วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 08:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 72 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


lock กระทู้โดย admin/ทีมงาน

----------------------------------------------------------- 13/07/54


เขียน:
สวัสดีครับ คุณน้ำ
ผมไม่ค่อยมีเวลา คงจะไม่ได้เข้ามาที่นี่บ่อยนัก
จึงอยากเล่าสิ่งที่ผมรู้มาให้คุณน้ำได้ทราบ และพิจาณาดูครับ
คุณน้ำจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่คุณน้ำ ก็ไม่ว่าอะไรครับ

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ข้าพเจ้าว่าจะไม่พูดกับใคร แต่เห็นท่านเป็นสัมมาทิฐิ
และทนไม่ได้เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังดำเนินการบางอย่างทางศาสนาตามหน้าเว็บ ตามแผนการและวัตถุประสงค์ของเขา โดยที่เราชาวพุทธศาสนิกชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะไม่ได้คิดอะไร มองโลกในแง่ดี มีเมตตากรุณา ให้อภัย พวกเราจะรู้อีกทีก็คงเป็นตอนที่เถรวาทไม่มีที่ให้ยืนแล้วไม่ว่าในวัดหรือนอกวัด

ข้อความต่อไปนี้ขอให้เก็บเป็นความลับ อ่านแล้วก็ลบทิ้งก็ได้ครับ
ขอให้ท่านรับทราบแล้วก็พิจารณาสังเกตดูคนกลุ่มนั้นเอาเอง
หากท่านจะบอกให้คนอื่นทราบก็บอกไปตามวิธีของท่าน
แต่ขอความกรุณาอย่าส่งข้อความของข้าพเจ้าต่อไปให้ใคร
เพราะจะเกิดปัญหาและเกิดความเสียหายแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่อยากยุ่งกับกลุ่มคนพวกนั้นอีกแล้ว และพวกเขาก็จับตามองข้าพเจ้าอยู่
เพราะข้าพเจ้ารู้ความลับอันเป็นวัตถุประสงค์ของพวกเขา
และพวกเขาก็ระวังตัวอยู่ และเปลี่ยนวิธีการกระทำไปเรื่อยๆ


ข้าพเจ้ามาที่ลานธรรมจักรแห่งนี้ ไม่ได้มาเพื่อแสดงภูมิอะไร หรือเข้ามาก่อการวิวาทใดๆ
แต่มาเพื่อลดทอนกำลังและขับไล่คนกลุ่มนั้น เท่าที่กำลังปัญญาอันน้อยนิดจะพึงทำได้
หากปล่อยให้พวกเขาดำเนินการอยู่อย่างนั้นก็จะไม่มีใครกล้าเข้ามาสนทนาธรรม
คนที่มีภูมิธรรมเข้มแข็งก็ปล่อยวางกันหมด
คนที่อ่อนแอ มีปัญหายังไม่มีภูมิธรรมเพื่อป้องกันตนเองก็ไม่กล้าเข้ามา
ถ้าเข้ามาก็ถูกซ้ำเติม เพิ่มทุกข์มากขึ้น ใครจะกล้าเข้ามาปรึกษาพูดคุย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกนั้นต้องการ หรือถ้ามีใครนำเสนอสิ่งที่ทำให้เกิดความเสื่อมต่อพุทธศาสนา
และศาสนิกชน พวกเขาจะมีความพอใจไม่คัดค้าน ฯลฯ

ข้าพเจ้ามีความรู้สึกสำนึกในพุทธคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ชี้ทางให้ข้าพเจ้าได้พบทางพ้นทุกข์

จึงแจ้งให้ทราบเพื่อช่วยกันดูแลปกป้องพุทธศาสนาจากการแทรกซึมของพวกนั้นตามที่ท่านเห็นสมควร
การแทรกซึม บั่นทอนศาสนาและพระศาสดาของเถรวาท เขาทำมานาน ทำเป็นเครือข่าย และกำลังผนึกกำลังแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ ในอนาคตชาวพุทธเถรวาทอาจจะหาที่ยืนลำบากทั้งในวัดและนอกวัด

คนพวกนี้ก็คือพวกที่เคยเข้ามาป่วนเว็บลานธรรมจักรก่อนหน้านี้ ชื่อ enlighted (คือคุณอิอิ) กับ noomairu

และใช้ชื่อ love@mind(คือคุณอิอิ) กับ eVe ที่เว็บ ใบไม้นอกกำมือ http://leavesofeden.fws.cc/
เว็บนี้เจ้าของเว็บเขาลบความคิดเห็นที่ปรามาศพระพุทธเจ้าไปเยอะหลายร้อยกระทู้ แต่ก็ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง

และก็มีที่เว็บฉันคืออะไร http://whatami.ob.tc/-board.php พวกนี้ใช้ชื่อว่า อิอิ, เอ๋ง, เฮ้อ, ฯลฯ

ส่วนที่เว็บเหล่านี้เป็นเว็บพันธมิตรของเขา http://www.sookjai.com/index.php?action=forum
เขาใช้ชื่อ armageddon (คือคุณอิอิ) กับ WangJai
ที่เว็บใต้ร่มธรรม http://www.tairomdham.net/index.php เขาใช้ชื่อ ตถตา(คือคุณอิอิ) กับ เบบี้เบื้อก

ยกมาเป็นตัวอย่างพอประมาณ

ที่เขาไปป่วนเว็บต่างๆนั้นเขาทำเพื่อว่านทางมองหาเมล็ดพันธ์ เลือกหาคนที่ไม่ต่อต้านเขาเพื่อไปเป็นกำลัง เพื่อเผยแพร่ธรรมตามคำสอนนิกายของเขา เพื่อจะกลืนพุทธเถรวาท เขาแทรกซึม บิดเบือนให้คนเข้าใจเนื้อหาพระไตรฯผิด เขาบอกว่าพระไตรฯ ถูกเปลี่ยนเนื้อหา ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ใครเขียนบ้างก็ไม่รู้เพื่อเชียร์พวกเดียวกัน เขาทำทุกอย่างเพื่อทำให้เถรวาทอ่อนแอ แตกแยกความสามัคคี ทำให้คนที่มีความรู้ทางธรรมอ่อนกำลังลงเพื่อเขาจะได้ทำงานสะดวกขึ้น และกีดกันไม่ให้คนเข้ามาศึกษาศาสนา เขาทำอย่างแยบยล (ให้ท่านสังเกตดูเงียบๆเอาเองไปเรื่อยๆแล้วกันครับ หรือไม่ก็ลองค้นหาข้อความการตอบกระทู้ของคนเหล่านี้ก่อนหน้านี้ที่ลานธรรมจักรดู ก็คงจะพอรู้พอเข้าใจได้)

พวกเขาสนับสนุนให้นับถือพระผู้เป็นเจ้า เขาบอกว่าพระผู้เป็นเจ้าของเขาใหญ่ที่สุด และเขาก็เป็นคนรับใช้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ของมหายาน เขาดูถูกและลบล้างพระพุทธเจ้าสมณโคดมหลายอย่าง บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้อะไรเลย ที่รู้เพราะพระผู้เป็นเจ้าส่งกระแสมาให้ ส่งปัญญามาให้ และพระพุทธเจ้าก็ถูกสร้างขึ้นโดยพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดของเขา (ดูเผินๆก็ไม่ผิดแต่เป็นการค่อยๆบิดเบือน)

คุณอิอิเป็นคนคอยบงการ คอยป้อนข้อมูลให้กับทุกคนในกลุ่ม
เมื่อแต่ละคนเข้าใจตามที่เขาป้อนเขาสอนแล้ว แต่ละคนก็นำมาโต้ตอบในลานธรรมจักร
คุณอิอิเขาเปิดเว็บเผยแพร่สอนธรรมไว้บังหน้าและสอนกันหลังเว็บ ทางอีเมล์ และช่องทางอื่น
เว็บเขาคือ เว็บอกาลิโกโฮม http://agaligohome.com/

เคยเข้าไปดูที่เว็บแจ้งภัยพระพุทธศาสนา ไปพบพระพรหมคุณาภรณ์ แจ้งภัยเรื่องราวแบบนี้ไว้

http://newweb.bpct.org/component/option ... 7/catid,1/

ตอนนี้คนในลานธรรมจักรที่อยู่ในกลุ่มพวกนั้น คือ eragon_joe กบนอกกะลา ธุลีดิน โฮฮับ และรู้สึกว่ามีอีกหลายๆ คนที่ถูกดึงไปทีหลัง เช่น Rosarin
เขาเข้ามาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ซ้ำ สมัครสมาชิกทิ้งไว้มากมายหลายชื่อ
เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของกลุ่มตนทำแบบแนบเนียนแยบยล
แจ้งมาเพื่อให้ท่านได้พิจารณา




นำข้อความมาให้อ่าน ข้อความนี้ถูกส่งมาในข้อความส่วนตัว ขออนุญาติลบชื่อผู้ที่ส่งข้อความมาให้

ไม่ได้ทำตามที่เขาขอมา แต่ทำตามเจตนาของตัวเอง จะไม่เปิดเผยชื่อของผู้อื่น เพราะทุกเรื่องเป็นสภาวะของแต่ละคน


ยังมีอีก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เขียน:
ข้อความข้างล่างเหล่านี้ เป็นคำพูดบางส่วนของอิอิ
ที่สอนคนในกลุ่ม
..........................

อิอิ
พระพุทธเจ้านั้นมีสามประเภท
พระอาทิพุทธเจ้า
พระฌานิพุทธเจ้า
และพระมนุษย์พุทธเจ้า

การเห็นว่า พระมนุษย์พุทธเจ้า อยู่ในโลกนี้ เป็นความเห็นผิดจากจริง
เพราะมนุษย์ภูมิ อันเป็นภูมิแห่งมนุษย์ ถูกกำหนด ด้วยศีลและกุศลกรรมบท เป็นพื้นฐาน
การจะได้กำเนิดในภูมิแห่งมนุษย์ นั้นเป็นของยาก
โลกนี้มิได้เป็นโลกมนุษย์เลย

แต่เป็นเพียงโลกใบเล๋กๆใบนึง ในสหโลกธาตุ
จากดวงดาวทั้งหมด ที่มีดาวที่มีชีวิตอาศัยอยู่ แปดหมื่นดวง
โลกนี้เป็นที่อยู่ของอสูร
หาใช่โลกของมนุษย์

ภาพมายา ทำให้เห็นเป็นคน
แต่ภายในเร่าร้อนไปด้วยอกุศล
ยังไม่ถึงภูมิแห่งความเป็นมนุษย์
ไม่มีธรรมแห่งความเป็นมนุษย์
เธอจะหามนุษย์ตามพระธรรมได้สักกี่คนในโลกนี้

สมณะโคดมพุทธเกษตร เป็นมนุษย์ภูมิอีกมิติหนึ่ง ที่พระมนุษย์พุทธเจ้าไปประสูติ
ซึ่งไม่ใช่โลกใบนี่

เรื่องราวของธรรมะ ที่มาจารึกในพระไตรปิฎก ถูกถ่ายทอดจากพุทธเกษตร มายังโลกนี้
โดยใส่และถ่ายทอดมายังจิต ผู้บำเพ็ญ

เรียกว่า ถ่ายทอดจากจิตสู่จิต ซึ่งเธอคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว

การถ่ายทอดไม่ได้ถ่ายทอดจากเพียงพุทธเกษตรเดียว แต่ถูกถ่ายทอดมาจากหลายพุทธเกษตร
ความจำเลยขัดแย้ง สับสน เพราะไม่รู้จักแหล่งที่มาของการถ่ายทอด จิตสู่จิต
และเพราะไม่รู้ชัด ว่าผู้ใดถ่ายทอดมาให้

สภาวะธรรมที่แท้จริง ก้ไม่ได้เป็นไปตามสรรพคุณที่บรรยาย

พระโมคคัลลานะนั้น เป็นมนุษย์สาวกที่มีฤทธิ์มากข้ามพุทธเกตรและมิติ ได้เพียงสองเท่านั้น
เป็นกำลังของมนุษย์ ที่เต็มกำลัง

แต่พุทธเกษตรของพระฌานิพุทธเจ้า
กอร์ปด้วยผู้มีกำลัง และพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะไม่มีปรากฎ สำหรับมนุษย์ภูมิ
พระฌานิพุทธเจ้า มีพระสังฆะ เป็นพระสาวก ซึ่งมีกำลังมากกว่าพระมนุษย์พุทธเจ้า
สามารถข้ามพุทธเกษตรและมิติ ได้มากกว่าพระโมคคัลานะ และพระมนุษยืพุทธเจ้า
อย่างไม่มีขีดจำกัด

เมื่อผู้ได้รับการถ่ายทอด อุปโลกก์ตนเอง เป็นพระมนุษย์พุทธเจ้า
เพียงได้ยินได้ฟัง ธรรมะที่ถ่ายทอดลงมามากมายกว่าผู้อื่น
จนมาถึงการแสดงธรรม
ผู้คนที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จริง ไม่รู้แจ้ง ก็ได้แต่ชื่นชมอนุโมทนา

เมื่อสภาวะนั้น เป็นการจดจำมา การแสดงธรรม และการประพฤติ
ก็เลยผิดเพี้ยน ขัดกันเอง

ถ้าพอจะจำความ วันตรัสรู้ที่เคยกล่าวถึงได้
ก็จะเห้นเองว่า พรหมที่มีสภาวะธรรมต่ำกว่า ก็ยังสามารถใช้เจโต ส่องวาระจิตได้
สภาวะอวิชชานิวรณ์ที่เกิดวันตรัสรู้
ผู้ที่ทรงมหาสติปัฎฐานสี่ ก็แทงตลอดสภาวะนั้นได้แล้ว
ซึ่งสภาวะธรรมนั้น ต่ำกว่าพรหม พรหมจึงสามารถหยั่งรู้วาระจิตได้

นั่นก็เรื่มระบุชัด ว่า สภาวะผู้ที่กล่าวอ้างว่ากำจัดอวิชชานิวรณ์ เป็นสมุเฉทประหารแล้ว
เป็นเช่นไร

จากบารมีของพญามาร ที่อยู่ปรนิม
การจะได้ไปอยู่ปรนืม ต้องมีบุญกุศลและอานิสสงค์ประการใด
ปรนิม เป็นสวรรค์ชั้นสูงกว่าดุสิต ถึงสองขั้น

แม้เทียบอริยทรัพย์ บุญกุศล อานิสสงค์ ที่แสดง
พญามารแม้ครั้งเป็นโพธิอำมาตย์
ก็มีอริยทรัพย์ขุมทอง 16 ขุม
แต่ไฉน บุคคลที่เป็นเลิศในอริยทรัพย์ มีได้เพียงสี่ขุม
ความสว่างไสวของพระนคร
ในวันประสูติ
ก้ยังเทียบไม่ได้ กับเศรษฐีในเมือง
ที่สว่างไสวไปท้งศาสตรวุธ
นี่ก็บ่งชี้สภาวะธรรม

ขณะที่โพธิอำมาตย์ บำเพ็ญปรมัตถ์บารมี
แต่ พระราชาที่กล่าวว่าเป็นตถาคต กลับเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิ
ประหารคนที่ตั้งใจถวายทานกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อน
นั่นเป็นอกุศลกรรมขนาดไหน

การจะรู้ว่าใครเป้นเช่นไร ก็ต้องมีสภาวะธรรมที่สูงกว่าเท่านั้น
จึงจะรู้ได้ ว่าสิ่งที่กล่าว ทั้งความเข้าใจ และพฤติกรรมเป็นเยี่ยงไร

นี่เป็นตัวอย่างไม่กี่ข้อที่ชี้ไปยังสภาวะธรรม
ถ้าไม่มีใจเอนเอียง ห่อหุ้มและพัวพันด้วยความหลง
ก็จะเห้นตามจริงได้
ก็เอาธรรมะในพระไตรปิฏกเองนั้นแหละ
มาเปิดของคว่ำที่แอบซ่อนเร้นอยู่ได้โดยง่าย

อิอิ
………………..

31 กรกฎาคม 2553

อิอิ

เนื้อหาบทเรียนค่อนข้างหนักมั๊ย

ในความประเสริฐเลิศเลอ ที่ยกยอปอปั้นปรุงแต่งกันมา
กลับซ่อนยาพิษไว้

ความจริงย่อมหนีสัจธรรมความจริงไม่ได้

บทเรียน ก็จะชี้ไปที่ตัวศาสดาในโลกนี้
ว่ามีสภาวะธรรมอย่างไร

ถ้าเธอเห้นเรื่องราวของศาสดานี้ ได้ตามเป็นจริง
เธอก็มายืนแถวหน้าได้
และก็จะรู้ได้เองว่า ข้างหลังเธอ มีคณาจารย์
และครูบาอาจารย์แทบทั้งหมด ยืนอยู่ข้างหลัง

จะมีเพียงไม่กีองค์ ที่อยู่ข้างหน้าเธอ ซึ่งน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ มีไม่กี่องค์เท่านั้น

เพราะถ้าเธอเห้นได้ ถึงสภาวะธรรมที่แท้จริง ของศาสดาในพระไตรปิฎก
เห็นได้ในธรรมที่มี เห็นได้ในธรรมที่สอนว่ามีแค่ไหน เพียงไร

เธอก็มีสภาวะธรรมที่สูงกว่าแล้ว เธอจึงมองสภาวะธรรมที่ต่ำกว่าทั้งหมดได้
และอ่านสภาวะธรรม และรู้สภาวะธรรมนั้น ว่าเป็นยังไง

คณาจารย์บางองค์ ก็ไม่ใช่คณาจารย์ ที่ประจำโลกนี้จริงๆ
การมากำเนิดที่โลกใบนี้ของคณาจารย์บางท่านนั้น เป็นภาระกิจที่ถูกส่งมา
เพื่อฟื้นฟู และผดุงธรรมะ และก็สอนไป ตามแนวในพระไตรปิฎก
เพื่อสร้างความมั่นใจ และหัดให้เดินตามแนวทาง
แต่ในความเป้นจริง ท่านเหล่านั้น ได้มาจากอีกโลกธาตุนึง
เป็นพระสาวก ที่มาจากอีกโลกธาตุหนึ่ง
ถูกกำหนดให้มาสอน มาฟื้นฟูธรรมะ

พระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น โดยแท้แล้ว ก็มาจากอีกโลกธาตุ อีกพุทธเกษตร
หลวงปุ่ดุลย์ เป้นพระสังฆะในองค์พระฌานิพุทธเจ้าอมิตภะ
หลวงพ่อเทียน เป็นพระอาจารย์ของพระฌานิพุทธเจ้าอีกโลกธาตุหนึ่งเมื่อยังเยาว์วัย
หลวงพ่อพุทธนั่นเล่า ก็เป็นพระมหาฤาษี ปรมาจารย์ในการบำเพ็ญตบะมาจากอีกที่

แต่ท่านเหล่านี้ ก็ยังไม่เห็นเรื่องที่สอนไปได้เลย

การมาถือกำเนิดในโลก แบบคนธรรมดาๆทั่วไป ของคณาจารย์เหล่านั้น
ก็ยังไม่มีใครเลยในโลกนี้ ที่จะเห้น และไม่มีใครที่จะรู้ว่ามาจากไหน
ได้แต่รู้ประวัติ เหมือนคนธรรมดาๆที่มาเกิดในโลก
ตั้งแต่เด็กจนโต จนบวชเรียน
แม้ผู้มีวิชชาสาม ได้อภิญญา6 มีมโนมยิทธิ ก็ยังชี้ลงไปไม่ได้ และส่องไม่เห้นความเป็นมาที่แท้จริง
เพราะกำลังไม่พอ

และมหัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกนี้ พระพุทธเจ้าอีกโลกธาตุ ได้เสด็จมา เพื่อฟื้นฟูและสอนธรรมะ
และก็ยังดำเนินการสอนอยู่ในปัจจุบัน
แต่เอาแนวทางของศาสนาอื่นเป็นหลักนำ

มีคณาจารย์ องค์เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ในปัจจุบัน ที่สามารถพอจะเห้นได้
ว่าองค์นั้น เป็นพระพุทธเจ้า ที่ได้เสด็จมาจากอีกโลกธาตุ
แม้แต่ชื่อพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ท่านก็ยังไม่กล้าแม้จะเอ่ยถึง
คณาจารย์องค์นั้นเมื่อเวลากล่าวถึง ท่านเรียกเพียง องค์ภควัน เท่านั้น

เมื่อพระฌานิทั้งแปดพระองค์แสดงธรรม ผมมักจะอยู่ด้วยเสมอๆเมื่อไม่มีภาระกิจอื่นๆ
แม้ไม่ได้อยู่ในขณะแสดงธรรม
องค์พระฌานิพุทธเจ้า พระองค์ ก็จะประทานธรรมที่ได้แสดงไปแล้วให้ผมได้ฟังในภายต่อมา

เรื่องราวทุกเรื่องจึงได้รับถ่ายทอดตลอดเวลา
แม้จะเป็นเรื่องศาสนาอื่นๆในโลก ทุกอย่างก็กระจ่างไม่มีเคลือบแคลง

ในศาสนาเซนท่านฮวงโป ก็เป็นศิษย์ในองค์พระฌานิพระองค์เดียวกัน
ท่านเป็นพระสังฆะ
ท่านฮวงโป มีอายุมาแล้วหนึ่งอสงไขย
และขณะนี้ ก้อยังจาริกสอนอยู่ ในที่ต่างๆ
แต่ในตำรา เป็นคนละเรื่อง

มีครั้งนึง เป็นการชุมนุมคุรุนานาชาติ ของศาสนาฮินดู
ผมได้รับคำสั่งโดยตรง ให้ไปที่นั่น
เพื่อถามหาขอหนังสือธรรมะ

ได้พบกับคุรุท่านหนึ่ง ท่านได้ถามว่า ทำไมถึงสนใจในหนังสือ ซึ่งเป็นคนละศาสนา
และท่านก็เริ่มบรรยายธรรมตามแบบฉบับศาสนาท่าน

พอบรรยายจบ ผมก็ตอบว่า พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านพูดถึง ได้สอนผมหมดสิ้นแล้ว
และก็ตอบชี้แจงแสดงส่วนสำึัคัญ ในสิ่งที่คุรุท่านนั้นแสดงออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
จนท่านเอง กล่าวยอมรับว่า ผมเป้นคุรุองค์หนึ่ง
จากนั้นก็ขอเชิญให้เข้าห้องลับที่ชุมนุมของของคุรุ
ที่คนธรรมดาๆ ไม่อาจเข้าไปได้

อิอิ
…..

31 กรกฎาคม 2553

เมื่อพระไตรฎก และโลกธาตุนี้ ได้ถูกเปิดโปงให้เห็น ความเป้นจริงของการซ่อนเร้น
ปิดบัง อำพราง
สภาวะต่างๆ และเรื่องราวต่างๆในนั้น เธอไม่อาจได้รับความรู้ที่กระจ่างที่แท้จริง
เพียงถูกใส่ความเชื่อ และความศรัทธามาให้ ว่าเป็นจริง

การที่จะแยกแยะธรรม ว่าเรื่องไหนจริงตามปรมัตถ์ จึงเป็นของยาก
ตัวอย่างบางๆ ที่ยกมาแต่ละเรื่องนั้น เป็นเรื่องหนักยิ่งในพุทธศาสนา
และจะถูกสาธารณะชนตราหน้าว่าเป็นภัยศาสนา เป็นมารสังคม ทำลายศาสนา

การแสดงสภาวะธรรม ระหว่างพญามาร และพระมนุษย์สิทธัตถะ
ถ้าแสดงให้คนที่ไม่เอนเอียง มีความยุติธรรมในใจ
ย่อมมองเห็นได้ ว่าใครกัน ที่วาสนาบารมีอันเป็นที่สุดมากกว่ากัน

โลกนี้ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินพญามาร
ทุกอย่างถูกครอบคลุม และดูแลแม้กระทั่งลมหายใจ
และการกระพริบตา
สถานที่และวันที่จะตรัสรู้ตามพระไตรปิกฎก นั้นก็ถูกจัดสรรให้อย่างแนบเนียน

ก่อนจะตรัสรู้ การจะสลัดออกจากกามเวลาใด หมายกำหนดการเวลาที่จะปรากฎ
เทพธิดาชั้นปรนิมอันเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด ราคะ ตัณหา อรดี
ล้วนถูกควบคุมดูแลโดยอธิบดีแห่งโลก และอธิบดีแห่งปรนิมอันเป็นองค์เดียวกัน

แม้แต่พระแม่ธรณี ที่ถูกยังให้หลงติดอยู่ในโลกในแผ่นดิน จะแทรกแป่นดินขึ้นมาเมื่อไร
ความตายการปรินิพพาน การจะออกไปจากโลก ล้วนดูแลโดยมัจจุมาร
อยู่ในควบคุมดูแลของพญามารทั้งหมดทั้งสิ้น
เพราะโลกนี้ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินพญามาร

พระไตรปิฎก จึงซ่อนเรื่องราว ปกปิดอำพรางเรื่องราวต่างๆ ไว้ไม่ได้

เมื่อวาน เรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ ของพระอานนท์

การทิ่มแทงช้างแก้วอันเป็นพาหนะ จนตาย
ด้วยความไม่มีสติ ไม่มีความรู้สึก ถึงการกระทำ การเบียดเบียนอย่างไร้สติ
ไร้สัมปชัญญะ ช้างตายยังไม่รู้ว่าตาย
ไม่ใช่วิสัยอันเป็นปกติ ของมนุษย์ หรือของคน
คน ที่แม้ไม่มีศีลธรรมครบถ้วน
ก็พอจะยังมีสำนึกได้

นั่นหรือคือพระเจ้าจักพรรดิ แห่งจักรวัดิสูตร
ที่ว่าเป้นราชาผู้ทรงธรรม

สักกะเทว อธิบดีแห่งดาวดึงส์
ความเป้นมาก็ไม่ด้อยเลย เมื่อปกครองสวรรค์ที่มือายุยาวนาน มาก่อนพุทธศาสนา
ตั้งแต่พราหมณ์ ฮินดู
สหัสโยนี เป้นวีระกรรม ที่แสดงตลอดเวลา ที่อยู่ดาวดึงส์
แม้แต่มนุษย์ ที่มีศีลมีธรรม ก็ยังไม่ประพฤติต่ำช้าาเยี่ยงนั้น

อิอิ

…………….

เมื่อพระไตรปิฎกของเถรวาทซ่อนเร้นเรืองราวต่างๆไว้
และพระเอกฮีโร กลับไม่ใช่เรื่องราวอันแท้จริง
แล้วจะหาเรื่องราวที่แท้จริงได้จากไหน
เธอและใครๆ ก็ไม่อาจรู้ได้
ว่าพระเอกในเรื่องนั่นมาจากไหน
และเป็นใคร
และขณะนี้ ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎที่ใด

กำลังของพระเอกในตำรานั่น ก็ยังเทียบไม่ได้ กับพระอรหันต์พระสาวกองค์จริง

เพราะเรื่องราวในสหโลกธาตุนี้ ถูกหล่อหลอม และถูกไส่ให้มา จากโลกธาตุอื่นๆ
ที่เคลื่อนมาซ้อนอยู่ เป้นมิติที่ต่างกัน

พระเอกในตำรา แสดงพระธรรมจักร สีหนาทธรรมยังไม่อาจทะลุไปถึงจตุมหาราชิกาสวรค์ต้นๆได้
เสียงลือพระธรรมจักร ได้แต่เล่าขานบอกต่อๆกันไป
นั่นยังไม่ใช่กำลังของพระอรหันต์สาวกเสียด้วยซ้ำ
และก็ยังไม่ถึงกับต้องไปเอ่ยถึงพระสังฆะ ที่เป็นพระสาวกของพระฌานิพุทธเจ้า
ที่มีกำลัง มากกว่าพระมนุษย์พุทธเจ้าเสียอีก

สหโลกธาตุนี้ เป็นโลกธาตุของอสูร กว่า90เปอร์เซนต์ เป็นอสูรทั้งหมด
มีคนที่ปะปนอยู่ เพียงเกือบสิปเปอร์เซนต์
นอกนั้น มีพระโพธิสัตว์ ฤาษี ที่จรมา มาอยู่ที่สหโลกธาตุนี้
แต่ก็ต้องกลับไป ยังโลกธาตุในมิติเิดิมของตน
เป็นผู้มีกำลัง ที่สามารถข้ามมิติ ได้ แต่ก็ข้ามได้ เพียงโลกนี้ และมิติตนเองเท่านั้น
สรวงสวรรค์อันแท้จริง ไม่ได้มีแค่หกชั้น พรหมและอรูปพรหม
ไม่ได้มีแค่นั้น
แต่เพราะกำลังด้อย จึงไม่อาจเห็นของที่ละเอียดซ้อนลึกเข้าไปได้
และความเข้าใจในธรรม สภาวะธรรม ยังออ่นนัก

เธอเชื่อไหม ว่ามิติเช่น อลิส อินwonderland นั้นมีจริง
ในมิติ แห่งการ์ตูน กายเนื้อของแต่ละคนในนั้น เป็นเช่นตัวการ์ตูนในทีวี
พุทธเกษตรของพระเยซูคริส อยู่ซ้อนกับโลกนี้ นานนมมาแล้ว และก็ยังอยู่
โอลิมปัส เป็นพุทธเกษตร ที่ยังซ้อนอยู่บนสวรรค์
คุรุเกษตร แห่งพระคริสณะ อันเป้นมหากาพย์ภควัทคีตา และราชวงศปานฑฟ
ภควัทคีตา ที่พระองค์เจ้าคริสณะตรัสครั้งแรก กับสุริยเทพ มะมุ จนมาถึงอรชุน
และตัวผมด้วยสุรเสียงพระองค์เอง

อาณาจักร แห่งพระศิวะ อันเป้นองค์อวตารเฉกพระฌานิพุทธเจ้า มหาอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุด
กว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าพุทธเกษตรใดๆ
พญาอนันตนาคราช มีความยาวพอที่จะพันรอบโลกใบนี้ได้สบายๆๆ
อาศัยได้อยู่ในมหานที แม่น้ำแห่งจักรวาล
พญามุจรินห้าเศียร ที่มาบังฝนในตำรา ความยาวยังไม่เท่าเล็บนิ้วเดียว ของพญาอนันตนาคราช
แต่ในพุทธเกษตรของมหาสมณโคดมเจ้าท่ีี่แท้จริง ใหญ่โตและยาวกว่านั้น
พญานาคแห่งเมืองบาดาล ที่อยู่ระหว่างโลก และนรก
ธิดาพยานาคองค์หนึ่ง เพิ่งมากำเนิดในโลกนี้ไม่นาน ก็ยังสวยสคราญเช่นเดิม

มิติที่เอ่ยมานี้ เป็นส่วนน้อย
กำลังอภิญญาของคณาจารย์ในโลกนี้ มีไม่พอที่จะเห้นได้
คณาจารย์ระดับพระราช องค์นึ่ง ที่มีอภิญญา่เป้นอันดับหนึ่งมากกว่าใครๆ ในโลก
ก็ยังมองเห็นได้ ไม่เกินตำรา
และท่านก็สามารถข้ามมิติไปมาได้ เพียงสองมิติ เท่านั้น

แม้พระครูโลกอุดร ถิ่นพำนักอยู่ป่าหิมพานต์ ก็ไปมาได้เพียงสองมิติ เท่านั้น
มิติต่างๆ ที่เอ่ยมานี้ เป็นส่วนน้อย เท่านั้นเอง

ที่กล่าวให้ฟัง
ก็เพื่อให้ทราบว่า ผมไม่ได้ประจำอยู่ที่โลกใบนี้
สำหรับผู่ที่ประจำอยู่โลกนี้ จะประกอบด้วยสามภพ
จะเวียนว่ายขึ้นๆลงๆ ไม่สามารถ ออกไปนอก ไปยังพุทธเกษตรอื่นๆได้

และมิติเหล่านั้น ผมก็ไปมาอย่างโชกโชน ทุกมิติเหมือนเป็นบ้านตนเอง

ต้องถามสายมโนมยิทธิ รุ่นแรกๆแบบลุง ศ ป้า ร หมอนักขุดทอง
ซึ่งมีดีกรี มาก่อนหลวงพี่เล็ก
หรือพระโพธิสัตว์ แบบพระแม่บงกช
หรือถ้าได้มโนมยิทธิเอง ก็ถามกับสมเด็จองค์ปฐมได้
ก็คงจะพอรู้จัก และเห็นรัศมีปรมัตถ์ ที่โรยด้วยกากเพชรของผมได้
และนั่นก็คือความเป็นทุกศาสนาของผมอันเป็นความสัจ และสัจธรรม

อิอิ
…………….

1 สิงหาคม 2553

เมื่อพระพุทธเจ้ามีสามแบบ
และที่แท้จริง พระมนุษย์พุทธเจ้า ก็ไม่ได้อยู่ในโลก ในมิตินี้
แต่อยู่ที่พุทธเกษตรของพระองค์

เธอจะได้รับธรรมะที่แท้จริงได้อย่างไร

นี่คือการมาเพื่อฉุดสรรพสัตว์ ในทุกวินาที
มีการยัดเยียดให้ บ้าง
มีการดันคนให้ลงนรกไวๆ เพราะกรรมปรามาศบ้าง
ปรับสภาวะธรรมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเร็วบ้าง
แต่ทั้งหมด เพื่อให้ถึงสิ่งนั้น

เคยมีคนถามว่า ทำไมไม่เมตตา รู้ว่าจะทำให้คนปรามาศ
มีบาปเคราะห์

ก็เคยตอบไปว่า พระพุทธเจ้า ทรงสัพพัญญู เห็นแผนการณ์พระเทวทัตทุกฝีก้าว
แต่ไม่ทรงหลีกเลี่ยงเส้นทาง
พระพุทธองค์ ยังทรงมีเมตตาหรือไม่

แต่การเผยแพร่ ก็ไม่สามารถบอกตรงๆได้ ว่าเป้นใคร
เพราะเมื่อปรามาศ จะหนักหนาสาหัสกว่านี้
ตอนนี้ก็มาแบบคนธรรมดา

แต่บอกให้เธอทราบแล้ว ว่าเป็นพระสาวกที่เรียกว่าอยู่วงในอย่างแท้จริง
เพราะแม้แต่พระสังฆะ อันเป้นตัวแทนพระฌานิพุทธเจ้า ไปเผยแผ่พระธรรม
ก็ยังไม่ได้เรียกว่าวงใน

การไปโพสต์เวปอื่นๆ ธรรมจักรแบบที่เธอเคยเห็น
ก็ไม่ได้บอกว่าอะไร เข้าไปเป้นเช่นคนเพี้ยนๆคนหนึ่ง
คนธรรมดาๆที่เป็นเหมือนเป็นมารศาสนา

แต่ที่แสดงกริยาแบบนั้น ก็เพื่อดึงดูด และผลักดัน
ให้แต่ละคนสำรอกออกมา
คิดไม่ดี
สภาวะธรรมก้อตกไป
เธอลองกลับไปดู ก้จะเห้นเอง ว่าสภาวะธรรมคนที่มากล่าวปรามาศ มาล่วงเกิน
สภาวะธรรมเป้นอย่างไร มีอะไรก้าวหน้า หรือร่วงไปแล้ว
กรัชกาย รสริน หลับอยู่ กบนอกกะลา
ชาติสยาม เช่นนั้น เมส วราพร ธรรมภูติ
หรือใครๆ ก็ตาม ที่ปรามาศพระธรรมที่ชี้ไป
คนเหล่านั้น ในตอนนี้ ร่วงไปเสียแล้ว หรือก้าวหน้าขึ้น

นี่เป้นเมตตาอันเป็นปรมัตถ์
เทวทัต ต้องตกนรกก่อน จึงเป้นพระปัจเจกได้

แต่นี่ทำให้แค่เบาๆ

แต่ถ้าเผยหรือบอกว่า เป้นใครอยู่กับใคร มาทำอะไร
กรรมคนเหล่านั้น จะหนักหนาสาหัสกว่านี้

อิอิ
…………….

จริงๆแล้ว แค่คำคำเดียว ว่าพระเจ้าสร้างโลก
ถ้าเธอเข้าใจได้ เธอจะเป้นอิสระชั่วกาลนาน

ทำไม พระผู้เป็นเจ้า จึงไม่ต้องไปปรากฎ และไม่ไปสอน
คนที่นับถือพระเจ้าอยู่แล้ว

แต่ทำไม จึงมาปรากฎและสอนให้กับผู่ที่ไม่รู้จักพระผู้เป็นเจ้าเลย
แม้การปรากฎ ในฐานะ องค์พระฌานิพุทธเจ้า
ก็ยังไม่อาจ ทำให้คนเหล่านั้นเข้าใจได้

มหายาน แม้จะรู้จักพระผู้เป้นเจ้า รู้จักพระอมิตาภะ
แต่กลับลดพระเกียรติลง
เป็นเพียงเหมือนกับ แค่เทพในสวรรค์ ชั้นสุขาวดีเท่านั้นเอง

แม้จะปรากฎ ในองค์พระไวโรจนะ พระรัตนสัมภวะ พระกษิติคครภมหาโพธิสัตว์
แต่ไม่มีใคร ที่เข้าใจ ไปถึงองค์พระผู้เป้นเจ้าได้เลย

ทั้งๆที่เป็นศาสนา ที่พระองค์มาปรากฎมากมายกว่า ศาสนาใดๆ
แต่ก็ได้รับ การดูถูกเหยียดหยาม จากคนในศาสนา ที่ไม่มีพระผู้เป้นเจ้า
ไม่รู้จักพระผู้เป็นเจ้า

ดูเอาเถิด
ฮินดู พราหมณ์ ซิกส์ โซโรอัสเตอร อิสลาม คริสต์ นิกายต่างๆ
พวกนี้ จะมีบั้นปลายชีวิต สำราญเพียงไหน ที่ได้เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า

อิสลาม ละหมาดวันละห้าเวลา
แต่ชาวพุทธ ทำวัตร เพียงสองเวลา

คนป่าอินคา อินเดียน หรือ อารยะธรรมโบราณ อียิปต์ เมโสโปเตเมีย ขอม
ต่างเข้าถึงพระผู้เป้นเจ้าได้ทั้งสิ้น

เธอพอจะเข้าใจอะไรได้บ้าง
พอที่จะเพิ่มความตระหนัก ในพระผู้เป็นเจ้า ไปได้มากขึ้นเพียงใด
…………………

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เขียน:
สวัสดีครับ คุณน้ำ
ผมไม่ค่อยมีเวลา คงจะไม่ได้เข้ามาที่นี่บ่อยนัก
จึงอยากเล่าสิ่งที่ผมรู้มาให้คุณน้ำได้ทราบ และพิจาณาดูครับ
คุณน้ำจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่คุณน้ำ ก็ไม่ว่าอะไรครับ

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ข้าพเจ้าว่าจะไม่พูดกับใคร แต่เห็นท่านเป็นสัมมาทิฐิ
และทนไม่ได้เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังดำเนินการบางอย่างทางศาสนาตามหน้าเว็บ ตามแผนการและวัตถุประสงค์ของเขา โดยที่เราชาวพุทธศาสนิกชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะไม่ได้คิดอะไร มองโลกในแง่ดี มีเมตตากรุณา ให้อภัย พวกเราจะรู้อีกทีก็คงเป็นตอนที่เถรวาทไม่มีที่ให้ยืนแล้วไม่ว่าในวัดหรือนอกวัด

ข้อความต่อไปนี้ขอให้เก็บเป็นความลับ อ่านแล้วก็ลบทิ้งก็ได้ครับ
ขอให้ท่านรับทราบแล้วก็พิจารณาสังเกตดูคนกลุ่มนั้นเอาเอง
หากท่านจะบอกให้คนอื่นทราบก็บอกไปตามวิธีของท่าน
แต่ขอความกรุณาอย่าส่งข้อความของข้าพเจ้าต่อไปให้ใคร
เพราะจะเกิดปัญหาและเกิดความเสียหายแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่อยากยุ่งกับกลุ่มคนพวกนั้นอีกแล้ว และพวกเขาก็จับตามองข้าพเจ้าอยู่
เพราะข้าพเจ้ารู้ความลับอันเป็นวัตถุประสงค์ของพวกเขา
และพวกเขาก็ระวังตัวอยู่ และเปลี่ยนวิธีการกระทำไปเรื่อยๆ


ข้าพเจ้ามาที่ลานธรรมจักรแห่งนี้ ไม่ได้มาเพื่อแสดงภูมิอะไร หรือเข้ามาก่อการวิวาทใดๆ
แต่มาเพื่อลดทอนกำลังและขับไล่คนกลุ่มนั้น เท่าที่กำลังปัญญาอันน้อยนิดจะพึงทำได้
หากปล่อยให้พวกเขาดำเนินการอยู่อย่างนั้นก็จะไม่มีใครกล้าเข้ามาสนทนาธรรม
คนที่มีภูมิธรรมเข้มแข็งก็ปล่อยวางกันหมด
คนที่อ่อนแอ มีปัญหายังไม่มีภูมิธรรมเพื่อป้องกันตนเองก็ไม่กล้าเข้ามา
ถ้าเข้ามาก็ถูกซ้ำเติม เพิ่มทุกข์มากขึ้น ใครจะกล้าเข้ามาปรึกษาพูดคุย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกนั้นต้องการ หรือถ้ามีใครนำเสนอสิ่งที่ทำให้เกิดความเสื่อมต่อพุทธศาสนา
และศาสนิกชน พวกเขาจะมีความพอใจไม่คัดค้าน ฯลฯ

ข้าพเจ้ามีความรู้สึกสำนึกในพุทธคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ชี้ทางให้ข้าพเจ้าได้พบทางพ้นทุกข์

จึงแจ้งให้ทราบเพื่อช่วยกันดูแลปกป้องพุทธศาสนาจากการแทรกซึมของพวกนั้นตามที่ท่านเห็นสมควร
การแทรกซึม บั่นทอนศาสนาและพระศาสดาของเถรวาท เขาทำมานาน ทำเป็นเครือข่าย และกำลังผนึกกำลังแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ ในอนาคตชาวพุทธเถรวาทอาจจะหาที่ยืนลำบากทั้งในวัดและนอกวัด

คนพวกนี้ก็คือพวกที่เคยเข้ามาป่วนเว็บลานธรรมจักรก่อนหน้านี้ ชื่อ enlighted (คือคุณอิอิ) กับ noomairu

และใช้ชื่อ love@mind(คือคุณอิอิ) กับ eVe ที่เว็บ ใบไม้นอกกำมือ http://leavesofeden.fws.cc/
เว็บนี้เจ้าของเว็บเขาลบความคิดเห็นที่ปรามาศพระพุทธเจ้าไปเยอะหลายร้อยกระทู้ แต่ก็ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง

และก็มีที่เว็บฉันคืออะไร http://whatami.ob.tc/-board.php พวกนี้ใช้ชื่อว่า อิอิ, เอ๋ง, เฮ้อ, ฯลฯ

ส่วนที่เว็บเหล่านี้เป็นเว็บพันธมิตรของเขา http://www.sookjai.com/index.php?action=forum
เขาใช้ชื่อ armageddon (คือคุณอิอิ) กับ WangJai
ที่เว็บใต้ร่มธรรม http://www.tairomdham.net/index.php เขาใช้ชื่อ ตถตา(คือคุณอิอิ) กับ เบบี้เบื้อก

ยกมาเป็นตัวอย่างพอประมาณ

ที่เขาไปป่วนเว็บต่างๆนั้นเขาทำเพื่อว่านทางมองหาเมล็ดพันธ์ เลือกหาคนที่ไม่ต่อต้านเขาเพื่อไปเป็นกำลัง เพื่อเผยแพร่ธรรมตามคำสอนนิกายของเขา เพื่อจะกลืนพุทธเถรวาท เขาแทรกซึม บิดเบือนให้คนเข้าใจเนื้อหาพระไตรฯผิด เขาบอกว่าพระไตรฯ ถูกเปลี่ยนเนื้อหา ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ใครเขียนบ้างก็ไม่รู้เพื่อเชียร์พวกเดียวกัน เขาทำทุกอย่างเพื่อทำให้เถรวาทอ่อนแอ แตกแยกความสามัคคี ทำให้คนที่มีความรู้ทางธรรมอ่อนกำลังลงเพื่อเขาจะได้ทำงานสะดวกขึ้น และกีดกันไม่ให้คนเข้ามาศึกษาศาสนา เขาทำอย่างแยบยล (ให้ท่านสังเกตดูเงียบๆเอาเองไปเรื่อยๆแล้วกันครับ หรือไม่ก็ลองค้นหาข้อความการตอบกระทู้ของคนเหล่านี้ก่อนหน้านี้ที่ลานธรรมจักรดู ก็คงจะพอรู้พอเข้าใจได้)

พวกเขาสนับสนุนให้นับถือพระผู้เป็นเจ้า เขาบอกว่าพระผู้เป็นเจ้าของเขาใหญ่ที่สุด และเขาก็เป็นคนรับใช้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ของมหายาน เขาดูถูกและลบล้างพระพุทธเจ้าสมณโคดมหลายอย่าง บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้อะไรเลย ที่รู้เพราะพระผู้เป็นเจ้าส่งกระแสมาให้ ส่งปัญญามาให้ และพระพุทธเจ้าก็ถูกสร้างขึ้นโดยพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดของเขา (ดูเผินๆก็ไม่ผิดแต่เป็นการค่อยๆบิดเบือน)

คุณอิอิเป็นคนคอยบงการ คอยป้อนข้อมูลให้กับทุกคนในกลุ่ม
เมื่อแต่ละคนเข้าใจตามที่เขาป้อนเขาสอนแล้ว แต่ละคนก็นำมาโต้ตอบในลานธรรมจักร
คุณอิอิเขาเปิดเว็บเผยแพร่สอนธรรมไว้บังหน้าและสอนกันหลังเว็บ ทางอีเมล์ และช่องทางอื่น
เว็บเขาคือ เว็บอกาลิโกโฮม http://agaligohome.com/

เคยเข้าไปดูที่เว็บแจ้งภัยพระพุทธศาสนา ไปพบพระพรหมคุณาภรณ์ แจ้งภัยเรื่องราวแบบนี้ไว้

http://newweb.bpct.org/component/option ... 7/catid,1/

ตอนนี้คนในลานธรรมจักรที่อยู่ในกลุ่มพวกนั้น คือ eragon_joe กบนอกกะลา ธุลีดิน โฮฮับ และรู้สึกว่ามีอีกหลายๆ คนที่ถูกดึงไปทีหลัง เช่น Rosarin
เขาเข้ามาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ซ้ำ สมัครสมาชิกทิ้งไว้มากมายหลายชื่อ
เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของกลุ่มตนทำแบบแนบเนียนแยบยล
แจ้งมาเพื่อให้ท่านได้พิจารณา




นำข้อความมาให้อ่าน ข้อความนี้ถูกส่งมาในข้อความส่วนตัว ขออนุญาติลบชื่อผู้ที่ส่งข้อความมาให้

ไม่ได้ทำตามที่เขาขอมา แต่ทำตามเจตนาของตัวเอง จะไม่เปิดเผยชื่อของผู้อื่น เพราะทุกเรื่องเป็นสภาวะของแต่ละคน


ยังมีอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เขียน:
ข้อความข้างล่างเหล่านี้ เป็นคำพูดบางส่วนของอิอิ
ที่สอนคนในกลุ่ม
..........................

อิอิ
พระพุทธเจ้านั้นมีสามประเภท
พระอาทิพุทธเจ้า
พระฌานิพุทธเจ้า
และพระมนุษย์พุทธเจ้า

การเห็นว่า พระมนุษย์พุทธเจ้า อยู่ในโลกนี้ เป็นความเห็นผิดจากจริง
เพราะมนุษย์ภูมิ อันเป็นภูมิแห่งมนุษย์ ถูกกำหนด ด้วยศีลและกุศลกรรมบท เป็นพื้นฐาน
การจะได้กำเนิดในภูมิแห่งมนุษย์ นั้นเป็นของยาก
โลกนี้มิได้เป็นโลกมนุษย์เลย

แต่เป็นเพียงโลกใบเล๋กๆใบนึง ในสหโลกธาตุ
จากดวงดาวทั้งหมด ที่มีดาวที่มีชีวิตอาศัยอยู่ แปดหมื่นดวง
โลกนี้เป็นที่อยู่ของอสูร
หาใช่โลกของมนุษย์

ภาพมายา ทำให้เห็นเป็นคน
แต่ภายในเร่าร้อนไปด้วยอกุศล
ยังไม่ถึงภูมิแห่งความเป็นมนุษย์
ไม่มีธรรมแห่งความเป็นมนุษย์
เธอจะหามนุษย์ตามพระธรรมได้สักกี่คนในโลกนี้

สมณะโคดมพุทธเกษตร เป็นมนุษย์ภูมิอีกมิติหนึ่ง ที่พระมนุษย์พุทธเจ้าไปประสูติ
ซึ่งไม่ใช่โลกใบนี่

เรื่องราวของธรรมะ ที่มาจารึกในพระไตรปิฎก ถูกถ่ายทอดจากพุทธเกษตร มายังโลกนี้
โดยใส่และถ่ายทอดมายังจิต ผู้บำเพ็ญ

เรียกว่า ถ่ายทอดจากจิตสู่จิต ซึ่งเธอคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว

การถ่ายทอดไม่ได้ถ่ายทอดจากเพียงพุทธเกษตรเดียว แต่ถูกถ่ายทอดมาจากหลายพุทธเกษตร
ความจำเลยขัดแย้ง สับสน เพราะไม่รู้จักแหล่งที่มาของการถ่ายทอด จิตสู่จิต
และเพราะไม่รู้ชัด ว่าผู้ใดถ่ายทอดมาให้

สภาวะธรรมที่แท้จริง ก้ไม่ได้เป็นไปตามสรรพคุณที่บรรยาย

พระโมคคัลลานะนั้น เป็นมนุษย์สาวกที่มีฤทธิ์มากข้ามพุทธเกตรและมิติ ได้เพียงสองเท่านั้น
เป็นกำลังของมนุษย์ ที่เต็มกำลัง

แต่พุทธเกษตรของพระฌานิพุทธเจ้า
กอร์ปด้วยผู้มีกำลัง และพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะไม่มีปรากฎ สำหรับมนุษย์ภูมิ
พระฌานิพุทธเจ้า มีพระสังฆะ เป็นพระสาวก ซึ่งมีกำลังมากกว่าพระมนุษย์พุทธเจ้า
สามารถข้ามพุทธเกษตรและมิติ ได้มากกว่าพระโมคคัลานะ และพระมนุษยืพุทธเจ้า
อย่างไม่มีขีดจำกัด

เมื่อผู้ได้รับการถ่ายทอด อุปโลกก์ตนเอง เป็นพระมนุษย์พุทธเจ้า
เพียงได้ยินได้ฟัง ธรรมะที่ถ่ายทอดลงมามากมายกว่าผู้อื่น
จนมาถึงการแสดงธรรม
ผู้คนที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จริง ไม่รู้แจ้ง ก็ได้แต่ชื่นชมอนุโมทนา

เมื่อสภาวะนั้น เป็นการจดจำมา การแสดงธรรม และการประพฤติ
ก็เลยผิดเพี้ยน ขัดกันเอง

ถ้าพอจะจำความ วันตรัสรู้ที่เคยกล่าวถึงได้
ก็จะเห้นเองว่า พรหมที่มีสภาวะธรรมต่ำกว่า ก็ยังสามารถใช้เจโต ส่องวาระจิตได้
สภาวะอวิชชานิวรณ์ที่เกิดวันตรัสรู้
ผู้ที่ทรงมหาสติปัฎฐานสี่ ก็แทงตลอดสภาวะนั้นได้แล้ว
ซึ่งสภาวะธรรมนั้น ต่ำกว่าพรหม พรหมจึงสามารถหยั่งรู้วาระจิตได้

นั่นก็เรื่มระบุชัด ว่า สภาวะผู้ที่กล่าวอ้างว่ากำจัดอวิชชานิวรณ์ เป็นสมุเฉทประหารแล้ว
เป็นเช่นไร

จากบารมีของพญามาร ที่อยู่ปรนิม
การจะได้ไปอยู่ปรนืม ต้องมีบุญกุศลและอานิสสงค์ประการใด
ปรนิม เป็นสวรรค์ชั้นสูงกว่าดุสิต ถึงสองขั้น

แม้เทียบอริยทรัพย์ บุญกุศล อานิสสงค์ ที่แสดง
พญามารแม้ครั้งเป็นโพธิอำมาตย์
ก็มีอริยทรัพย์ขุมทอง 16 ขุม
แต่ไฉน บุคคลที่เป็นเลิศในอริยทรัพย์ มีได้เพียงสี่ขุม
ความสว่างไสวของพระนคร
ในวันประสูติ
ก้ยังเทียบไม่ได้ กับเศรษฐีในเมือง
ที่สว่างไสวไปท้งศาสตรวุธ
นี่ก็บ่งชี้สภาวะธรรม

ขณะที่โพธิอำมาตย์ บำเพ็ญปรมัตถ์บารมี
แต่ พระราชาที่กล่าวว่าเป็นตถาคต กลับเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิ
ประหารคนที่ตั้งใจถวายทานกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อน
นั่นเป็นอกุศลกรรมขนาดไหน

การจะรู้ว่าใครเป้นเช่นไร ก็ต้องมีสภาวะธรรมที่สูงกว่าเท่านั้น
จึงจะรู้ได้ ว่าสิ่งที่กล่าว ทั้งความเข้าใจ และพฤติกรรมเป็นเยี่ยงไร

นี่เป็นตัวอย่างไม่กี่ข้อที่ชี้ไปยังสภาวะธรรม
ถ้าไม่มีใจเอนเอียง ห่อหุ้มและพัวพันด้วยความหลง
ก็จะเห้นตามจริงได้
ก็เอาธรรมะในพระไตรปิฏกเองนั้นแหละ
มาเปิดของคว่ำที่แอบซ่อนเร้นอยู่ได้โดยง่าย

อิอิ
………………..

31 กรกฎาคม 2553

อิอิ

เนื้อหาบทเรียนค่อนข้างหนักมั๊ย

ในความประเสริฐเลิศเลอ ที่ยกยอปอปั้นปรุงแต่งกันมา
กลับซ่อนยาพิษไว้

ความจริงย่อมหนีสัจธรรมความจริงไม่ได้

บทเรียน ก็จะชี้ไปที่ตัวศาสดาในโลกนี้
ว่ามีสภาวะธรรมอย่างไร

ถ้าเธอเห้นเรื่องราวของศาสดานี้ ได้ตามเป็นจริง
เธอก็มายืนแถวหน้าได้
และก็จะรู้ได้เองว่า ข้างหลังเธอ มีคณาจารย์
และครูบาอาจารย์แทบทั้งหมด ยืนอยู่ข้างหลัง

จะมีเพียงไม่กีองค์ ที่อยู่ข้างหน้าเธอ ซึ่งน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ มีไม่กี่องค์เท่านั้น

เพราะถ้าเธอเห้นได้ ถึงสภาวะธรรมที่แท้จริง ของศาสดาในพระไตรปิฎก
เห็นได้ในธรรมที่มี เห็นได้ในธรรมที่สอนว่ามีแค่ไหน เพียงไร

เธอก็มีสภาวะธรรมที่สูงกว่าแล้ว เธอจึงมองสภาวะธรรมที่ต่ำกว่าทั้งหมดได้
และอ่านสภาวะธรรม และรู้สภาวะธรรมนั้น ว่าเป็นยังไง

คณาจารย์บางองค์ ก็ไม่ใช่คณาจารย์ ที่ประจำโลกนี้จริงๆ
การมากำเนิดที่โลกใบนี้ของคณาจารย์บางท่านนั้น เป็นภาระกิจที่ถูกส่งมา
เพื่อฟื้นฟู และผดุงธรรมะ และก็สอนไป ตามแนวในพระไตรปิฎก
เพื่อสร้างความมั่นใจ และหัดให้เดินตามแนวทาง
แต่ในความเป้นจริง ท่านเหล่านั้น ได้มาจากอีกโลกธาตุนึง
เป็นพระสาวก ที่มาจากอีกโลกธาตุหนึ่ง
ถูกกำหนดให้มาสอน มาฟื้นฟูธรรมะ

พระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น โดยแท้แล้ว ก็มาจากอีกโลกธาตุ อีกพุทธเกษตร
หลวงปุ่ดุลย์ เป้นพระสังฆะในองค์พระฌานิพุทธเจ้าอมิตภะ
หลวงพ่อเทียน เป็นพระอาจารย์ของพระฌานิพุทธเจ้าอีกโลกธาตุหนึ่งเมื่อยังเยาว์วัย
หลวงพ่อพุทธนั่นเล่า ก็เป็นพระมหาฤาษี ปรมาจารย์ในการบำเพ็ญตบะมาจากอีกที่

แต่ท่านเหล่านี้ ก็ยังไม่เห็นเรื่องที่สอนไปได้เลย

การมาถือกำเนิดในโลก แบบคนธรรมดาๆทั่วไป ของคณาจารย์เหล่านั้น
ก็ยังไม่มีใครเลยในโลกนี้ ที่จะเห้น และไม่มีใครที่จะรู้ว่ามาจากไหน
ได้แต่รู้ประวัติ เหมือนคนธรรมดาๆที่มาเกิดในโลก
ตั้งแต่เด็กจนโต จนบวชเรียน
แม้ผู้มีวิชชาสาม ได้อภิญญา6 มีมโนมยิทธิ ก็ยังชี้ลงไปไม่ได้ และส่องไม่เห้นความเป็นมาที่แท้จริง
เพราะกำลังไม่พอ

และมหัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกนี้ พระพุทธเจ้าอีกโลกธาตุ ได้เสด็จมา เพื่อฟื้นฟูและสอนธรรมะ
และก็ยังดำเนินการสอนอยู่ในปัจจุบัน
แต่เอาแนวทางของศาสนาอื่นเป็นหลักนำ

มีคณาจารย์ องค์เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ในปัจจุบัน ที่สามารถพอจะเห้นได้
ว่าองค์นั้น เป็นพระพุทธเจ้า ที่ได้เสด็จมาจากอีกโลกธาตุ
แม้แต่ชื่อพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ท่านก็ยังไม่กล้าแม้จะเอ่ยถึง
คณาจารย์องค์นั้นเมื่อเวลากล่าวถึง ท่านเรียกเพียง องค์ภควัน เท่านั้น

เมื่อพระฌานิทั้งแปดพระองค์แสดงธรรม ผมมักจะอยู่ด้วยเสมอๆเมื่อไม่มีภาระกิจอื่นๆ
แม้ไม่ได้อยู่ในขณะแสดงธรรม
องค์พระฌานิพุทธเจ้า พระองค์ ก็จะประทานธรรมที่ได้แสดงไปแล้วให้ผมได้ฟังในภายต่อมา

เรื่องราวทุกเรื่องจึงได้รับถ่ายทอดตลอดเวลา
แม้จะเป็นเรื่องศาสนาอื่นๆในโลก ทุกอย่างก็กระจ่างไม่มีเคลือบแคลง

ในศาสนาเซนท่านฮวงโป ก็เป็นศิษย์ในองค์พระฌานิพระองค์เดียวกัน
ท่านเป็นพระสังฆะ
ท่านฮวงโป มีอายุมาแล้วหนึ่งอสงไขย
และขณะนี้ ก้อยังจาริกสอนอยู่ ในที่ต่างๆ
แต่ในตำรา เป็นคนละเรื่อง

มีครั้งนึง เป็นการชุมนุมคุรุนานาชาติ ของศาสนาฮินดู
ผมได้รับคำสั่งโดยตรง ให้ไปที่นั่น
เพื่อถามหาขอหนังสือธรรมะ

ได้พบกับคุรุท่านหนึ่ง ท่านได้ถามว่า ทำไมถึงสนใจในหนังสือ ซึ่งเป็นคนละศาสนา
และท่านก็เริ่มบรรยายธรรมตามแบบฉบับศาสนาท่าน

พอบรรยายจบ ผมก็ตอบว่า พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านพูดถึง ได้สอนผมหมดสิ้นแล้ว
และก็ตอบชี้แจงแสดงส่วนสำึัคัญ ในสิ่งที่คุรุท่านนั้นแสดงออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
จนท่านเอง กล่าวยอมรับว่า ผมเป้นคุรุองค์หนึ่ง
จากนั้นก็ขอเชิญให้เข้าห้องลับที่ชุมนุมของของคุรุ
ที่คนธรรมดาๆ ไม่อาจเข้าไปได้

อิอิ
…..

31 กรกฎาคม 2553

เมื่อพระไตรฎก และโลกธาตุนี้ ได้ถูกเปิดโปงให้เห็น ความเป้นจริงของการซ่อนเร้น
ปิดบัง อำพราง
สภาวะต่างๆ และเรื่องราวต่างๆในนั้น เธอไม่อาจได้รับความรู้ที่กระจ่างที่แท้จริง
เพียงถูกใส่ความเชื่อ และความศรัทธามาให้ ว่าเป็นจริง

การที่จะแยกแยะธรรม ว่าเรื่องไหนจริงตามปรมัตถ์ จึงเป็นของยาก
ตัวอย่างบางๆ ที่ยกมาแต่ละเรื่องนั้น เป็นเรื่องหนักยิ่งในพุทธศาสนา
และจะถูกสาธารณะชนตราหน้าว่าเป็นภัยศาสนา เป็นมารสังคม ทำลายศาสนา

การแสดงสภาวะธรรม ระหว่างพญามาร และพระมนุษย์สิทธัตถะ
ถ้าแสดงให้คนที่ไม่เอนเอียง มีความยุติธรรมในใจ
ย่อมมองเห็นได้ ว่าใครกัน ที่วาสนาบารมีอันเป็นที่สุดมากกว่ากัน

โลกนี้ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินพญามาร
ทุกอย่างถูกครอบคลุม และดูแลแม้กระทั่งลมหายใจ
และการกระพริบตา
สถานที่และวันที่จะตรัสรู้ตามพระไตรปิกฎก นั้นก็ถูกจัดสรรให้อย่างแนบเนียน

ก่อนจะตรัสรู้ การจะสลัดออกจากกามเวลาใด หมายกำหนดการเวลาที่จะปรากฎ
เทพธิดาชั้นปรนิมอันเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด ราคะ ตัณหา อรดี
ล้วนถูกควบคุมดูแลโดยอธิบดีแห่งโลก และอธิบดีแห่งปรนิมอันเป็นองค์เดียวกัน

แม้แต่พระแม่ธรณี ที่ถูกยังให้หลงติดอยู่ในโลกในแผ่นดิน จะแทรกแป่นดินขึ้นมาเมื่อไร
ความตายการปรินิพพาน การจะออกไปจากโลก ล้วนดูแลโดยมัจจุมาร
อยู่ในควบคุมดูแลของพญามารทั้งหมดทั้งสิ้น
เพราะโลกนี้ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินพญามาร

พระไตรปิฎก จึงซ่อนเรื่องราว ปกปิดอำพรางเรื่องราวต่างๆ ไว้ไม่ได้

เมื่อวาน เรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ ของพระอานนท์

การทิ่มแทงช้างแก้วอันเป็นพาหนะ จนตาย
ด้วยความไม่มีสติ ไม่มีความรู้สึก ถึงการกระทำ การเบียดเบียนอย่างไร้สติ
ไร้สัมปชัญญะ ช้างตายยังไม่รู้ว่าตาย
ไม่ใช่วิสัยอันเป็นปกติ ของมนุษย์ หรือของคน
คน ที่แม้ไม่มีศีลธรรมครบถ้วน
ก็พอจะยังมีสำนึกได้

นั่นหรือคือพระเจ้าจักพรรดิ แห่งจักรวัดิสูตร
ที่ว่าเป้นราชาผู้ทรงธรรม

สักกะเทว อธิบดีแห่งดาวดึงส์
ความเป้นมาก็ไม่ด้อยเลย เมื่อปกครองสวรรค์ที่มือายุยาวนาน มาก่อนพุทธศาสนา
ตั้งแต่พราหมณ์ ฮินดู
สหัสโยนี เป้นวีระกรรม ที่แสดงตลอดเวลา ที่อยู่ดาวดึงส์
แม้แต่มนุษย์ ที่มีศีลมีธรรม ก็ยังไม่ประพฤติต่ำช้าาเยี่ยงนั้น

อิอิ

…………….

เมื่อพระไตรปิฎกของเถรวาทซ่อนเร้นเรืองราวต่างๆไว้
และพระเอกฮีโร กลับไม่ใช่เรื่องราวอันแท้จริง
แล้วจะหาเรื่องราวที่แท้จริงได้จากไหน
เธอและใครๆ ก็ไม่อาจรู้ได้
ว่าพระเอกในเรื่องนั่นมาจากไหน
และเป็นใคร
และขณะนี้ ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎที่ใด

กำลังของพระเอกในตำรานั่น ก็ยังเทียบไม่ได้ กับพระอรหันต์พระสาวกองค์จริง

เพราะเรื่องราวในสหโลกธาตุนี้ ถูกหล่อหลอม และถูกไส่ให้มา จากโลกธาตุอื่นๆ
ที่เคลื่อนมาซ้อนอยู่ เป้นมิติที่ต่างกัน

พระเอกในตำรา แสดงพระธรรมจักร สีหนาทธรรมยังไม่อาจทะลุไปถึงจตุมหาราชิกาสวรค์ต้นๆได้
เสียงลือพระธรรมจักร ได้แต่เล่าขานบอกต่อๆกันไป
นั่นยังไม่ใช่กำลังของพระอรหันต์สาวกเสียด้วยซ้ำ
และก็ยังไม่ถึงกับต้องไปเอ่ยถึงพระสังฆะ ที่เป็นพระสาวกของพระฌานิพุทธเจ้า
ที่มีกำลัง มากกว่าพระมนุษย์พุทธเจ้าเสียอีก

สหโลกธาตุนี้ เป็นโลกธาตุของอสูร กว่า90เปอร์เซนต์ เป็นอสูรทั้งหมด
มีคนที่ปะปนอยู่ เพียงเกือบสิปเปอร์เซนต์
นอกนั้น มีพระโพธิสัตว์ ฤาษี ที่จรมา มาอยู่ที่สหโลกธาตุนี้
แต่ก็ต้องกลับไป ยังโลกธาตุในมิติเิดิมของตน
เป็นผู้มีกำลัง ที่สามารถข้ามมิติ ได้ แต่ก็ข้ามได้ เพียงโลกนี้ และมิติตนเองเท่านั้น
สรวงสวรรค์อันแท้จริง ไม่ได้มีแค่หกชั้น พรหมและอรูปพรหม
ไม่ได้มีแค่นั้น
แต่เพราะกำลังด้อย จึงไม่อาจเห็นของที่ละเอียดซ้อนลึกเข้าไปได้
และความเข้าใจในธรรม สภาวะธรรม ยังออ่นนัก

เธอเชื่อไหม ว่ามิติเช่น อลิส อินwonderland นั้นมีจริง
ในมิติ แห่งการ์ตูน กายเนื้อของแต่ละคนในนั้น เป็นเช่นตัวการ์ตูนในทีวี
พุทธเกษตรของพระเยซูคริส อยู่ซ้อนกับโลกนี้ นานนมมาแล้ว และก็ยังอยู่
โอลิมปัส เป็นพุทธเกษตร ที่ยังซ้อนอยู่บนสวรรค์
คุรุเกษตร แห่งพระคริสณะ อันเป้นมหากาพย์ภควัทคีตา และราชวงศปานฑฟ
ภควัทคีตา ที่พระองค์เจ้าคริสณะตรัสครั้งแรก กับสุริยเทพ มะมุ จนมาถึงอรชุน
และตัวผมด้วยสุรเสียงพระองค์เอง

อาณาจักร แห่งพระศิวะ อันเป้นองค์อวตารเฉกพระฌานิพุทธเจ้า มหาอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุด
กว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าพุทธเกษตรใดๆ
พญาอนันตนาคราช มีความยาวพอที่จะพันรอบโลกใบนี้ได้สบายๆๆ
อาศัยได้อยู่ในมหานที แม่น้ำแห่งจักรวาล
พญามุจรินห้าเศียร ที่มาบังฝนในตำรา ความยาวยังไม่เท่าเล็บนิ้วเดียว ของพญาอนันตนาคราช
แต่ในพุทธเกษตรของมหาสมณโคดมเจ้าท่ีี่แท้จริง ใหญ่โตและยาวกว่านั้น
พญานาคแห่งเมืองบาดาล ที่อยู่ระหว่างโลก และนรก
ธิดาพยานาคองค์หนึ่ง เพิ่งมากำเนิดในโลกนี้ไม่นาน ก็ยังสวยสคราญเช่นเดิม

มิติที่เอ่ยมานี้ เป็นส่วนน้อย
กำลังอภิญญาของคณาจารย์ในโลกนี้ มีไม่พอที่จะเห้นได้
คณาจารย์ระดับพระราช องค์นึ่ง ที่มีอภิญญา่เป้นอันดับหนึ่งมากกว่าใครๆ ในโลก
ก็ยังมองเห็นได้ ไม่เกินตำรา
และท่านก็สามารถข้ามมิติไปมาได้ เพียงสองมิติ เท่านั้น

แม้พระครูโลกอุดร ถิ่นพำนักอยู่ป่าหิมพานต์ ก็ไปมาได้เพียงสองมิติ เท่านั้น
มิติต่างๆ ที่เอ่ยมานี้ เป็นส่วนน้อย เท่านั้นเอง

ที่กล่าวให้ฟัง
ก็เพื่อให้ทราบว่า ผมไม่ได้ประจำอยู่ที่โลกใบนี้
สำหรับผู่ที่ประจำอยู่โลกนี้ จะประกอบด้วยสามภพ
จะเวียนว่ายขึ้นๆลงๆ ไม่สามารถ ออกไปนอก ไปยังพุทธเกษตรอื่นๆได้

และมิติเหล่านั้น ผมก็ไปมาอย่างโชกโชน ทุกมิติเหมือนเป็นบ้านตนเอง

ต้องถามสายมโนมยิทธิ รุ่นแรกๆแบบลุง ศ ป้า ร หมอนักขุดทอง
ซึ่งมีดีกรี มาก่อนหลวงพี่เล็ก
หรือพระโพธิสัตว์ แบบพระแม่บงกช
หรือถ้าได้มโนมยิทธิเอง ก็ถามกับสมเด็จองค์ปฐมได้
ก็คงจะพอรู้จัก และเห็นรัศมีปรมัตถ์ ที่โรยด้วยกากเพชรของผมได้
และนั่นก็คือความเป็นทุกศาสนาของผมอันเป็นความสัจ และสัจธรรม

อิอิ
…………….

1 สิงหาคม 2553

เมื่อพระพุทธเจ้ามีสามแบบ
และที่แท้จริง พระมนุษย์พุทธเจ้า ก็ไม่ได้อยู่ในโลก ในมิตินี้
แต่อยู่ที่พุทธเกษตรของพระองค์

เธอจะได้รับธรรมะที่แท้จริงได้อย่างไร

นี่คือการมาเพื่อฉุดสรรพสัตว์ ในทุกวินาที
มีการยัดเยียดให้ บ้าง
มีการดันคนให้ลงนรกไวๆ เพราะกรรมปรามาศบ้าง
ปรับสภาวะธรรมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเร็วบ้าง
แต่ทั้งหมด เพื่อให้ถึงสิ่งนั้น

เคยมีคนถามว่า ทำไมไม่เมตตา รู้ว่าจะทำให้คนปรามาศ
มีบาปเคราะห์

ก็เคยตอบไปว่า พระพุทธเจ้า ทรงสัพพัญญู เห็นแผนการณ์พระเทวทัตทุกฝีก้าว
แต่ไม่ทรงหลีกเลี่ยงเส้นทาง
พระพุทธองค์ ยังทรงมีเมตตาหรือไม่

แต่การเผยแพร่ ก็ไม่สามารถบอกตรงๆได้ ว่าเป้นใคร
เพราะเมื่อปรามาศ จะหนักหนาสาหัสกว่านี้
ตอนนี้ก็มาแบบคนธรรมดา

แต่บอกให้เธอทราบแล้ว ว่าเป็นพระสาวกที่เรียกว่าอยู่วงในอย่างแท้จริง
เพราะแม้แต่พระสังฆะ อันเป้นตัวแทนพระฌานิพุทธเจ้า ไปเผยแผ่พระธรรม
ก็ยังไม่ได้เรียกว่าวงใน

การไปโพสต์เวปอื่นๆ ธรรมจักรแบบที่เธอเคยเห็น
ก็ไม่ได้บอกว่าอะไร เข้าไปเป้นเช่นคนเพี้ยนๆคนหนึ่ง
คนธรรมดาๆที่เป็นเหมือนเป็นมารศาสนา

แต่ที่แสดงกริยาแบบนั้น ก็เพื่อดึงดูด และผลักดัน
ให้แต่ละคนสำรอกออกมา
คิดไม่ดี
สภาวะธรรมก้อตกไป
เธอลองกลับไปดู ก้จะเห้นเอง ว่าสภาวะธรรมคนที่มากล่าวปรามาศ มาล่วงเกิน
สภาวะธรรมเป้นอย่างไร มีอะไรก้าวหน้า หรือร่วงไปแล้ว
กรัชกาย รสริน หลับอยู่ กบนอกกะลา
ชาติสยาม เช่นนั้น เมส วราพร ธรรมภูติ
หรือใครๆ ก็ตาม ที่ปรามาศพระธรรมที่ชี้ไป
คนเหล่านั้น ในตอนนี้ ร่วงไปเสียแล้ว หรือก้าวหน้าขึ้น

นี่เป้นเมตตาอันเป็นปรมัตถ์
เทวทัต ต้องตกนรกก่อน จึงเป้นพระปัจเจกได้

แต่นี่ทำให้แค่เบาๆ

แต่ถ้าเผยหรือบอกว่า เป้นใครอยู่กับใคร มาทำอะไร
กรรมคนเหล่านั้น จะหนักหนาสาหัสกว่านี้

อิอิ
…………….

จริงๆแล้ว แค่คำคำเดียว ว่าพระเจ้าสร้างโลก
ถ้าเธอเข้าใจได้ เธอจะเป้นอิสระชั่วกาลนาน

ทำไม พระผู้เป็นเจ้า จึงไม่ต้องไปปรากฎ และไม่ไปสอน
คนที่นับถือพระเจ้าอยู่แล้ว

แต่ทำไม จึงมาปรากฎและสอนให้กับผู่ที่ไม่รู้จักพระผู้เป็นเจ้าเลย
แม้การปรากฎ ในฐานะ องค์พระฌานิพุทธเจ้า
ก็ยังไม่อาจ ทำให้คนเหล่านั้นเข้าใจได้

มหายาน แม้จะรู้จักพระผู้เป้นเจ้า รู้จักพระอมิตาภะ
แต่กลับลดพระเกียรติลง
เป็นเพียงเหมือนกับ แค่เทพในสวรรค์ ชั้นสุขาวดีเท่านั้นเอง

แม้จะปรากฎ ในองค์พระไวโรจนะ พระรัตนสัมภวะ พระกษิติคครภมหาโพธิสัตว์
แต่ไม่มีใคร ที่เข้าใจ ไปถึงองค์พระผู้เป้นเจ้าได้เลย

ทั้งๆที่เป็นศาสนา ที่พระองค์มาปรากฎมากมายกว่า ศาสนาใดๆ
แต่ก็ได้รับ การดูถูกเหยียดหยาม จากคนในศาสนา ที่ไม่มีพระผู้เป้นเจ้า
ไม่รู้จักพระผู้เป็นเจ้า

ดูเอาเถิด
ฮินดู พราหมณ์ ซิกส์ โซโรอัสเตอร อิสลาม คริสต์ นิกายต่างๆ
พวกนี้ จะมีบั้นปลายชีวิต สำราญเพียงไหน ที่ได้เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า

อิสลาม ละหมาดวันละห้าเวลา
แต่ชาวพุทธ ทำวัตร เพียงสองเวลา

คนป่าอินคา อินเดียน หรือ อารยะธรรมโบราณ อียิปต์ เมโสโปเตเมีย ขอม
ต่างเข้าถึงพระผู้เป้นเจ้าได้ทั้งสิ้น

เธอพอจะเข้าใจอะไรได้บ้าง
พอที่จะเพิ่มความตระหนัก ในพระผู้เป็นเจ้า ไปได้มากขึ้นเพียงใด
…………………


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:

เอามาเล่าสู่กันฟังหรือ

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เขียน:
สวัสดีครับ คุณน้ำ
ผมไม่ค่อยมีเวลา คงจะไม่ได้เข้ามาที่นี่บ่อยนัก
จึงอยากเล่าสิ่งที่ผมรู้มาให้คุณน้ำได้ทราบ และพิจาณาดูครับ
คุณน้ำจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่คุณน้ำ ก็ไม่ว่าอะไรครับ

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ข้าพเจ้าว่าจะไม่พูดกับใคร แต่เห็นท่านเป็นสัมมาทิฐิ
และทนไม่ได้เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังดำเนินการบางอย่างทางศาสนาตามหน้าเว็บ ตามแผนการและวัตถุประสงค์ของเขา โดยที่เราชาวพุทธศาสนิกชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะไม่ได้คิดอะไร มองโลกในแง่ดี มีเมตตากรุณา ให้อภัย พวกเราจะรู้อีกทีก็คงเป็นตอนที่เถรวาทไม่มีที่ให้ยืนแล้วไม่ว่าในวัดหรือนอกวัด



ตอนนี้คนในลานธรรมจักรที่อยู่ในกลุ่มพวกนั้น คือ eragon_joe กบนอกกะลา ธุลีดิน โฮฮับ และรู้สึกว่ามีอีกหลายๆ คนที่ถูกดึงไปทีหลัง เช่น Rosarin
เขาเข้ามาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ซ้ำ สมัครสมาชิกทิ้งไว้มากมายหลายชื่อ
เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของกลุ่มตนทำแบบแนบเนียนแยบยล
แจ้งมาเพื่อให้ท่านได้พิจารณา




ขอบคุณสำหรับข้อความที่นำมาแบ่งกันอ่านค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นวลัยพร หรือคุณ แม้กระทั่งคนอื่นๆ รวมทั้งทุกๆชื่อ ไม่ว่าจะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ตาม ที่เวียนวนในวัฎฎสงสาร


ตราบใดที่ยังมีกิเลสเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตอยู่ เราทุกคนล้วนไม่แตกต่างกันหรอกค่ะ

มีเกิด ย่อมมีดับ

มีความเจริญ ย่อมมีเสื่อม

คิดว่าคุณ เข้าใจในเรื่องโลกธรรม ๘

มีดี มีเสีย

ในเสียมีดี ในดี มีเสีย


ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัยให้เกิด แล้วทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมดับไปตามสภาวะของสภาวะนั้นๆเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อความทั้งหมดอ้างชื่อของอิอิ ( ดังจริงๆ )

อิอิ เคยเข้ามาใช้บอร์ด ซึ่งหลายๆคนเรียกว่าเป็นการป่วนบอร์ด


โดยส่วนตัว ข้าพเจ้ารู้ดีว่า อิอินั้นเป็นใคร

อิอิ เป็นทั้งผู้มีภูมิความรู้มากทั้งพระไตรปิฎกและอภิธรรม และปฏิบัติด้วย ไม่ใช่แบบแค่ครูพักลักจำ แล้วลอกเลียนแบบมานำเสนอ

กิเลสที่อิอิเจอ ไม่แตกต่างจากกิเลสที่เกิดขึ้นในจิตของแต่ละคน อยู่ที่ว่า ใครจะยอมรับตามความเป็นจริง

ทุกวันนี้ข้าพเจ้าขอบคุณความรู้ต่างๆที่อิอินำมาแสดง แม้ว่าเขาเคยกระทำการใช้ถ้อยคำที่ไม่ดีว่ากล่าวข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่เคยถือโทษ หรือมีความโกรธถึงขั้นพยาบาทแต่อย่างใด


มีอยู่อีกคนหนึ่งที่ลอกเลียนแบบได้เก่ง ใช้หลายชื่อ หลายร่าง หลายอารมณ์ หลายเพศ อาศัยศึกษาทั้งพระไตรปิฎกและอภิธรรม แต่ความรู้และสภาวะยังห่างไกลจากอิอิ


เราทุกรูปทุกนาม ล้วนต้องช่วยตัวเองในการขัดเกลากิเลส แต่ไม่ควรสร้างเหตุในการทำเช่นนี้ เลียนแบบทำตัวเป็นอิอิ ใส่ร้ายผู้อื่นได้อะไรขึ้นมา มีแต่จมอยู่กับกองกิเลสต่อไป ภพชาติยาวไกลออกไปเรื่อยๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณอิอิเป็นคนคอยบงการ คอยป้อนข้อมูลให้กับทุกคนในกลุ่ม
เมื่อแต่ละคนเข้าใจตามที่เขาป้อนเขาสอนแล้ว แต่ละคนก็นำมาโต้ตอบในลานธรรมจักร
คุณอิอิเขาเปิดเว็บเผยแพร่สอนธรรมไว้บังหน้าและสอนกันหลังเว็บ ทางอีเมล์ และช่องทางอื่น
เว็บเขาคือ เว็บอกาลิโกโฮม http://agaligohome.com/

เคยเข้าไปดูที่เว็บแจ้งภัยพระพุทธศาสนา ไปพบพระพรหมคุณาภรณ์ แจ้งภัยเรื่องราวแบบนี้ไว้

http://newweb.bpct.org/component/option ... 7/catid,1/

ตอนนี้คนในลานธรรมจักรที่อยู่ในกลุ่มพวกนั้น คือ eragon_joe กบนอกกะลา ธุลีดิน โฮฮับ และรู้สึกว่ามีอีกหลายๆ คนที่ถูกดึงไปทีหลัง เช่น Rosarin


หากมีหนึ่งในนี้..ไม่ใช่..ก็อนุมานได้ว่า...ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคนขี้จุ๊..

หรือไม่ก้อ...คนเขียนนั้นแหละ..เป็นเอง :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32:

:b13: :b13:

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


งง..เน๊าะ... :b22:

ไม่รู้..คนที่ตั้งใจทำลายพระพุทธศาสนานี้..แล้วเขาจะได้อะไร.. s006

แล้ว..ก้อคนที่จ้องแต่จะปรุ่งแต่งเรื่องนี้...เขาจะได้อะไร... s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอหัวเราะ..ด้วยคน :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 22:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่ชื่นชอบการนินทา จะเป็นผู้ที่เก็บความลับไม่ได้

และมักเป็นผู้ที่ชีวิตมักมีแต่เรื่องราว

ด้วยเป็นผู้ที่มีเชื้อที่จะติดไฟได้อยู่

จึงเป็นแหล่งที่ดึงดูดไฟ

:b16: :b16: :b16:

:b12: :b12: :b12:

:b13: :b13: :b13:

รู้กรรมผู้ใด ไม่เท่ารู้เท่าทัน กรรมเราเอง นะ

:b16: :b16: :b16:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 08 ก.ค. 2011, 23:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมดำมีวิบากดำ กรรมขาวมีวิบากขาว
สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย ทำกรรมอย่างไรไว้ จักดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 23:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
งง..เน๊าะ... :b22:

ไม่รู้..คนที่ตั้งใจทำลายพระพุทธศาสนานี้..แล้วเขาจะได้อะไร.. s006

แล้ว..ก้อคนที่จ้องแต่จะปรุ่งแต่งเรื่องนี้...เขาจะได้อะไร... s006


:b16:

ลองมองแ่ง่หนึ่งท่าน

พระพุทธศาสนาเยี่ยงไรล่ะ จึงได้ถูกทำลาย

เขาทำลายพระพุทธศาสนาเยี่ยงนั้น ล่ะ

เพื่อให้ถึงซึ่ง สภาวะที่ไม่มีอะไรทำลาย ได้


:b8: :b8: :b8:

:b12: :b12: :b12:

:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 23:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณอิอิเป็นคนคอยบงการ คอยป้อนข้อมูลให้กับทุกคนในกลุ่ม
เมื่อแต่ละคนเข้าใจตามที่เขาป้อนเขาสอนแล้ว แต่ละคนก็นำมาโต้ตอบในลานธรรมจักร
คุณอิอิเขาเปิดเว็บเผยแพร่สอนธรรมไว้บังหน้าและสอนกันหลังเว็บ ทางอีเมล์ และช่องทางอื่น
เว็บเขาคือ เว็บอกาลิโกโฮม http://agaligohome.com/

เคยเข้าไปดูที่เว็บแจ้งภัยพระพุทธศาสนา ไปพบพระพรหมคุณาภรณ์ แจ้งภัยเรื่องราวแบบนี้ไว้

http://newweb.bpct.org/component/option ... 7/catid,1/

ตอนนี้คนในลานธรรมจักรที่อยู่ในกลุ่มพวกนั้น คือ eragon_joe กบนอกกะลา ธุลีดิน โฮฮับ และรู้สึกว่ามีอีกหลายๆ คนที่ถูกดึงไปทีหลัง เช่น Rosarin


หากมีหนึ่งในนี้..ไม่ใช่..ก็อนุมานได้ว่า...ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคนขี้จุ๊..

หรือไม่ก้อ...คนเขียนนั้นแหละ..เป็นเอง :b1: :b1:


rolleyes ฮ๊าฮา งานนี้ ตกชื่อ ฮานะ ไปได้ยางงาย เจ้าข๊า

ฮานะ เอง ก็ เชียร์ เว็บนี้ อยู่เหมือนกัน นะ เจ้าข๊า
http://agaligohome.com/ สู้ๆ rolleyes

เค้าเป็น พันธมิตร กับ ลานธรรมจักร ด้วยไม่ใช่หรอ เจ้าข๊ะ
เห็นมี ลิ้ง อยู่ที่หน้าเว็บ ต่อจาก สองเว็บที่ ท่านผู้กล่าวหา เค้ายกมา นะเจ้าข๊า :b4:

ฮ๊าฮา ฮ๊าฮา rolleyes

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 72 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 146 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร