำกับอยู่ ก็ไม่กำกับอยู่ จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น ก็ไม่ตั้งมั่น อาสวะทั้งหลายที่ยังไม่หมดสิ้น ก็ไม่ถึงความหมดสิ้นไป ภาวะจิตปลอดโปร่งจากเครื่องผูกมัดอย่างสูงสุดที่ยังไม่ได้บรรลุ เธอก็หาบรรลุไม่ อีกทั้งสิ่งเกื้อหนุนชีวิต ที่บรรพชิตพึงเก็บรวบรวมได้ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเครื่องหยูกยาทั้งหลาย ก็มีมาโดยยาก ภิกษุนั้น พิจารณาเห็นดังนี้...จะเป็นกลางคืนก็ตาม กลางวันก็ตาม พึงหลีกไปเสียจากแดนป่านั้น ไม่พึงอยู่ “...เมื่ออยู่อาศัยแดนป่านั้น สติที่ยังไม่กำกับอยู่ ก็ไม่กำกับอยู่ จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น ก็ไม่ตั้งมั่น อาสวะที่ยังไม่หมดสิ้น ก็ไม่ถึงความหมดสิ้น ภาวะจิตปลอดโปร่งจากเครื่องผูกมัดอย่างสูงสุดที่ยังไม่ได้บรรลุ เธอก็หาบรรลุไม่ แต่สิ่งเกื้อหนุนชีวิต...มีมาโดยไม่ยาก ภิกษุนั้น พิจารณาเห็นดังนี้...ตรองตระหนักแล้ว พึงหลีกไปเสียจากแดนปานั้น ไม่พึงอยู่ “...เมื่ออยู่อาศัยแดนป่านั้น สติที่ยังไม่กำกับอยู่ ก็กำกับอยู่ จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น ก็ตั้งมั่น อาสวะทั้งหลายที่ยังไม่หมดสิ้น ก็ถึงความหมดสิ้นไป ภาวะจิตปลอดโปร่งจากเครื่องผูกมัดอย่างสูงสุด ที่ยังไม่บรรลุ เธอก็ค่อยบรรลุ แต่สิ่งเกื้อหนุนชีวิต...มีมาโดยยาก ภิกษุนั้น พิจารณาเห็นดังนี้ว่า...เราออกจากเรือนบวชเป็นอนาคาริก มิใช่เพราะเห็นแก่จีวร มิใช่เพราะเห็นแก่บิณฑบาต มิใช่เพราะเห็นแก่เสนาสนะ มิใช่เพราะเห็นแก่เครื่องหยูกยา ก็แต่ว่า เมื่อเราอยู่อาศัยแดนป่านี้ สติที่ยังไม่กำกับอยู่ ก็กำกับอยู่ จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น ก็ตั้งมั่น...ภิกษุนั้น ตรองตระหนักแล้ว พึงอยู่ในป่านั้น ไม่พึงหลีกไป “...เมื่ออยู่อาศัยแดนป่านั้น สติที่ยังไม่กำกับอยู่ ก็กำกับอยู่ จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น ก็ตั้งมั่น อาสวะทั้งหลายที่ยังไม่หมดสิ้น ก็ถึงความหมดสิ้นไป ภาวะจิตปลอดโปร่งจากเครื่องผูกมัดอย่างสูงสุด ที่ยังไม่บรรลุ เธอก็ค่อยบรรลุ อีกทั้งสิ่งเกื้อหนุนชีวิต...ก็มีมาโดยไม่ยาก ภิกษุนั้น พิจารณาเห็นดังนี้…พึงอยู่ในป่านั้น แม้จนตลอดชีวิต ไม่พึงหลีกไป”* * วนปัตถสูตร 12/234-242/212-219 (กล่าวถึง คาม นิคม นคร ชนบท และบุคคลด้วย ความทำนองเดียวกัน โดยเฉพาะตอนว่าด้วยบุคคล ความคล้ายกัน องฺ.นวก.23/210/379 ด้วย คำแปลในที่นี้ลัดข้ามไปบ้าง เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ) |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มิ.ย. 2011, 13:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
ใช้เป็นข้อเทียบเคียงการปฏิบัติธรรมได้ พระพุทธเจ้า : อานนท์ ศีลวัตร การบำเพ็ญพรต พรหมจรรย์ การบำเรอสิ่งบูชา มีผลทั้งนั้นหรอ พระอานนท์: พระองค์ผู้เจริญ ในข้อนี้ จะตอบลงไปข้างเดียวไม่ได้ พระพุทธเจ้า : ถ้าอย่างนั้น จงจำแนก พระอานนท์: เมื่อเสพศีลวัตร การบำเพ็ญพรต พรหมจรรย์ การบำเรอสิ่งบูชา อย่างใด อกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมเจริญยิ่งขึ้น กุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมเสื่อมหาย ศีลวัตร การบำเพ็ญพรต พรหมจรรย์ การบวงสรวงบำเรออย่างนี้ ไม่มีผล เมื่อเสพศีลวัตร การบำเพ็ญพรต พรหมจรรย์ การบำเรอสิ่งบูชา อย่างใด อกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมเสื่อมหาย กุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมเจริญขึ้น ศีลวัตร การบำเพ็ญพรต พรหมจรรย์ การบำเรอสิ่งบูชาอย่างนี้ มีผล |
เจ้าของ: | Rosarin [ 28 มิ.ย. 2011, 16:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
![]() สัจจะธรรมของชีวิต เขียน: เวลาเรียนหนังสือทำไมต้องไปเรียนที่ร.รด้วย เรียนอยู่ที่บ้านไม่ได้หรอ ![]() ![]() ![]() ![]() ...ทำไมขี้สงสัยจัง...คำถามไม่ค่อยจะเกี่ยวกับกระทู้นี้เลยนะจ๊ะ...จะลองสันนิษฐานดูว่าทำไม... ...น่าจะเกี่ยวกับ1)ที่บ้านไม่มีคุณครูและถ้าจะจ้างครูมาสอนที่บ้านคงเปลืองเงินมากแน่นอนเลย... ...2)คุณแม่เราคงไม่มีเวลามาดูแลเด็กหลายๆคนพร้อมกัน...แค่ลูกตัวเองก็ปวดขมองแล้วจ้า... ...3)ที่บ้านคงจะมีส้วมไม่เพียงพอกับนักเรียนและคงต้องเสียเงินจ้างคนมาทำสะอาดคงไม่ไหวมั๊ง... ...4)สถานที่ที่บ้านไม่ได้สร้างไว้ทำกิจกรรมต่างๆ อาจกว้างไม่พอ เวลามีเด็กร้องไห้คงหนวกหูแย่... ...5)ถ้ามีครูหลายคน นักเรียนหลายคน แม่ค้าขายของอีก ที่บ้านก็คงไม่เหมาะจะเป็นโรงเรียนมั๊งคะ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | สัจจะธรรมของชีวิต [ 28 มิ.ย. 2011, 16:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
ก็ถามย้อนเจ้าของกระทู้ไง มันก็ทำนองเดียวกับที่ถาม เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 28 มิ.ย. 2011, 17:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
สัจจะธรรมของชีวิต เขียน: ก็ถามย้อนเจ้าของกระทู้ไง มันก็ทำนองเดียวกับที่ถาม เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม ![]() ![]() ![]() ...ถ้าอยู่วัด...วัดก็คือบ้านของพระ...ถ้าญาติโยมมารบกวนจนวัดหาความสงบไมได้...ก็น่าไป... ...พระออกธุดงค์เพื่อทำความเพียรฆ่ากิเลส...ไปหาที่กันดารปราศจากผู้คนรบกวน...ก็น่าไป... ...แต่ถ้าไปเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ...ไม่ได้รีบเร่งทำความเพียรเพื่อฆ่ากิเลส...ก็ไม่น่าจะไป... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 29 มิ.ย. 2011, 12:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ ไหม |
ส่วนใหญ่ เกจิอาจารย์ หลายท่านก้เลือกออกไปธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ และหาที่เหมาะสมกับการปฏิบัติจริงๆ จากธรรมชาติ การอย่กับธรรมชาติทำให้ จิตใจเราเข้มแข็งขึ้น และเกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ถ้าสภาพธรรมชาติ เหมาะกับธาตุขันธ์ตัวท่านเอง แต่ก้มีเกจิอาจารย์บางท่านไม่ไปฝึกด้วยการธุดงค์ อย่างเช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านจะไม่ไปไหน ไกล จะอย่ประจำทำกิจของท่านอย่แต่ในวัด ไม่ไปธุดงค์ที่ไหนไกลๆ ท่านก้มีภูมิธรรมสูง และมีคุณวิเศษเช่นกัน ![]() |
เจ้าของ: | tongka [ 02 ก.ค. 2011, 16:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เป็นพระจำเป็นต้องธุดง ไหม |
ถามว่า เป็นพระจำเป็นต้องธุดงค์ไหม ? ข้อนี้พระพุทธเจ้ามิได้บังคับ ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ[/quote] ครั้งหนึ่งเคยถูกอาจารย์ถามว่า ภิกษุุณีมีการออกจาริกไหม เราตอบไม่ได้ เลยไปอ่านพระไตรปิำกดู ปรากฎว่า มีเรื่องการจาริกของภิกษุณี และบัญญัติไว้ในสิกขาบทของภิกษุณีว่า ออกพรรษาแล้วต้องออกจาริกไปอย่างน้อยสามโยชน์ ถ้าภิกษุณีใดไม่ออกจาริกต้องอาบัติทุกกฎ แต่ไม่ปรากฎสิกขาบทบัญญัติทางฝ่ายพระภิกษุ เพราะคงไม่มีความขึ้เกียจเสนียดชนิดนี้ขึนในฝ่ายพระภิกษุ และสิกขาบทนี้ก็เป็นบัญญัติที่ให้มีผลทั้งฝ่ายพระภิกษุและภิกษุณีเสียด้วย นี้ถ้าพูดถึงการจาริก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องธุดงค์ ทำความเข้าใจก่อนว่า การจาริกไม่ใช่ธุดงค์ การธุดงค์ไม่ใช่การจาริก คนละอย่างกัน แต่ธุดงค์วัตรนั้นเองสามารถประพฤติได้ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในเวลาออกจาริก เราจึงมักเข้าใจว่าการจาริกนั่นเองคือการธุดงค์ การประพฤติธุดงค์วัตรทำได้ไม่เกี่ยวกับบ้านวัด ป่า เมือง เลือตามความเหมาะสมที่จะสามารถปฏิบัติได้ ซึ่งต้องอาศัยเหตุปัจจัยรอบข้างด้วย โดยเฉพาะภายในใจผู้นั้นเอง แต่การจาริก อยู่ที่เดียวไม่เรียกว่าการจาริกแน่นอน ที่นี้ถ้าเข้าใจเรื่องธุดงค์แล้ว ท่านจะรู้เองว่าธุดงค์จริงๆ คือสิ่งที่มีคุณค่าต่อศาสนาขนาดไหน เรากล้าประกาศว่าถ้าไม่มีธุดงค์ก็คือไม่มีการบรรลุธรรม ธุดงค์คือองค์คุณเครื่องขัดเกลา มีคุณค่าเป็นสัลเลขธรรม เพียงแต่มาตั้งต้นที่ปัจจัยสี่กับความเพียรเท่านั้นเอง ส่วนการจาริก เราก็อย่าลืมนะว่าพระพุทธเจ้าเสด็จออกจาริกจนกระทั่งปรินิพพาน นี้เป็นคำทิ้งไว้ให้ท่านค้นคว้า ปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ดู |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |