ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=38908
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  Soduku [ 06 ก.ค. 2011, 08:37 ]
หัวข้อกระทู้:  อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง

สงสัยครับว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ทำไมคำสอนจึงดูเหมือนว่าบางครั้งก็ตรงกัน บางครั้งก็ต่างกัน เช่นพุทธเน้นปัญญา คริสต์มุสลิมเน้นศรัทธา แต่ทุกศาสนามีฐานแห่งเรื่องศีลธรรมเรื่องการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดปด ผิดกามเม เสพติดเหล้ายา เรามีแนวทางใดที่จะให้ทุกศาสนากลมกลืนกันเป็นหนึ่งนั่นก็คือเข้าถึงกฏแห่งธรรมชาติ เป็นสุขและพ้นทุกข์ ได้น่าจะดีนะครับ ความสงบสุขและสันติจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ อยากทราบว่าท่านมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางอะไรที่จะทำได้บ้าง :b44: :b53: :b8:

เจ้าของ:  tonnk [ 06 ก.ค. 2011, 15:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

เตือนตนด้วยตน ดูกายวาจาใจของตนเองให้สะอาดอยู่เสมอ ทุกอย่างก็จะตรงกันหมด

เจ้าของ:  Hanako [ 06 ก.ค. 2011, 20:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

คิดว่า อย่าไปพยายามทำอะไรดีที่สุด เมื่อเราพยายามโน้มน้าวให้คนอื่นคิดเหมือนเรา มันก็เริ่มขัดแย้งแล้วอ่ะ สำรวจว่าเราเองเป็นอย่างไร คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร คอยระวังใจตัวเราเองดีกว่า คิดอย่างนี้นะ :b16: :b46:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ก.ค. 2011, 00:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

ต่างกันเพราะ...ระดับความเข้าใจต่อความจริง..ไม่เท่ากัน

ยามที่เข้าใจในความจริงเท่ากันแล้ว....ก็จะเหมือนกันไปเอง
:b8: :b8:

อย่าลืมนะ..พระเยซู..ยังต้องกลับมาอีกครั้ง...ก็เพื่อสิ่งนี้

ว่าแต่ว่า...เรา ๆ ท่าน ๆ ..ที่ว่าตนเป็นพุทธศาสนิกชน..จะต้องเกิดตาย เกิดตาย..กันอีกกี่ครั้ง...ถึงจะเข้าถึงความจริงนี้ได้.. s005

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 07 ก.ค. 2011, 00:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

ผมว่าที่ศาสนาในโลกต่างกันเพราะสถานที่กำเนิด กาลเวลา ภาษา ประเพณีดั้งเดิมและความเข้าถึงความจริง(ธรรม)ของเหล่าศาสดาต่างกัน แต่ทุกศาสนาล้วนสอนให้ทำดีเหมือนกัน แต่ที่เกิดความขัดแย้งผมว่าเมื่อมองดูรอบๆตัวแล้วศาสนิกชนของศาสนาเหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วนไม่เข้าถึงหัวใจและหลักปฏิบัติของศาสนาของตน มีศาสนาเพียงเปลือก เพียงเอกสาร ใบเกิด ลองมองศาสนิกที่ดีและมีธรรมของแต่ละศาสนาย่อมเป็นคนดี เหมือนผู้ศึกษาธรรมอย่างพวกเราย่อมไม่ก่อความขัดแย้ง :b8:

เจ้าของ:  อนัตตาธรรม [ 07 ก.ค. 2011, 09:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

hiwichai เขียน:
สงสัยครับว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ทำไมคำสอนจึงดูเหมือนว่าบางครั้งก็ตรงกัน บางครั้งก็ต่างกัน เช่นพุทธเน้นปัญญา คริสต์มุสลิมเน้นศรัทธา แต่ทุกศาสนามีฐานแห่งเรื่องศีลธรรมเรื่องการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดปด ผิดกามเม เสพติดเหล้ายา เรามีแนวทางใดที่จะให้ทุกศาสนากลมกลืนกันเป็นหนึ่งนั่นก็คือเข้าถึงกฏแห่งธรรมชาติ เป็นสุขและพ้นทุกข์ ได้น่าจะดีนะครับ ความสงบสุขและสันติจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ อยากทราบว่าท่านมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางอะไรที่จะทำได้บ้าง :b44: :b53: :b8:


rolleyes
อนัตตาธรรม...........

ประเด็นคำสอนต่างกันครับ

ละชั่ว ทำดี นี่มีสอนเหมือนกันในทุกศาสนา

แต่การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ด้วยวิปัสสนาภาวนา นี้ มีเฉพาะในพระพุทธศาสนา เป็นเอกลักษณ์และประเด็นสำคัญของพุทธศาสนา ไม่มีในศาสนาอื่นๆ
ลองจับประเด็นหรือจุดเด่น จุดดี ของทุกศาสนาออกมาให้ได้ แล้วคุณก็จะถึงบางอ้อเองครับ
สาธุ


ไฟล์แนป:
divinemercy03.jpg
divinemercy03.jpg [ 14.58 KiB | เปิดดู 8991 ครั้ง ]

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 07 ก.ค. 2011, 20:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

hiwichai เขียน:
สงสัยครับว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ทำไมคำสอนจึงดูเหมือนว่าบางครั้งก็ตรงกัน บางครั้งก็ต่างกัน เช่นพุทธเน้นปัญญา คริสต์มุสลิมเน้นศรัทธา แต่ทุกศาสนามีฐานแห่งเรื่องศีลธรรมเรื่องการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดปด ผิดกามเม เสพติดเหล้ายา เรามีแนวทางใดที่จะให้ทุกศาสนากลมกลืนกันเป็นหนึ่งนั่นก็คือเข้าถึงกฏแห่งธรรมชาติ เป็นสุขและพ้นทุกข์ ได้น่าจะดีนะครับ ความสงบสุขและสันติจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ อยากทราบว่าท่านมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางอะไรที่จะทำได้บ้าง :b44: :b53: :b8:


ศาสนาแต่ละศาสนา สอนเหมือนกัน ไม่แตกค่างกัน ความแตกต่าง อยู่ที่ศัพท์ภาษาที่ใช้ และสถานะการณ์หรือการครองเรือนที่ใช้
บางศาสนา ใช้ได้ในทุกสถานะการณ์ และใช้ได้ในทุกการครองเรือน บางศาสนา ใช้ได้ในการครองเรือนเฉพาะอย่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กัน กล่าวคือ ศาสนาบางศาสนาจะสอนเป็นแบบชั้นพื้นฐานของการสังคมเป็นอยู่ร่วมกันเป็นต้นมา ไม่สอนให้หนีโลก หนีปัญหา
ศาสนาพุทธก็ไม่ได้สอนให้หนีโลกหนีปัญหา แต่มีพวกอลัชชี(ขออภัยถ้าหากไปกระทบกับใครเข้า) ที่นำเอาหลักธรรมคำสอนในทางพุทธศาสนาไปใช้ในทางที่ผิดๆ เพื่อผลประโยชน์

เจ้าของ:  Soduku [ 08 ก.ค. 2011, 02:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

smiley ขอขอบคุณทุกคำตอบครับ รู้สึกส่วนใหญ่ค่อนข้างตรงใจดีครับ เว้นแต่คุณอนัตตาฯจะกรุณาหารูปพระพุทธเจ้าและองค์ศาสดาอิสลามมาให้ชมด้วยก็ดีนะครับเดียวจะหาว่าลำเอียง เกิดขัดแย้งกันได้นา..ขออภัย...ล้อเล่นอะครับ :b17: :b27:

พูดถึงรูปพระศาสดา สงสัยว่าทำไมเค้าโฉมทางคริสต์ไม่ค่อยเปลี่ยน แต่พระรูปของพระพุทธเจ้าเท่าที่ดูไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย จะเป็นที่สมัยก่อนยังหาจิตรกรวาดภาพเหมือนในชมพูทวีปได้ยากเป็นไปได้ไหมครับ เลยไม่สามารถสเก็ตภาพจริง ๆ ของพระพุทธเจ้าออกมาให้คนรุ่นหลัง ๆ ได้รู้ได้เห็น ...ภาพพระศาสดาทางอิสลามก็ดูเหมือนไม่คุ้นว่าจะมีเช่นกัน...หรือว่ามี :b10:

เท่าที่สังเกตุอีกอย่างก็คือศาสนาที่มีผู้นับถือมากในโลก น่าจะเป็นทางคริสต์ รองลงมาอิสลาม และก็พุทธตามมา (อาจมีข้อมูลจริงว่ามีจำนวนผู้ที่นับถือในศาสนาอื่น ๆ ในอันดับจำนวนผู้นับถือมากกว่าทางพุทธอีกก็เป็นไปได้ ใครมีข้อมูลเรื่องนี้ช่วยแสดงให้เห็นด้วยจักขอบพระคุณหลายเด้อ....)

จากข้อมูลสรุปเบื้องต้นถึงจำนวนคนที่นับถือในแต่ละศาสนา ตามที่แจ้งข้างต้น เป็นไปได้ไหมว่ามันมีนัยสำคัญที่อาจประมาณได้ว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ต้องการความสามารถของผู้ที่จะนับถือด้วยว่าต้องรู้แจ้งเข้าถึงด้วยตนเองคือรู้ด้วยการใช้ปัญญาของตนเองด้วย ไม่ใช่จะมามัวแต่ฟังและเชื่อตามพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ต้องเข้าใจด้วยตนเองจึงจะใช้ได้ ยิ่งเป็นธรรมะที่ลึกซึ้งจึงยากที่ปุถุชนทั่วไปดูแล้วจะเข้าใจเลย ต้องตั้งใจศีกษาและปฏิบัติจริงจังถึงจะเข้าถึงพุทธธรรมนั้นได้ ไม่เหมือนทางคริสต์หรืออิสลามที่ให้เชื่อในพระเจ้าอย่างเดียวง่าย ๆ อย่างอื่นเดียวมันมาเอง จึงรู้สึกเห็นใจผู้ที่คุณขณะจิตได้บอกว่านับถือแต่เพียงเปลือกนอก หรือมีชื่อเป็นศาสนิกชนเพียงแต่ปรากฏแค่ในใบเกิด...แสบทรวงครับ
:b34:
หากท่านใด มีข้อเห็นต่าง เห็นด้วย หรือเห็นแย้งประการใด กรุณาช่วยชี้แนะเพิ่มเติมให้ทราบกันนะครับ..ด้วยจิตคารวะ :b8: :b53: :b44:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.ค. 2011, 08:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

เมื่อครั้งตรัสรู้ใหม่พระพุทธองค์ทรงดำริว่า "ธรรมที่เราเข้าถึงแล้วนี้ ลึกซึ้ง เห็นยาก หยั่งรู้ตามยาก สงบ ประณีต ตรรกะหยั่งไม่ถึง ละเอียดอ่อน เป็นวิสัยที่บัณฑิตจะพึงทราบ" และมีคาถาข้อความต่อไปว่า "ธรรมเราเข้าถึงโดยยาก เวลานี้ ไม่ควรประกาศ ธรรมนี้มิใช่ที่สัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำจะรู้เข้าใจง่าย สัตว์ทั้งหลายผู้ถูกราคะย้อมไว้ ถูกกองความมืดคืออวิชชา ห่อหุ้ม จักไม่เห็นภาวะที่ทวนกระแส ละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง เห็นยาก ละเอียดยิ่งนัก"

วินย. 4/7/8; ม.มู.12/321/323


คำว่า "ธรรม" ในที่นี้ หมายถึง ปฏิจจสมุปบาท และนิพพาน (จะว่าอริยสัจ 4 ก็ได้ใจความเท่ากัน)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.ค. 2011, 08:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

แต่คำว่า ธรรม เมื่อแบ่งแล้วมี 2 อย่างคือ โลกุตรธรรม กับ โลกียธรรม

ตัวอย่างโลกียธรรม

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=1031.0

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 08 ก.ค. 2011, 16:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

:b42: ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ได้บอกสุภัททปริพาชกว่า ไปเถิดสุภัททะ พระผู้มีพระภาคทรงทำโอกาสแก่ท่าน สุภัททปริพาชกเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า

" ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ สมณพราหมณ์เหล่านี้ใด เป็นเจ้าหมู่เจ้าคณะ เป็นคณาจารย์มีชื่อเสียง มียศ เป็นเจ้าลัทธิ ชนเป็นอันมาก สมมติว่าเป็นคนดีคือบูรณกัสสป มักขลิโคสาล อชิตเกสกัมพล ปกุธกัจจายนะ สัญชัยเวลัฏฐบุตร นิครณฐนาฏบุตร สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ได้ตรัสรู้ตามปฏิญญาของตนๆ หรือว่าทั้งหมดไม่ได้ตรัสรู้หรือว่าบางพวกไม่ได้ตรัสรู้ ฯ

"พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อย่าเลย สุภัททะ ที่ข้อถามนั้นงดเสียเถิด ดูกรสุภัททะเราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดีเราจักกล่าว สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น ไม่มีสมณะที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ หรือสมณะที่ ๔ ในธรรมวินัยใด มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยนี้ มีอริยมรรคประกอบด้วย องค์ ๘ ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ

ดูกรสุภัททะ เราโดยวัยได้ ๒๙ ปี บวชแล้ว ตามแสวงหาว่า อะไรเป็นกุศลตั้งแต่เราบวชแล้ว นับได้ ๕๑ ปี แม้สมณะผู้เป็นไปในประเทศแห่งธรรมเป็นเครื่องนำออก ไม่มีในภายนอกแต่ธรรมวินัยนี้ ฯ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ หรือสมณะที่ ๔ ก็มิได้มี ลัทธิอื่นว่างจากสมณะ ผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ "

" เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว สุภัททปริพาชก ได้กราบ ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยคิดว่า ผู้มีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้ ฉันใด พระผู้มีพระภาคทรงประกาศพระธรรมโดยอเนกปริยาย ฉันนั้น เหมือน กัน ข้าพระองค์นี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาคพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ข้าพระองค์พึงได้บรรพชา พึงได้อุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาค ฯ"

เจ้าของ:  อนัตตาธรรม [ 10 ก.ค. 2011, 20:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

hiwichai เขียน:
smiley ขอขอบคุณทุกคำตอบครับ รู้สึกส่วนใหญ่ค่อนข้างตรงใจดีครับ เว้นแต่คุณอนัตตาฯจะกรุณาหารูปพระพุทธเจ้าและองค์ศาสดาอิสลามมาให้ชมด้วยก็ดีนะครับเดียวจะหาว่าลำเอียง เกิดขัดแย้งกันได้นา..ขออภัย...ล้อเล่นอะครับ :b17: :b27:

อนัตตาธรรม..........
สวัสดีครับคุณ hiwichai ผมได้รูปพระพุทธเจ้าที่คิดว่าใกล้ความจริงและนิยมกันมากที่สุดรูปหนึ่งมาฝากด้วยครับคราวนี้ แต่รูปพระมะหะหมัด ผมยังหาไม่ได้ ใครมีกรูราเชิญมาแสดงด้วยนะครับ เพื่อจะได้ไม่ลำเอียงครับ


hiwichai...............
พูดถึงรูปพระศาสดา สงสัยว่าทำไมเค้าโฉมทางคริสต์ไม่ค่อยเปลี่ยน แต่พระรูปของพระพุทธเจ้าเท่าที่ดูไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย จะเป็นที่สมัยก่อนยังหาจิตรกรวาดภาพเหมือนในชมพูทวีปได้ยากเป็นไปได้ไหมครับ เลยไม่สามารถสเก็ตภาพจริง ๆ ของพระพุทธเจ้าออกมาให้คนรุ่นหลัง ๆ ได้รู้ได้เห็น ...ภาพพระศาสดาทางอิสลามก็ดูเหมือนไม่คุ้นว่าจะมีเช่นกัน...หรือว่ามี :b10:

อนัตตาธรรม........
ความเห็นข้างบนนี้น่าจะแม่นแล้วครับ


hiwichai...........
เท่าที่สังเกตุอีกอย่างก็คือศาสนาที่มีผู้นับถือมากในโลก น่าจะเป็นทางคริสต์ รองลงมาอิสลาม และก็พุทธตามมา (อาจมีข้อมูลจริงว่ามีจำนวนผู้ที่นับถือในศาสนาอื่น ๆ ในอันดับจำนวนผู้นับถือมากกว่าทางพุทธอีกก็เป็นไปได้ ใครมีข้อมูลเรื่องนี้ช่วยแสดงให้เห็นด้วยจักขอบพระคุณหลายเด้อ....)

อนัตตาธรรม.........
พุทธศาสนา เคยมีผู้นับถือมากที่สุดในอดีต จนสั่นสะเทือนศาสนาพราหมณ์ แต่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุผลและเสรีภาพ ประชาธิปตัย ธรรมาธิปตัย ไม่บังคับหรือขอร้องใครให้มานับถือศรัทธา ไม่มีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับและมาตรการลงโทษที่รุนแรงใดๆ เป็นอหิงสา ไม่เบียดเบียนผู้ใดด้วย จึงแน่นอนว่า มวลชนจะถูกแย่งและยึดครองไปทุกวันๆ จนอีกไม่นาน เอเซียนี้จะเป็นโลกมืดจากพุทธศาสนาไปตั้ง 200 ปี แต่จะไปรุ่งเรืองอยู่ทางอเมริกาและยุโรป ตามที่มีทำนายไว้ และเป็นไปตามกฎแห่งพระไตรลักษณ์ด้วย


hiwichai.........
จากข้อมูลสรุปเบื้องต้นถึงจำนวนคนที่นับถือในแต่ละศาสนา ตามที่แจ้งข้างต้น เป็นไปได้ไหมว่ามันมีนัยสำคัญที่อาจประมาณได้ว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ต้องการความสามารถของผู้ที่จะนับถือด้วยว่าต้องรู้แจ้งเข้าถึงด้วยตนเองคือรู้ด้วยการใช้ปัญญาของตนเองด้วย ไม่ใช่จะมามัวแต่ฟังและเชื่อตามพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ต้องเข้าใจด้วยตนเองจึงจะใช้ได้ ยิ่งเป็นธรรมะที่ลึกซึ้งจึงยากที่ปุถุชนทั่วไปดูแล้วจะเข้าใจเลย ต้องตั้งใจศีกษาและปฏิบัติจริงจังถึงจะเข้าถึงพุทธธรรมนั้นได้ ไม่เหมือนทางคริสต์หรืออิสลามที่ให้เชื่อในพระเจ้าอย่างเดียวง่าย ๆ อย่างอื่นเดียวมันมาเอง จึงรู้สึกเห็นใจผู้ที่คุณขณะจิตได้บอกว่านับถือแต่เพียงเปลือกนอก หรือมีชื่อเป็นศาสนิกชนเพียงแต่ปรากฏแค่ในใบเกิด...แสบทรวงครับ

อนัตตาธรรม...........

ความท่อนนี้ ติดใจท่อนที่คาดสีแดงไว้ครับ เพราะทุกวันนี้ชาวพุทธแท้ หายากจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธตามสำมะโนครัว เพราะผมเคยมีโอกาสได้ถามคำถามกับผู้คนจำนวนมาก บ่อยๆ หลายที่หลายแห่ง ว่าพระพุทธเจ้าของเราทรงค้นพบอะไร แล้วนำเอาอะไรมาสอน ปรากฎว่าส่วนใหญ่ตอบกันไม่ได้
ตอบได้ก็ไม่ตรงประเด็นดีนัก 100 คน จะตอบได้ประมาณ 1 - 3 คน น่าแปลกดีนะครับ ชาวพุทธแต่ไม่รู้จักสิ่งสำคัญอันประดุจหัวใจของพระพุทธเจ้า คือ อริยสัจทั้ง 4 ประการ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงค้นพบแล้วนำมาสอนตั้งแต่วันปฐมเทศนา จนถึงพระวาจามีเป็นครั้งสุดท้าย ก็ทรงแสดงเรื่องอริยสัจ 4 นี้เหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่จะตีความไม่ออก
:b34:

หากท่านใด มีข้อเห็นต่าง เห็นด้วย หรือเห็นแย้งประการใด กรุณาช่วยชี้แนะเพิ่มเติมให้ทราบกันนะครับ..ด้วยจิตคารวะ :b8: :b53: :b44:
เจริญสุขเจริญธรรมกันทุกๆท่านเทอญ

ไฟล์แนป:
buddha_resize.jpg
buddha_resize.jpg [ 46.31 KiB | เปิดดู 8906 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 10 ก.ค. 2011, 21:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

ลำเอียงเพราะชอบ เพราะไม่ชอบ
ลำเอียงเพราะกลัว หรือเพราะโง่เขลา

อะไรคือความจริง ไม่ได้ขึ้นกับความลำเอียง

ลานธรรมจักรชื่อก็บอกแล้ว ผู้เป็นสมาชิกควรมีความเคารพในพระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
การเอารูปของศาสดาอื่นมาโพสในลานธรรม เป็นการไม่ให้เกียรติชาวพุทธเลย การกระทำของคุณอนัตตาธรรมไม่เหมาะสม ไม่เป็นตัวอย่างของชาวพุทธที่ดี ผมขอให้เอารูปพระคริสต์ออกโดยด่วน

Onion_R

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 10 ก.ค. 2011, 21:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

ขอคุยเรื่องโลกๆ นิีดนึงครับ

ตอบคุณ"hiwichai"
ผมศึกษามาทางด้านศิลปะและเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์มาบ้าง ขอตอบคำถาม(ตามที่เรียนมาประสาโลก)ดังนี้ครับ


พูดถึงรูปพระศาสดา สงสัยว่าทำไมเค้าโฉมทางคริสต์ไม่ค่อยเปลี่ยน แต่พระรูปของพระพุทธเจ้าเท่าที่ดูไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย จะเป็นที่สมัยก่อนยังหาจิตรกรวาดภาพเหมือนในชมพูทวีปได้ยากเป็นไปได้ไหมครับ เลยไม่สามารถสเก็ตภาพจริง ๆ ของพระพุทธเจ้าออกมาให้คนรุ่นหลัง ๆ ได้รู้ได้เห็น ...ภาพพระศาสดาทางอิสลามก็ดูเหมือนไม่คุ้นว่าจะมีเช่นกัน...หรือว่ามี :b10:

ขอตอบว่า...รูปพระศาสดาทางคริสต์นั้นไม่เปลี่ยนเพราะ คริสต์จักรตั้งเป็นหลักตั้งแต่สมัยโรมันในโรม(กรุงโรม ประเทศอิตาลี) มานับพันปี ไม่เคยย้ายที่ จนปัจจุบัน และศิลปะ การปั้น การแกะสลักและวาดภาพเหมือนอิตาลีนี่แหละเป็นต้นตำหรับมีศิลปินดังๆ ที่เราท่านรู้จักเช่น ดาวินชี ผู้วาดโมนาลิซา ไมเคิลแองเจลโล ฯลฯ และคริสต์จักมีการดูแลเรื่องรูปแบบการแกะสลัก ถ้าผิดเพี้ยนย่อมถูกทำลายทิ้ง

แต่พระรูปของพระพุทธเจ้านั้นสมัยก่อนไม่นิยมทำรูปเคารพแต่ทำเป็นรูปธรรมจักรแทน ถ้าดูรูปหรือสัญญลักณ์ทางพุทธศาสนาสมัยเก่าจะเป็นรูปธรรมจักรและกวางหมอบ อย่างหินแกะสลักที่สวนโมกข์นำมา รูป ประสูตร ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตรงรูปพระพุทธเจ้าจะใช้รูปธรรมจักแทน
จนสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช แห่งกรีก (ซึ่งนิยมแกะสลักรูปเทพเจ้า)ได้แผ่อาณาจักร มาถึงอินเดีย (ประมาณ สองร้อยกว่าปีหลังปรินิพพาน)จึงมีการพัฒนาศิลปะการปั้นการแกะสลักรูปเหมือนให้สวยงาม
แต่เมื่อพุทธสาสนาแพร่ไปยังประเทศต่าง ก็พัฒนาผสมผสานศิลปะท้องถิ่น จนแตกต่างในแต่ละประเทศอย่างปัจจุบัน

ส่วนภาพพระศาสดาทางอิสลามนั้น ศาสนาอิสลาม มีบัญญัติว่า ทั้งนี้เนื่องจากการที่ท่านนะบีมุฮัมมัด ใช้เวลาในการเทศนาเผยแผร่เชิญชวนชาวมักกะห์ให้ศรัทธาในคำสอนของอัลลอฮ์ผู้ เป็นพระเจ้าที่แท้จริง เพื่อให้หันกลับมายึดมั่นศรัทธาและประพฤติปฏิบัติตามแนวทางอิสลาม ละทิ้งการเคารพบูชาเจว็ด (รูปปั้น รูปเคารพ รูปสักการะ) และสิ่งงมงายต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง อิสลามจึงไม่มีรูปเคารพครับ

ขอนำมาบอกกกล่าวเพื่อความเข้าใจทางโลกครับ :b8:

เจ้าของ:  Hana [ 10 ก.ค. 2011, 22:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัด

hiwichai เขียน:
สงสัยครับว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ทำไมคำสอนจึงดูเหมือนว่าบางครั้งก็ตรงกัน บางครั้งก็ต่างกัน เช่นพุทธเน้นปัญญา คริสต์มุสลิมเน้นศรัทธา แต่ทุกศาสนามีฐานแห่งเรื่องศีลธรรมเรื่องการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดปด ผิดกามเม เสพติดเหล้ายา เรามีแนวทางใดที่จะให้ทุกศาสนากลมกลืนกันเป็นหนึ่งนั่นก็คือเข้าถึงกฏแห่งธรรมชาติ เป็นสุขและพ้นทุกข์ ได้น่าจะดีนะครับ ความสงบสุขและสันติจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ อยากทราบว่าท่านมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางอะไรที่จะทำได้บ้าง :b44: :b53: :b8:


อะไรที่ทำให้ศาสนาในโลกต่างกัน บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง

:b12: ฮานะ ตอบว่าเพราะ อวิชชา นะเจ้าข๊า

ทุกศาสนาล้วนสอนให้ ทำเพื่อความหลุดพ้น
ไม่ว่าจะใช้ปัญญานำ หรือ ศรัทธานำ ต่างก็ทำให้ถึง สิ่งนั้น ได้
ถ้า ทำจริง และ ทำด้วยความ เข้าใจ เจ้าค่า

:b8: ฮานะ อนุโมทนา ขะ rolleyes :b4:

หน้า 1 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/